ตลอดปิดเทอมตั้งแต่ได้รับคำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ด้านความรักเป็นศูนย์อย่างเพลง การคุยกับพี่เอิร์ธก็เต็มไปด้วยความกังวลอย่างที่เด็กหนุ่มอายุ 17 ไม่สามารถปกปิดมันได้มิด จนคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับเอ่ยปากถามอย่างเป็นกังวล

Earth: ทำไมพักนี้บีนถามคำตอบคำ โกรธอะไรพี่รึเปล่าครับ

Been: เปล่า บีนแค่เหนื่อยๆ

Earth: ที่ออฟฟิศมีปัญหาเหรอครับ

Been: ประมาณนั้น

Earth: โอ๋ๆ นะครับเจ้าถั่ว ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะดึงเข้ามากอดแน่นๆ เลย

Been: อยากกอดพี่เอิร์ธอะ

Earth: อะไรเนี่ย อย่าให้ความหวังกันสิ

Been: พี่เอิร์ธ

Earth: ครับ

Been: ถ้าบีนโกหกจะเลิกกันมั้ย

Earth: อย่าพูดอะไรที่ทำให้พี่ใจคอไม่ดีสิ โกหกอะไร

Been: พวกเราออกมาเจอกันมั้ยครับ บีนอยากเจอพี่เอิร์ธ

Earth: หือ ยังไงนะ

Earth: บีนกลับไทยเหรอครับ

Earth: ให้พี่ไปหาตอนนี้เลยก็ได้นะ

Earth: ที่บอกว่าโกหกคือเรื่องนี้เหรอ นี่ไม่ใช่โกหกนะ เขาเรียกเซอร์ไพร์ส

Been: พรุ่งนี้เถอะ วันนี้ดึกแล้ว

Earth: ที่ไหนครับ กี่โมงดี

Been: แถวร้านพี่เอิร์ธ ซัก 6 โมงเย็น

Earth: คืนนี้พี่ต้องตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเพราะจะได้เจอเจ้าถั่วตัวเป็นๆ แน่เลย

Been: บีนก็เหมือนกัน

โกหก โกหก โกหกทุกประโยคเลย บีนทึ้งหัวตัวเองหลังจากโยนโทรศัพท์มือถือทิ้งไป แม้กระทั่งเขาในตอนนี้ยังเกลียดทุกคำโกหกที่ตัวเองพิมพ์ออกมาได้อย่างไม่ลังเล แล้วพี่เอิร์ธล่ะ พี่เอิร์ธจะให้อภัยกันได้ยังไง

 

 

 

 

 

 

เอิร์ธนอนไม่หลับจริงอย่างที่บอกกับคนรักในแชท

หลังจากบทสนทนาจบลงด้วยต่างคนต่างบอกว่า ‘ฝันดี’ แทนที่เขาจะเข้านอนแต่กลายเป็นว่าเดินตรงไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเริ่มการรื้อค้น

เจอหน้าคนรักครั้งแรกก็ต้องพิถีพิถันเรื่องการแต่งตัวกันหน่อย

จนเวลาล่วงเลยมาถึงตี 2 เสื้อผ้าที่ควรจะอยู่ในตู้ทว่าบัดนี้กลับถูกโยนไว้บนพื้นจนเกลื่อน

เอิร์ธตื่นเต้น ใช่! คำนั้นไม่เกินจริง

หลังจากเลือกเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้ได้แล้วก็ตั้งใจจะนอนหลับฝันดีอย่างที่คนรักอวยพรแต่ให้ตายเถอะ เพียงแค่หลับตาหน้าเขา รอยยิ้มเขาก็แวะเวียนเข้ามาทักทายในห้วงความคิด แม้ว่าจะจำหน้ากันไม่ค่อยได้แล้ว เพราะรูปโพรไฟล์ของบีนก็ไม่ใช่รูปที่ถ่ายแบบเห็นหน้า และรูปที่บีนส่งมาให้ก็เป็นรูปที่แทบจะไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายเลย แต่ถึงอย่างนั้นเอิร์ธก็พอจะจินตนาการรอยยิ้มของอีกคนได้จากเสียงพูดและเสียงหัวเราะ

คนคลั่งรักก็คือเอิร์ธคนนี้

ใบหน้าของบีน รอยยิ้มของบีนวนเวียนในห้วงคำนึงจนเช้า แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ได้นอนเพียงไม่กี่ขั่วโมงก็ยังสดใสเหมือนกับได้นอนเต็มหลับเต็มอิ่ม

เอิร์ธออกจากคอนโดมาพร้อมกับความเบิกบานใจเต็มหลอด มองนาฬิกาข้อมือครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่าการที่จับจ้องมันบ่อยๆ จะทำให้เวลานัดมาถึงเร็วขึ้น

แน่นอนว่าทั้งพนักงานหน้าร้านและพนักงานภายในออฟฟิศต่างก็เอ่ยแซวเขาที่วันนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนแปลกตา แถมยังเซ็ตผมเนี้ยบผิดปกติ ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นน้ำหอมยังหอมฟุ้งซะจนเพียงเดินผ่านก็พอจะเดาได้ว่าวันนี้คนเป็นซีอีโอคงจะมีนัดสำคัญ

อืม ใช่ มันคือนัดสำคัญกับคนพิเศษ

ในขณะที่บรรยากาศรอบกายของเอิร์ธนั้นสดใสราวกับนั่งอยู่กลางทุ่งดอกไม้ที่กำลังผลิบานชูช่อ ทว่าอีกฝ่ายกลับเหี่ยวเฉาโรยราราวกับนั่งอยู่กลางทุ่งทานตะวันช่วงสลัดกลีบใบ

“มึงจะไปไหนอะ วันนี้ไม่มีเรียนพิเศษไม่ใช่เหรอ”

ขณะนั่งรอรถเมล์บริเวณหน้าปากซอยเพื่อนสนิทอย่างเพลงที่เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษก็เดินเข้ามาทัก บีนเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว เบะปากคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อจนเด็กหนุ่มที่พึ่งนั่งลงข้างกันถึงกับค้นหาทิชชู่จากในกระเป๋าส่งให้

“มึงเป็นไรเนี่ย”

“กูจะไปบอกความจริงพี่เอิร์ธว่ะ”

“ตัดสินใจดีแล้วเนอะ”

“ก็มึงบอกให้กูเลิกโกหก”

“ปกติมึงไม่เชื่อฟังกูนะบีน”

“ที่จริงกูก็คิดเรื่องนี้มาซักพักแล้ว กูชอบพี่เอิร์ธมากว่ะ มากจนรู้สึกผิดทุกครั้งที่โกหกเขา” เพราะรู้สึกผิดเสมอ จากที่ควรจะมีความสุขยามได้พูดคุยกันแต่บีนกลับรู้สึกแย่กับตัวเองจนพาลนึกเกลียด

“แล้วถ้าเขาไม่ให้อภัยมึงล่ะ”

“มึงจะพูดแบบนี้ทำไมเนี่ยเพลง กูใจแป้วหมด”

“ไม่รู้อะ ปกติถ้ารู้ว่าถูกหลอกเราก็ต้องโกรธอยู่แล้วป่าววะ”

“แต่พี่เอิร์ธชอบกูนะ”

“เขาชอบที่มึงเป็นมึงหรือชอบที่มึงคือบรรณวิช์ล่ะ”

“เขาคุยกับกูเขาก็ต้องชอบกูสิ”

“ถ้ามึงมั่นใจขนาดนั้นก็ทำหน้าดีๆ ยิ้มหน่อยไอ้เหี้ย ยิ้มเยอะๆ ยิ้มหวานๆ เผื่อเขาแพ้ยิ้มมึง” การฝืนยิ้มทั้งที่ความกังวลอัดแน่นเต็มอกมันใช่เรื่องที่ทำง่ายๆ ซะทีไหนล่ะ

เด็กหนุ่มทั้งคู่แยกกันที่ป้ายรถเมล์ บีนเดินทางมาถึงคอมมูนิตี้มอลล์ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายในตอน 4 โมงเย็น ด้วยความตั้งใจว่าจะเดินเล่นให้คลายความกังวลซักหน่อย กระทั่ง 5 โมงเย็นจึงลองเดินไปที่หน้าร้าน Lolly D ชายหนุ่มในชุดสูทสุดเนี๊ยบกำลังยืนพูดคุยกับพนักงานในร้าน ดูเหมือนว่าวันนี้พี่เอิร์ธจะยิ้มกว้างกว่าปกติ แถมยังทั้งแต่งตัวดีและจัดทรงผมได้ดูเท่ที่สุดตั้งแต่ที่บีนเคยส่องมา

เห็นดังนั้นก็อดที่จะส่งข้อความไปแซวไม่ได้เลยจริงๆ

Been: วันนี้แต่งตัวหล่อเชียวน้า

Earth: ยังไงนะครับ

ครู่เดียวเท่านั้นเอิร์ธก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูทแล้วพิมพ์ข้อความกลับมาขณะสอดส่ายสายตาออกมายังนอกร้าน ค้นหาเจ้าของข้อความที่สื่อว่าเจ้าตัวอยู่ใกล้ๆ นี้

Earth: บีนอยู่แถวนี้เหรอ เข้ามาคุยกันในร้านดีมั้ยงั้น

Been: พี่เอิร์ธมองหาบีนเหรอ

Been: จ้างให้ก็หาไม่เจอหรอก

Earth: ถ้าหาเจอล่ะ มีรางวัลรึเปล่า

Been: ไม่มีทางหาเจอหรอก

Earth: อะไรกัน ไม่แฟร์นะครับ บีนมองเห็นพี่แต่พี่มองไม่เห็นเราแบบนี้

Been: เซอร์ไพร์สครับ

Been: 6 โมงเย็นเจอกันที่ร้านกาแฟตรงข้ามร้านพี่เอิร์ธนะ

Earth: หืม ใกล้แค่นี้เองพี่ไปหาตอนนี้เลยยังได้

Been: ยังครับ ขอเวลาบีนทำใจก่อน

Earth: แค่เจอพี่ต้องทำใจเลยเหรอ มันดีหรือเปล่าเนี่ย

Been: ดีเซ่ วันนี้พี่เอิร์ธหล่ออะ

Been: ขอเวลาเตรียมตัวรับมือกับการมีแฟนหล่อก่อนนะ

Earth: มันขนาดนั้นเลยเนอะ พี่ต้องกินยาลดความหล่อหน่อยแล้วล่ะ

Been: หลงตัวเองอ่า

Earth: ระวังไว้เลยครับ

Earth: หลังจากเจอหน้ากัน ผมจะทำให้คุณหลงผมยิ่งกว่าที่ผมหลงตัวเองอีก

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ บีนกลัวแต่ว่าพี่เอิร์ธจะรับไม่ได้ที่ถูกเด็กอย่างเขาโกหกและขอยุติความสัมพันธ์ คิดถึงช่วงเวลานั้นแล้วก็อยากจะยกเลิกนัดซะให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีหรอก พี่เอิร์ธรู้แล้วว่าเขาอยู่ไทย ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องทู่ซี้ขอให้ออกมาเจอกันให้จงได้ และบีนเองก็ไม่รู้เลยว่าจะบ่ายเบี่ยงได้ถึงเมื่อไหร่

ไม่อยากให้บทสนทนาในแชทนี้จบลงเลย

แต่เมื่อเวลา 6 โมงเย็นเดินทางมาถึง

เมื่อพี่เอิร์ธปรากฏตัว และเมื่อความจริงถูกเฉลย เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร บีนก็คงต้องยอมรับผลของมันแหละ

ก็เขาเป็นฝ่ายสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเองนี่นา

 

 

TBC.

#รักพี่ไม่มีหลอก