I

 

เป็นอีกครั้งที่ฮาเดสแอบหนีออกมาจากนรกใต้พิภพ เน้นย้ำว่าอีกครั้ง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวแห่งคนตายหลบหนีจากนรกภูมิ ฮาเดสมักหนีขึ้นมาบนโลกมนุษย์

สาเหตุล้วนเป็นเหตุผลเดียวกันตลอดหลายสหสวรรษที่ผ่านมา

“ข้าอยากกินของหวาน!”

จ้าวแห่งคนตายไม่ได้โปรดปรานเนื้อแกะดำ เลือดโคดำ หรือของคาวต่างๆ ที่มนุษย์นำมาสักการบูชาเท่าของหวาน ตั้งแต่มนุษย์รู้จักการคิดค้นขนมหวานแสนอร่อย เขาก็รักอาหารชนิดนี้แทบคลั่ง

เขารักน้ำตาลมากกว่าเลือดเนื้อ

แต่แล้วอย่างไรเล่า

เขาพยายามขึ้นไปบอกมนุษย์ตั้งหลายครั้ง ไม่มีใครยอมเชื่อเขาเลยว่าจะบูชาฮาเดสต้องบูชาด้วยน้ำตาล หรือขนมหวาน ทุกคนล้วนมีภาพในหัวว่าฮาเดสจะต้องเป็นคนน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัว ตามคำบอกเล่าในทุกตำนาน

คนน่ากลัวอย่างเทพเจ้าแห่งความตายจะมากินของหวานไม่ได้

มันขัดกับภาพลักษณ์

นั่นเป็นบทบาทที่พี่ชายงี่เง่าของเขาแต่งตั้งให้

หลังจากที่ซุสชำแหละโครนอสซึ่งเป็นพ่อของตัวเองสำเร็จเมื่อหลายสหสวรรษก่อน ก็ตั้งตนเป็นสามเทพผู้ยิ่งใหญ่ปกครองเหล่าเทพและเทพี

สามเทพนั้นประกอบด้วยตนที่ครอบครองพื้นที่ท้องนภา รวมไปถึงมอบหน้าที่ให้โพไซดอนน้องชายคนกลางดูแล
ผืนมหาสมุทร และให้น้องเล็กอย่างฮาเดสดูแลพิภพใต้ดิน

แน่นอน ฮาเดสไม่เคยอยากดูแลหรืออยู่ในนรกเลย

แต่เขาขัดพี่ชายไม่ได้!

อย่างน้อยก็ในตอนนั้น ฮาเดสยังเด็กเกินกว่าจะต่อต้านพี่ชาย

ทว่าไม่ใช่กับตนในตอนนี้ เวลาผ่านไปนานจนราชาแห่งนรกเริ่มปีกกล้าขาแข็ง มีสมุนเป็นคนตายรายล้อม และเหล่าบริวารรับใช้ที่น่าหวาดหวั่น จนสามารถลักลอบขึ้นไปตักตวงความสุขบนโลกมนุษย์

ของหวาน!

ย้ำอีกครั้งว่าเป็นสิ่งที่ฮาเดสโปรดปรานเป็นที่สุด

เขาลอบขึ้นไปยังโลกมนุษย์หลายครั้งหลายครา และมักจะถูกซุสลากตัวกลับลงมาทุกครั้ง

แม้อยากจะให้เซอร์เบอรัส เจ้าหมาสามหัวที่เฝ้าประตูแห่งความตายกัดหัวพี่เขาให้หลุดจากบ่าสักครั้ง แต่หลังจากที่ซุสรู้ว่าไซคีให้ขนมหวานกับเจ้าหมาสามหัวในการลงไปโลกแห่งความตาย... ซุสก็เอาเลยขนมเค้กไปให้ และเจ้าหมาก็ดูชอบอกชอบใจเสียจริง ยังไม่พอ บริวารตนอื่นๆ ก็เกรงกลัว
อิทธิฤทธิ์ซุสอย่างกับอะไร

ทั้งที่เป็นแค่พี่ชายงี่เง่าที่ไม่ยอมให้เขาไปกินขนม

แค่พี่ชายที่เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า ที่โค่นพ่อตัวเองได้แค่นั้นเอง

ส่วนโพไซดอนนั้นเหมือนกับคลื่นทะเล รักอิสระ และไม่ชอบผูกมัด ไม่เคยบังคับเขา เพียงแต่โพไซดอนคล้อยตามทุกคนด้วยความที่นิสัยที่เป็นคนง่ายๆ ซุสว่าไง โพไซดอนก็
ว่างั้น ฮาเดสว่าไง โพไซดอนก็ว่างั้น ฮาเดสหมดหวังกับพี่ชายคนกลางแล้ว

ครั้งนี้เขาจะหนีจากน้ำมือซุสให้ได้

อย่างน้อยก็ให้มากพอที่เขาจะสวาปามขนมหวานจากโลกมนุษย์ให้อิ่มจนท้องแตก

“ท่านฮาเดสแอบหนีออกไปจากนรกอีกแล้ว!”

 

 

เวลาผ่านไปนานหลายทศวรรษ ฮาเดสไม่ทนอยู่ในสถานที่ที่ไร้แสงแดดอึมครึมและต้องทนกินแต่ผลทับทิมอีกต่อไป ราชาแห่งนรกลอบหลบหนีขึ้นไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง

เรื่องถึงหูเทพซุสอย่างรวดเร็ว

การที่ฮาเดสขึ้นไปยังโลกมนุษย์ นอกจากจะทิ้งให้นรกปั่นป่วนแล้ว ยังมักจะมีคนตายติดสอยห้อยตามฮาเดสไปเสียทุกครั้ง คนตายกระจายอยู่ทั่วนรกอย่างไม่เป็นระเบียบ ไม่แปลกหากจะเห็นราชาแห่งความตายลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ไหนสักที่ในขุมนรก และแอบตามไปยังประตูเชื่อมความเป็นและความตาย

คนตายไม่ควรอยู่บนโลกคนเป็น

ฮาเดสรู้กฎข้อนี้ดี และเขาก็ไม่ได้ต้องการฝ่าฝืนกฎ

เสียแต่เหล่าคนตายแอบติดตามเขามาเอง และพลังของจ้าวนรกมักดึงดูดคนตาย ต่อให้เขาปิดประตูความตายแล้ว แต่คนตายบางส่วนก็ยังหลุดรอดออกมาได้อยู่ดี คนตายเร่ร่อนในโลกมนุษย์บางส่วนนั้นก็เดินตามเขาเพราะต้องการไปยังเส้นทางหลังความตาย ฮาเดสเป็นราวกับแม่เหล็กดึงดูดพวกภูตผีวิญญาณ

และการให้เหล่าคนตายมาอยู่ภายใต้สายตาการดูแลของจ้าวนรกก็ดีกว่าปล่อยให้เดินเพ่นพ่านไปทั่วเมืองมิใช่หรือ ถึงเขาจะทำเป็นไม่เห็นวิญญาณจรจัดที่แอบหลบหนีเมื่อเห็นเขาก็เถอะ

ฮาเดสผุดขึ้นมาจากนรกภูมิ รายล้อมด้วยวิญญาณคนตาย เดินตรงไปยังร้านขายของหวานอย่างแนบเนียน

จบจากร้านวาฟเฟิลที่กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ฮาเดสก็ตรงไปยังร้านน้ำหวานที่ขึ้นชื่อจนมีมนุษย์มากมายต่อแถวรอเพื่อได้ลิ้มรสน้ำหวานตามคำร่ำลือ เขาได้ยินชื่อเสียงของน้ำหวานชนิดนี้จากเหล่าคนตายที่ยังเป็นวัยรุ่น และสนใจมันมากเสียจนต้องลักลอบขึ้นมาเพื่อได้ลิ้มลอง

หลอดใหญ่กว่าปกติทำให้เขานึกสงสัยถึงขนาดของมัน แต่เมื่อได้ลองดูดเอาน้ำหวานและขนมนุ่มในน้ำขึ้นมาเชยชิมแล้วฮาเดสก็หมดคำถามใดๆ

อร่อยมาก!

ชานมไข่มุก น้ำหวานที่เพิ่งถูกคิดค้นเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เขาเพิ่งเคยได้ลิ้มลองรสชาติมัน ให้ตายเถอะ นี่เขาไม่ได้ขึ้นมาโลกมนุษย์นานแค่ไหนกันแล้วนะ เขารู้ว่ามีเจ้าสิ่งนี้ก็จากคำบอกเล่าของเหล่าวิญญาณสาววัยรุ่น

ฮาเดสค้นพบว่าชานมไข่มุกมีต้นตำรับมาจากไต้หวัน เมื่อปี 1988 ได้มีการทดลองนำขนมชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในชา และมันก็ถูกพัฒนาจนเป็นชานมไข่มุกในปัจจุบัน

ที่สำคัญ รสชาติมันหวานติดลิ้นรวมถึงขณะที่ได้เคี้ยวเจ้ามุกเหนียวนุ่มก็ได้อรรถรสในการกินเพิ่มมากขึ้นอีกต่างหาก

ฮาเดสถูกใจสิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง

เขาตระเวนหาร้านชานมไข่มุกที่มีชื่อเสียง ลงทุนต่อแถวต่อจากพวกมนุษย์ เพื่อจะได้ลิ้มรสมันอีกครั้งและอีกครั้ง

ทว่าฮาเดสที่ถูกความหวานเข้าครอบงำ ขนมหวานชนิดใหม่ทำให้เขาเคลิ้มกับรสชาติของมันจนลืมตัว ลดระดับการ์ดป้องกันตัว ประสาทรับรู้การมาถึงของเทพเจ้าลดน้อยลง

รู้ตัวอีกที เขาก็เจอซุสที่แฝงตัวเป็นมนุษย์ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า

พี่ชายคนโตทำหน้าบูดบึ้ง ดึงเขาออกจากแถว

ไม่ทันทีฮาเดสจะได้ร้องโวยก็ถูกอีกฝ่ายพูดขัดขึ้นมาก่อน

“ฮาเดส เจ้าเอาอีกแล้วนะ”

จ้าวนรกทำหน้าเบ้ ปากยื่น ไม่พอใจ

“ข้าผิดอะไร”

“เจ้าไม่ควรขึ้นมาที่โลกมนุษย์”

เรื่องนั้นเขารู้ รู้มาตลอด แต่ทำไมเล่า ทำไมมีแต่เขาที่ขึ้นมาไม่ได้

“ทำไมล่ะท่านพี่ ท่านยังชอบแอบไปนั่งเครื่องบินกับพวกมนุษย์เลย”

ฮาเดสว่า เหลือบไปเห็นพี่ชายคนกลางที่แฝงตัวเป็นมนุษย์เช่นกัน โพไซดอนยืนมองห่างๆ แต่ก็ไม่พ้นคำตัดพ้อของน้องคนเล็ก ท่านด้วย โพไซดอน ท่านชอบไปเดินเล่นบนหาด เล่นกระดานโต้คลื่น แล้วทำไมข้าจะขึ้นมาที่โลกมนุษย์บ้างไม่ได้”

“เจ้าขึ้นมาทีไร พวกคนตายก็จะตามมาด้วยทุกที คนตายไม่ควรอยู่ในโลกคนเป็น และเจ้าควรอยู่ดูแลนรก”

“ข้าแค่อยากต่อแถวกินชานมไข่มุก!”

เรื่องกฎของคนตายและโลกคนเป็นเขารู้ดีกว่าใคร แต่ทำไมเล่า เขาหิวของหวานไม่ได้เลยหรือไงกัน!

“เจ้าใช้บริวารของเจ้าให้มาซื้อก็ได้นี่”

“จะมีค่าอะไร การได้ต่อคิวนานๆ เพื่อรอได้ลิ้มรสชาติที่แสนอร่อย มันคุ้มค่ามากแค่ไหน ท่านไม่รู้หรอก” ฮาเดสแย้ง “อีกอย่าง ของในโลกมนุษย์เอาลงไปในนรกมีแต่ทำให้เสียรสชาติ”

“ถ้าเจ้ามาวุ่นวายบนโลกมนุษย์แค่คนเดียวข้าคงไม่รีบลงมาหาเจ้าไวขนาดนี้หรอก” เทพเจ้าแห่งท้องฟ้าว่า “แต่นี่เจ้าเล่นพาขบวนคนตายตามมาด้วย!”

“พวกเขาตามข้ามาเอง”

“พวกเขาตามมาเพราะเจ้าหนีนรกน่ะสิ ฮาเดส เจ้ามันดื้อ!”

คนดื้อถลึงตาใส่ผู้พี่ ไม่ทันได้เอ่ยอะไร ซุสก็ร้องเสียงดังลั่น ป่าวประกาศว่ามีภูตผีอยู่แถวนี้ มนุษย์ปกติจะไม่สนใจพวกนั้นหากไม่ได้สังเกตดีๆ และการประกาศของซุสก็ทำให้มนุษย์เริ่มสังเกตเหล่าคนตายรอบตัว ก่อนจะหวาดผวา แถวที่ต่อคิวรอชานมไข่มุกแตกกระเจิง ทุกคนหนีไปให้ไกลจากความน่ากลัว

“ซุส ท่านนี่มัน...!” ฮาเดสจนใจจะด่าว่า “ข้าแค่หิว มันผิดมากหรือไง”

“ไม่ ถ้าเจ้าไม่ก่อความวุ่นวาย”

“ข้าไม่ได้ก่อความวุ่นวาย ถ้าท่านเงียบปากไว้ก็ไม่มีเรื่องแล้ว อีกอย่างจะให้ข้าทำไงได้ ผู้ติดตามข้าล้วนเป็น
คนตาย แต่บริวารท่านเป็นสัตว์ปีก เหล่านกอินทรีทั้งหลาย โพไซดอนก็เป็นสัตว์ทะเลที่ขึ้นฝั่งไม่ได้ ทุกคนมาโลกมนุษย์ได้โดยไม่ผิดปกติ ไม่ยุติธรรม!”

สิ้นเสียงโวยวายแหวดแหว ซุสถอนหายใจ เอื้อนเอ่ย

“เอาเถิด ฮาเดส ไว้ข้าจะซื้อของกินไปฝากเจ้าแล้วกัน”

“ท่านโกหก! ไม่มีใครอยากลงไปผืนพิภพใต้ดินหรอก ท่านเคยหลอกข้า บอกจะเอาขนมลงไปให้แต่ท่านก็ไม่เคยมา อีกอย่างอาหารจากโลกมนุษย์พอแตะอากาศในนรกเข้าก็รสชาติแย่ กลายเป็นฝุ่นง่าย ข้าถึงต้องกระสนขึ้นมาบนโลกมนุษย์อย่างไรเล่า!”

“เจ้ามันดื้อ ฮาเดส” ซุสเอ่ยด้วยน้ำเสียงหน่ายใจ แต่ไม่เคยจะเข้าใจเขา

“ลองท่านมาเฝ้านรกใต้พิภพ ไม่ได้เห็นแสงตะวัน กินแต่ผลทับทิมอยู่ท่ามกลางบรรยากาศหดหู่ซึมเซาทั้งวันทั้งคืนดูสิ แล้วท่านจะเข้าใจ”

“ข้าควรทำอย่างไรกับน้องเล็กคนนี้ดีนะ...”

“ปล่อยข้าไปซื้อชานมไข่มุก!”

เป้าหมายของฮาเดสมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการได้ทานของหวาน และมันจะไม่เปลี่ยนแปลง

“เจ้าทำมนุษย์แตกตื่นหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าขาย
ชานมไข่มุกนั่นให้เจ้าแล้วล่ะ”

“ก็แล้วมันเป็นเพราะใครเล่า เพราะท่านนั่นแหละ 
ถ้าท่านไม่ตะโกนบอกว่าบริวารข้าเป็นคนตาย ก็ไม่มีใคร
ผิดสังเกตแล้ว!”

“ทำไงได้ ข้าไม่เชื่อใจคนตาย พวกเขาอาจทำร้ายมนุษย์เมื่อไหร่ก็ได้”

ฮาเดสไม่เถียงข้อนี้ คนตายมีอารมณ์แปรปรวน ควบคุมได้ยาก เพราะเช่นนั้นเขาถึงให้เหล่าคนตายอยู่ภายใต้การดูแลของเขาอย่างไรเล่า

“คนที่ดื้อน่ะท่านต่างหาก ซุส ข้าจะฟ้องท่านพ่อ”

“โครนอสถูกข้าสับเป็นชิ้นๆ อยู่ในนรกทาร์ทารัสแล้ว เผื่อเจ้าลืม”

“และเผื่อท่านลืม นรกทาร์ทารัสอยู่ห่างจากเอเรบัสที่ข้าดูแลไม่มาก ข้าจะไปปลุกท่านพ่อจากทาร์ทารัส!”

สองคนโต้เถียง พี่ชายน้องเล็กทะเลาะกันโดยมีพี่คนกลางคอยยืนดูสถานการณ์อยู่อย่างเงียบๆ กระทั่งเรื่องราวเริ่มเลยเถิดไปไกล เขาจำเป็นต้องดึงสติให้สองพี่น้องของเขากลับเข้าเรื่อง

“ใจเย็นฮาเดส ใจเย็นซุส แค่ชานมไข่มุกแก้วเดียว ข้าซื้อให้น้องข้าก็ได้”

“แต่ตอนนี้ไม่มีคนขายแล้ว!” ฮาเดสแย้ง

“ข้าจำได้ว่ามีอีกสาขาใกล้ๆ ข้าจะนำมาให้”

ฮาเดสเริ่มยิ้มออกเล็กน้อย

“โพไซดอน เจ้าตามใจเด็กนี่เกินไปแล้ว”

“ก็ฮาเดสเป็นน้องข้านี่ เป็นน้องท่านด้วย ท่านควรดูแลน้องเราให้ดีกว่านี้นะ”

สิ้นสุดการทะเลาะวิวาทของสามพี่น้อง (ซึ่งอันที่จริงต้องเป็นแค่สอง) ฮาเดสได้ชานมไข่มุกที่ตนต้องการ จากการช่วยเหลือของโพไซดอน

“ทีนี้เจ้ากลับนรกได้แล้ว ฮาเดส”

“ได้” ฮาเดสตอบรับคำ แยกย้ายกันไปคนละทาง

ฮาเดสไม่ได้ตรงกลับไปยังประตูแห่งความตาย แต่เลือกเดินฉีกไปอีกทาง หลบหนีพี่ชายทั้งสองอีกครั้ง...

 

 

 

นรกยังคงวุ่นวายเมื่อขาดราชาแห่งนรก

ซุสที่เหนื่อยใจจะตามหาจึงออกประกาศ

หมายจับฮาเดส : 'ผู้ใดพบเห็นชายผิวขาวซีด ผมสีดำยาวประบ่า สวมชุดสีดำทั้งตัว ชอบอยู่กับคนตาย

รบกวนติดต่อซุส มีรางวัลตอบแทนการนำจับ'

หมายจับถูกป่าวประกาศไปทั่วทั้งสามโลก

 

 


#หมายจับฮาเดส