IX

 

อาทิตย์หน้าแล้วกัน...

เป็นความคิดของฮาเดสหลังจากที่ผลัดวันกลับนรกเป็นครั้งที่สิบ เลื่อนจากวันนี้เป็นพรุ่งนี้ เป็นมะรืนนี้ เป็นอาทิตย์นี้ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกกำหนดการตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย

อาทิตย์หน้า...จริงๆ แล้ว

เขาพึมพำกับมูสช็อกโกแลตตรงหน้า

ที่นี่ทำให้เขาไม่อยากจากไปเลยแม้สักวันเดียว แต่ทำไงได้ ร่างกายของเขาเริ่มต่อต้านโลกมนุษย์ขึ้นทุกวัน อย่างน้อยได้กลับนรกสักวันก็คงดีขึ้น

แต่อาทิตย์หน้านะ อาทิตย์หน้าจริงๆ

แม้ตั้งใจจะกลับนรกแค่วันเดียว และเปิดประตูความตายเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงอย่างนั้นฮาเดสก็ยังไม่อยากจากร้านขนมแห่งนี้ไป เขาใช้ทุกวินาทีกับขนมหวานตรงหน้า ละเลียดชิมมันอย่างช้าๆ สัมผัสทุกรสชาติที่ละลายในปากอย่างไม่รีบร้อน

ซึมซับความสุขให้มากที่สุดก่อนที่จะหายไป

ไม่ได้ใช้เวลามากในการไปกลับจากโลกมนุษย์ แต่ฮาเดส
กลับรู้สึกเหมือนจะต้องจากที่นี่ไปนาน

คงเพราะผูกพันกับที่แห่งนี้ แม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่นานทีปีหนเขาจะสุ่มเจอร้านขนมที่อร่อยถูกปากขนาดนี้ ราวว่ามันถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะอย่างนั้น ชานมไข่มุกเองก็ด้วย มีชีวิตอยู่มาหลายพันปี เพิ่งจะมีเจ้าสิ่งอร่อยนี้กำเนิดขึ้นมา

ให้ตาย เขาอยากอยู่บนโลกมนุษย์มากจริงๆ

อยากคอยดูสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิด เก็บเกี่ยวสิ่งที่แตกดับ วนไปเรื่อยๆ

เสียแต่ที่ต้องวนไปเรื่อยๆ น่ะคือชีวิตเขาในนรกต่างหาก

ไม่อยากกลับไปเลยน้า

ฮาเดสคร่ำครวญ

แต่ในคืนนั้น เป็นเขาที่รู้ตัวว่าพลังตัวเองกำลังจะถูกโลกมนุษย์สูบหายไปจนหมด ผ้าห่มผืนเดียวไม่เพียงพอสำหรับความหนาวยามค่ำคืน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกัดฟันทน เพื่อรอบอกลาเซี่ยนปิ่นในวันพรุ่งนี้

ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย...สงสัยว่าเขาคงแก่แล้วจริงๆ นั่นแหละ

พลังไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว...

ลมหนาวยามค่ำคืนไม่ได้หนาวเหน็บจนเกินไป แต่เป็น
ฮาเดสเองที่พลังอ่อนลง จนต้องขยับตัวไปซุกแผ่นหลังมนุษย์ หวังพึ่งไออุ่นต่อลมหายใจ

“หืม” เซี่ยนปิ่นยังไม่หลับสนิทดี พอสัมผัสได้ว่ามีอะไรมาดุนหลังก็หันไปหาอีกฝ่าย “หนาวหรือครับ”

ฮาเดสพยักหน้า ยังคงซุกหน้าลงกับผ้านวมผืนหนาและขยับกายชิดกับแผ่นหลังของชายหนุ่ม

ส่วนเซี่ยนปิ่นห่มเพียงแค่ผ้าบางๆ ที่เขาหาเจอจากซอกหลืบของตู้ ถึงอย่างนั้นเจ้าของร้านขนมก็ยังแบ่งผ้าห่มผืนบางของตัวเองให้อีกฝ่ายห่มทับ เสียแต่มันไม่ได้มีผลอะไร

ฮาเดสยังคงนอนหนาวตัวสั่น

“คุณไม่สบายหรือ”

“นิดหน่อย”

“ผมจะไปหายา...”

“ไม่ต้อง” ฮาเดสว่า ยาของมนุษย์ไม่มีผลต่อร่างกายเขา “มีขนมเหลือไหม”

เซี่ยนปิ่นอมยิ้ม

“มีอัลมอนด์ทาร์ต ชีสเค้ก พายแอปเปิ้ล เตรียมไว้สำหรับวันพรุ่งนี้น่ะครับ เอาไหม”

ฮาเดสพยักหน้าอย่างไม่เกรงใจ

“ทานคู่กับอะไรดี”

“...โกโก้ร้อน”

ก้อนผ้านวมตอบ จากนั้นเจ้าของร้านขนมก็ใจดีไปจัดหามาให้ตามที่ฮาเดสต้องการ

เขารู้ว่าอีกฝ่ายมีท่าทีแปลกไปสักพักแล้ว แต่ฮาเดสไม่เอ่ยอะไร เขาก็ไม่อยากถามอะไร เพียงอยากให้อีกฝ่ายกินขนมของเขา อยากให้มีแต่ความสบายใจและความสุขเท่านั้น

ขนมและโกโก้ร้อนมาเสิร์ฟตอนเที่ยงคืน

ฮาเดสตักชีสเค้กกินช้าๆ มันอร่อยเหมือนเดิม หวานละมุนลิ้นจนอยากกินอีกเยอะๆ เสียแต่ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย เขาอยู่รอจนเช้าไม่ได้เสียแล้ว...

จ้าวนรกจิบโกโก้อุ่นจนพร่องไปครึ่งแก้ว

“ข้าต้องกลับแล้วล่ะ”

“กลับ?” เซี่ยนปิ่นทวนคำ “บ้านคุณน่ะหรือ”

“จะว่างั้นก็ได้”

“กลับเมื่อไหร่ล่ะครับ”

“หลังจากกินขนมพวกนี้เสร็จ”

“หา รอตอนเช้าก่อนก็ได้นี่”

จ้าวนรกส่ายหน้า

“รอไม่ได้แล้ว ขอบใจเจ้านะ สำหรับขนมอร่อยๆ ข้าสัญญาว่าจะรีบกลับมา”

“คุณพูดเหมือนจะไปไกล”

“ก็คงไกล ข้าว่าจะกลับไปแค่วันเดียว แต่กลัวว่าจะไม่พอ”

“อะไรไม่พอหรือ?”

“พลังน่ะสิ พลังข้าหดหายไปหมดตอนอยู่บนโลกมนุษย์ ทีแรกข้าตั้งใจกลับนรกแค่วันเดียว แต่ดูท่าวันเดียวน่าจะ
เติมเต็มพลังข้าไม่ได้”

“...”

เซี่ยนปิ่นไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่เอ่ยขัดอะไรเหมือนเคย

“แล้วจะไปอย่างไร มืดขนาดนี้ไม่น่ามีรถหรอกมั้ง”

“ข้าไม่ต้องใช้รถหรอก”

เซี่ยนปิ่นนึกคิดว่าฮาเดสคงเรียกคนขับรถมารับตนได้ทุกเวลา

“ถ้าอย่างนั้น...จะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะครับ ผมจะได้เตรียมขนมที่คุณชอบไว้”

จ้าวนรกหัวเราะขำ

“ข้าก็ชอบขนมทุกอย่างที่เจ้าทำนั่นแหละ แต่ว่า...น่าจะสักอาทิตย์หนึ่งน่ะ”

“ก็ไม่นานมากนี่ งั้นผมจะรอนะ”

“อืม ขอบคุณนะ”

ฮาเดสว่า ตักทาร์ตอัลมอนด์คำสุดท้ายเข้าปาก ตามด้วยดื่มโกโก้ร้อนจนหมดแก้ว เขาวางจานและแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ

“ขอบคุณสำหรับขนม ข้าสัญญาว่าเจ้าจะไม่ทุกข์ทรมานหากถึงวันที่ต้องมานรก”

“หา?”

จ้าวนรกว่าจบ เสื้อผ้าที่เคยเป็นชุดนอนของเซี่ยนปิ่นก็ถูกย้อมกลายเป็นผ้าคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า ฮาเดสเดินไปยังประตูที่ใกล้ที่สุด ซึ่งก็คือประตูห้องน้ำ ไม่ทันที่เซี่ยนปิ่นจะได้ถามว่าฮาเดสทำอะไร จ้าวนรกก็เปิดประตูแห่งความตาย เดินเข้าไปในความมืด

ประตูห้องน้ำของเซี่ยนปิ่นถูกแปรสภาพกลายเป็นประตูสู่ยมโลก

แม้เพียงชั่วครู่เดียว แต่ก็ทำให้เขาอ้าปากค้าง...

พอฮาเดสหายเข้าไปในเงามืด ห้องน้ำเขาก็กลับมาเป็นปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“สรุป...หมอนั่นเป็นฮาเดสจริงๆ น่ะหรือ”

ทั้งคืนนั้น เซี่ยนปิ่นนอนไม่หลับ ไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะร่วมอาศัยอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่พิสดารมากๆ ตั้งหลายอาทิตย์

 

 

“ท่านฮาเดสกลับมาแล้ว”

ข่าวถึงหูเหล่าบริวารในนรกเป็นพวกแรก พวกเขาโห่ร้องยินดีที่นายตัวเองเลิกหนีออกจากบ้านเสียที พวกวิญญาณวุ่นวายกันไม่หยุดจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

ฮาเดสเองพอได้กลับสู่ผืนพิภพ พลังของเขาก็เริ่มไหลเข้ามาในตัว เสียแต่ยังทดแทนพลังที่ขาดหายไปไม่ได้

เขารับฟังเหล่าสามผู้พิพากษา รวมไปถึงเครอน และ
ธานาทอสเกี่ยวกับเรื่องราววุ่นวายในนรก

ก่อนจัดการมอบหมายหน้าที่ให้ทุกคนแยกย้ายไปทำตามคำสั่ง

เพียงเท่านั้น จ้าวนรกก็กลับมาหมดแรงอีกครั้ง

“ข้ากำลังไปรับตัวท่านมาพอดี” บริวารคนสนิทของเขา-ธานาทอสเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฮาเดสนั่งปล่อยตัวบนบัลลังก์ทองคำ

“ธานาทอส เรียกแฝดเจ้ามาให้ข้า” เขาเอ่ยบอกบริวารคนสนิทในห้องบัลลังก์

“ท่านจะทำอะไรหรือ”

“ข้าจะนอนพักอีกสักหน่อย พลังหายไปมากกว่าที่คิด ถ้าได้หลับอย่างสนิทโดยที่ไม่มีเสียงวิญญาณโหยหวนสักคืนสองคืน ข้าคงจะกลับมาแข็งแรงขึ้นได้เร็วๆ”

ธานาทอสรับปากว่าจะพาฮิปนอสหรือแฝดพี่ของตนลงมาจากโอลิมปัส สองปีกใหญ่สีดำกางออก กระพือปีกใหญ่ พาร่างของตนโบยบินออกจากนรกใต้พิภพ ไปตามตัวฮิปนอสที่อยู่บนเขาโอลิมปัส

ฮิปนอสเป็นเทพแห่งการหลับใหลและเทพแห่งความฝัน เหล่าเทพเจ้าเองก็ล้วนอยากมีฝันที่สวยงาม ดังนั้นฮิปนอสจึงได้ไปรับใช้พวกเขาที่โอลิมปัสอยู่บ่อยครั้ง

ฮาเดสไม่รู้เลยว่าการที่เขากลับมานรกครั้งนี้ จะมีการวางแผนอย่างแยบยลไว้

ไม่รู้เลยว่าทุกคนที่เขาไว้ใจจะทรยศหักหลังเขา

ไม่รู้จนกระทั่งฮิปนอสพาเขาเข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน ยาวนานกว่าที่เขาระบุไว้...

เพียงหนึ่งคืนทว่าความจริงนั้นเวลาล่วงเลยไปเป็นเดือน

 


 

 

#หมายจับฮาเดส