2 ตอน Chapter II
โดย Raccool
II
ฮาเดสเห็นหมายจับตัวเองหลังจากนั้นไม่นาน แต่เขามีหรือจะสนใจ
ราชาทำเพียงปรายตามองหมายจับ ไม่ให้ค่าอะไรกับหมายจับงี่เง่าที่ซุสเป็นคนทำ เขานั่งลงข้างถนน ตอนนี้ไม่มีเหล่าคนตายวนเวียนรอบตัวแล้ว เพราะฮาเดสตัดสินใจจับพวกนั้นยัดเข้าประตูแห่งความตาย ส่งวิญญาณกลับปรโลกด้วยพลังของจ้าวนรก
เขาจะได้ไม่ต้องมาพะว้าพะวังเรื่องคนตายอีก ถึงจะเหงาไปบ้างก็เถอะที่ไม่มีบริวารอยู่ใกล้ๆ
กระนั้น สิ่งที่ฮาเดสสามารถพูดคุยบนโลกมนุษย์ได้ก็
ใช่ว่าจะไม่มี
“พวกเขาไม่เคยเข้าใจข้า การที่ต้องกินแต่เม็ดทับทิมมันน่าเบื่อจะตาย แต่พวกเขาก็พูดได้ซี พวกเขามีอาหารหลากหลายบนโลกให้กินตลอดนี่”
“แค่เพราะข้าเป็นน้องชาย เลยโดนบังคับให้เฝ้านรก ขึ้นไปบนโลกก็ไม่ได้ จะกินของที่ชอบยังไม่ได้เลย”
“เจ้ายังได้กินมากกว่าข้าอีก เจ้าเหมียว”
แมวดำและอีกาเป็นสัตว์ที่เชื่อมถึงกับคนตาย ไม่ได้
ขึ้นตรงเป็นบริวารก็จริง แต่ผู้คนในนรกจะสามารถสื่อสารกับสัตว์สองชนิดนี้ได้ และตอนนี้ฮาเดสก็ได้แต่นั่งปรับทุกข์กับแมวดำ ที่กำลังกินอาหารกระป๋องอย่างมูมมาม
คุยกับแมวดำได้ก็จริง แต่แมวจะคุยตอบไหม นั่นเป็นอีกเรื่อง
ฮาเดสไม่หวังหาเพื่อนคุยอยู่แล้ว อีกาเชื่อใจไม่ได้
แมวดำก็เย่อหยิ่งเกินกว่าจะสานสัมพันธ์ จ้าวนรกทำเพียง
นั่งปรับทุกข์ ก่อนจะลุกขึ้น เดินไปตามซอกซอย เขาไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน ในเมื่อเขามีของวิเศษอย่างหมวกแห่งความมืด ทันทีที่ใส่มันแล้วจะสามารถหายตัวได้ ฮาเดสพกมันติดตัวตลอดเวลา และในยามนี้ เขาสวมใส่มัน เดินไปตามถนนหนทางอย่างไม่เป็นที่สงสัย
หิวของหวานอีกแล้ว...
หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น สภาพจ้าวนรกตอนนี้ดูไม่ได้เอาเสียเลย
พลังของฮาเดสถูกอากาศบนโลกมนุษย์สูบออกไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ขึ้นมาโลกมนุษย์นานแล้ว และดูท่าว่าภูมิต้านทานโลกมนุษย์ของเขาจะหายไปมาก เขาต้องกลับนรก...หรือไม่ก็...กินของหวานในร้านขนมหวานตรงหน้า ที่ตั้งอยู่บนทางสามแพร่งนั่น
นรกเริ่มเกิดจลาจลเมื่อไร้ผู้นำ วิญญาณเริ่มหาทางกลับโลกคนเป็น เจ้าหน้าที่ในนรกมีกำลังไม่มากพอต้านทาน
“ท่านฮาเดส ท่านรีบลงมาจัดการหน้าที่ของท่านได้แล้ว!!”
เสียงโหยหวนของราดาแมนธัส หนึ่งในผู้มอบคำพิพากษาทั้งสามกรีดร้องหาราชาของเขา
ส่วนฮาเดสที่ทุกคนในนรกต้องการตัว กลับจิบโกโก้ร้อนและบลูเบอร์รี่ชีสเค้กในร้านพิศวงนั้นอย่างสบายใจ ไม่สนใจนรกที่กำลังลุกเป็นไฟใต้ฝ่าเท้าตนเลยสักกะนิด
จ้าวนรกเลือกเข้าร้านขนมที่ตั้งในทำเลแปลกๆ ทางสามแพร่งเป็นทางที่หากตั้งในตำแหน่งที่ดี มันก็จะเป็นทางที่ดี โชคร้ายที่ร้านนี้เลือกตั้งในตำแหน่งไม่ค่อยดีนัก จึงเป็นทางที่พวกภูตผีพุ่งเข้ามาหา เป็นเหตุทำให้ไม่ค่อยมีคนเข้าเพราะถูกกลิ่นอายของสิ่งลึกลับกลบ เสียแต่ไม่เป็นผลต่อจ้าวนรก
แถมกลิ่นของมันก็ยั่วยวนคนรักของหวานอย่างเขามาก และจมูกฮาเดสก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ขนมร้านนี้อร่อยถูกปากเขาในรอบหลายศตวรรษ
รวมถึงเจ้าของร้านที่เป็นชายหนุ่มชาวไต้หวันดูแลลูกค้าท่าทางประหลาดอย่างเขาเป็นอย่างดี เหตุเพราะเป็นลูกค้ารายแรกๆ ที่เข้ามาร้านเขาในวันนี้
ฮาเดสเลือกนั่งในมุมอับของร้าน สั่งการให้เจ้าของร้านนำขนมทุกชิ้นมาวางที่โต๊ะ
จ้าวนรกมีทรัพย์สินเงินทองเยอะเสียจนใช้กี่ชาติก็ไม่มีวันหมด เขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง
ในเมื่ออาณาเขตที่เขาปกครองคือใต้ผืนพิภพ พวกเพชรพลอย ทองคำ อัญมณีต่างๆ ล้วนเป็นสมบัติของเขาด้วยเช่นกัน ในบรรดาสามพี่น้อง ฮาเดสถือว่าร่ำรวยที่สุดแล้ว
นิสัยน้องคนเล็กเอาแต่ใจและใช้เงินมือเติบกำเริบขึ้นเมื่อมีคนตามใจ
และเป็นเรื่องน่าประหลาดสำหรับเจ้าของร้าน ที่พอ
ฮาเดสเข้าร้าน จากร้านขนมหวานที่เงียบเหงา ร้างผู้คนกลับมีคนทยอยเข้ามาเสียอย่างนั้น เจ้าของร้านที่ไม่เคยรับแขกเกินสิบคนต่อวันเป็นต้องตกใจ และรีบขยันขันแข็งทำงาน
“ข้าจะกินอันนั้นอีก! ที่มีน้ำตาลเผาเคลือบหน้า” ฮาเดส
ร้องบอกเจ้าของร้าน
“แครมบรูว์เล่เหรอ เพิ่งขายหมดไป คุณต้องรอผมปิดร้านก่อนนะ”
“ข้าจะกิน! เดี๋ยวนี้!”
อนิจจา นิสัยเสียของฮาเดสกำเริบ แต่ที่นี่ไม่ใช่นรก เขาไม่มีสิทธิ์สั่งการมนุษย์ และเจ้าของร้านถึงแม้จะใจดี แต่ก็ไม่ตามใจลูกค้ารายนี้ให้มากเกินไปนัก
ชายหนุ่มดุลูกค้าเอาแต่ใจ
“เลือกระหว่างรอแล้วจะได้กิน กับไม่ได้กินเลย”
“ข้าจะสาปเจ้า!”
“แย่เลยสิ ถ้างั้นคุณจะไม่มีคนทำขนมให้แบบนี้อีกนะ”
“...มนุษย์ใจร้าย ข่มขู่ข้า...”
ฮาเดสเอ่ยเสียหงอยเมื่อไม่ได้ดั่งใจ และได้แต่นั่งห่อไหล่ทำตามคำสั่งจากมนุษย์ไร้พลังอย่างง่ายดาย
ทำไมเขาต้องเชื่อฟังมนุษย์ด้วยนะ...
ก็เพราะมนุษย์คนนี้ทำขนมหวานอร่อยน่ะสิ
ฮาเดสนั่งมองถาดขนมที่ว่างเปล่าของตัวเองอย่างเหม่อลอย เมฆครึ้มรวมตัวกันหนาขึ้น กลั่นตัวเป็นเม็ดฝนที่เริ่มทยอยตกสู่พื้นดิน บรรยากาศรอบร้านดูอึมครึมกว่าเดิม แสงไฟสีส้มช่วยทำให้ร้านดูอบอุ่นขึ้นก็จริง แต่ในยามที่ฝนตกแบบนี้ คงไม่มีใครออกมาเดินบนถนน
เจ้าของร้านตัดสินใจปิดร้านเร็วกว่าเวลาปิดที่กำหนด
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ วันอื่นๆ เขาก็ปิดร้านเร็วเพราะไม่มีลูกค้า วันนี้ต่างหากที่แปลก มีลูกค้าเข้าร้านมากกว่าสิบคน แถมยังมีลูกค้าท่าทางแปลกๆ ที่สวมชุดดำทั้งตัว นั่งพึมพำอยู่คนเดียวในมุมมืดอีกต่างหาก
ชายหนุ่มหมุนป้ายร้านเป็นคำว่าปิด ก่อนเดินมายังเคาน์เตอร์ร้าน หยิบวัตถุดิบสำหรับทำขนมให้ลูกค้าเพียงคนเดียวในร้านออกมาตั้งเตรียมไว้ เริ่มทำการผสมผสานวัตถุดิบเหล่านั้นทีละขั้นตอน อย่างตั้งใจและละเมียดละไมในการ
เสกสร้างขนมหวาน
เมนูแรกเป็นฮันนี่โทสต์
ขนมปังหนานุ่มร้อนๆ ราดน้ำเชื่อมหวานๆ เสิร์ฟพร้อมชาอุ่นๆ เข้ากับบรรยากาศฝนตก ถูกเสิร์ฟให้จ้าวนรกที่นั่ง
ซึมกะทือ
แต่พอฮาเดสเห็นของหวานวางตรงหน้า ดวงตาสีดำก็ปรากฏประกายในตา แวววับด้วยความตื่นเต้น ราวเด็กน้อยไร้เดียงสา ริมฝีปากซีดคลี่ยิ้ม
“ทานนี่รอไปก่อนนะครับ เดี๋ยวแครมบรูว์เล่จะตามมา”
“เย้! เจ้าเป็นมนุษย์ที่นิสัยดีมาก ไว้ตอนตายข้าจะทำเรื่องส่งให้เจ้าไปยังทุ่งเอลิชิอัน โดยไม่ต้องผ่านคำพิพากษาของราดาแมนธัส ไมนอส หรือเออาคัส เลยสักคน”
หนุ่มชาวไต้หวันไม่เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าประหลาดนี้พูดเลยสักนิด แต่ก็ยิ้มรับให้กับคำพูดแปลกๆ น่าประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่เขาไม่มีความคิดจะไล่ลูกค้าผู้นี้ออกไป แม้ว่าจะปิดร้านแล้วก็ตาม หนำซ้ำยังลงทุนทำขนมชิ้นใหม่ตามคำสั่ง เพียงเพราะอยากเห็นรอยยิ้มจากลูกค้าคนนี้ สักนิดก็ยังดี
เขาไม่เคยเห็นใครกินขนมที่เขาทำแล้วมีความสุขเท่าคนคนนี้มาก่อน
เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้เขามีความสุขจากสิ่งที่ทำ จึงยินยอมที่จะทำขนมหวานตามคำสั่งลูกค้าเพียงหนึ่งเดียวในร้าน
หนึ่งรอยยิ้มแลกรอยยิ้ม
เจ้าของร้านมีความสุข
ฮาเดสเองก็มีความสุข
#หมายจับฮาเดส
Comments (0)