VI

 

ถ้าซุสได้เห็นภาพนี้ เขาคงขาดใจตาย

หรือไม่ก็บัญชาสายฟ้าให้ฟาดลงร้านขนมหวานทันที

ฮาเดสกลายเป็นพนักงานร้านขนมหวานไปแล้ว

จ้าวนรกกลายเป็นเด็กเก็บจาน โดยที่เจ้าตัวก็ยินยอมเสียด้วย หมดกันภาพลักษณ์จ้าวแห่งความตายที่ทุกคน
เกรงขาม จ้าวแห่งดวงวิญญาณทุกดวง กลายมาเป็นพนักงานร้านขนมหวานไร้ความน่ากลัว

เป็นเพราะเซี่ยนปิ่นไหว้วาน

เขาไม่ได้คิดจะใช้งานจ้าวนรกหรอกถ้าหากคนที่ร้านไม่พอใช้ แถมดันมีคนข้างตัวพอดี

แค่ทำขนมอย่างเดียวเขาก็ใช้เวลามากพอแล้ว ไหนจะ
ต้องเสิร์ฟ เก็บจาน ล้างจาน คิดเงิน เขาทำไม่ทันจริงๆ อย่างน้อยก็ในช่วงที่มีลูกค้ามากกว่าปกติ

ก็เลยลองถามฮาเดสในเวลาก่อนนอนคืนหนึ่ง

ไม่คิดว่าคนเอาแต่ใจอย่างฮาเดสจะยอมตอบตกลงเหมือนกัน...

เซี่ยนปิ่นจัดการระบบร้านใหม่ เขาเปลี่ยนให้ลูกค้ามารับออเดอร์ที่เคาน์เตอร์แทนการเดินไปเสิร์ฟ เพื่อที่ตนจะได้โฟกัสในการคิดเงินและทำเครื่องดื่ม แถมได้เช็กสต๊อกจำนวนขนมหวานในตู้โชว์ด้วย ส่วนฮาเดสก็ทำเพียงเก็บจานเปล่าหรือแก้วเปล่าที่ลูกค้าใช้แล้วไปไว้ที่อ่างล้างจานหลังร้านเท่านั้น

ทีแรก จ้าวนรกเสนอให้ใช้บริวารคนตายของเขา อย่างน้อยตัวที่อยู่หลังสวนนั้นก็ยังพอขยับตัวได้

แต่เซี่ยนปิ่นปฏิเสธลั่น เขาไม่อยากให้ร้านขนมแสนสดใสอบอุ่นของเขาเปลี่ยนธีมไปเป็นฮาโลวีน

หลังจากที่ฮาเดสเรียกคนตายมาต่อหน้าต่อเขาในวันนั้น เซี่ยนปิ่นก็ยังทำใจเชื่อไม่ได้เต็มร้อยว่าอีกฝ่ายเป็นจ้าวนรกจริงๆ หมอผีก็เรียกผีได้นี่ หรืออาจจะเป็นอะไรก็ตามที่มีความสามารถเรียกวิญญาณ อาจจะไม่ใช่จ้าวนรกก็ได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องหนักใจเท่าไหร่

ชายหนุ่มชาวไต้หวันสังเกตเห็นความแปลกไปของเพื่อนใหม่ต่างหาก

ฮาเดสไม่สดใสเหมือนครั้งแรกที่เคยเจอ

นับตั้งแต่ธานาทอสมาหา ฮาเดสก็ดูหงอยเหงา ซึมกะทือมาพักใหญ่

สังเกตได้จากอะไรน่ะหรือ โกโก้ร้อนที่เย็นชืดไปครึ่งแก้วนั่นไง วันแรกที่เซี่ยนปิ่นเห็นว่าฮาเดสกินโกโก้เขาไม่หมด เขายังไม่นึกสงสัยเท่าไหร่ แต่หลายวันแล้วฮาเดสยังคงกินเหลือ จนเขาเริ่มเกิดความสงสัย

โกโก้เขาไม่อร่อยหรืออย่างไร

พอถามแล้วก็ได้คำตอบเป็นคำปฏิเสธ

“ทุกอย่างที่เจ้าทำ อร่อยเหมือนเดิมทุกครั้ง”

แล้วทำไมถึงกินเหลือกันเล่า

เขาอยากตะโกนถามคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน

ปกติแล้วฮาเดสเคยกินของเหลือเสียที่ไหน ซ้ำยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียว วันนี้ฮาเดสกินขนมไม่หมดจาน!

เจ้าของร้านจึงคิดว่าอารมณ์ของฮาเดสหดหู่เข้าขั้น
วิกฤตแล้ว ครั้นเห็นฮาเดสเอาแต่นั่งเหม่อ ไม่ยอมสวาปามขนมเสียที เขาก็เป็นกังวลใจ

และคิดว่าถ้าหากหาอะไรให้ฮาเดสทำเพื่อคลายความกังวลได้ก็คงจะดี อย่างน้อยการได้ขยับตัวทำอะไรก็น่าจะดีกว่านั่งจมในความคิดที่หาทางออกไม่ได้ ฮาเดสก็คิดเช่นนั้น จึงลุกขึ้นมาเป็นบริกร ยอมอยู่ใต้คำสั่งของมนุษย์เป็นคนแรก

การเก็บจานสนุกกว่างานในนรก และทำให้เขาเลิกคิดเรื่องความวุ่นวายในนรกได้พักใหญ่

แต่พอเวลากลางคืนมาถึง ฮาเดสก็กลับมาซึมกะทือเหมือนเดิม

เขาคิดไม่ตกว่าควรจัดการอย่างไรกับคนตายที่นับวัน
มีแต่จะเพิ่มขึ้นดี เหล่าผู้พิพากษาก็ทำงานหนัก เจ้าหมา
เซอร์เบอรัสก็คงเหนื่อยที่ต้องคอยเฝ้าดูวิญญาณทั้งวัน เครอน
เองก็แก่แล้ว เงินจากคนตายอาจจะไม่คุ้มค่าพอสำหรับงานหนักเช่นนี้ ธานาทอสก็คงวุ่นวายกับการจัดการคนตาย ฮิปนอส
ก็คงยุ่งอยู่กับความฝัน

เพอร์เซโฟเนอาจจะพอมีเวลา แต่นางไม่ค่อยชอบงานในนรก แค่ให้นางอยู่เฉยๆ ได้ก็นับว่าดีถมเถแล้ว

หรือเขาควรขอความช่วยเหลือจากเหล่าอนุเทพที่อยู่ในนรกทาร์ทารัส

เทพีเฮคาทิอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่นางน่าจะอยากอยู่กับเพอร์เซโฟเนมากกว่า หรือถ้าอย่างนั้นอาจจะให้พวก
ฟิวรี่ไปช่วยจัดการพวกคนตายสักระยะ

ฮาเดสพยายามไล่ชื่อเหล่าบริวารในนรก และพยายามหาวิธีการจัดการใช้พวกเขาให้คุ้มค่า รวมถึงคำนวณค่าแรงที่ต้องจ่ายเพิ่มด้วย

อย่างไรเสีย ถ้าไม่มีผู้บัญชาการในนรก มันก็คงจะวุ่นวายตามที่ธานาทอสบอกจริงๆ นั่นแหละ

เขาไม่ได้ชอบการทำงานในนรก แต่ในเมื่อถูกผลักภาระมาตลอดหลายพันปี และมีเพียงเขาที่ทำมันได้ เขาก็ไม่อยากทิ้งความรับผิดชอบ

ตอนนี้ก็แค่เหนื่อยเกินไป ขอเวลาพักผ่อนสักนิด

กระนั้นแอบหนีมาพักผ่อนทั้งที ก็ยังต้องมาคิดเรื่องงานในนรกที่แสนวุ่นวายอีก

ฮาเดสไม่อยากกลับนรก แต่ก็กลุ้มใจแทนบริวารของตนเสียเหลือเกิน

ถ้าเขาไม่ทำแล้วใครเล่าจะทำ ฮาเดสไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ

จ้าวนรกถอนหายใจ

คราวนี้ไม่มีการละเมอเป็นคำว่าชานมไข่มุกอีก

“หิว...”

แต่เป็นเสียงร้องแผ่วๆ ที่ส่งมาจากกระเพาะอาหารแทน

เซี่ยนปิ่นยังไม่หลับ ได้ยินเสียงกระซิบจากจ้าวนรกที่นอนข้างๆ เต็มสองรูหู

เขานอนนิ่งมองเพดานในความมืด และได้แต่คิดว่าเมนูวันพรุ่งนี้ควรหาอะไรหนักท้องให้คนที่นอนข้างๆ นี่สักหน่อย

 


 

 

#หมายจับฮาเดส