4 ตอน [Drabble] ของแทนใจ…?
โดย Poypirin
CW : canon compliant,ตัวละครทั้งสองตัวเป็นคู่รักกัน,สปอยเควสอีเว้นท์อิโระโดริ,อาจจะหลุดคาร์แรกเตอร์
✿✿✿✿✿✿
ท่าเรือริโตวในวันปรกติก็คงมีแค่ผู้คนสัญจร เรือเทียบท่าไม่กี่ลำ ร้านค้าร้องเรียกคนเข้าร้าน
ทว่าวันนี้ไม่เหมือนกับวันอื่น ๆ เพราะเทศกาลอิโระโดริที่จัดขึ้นในปีนี้ หน่วยงานที่คอยตรวจคนเข้าเมืองก็ยุ่งกันหัวหมุน รายชื่อคนเข้าประเทศยาวเหยียดเป็นหางว่าว ผู้คนต่างมาชมเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อผสมผสานวัฒนธรรมสมัยใหม่ เข้ากับวัฒนธรรมสมัยโบราณของอินาซุมะ
หน้าที่ของลูมีนในวันนี้คือพาจิตรกร และกวีที่มาจากเมืองมอนด์สตัดท์ไปเที่ยวชมศาลเจ้าใหญ่นารุคามิ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงโยวโค
“ลูมีน ทำไมเข็มกลัดผ้าพันคอด้านหลังเธอมันเป็น….” ไปม่อนทักขึ้นมา หรี่ตามอง ยกมือขึ้นมาลูบคางพลางพิจารณาเครื่องประดับด้านหลังเพื่อนสาวที่ดูผิดแผกไปจากเดิม
เจ้าภูตตัวจิ๋วเพ่งพิศราวกับต้องการดูให้ชัดเจน เธอรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก
ลูมีนชะงักฝีเท้าหยุดเดิน รีบหันหลังหนีไปม่อน เธอเอื้อมมือไปปิดด้านหลังเอาไว้อย่างร้อนรน
อัลเบโด้กับคลีที่ยืนอยู่ข้างกันก็เริ่มมองไปที่ด้านหลังของลูมีนเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ พี่สาวอัศวิน!” คลีเดินเข้ามากระตุกชายกระโปรงลูมีนเบา ๆ เด็กสาวในชุดสีแดงเงยหน้ามองพี่สาวคนสวยตาแป๋ว
ลูมีนได้แต่ส่ายหน้า ใจหนึ่งอยากจะใช้อีกมือปิดปากไปม่อนแล้วลากมาคุยด้วยกัน แต่ก็ไม่ทัน
“อ๋า! มันคือตราตระกูลคามิซาโตะนี่!” พอรู้ว่าเป็นของใคร ไปม่อนทุบหมัดเข้ากับฝ่ามือ
“ทำไมมาติดอยู่ข้างหลังลูมีนได้อะ” และแล้วไปม่อนก็นึกออก
แผ่นไม้เนื้ออ่อนสลักสีทอง เป็นรูปตราดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ที่คนบนเกาะนารุคามิรู้จักกันดี แถมพู่สีม่วงพ่วงกับเชือกห้อยข้างล่างตราประจำตระกูลยังเหมือนกับ
ของที่อยู่ด้านหลังชุดเครื่องแบบคามิซาโตะ อายาโตะไม่มีผิด!
ไปม่อนกระแซะตัวเข้ามาใกล้ลูมีนมากยิ่งขึ้น
“เห~ จะว่าไปช่วงนี้เธอกับอายาโ–” ภูตตัวน้อยกำลังจะออกปากแซว แต่ยังไม่ทันได้พูดจนจบ ก็โดนนักเดินทางสาวขัดขึ้นมาก่อน
“ของเก่ามันชำรุดน่ะ ฉันก็เลยฝากคนไปซ่อม” ลูมีนไอค่อกแค่ก คำตอบจากเพื่อนสาว ยิ่งทำให้ความสงสัยก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ไปม่อนแสดงสีหน้าใคร่รู้อย่างไม่ปิดบัง
“แล้วมีคนให้อันนี้มาใช้แก้ขัดไปก่อน” เธอละล่ำละลักชี้แจงแก่เพื่อนสนิท
ลูมีนไม่ได้โกหก
ประการแรก เข็มกลัดชำรุดจริง
แต่สาเหตุที่มันพังได้ยังไงนั้น…
ความทรงจำแล่นเข้ามาในหัว อายาโตะกักตัวเธอไว้ในวงแขน จนแผ่นหลังเธอชิดกับต้นไม้ใหญ่ กลางป่าชินจู เป็นสาเหตุให้เข็มกลัดที่คอยรั้งผ้าพันคอของเธอไว้ เกี่ยวกับโพรงไม้ขนาดเล็กจนหัก
‘ดูสนิทกันดีนะครับ’ อาสาโตะพูดถึงจิตรกรต่างแดนนามว่า องค์ชายชอล์กขาว
หรือก็คืออัลเบโด้ หัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุแห่งกองอัศวิน แขกจากอีกฟากฝั่งทะเล ผู้ที่เขาออกจดหมายเชิญด้วยตนเอง เพื่อมาเป็นเกียรติแก่การเฉลิมฉลองเทศกาลอิโระโดริ ที่ถูกจัดขึ้นครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์ยาเอะเป็นตัวชูโรง
ถึงแม้ยาเอะกูจิจะแนะนำว่าให้นักเดินทางสาว กับเพื่อนตัวเล็กของเธอเป็นคนคอยนำทางแขกผู้มีเกียรติจากต่างประเทศในครั้งนี้ เพราะเธอเคยเดินทางไปมาระหว่างมอนด์สตัดท์ หลีเยว่และอินาซุมะ ดังนั้นหากใครจะเข้าใจความยุ่งยากในการรับรองชาวต่างชาติ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขอให้เธอช่วย
แต่ใครเล่าจะคิดว่าการที่เขาออกไปเดินตรวจตราความเรียบร้อยสถานที่จัดงานเทศกาล จะพบเข้ากับฉากอันน่าประทับใจ
เธอตอบหยอกล้อกับชายคนนั้นด้วยสีหน้ายิ้ม ท่าทางสบาย ๆ แถมอยู่ด้วยกันยังเหมือนครอบครัวอีก
ในใจรู้สึกปวดแปล๊บขึ้นมาเล็กน้อย
ทว่าเขาก็ยังคงเป็นเขา สถานะเขาเป็นถึงเจ้ากรมยาชิโระ การที่คนนำทางทำหน้าที่ได้ดี เป็นหน้าเป็นตาให้กับทั้งศาลเจ้าใหญ่นารุคามิ และกรมยาชิโระ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อชื่อเสียงของอินาซุมะ
ควรเป็นเรื่องที่เขาน่าจะวางใจที่เธอเข้าได้ดีกับแขกต่างบ้านต่างเมือง
มันควรจะเป็นแบบนั้น จนกระทั่งคำตอบของลูมีนทำให้เขาเผลอขมวดคิ้ว
‘รู้จักกันมาค่อนข้างนานน่ะค่ะ’ ดวงตากลมโตกะพริบปริบ มองเขานิ่ง ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
ทำไมเธอรู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวอายาโตะดูหนาวยะเยือก หรือว่างานของเขาช่วงนี้เยอะเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อนอีกหรือเปล่านะ
ลูมีนอดห่วงไม่ได้ กำลังจะเปิดปากถาม ฉับพลันสีหน้าชายหนุ่มแปรเปลี่ยน นัยน์ตาคมสีอเมทิสต์หรี่ลง มุมปากมีรอยยิ้ม ราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่
อายาโตะกำลังประเมินสิ่งที่ได้รับรู้มาทั้งหมด
จากสายตาของเขาแล้ว คงไม่แค่รู้จักกันมานานในระดับธรรมดา
‘ดูเขาสนิทกับเธอมากเลยนะครับ เหมือนเด็กตัวเล็กคนนั้นก็ติดเธอแจเลย’
‘ฉันเคยไปช่วยงานคุณอัลเบโด้บ่อย ๆ ค่ะ เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดในมอนด์สตัดท์’
ยังจะเอ่ยปากชมอีก
‘ส่วนคลี เป็นเด็กน่ารักนะคะ ฉันมีโอกาสได้ดูแลคลีบ้างเลยค่อนข้างสนิท’ ลูมีนว่าต่อ เธอยังคงมองใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาของคนรัก
‘อ่า จะว่าจำได้ว่าคนในชูมัตสึบังรายงานมา เธอเคยช่วยซายุฝึกซ้อมอยู่ช่วงหนึ่ง? ’
ดูท่าแล้ว นักเดินทางสาวคนนี้คงรับงานเบ็ดเตล็ดไปทั่ว เหมือนตอนนี้
‘คุณดูสนใจเป็นพิเศษเลยนะ’ สาวน้อยเลิกคิ้วสูง อายาโตะหัวเราะเบา ๆ เอียงคอจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตสีอำพัน เขาเลื่อนมือขึ้นมาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมสีบลอนด์ทัดหูเธอ
‘ผมสนใจเรื่องของเธออยู่แล้ว อีกทั้งมันเป็นสิ่งที่เธอทุ่มเทให้นี่ครับ’
‘อะไรที่ทำแล้วได้โมร่าฉันก็ทำหมดนั่นแหละ’ ลูมีนเม้มปาก หลุบตาต่ำ แก้มนวลขึ้นสีระเรื่อ เธอตอบปัดไปอย่างนั้นแหละ หญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าโดนเขาเย้าแหย่เล่น
เจ้ากรมยาชิโระอดขันไม่ได้ ไม่รู้ว่าบางครั้งลูมีนออกจะซื่อบื้อ หรือแกล้งไม่รู้จริงกันแน่ ไม่ใช่ปรกติเธอมักจะอ่านสีหน้าคนออกหรือไร
หากเขาไม่ใช้ข้ออ้าง ต้องการให้เธอไปช่วยดูรายชื่อแขกที่จะเข้าพักที่สมาคมการค้านานาชาติ คงไม่ได้มีโอกาสถามถึงที่มาที่ไปในความสัมพันธ์ของเธอกับจิตรกรคนนั้น
‘คุณอยากรู้จักกับเขาเหรอ? ’ ลูมีนคิดว่าบางทีที่อายาโตะเกิดสนใจเรื่องอัลเบโด้ขึ้นมา ก็คงเพราะหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นมีตำแหน่งใหญ่โต มีหน้ามีตาอยู่ในมอนด์สตัดท์
ลูมีนเผลอคิดแทนอายาโตะไปเองว่า การที่อยากรู้จักก็คงไม่แปลก ยิ่งอินาซุมะพึ่งยกเลิกการปิดประเทศไป การได้สานไมตรีกับเมืองอื่นให้ประเทศนี้กลับมาเฟื่องฟู มั่นคง มีหรือเจ้ากรมยาชิโระจะไม่อยาก
คนที่เธอคบด้วยเป็นคนแบบไหน ทำไมลูมีนจะไม่รู้เล่า
สาวน้อยกอดอกมองใบหน้าหล่อเหลาเคลือบรอยยิ้มละไม
‘อันที่จริงผมรู้จักเขาอยู่แล้ว’ ก็เขาเป็นคนออกจดหมายเชิญนี่ ประวัติของผู้เข้าร่วมงานต้องถูกส่งมาที่กรมยาชิโระอยู่แล้ว เหตุใดจะไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร มาจากไหน
แต่ที่เขาไม่รู้คือเรื่องของลูมีนกับอัลเบโด้นี่แหละ
ใช่ว่าเขาอยากจะทำตัวหวงคนรัก เพราะเธอเองก็ทำหน้าที่ และเป็นตัวแทนของกรมยาชิโระคอยนำทางผู้มาเยือนอีก เขาไม่ทำตัวไร้สาระแบบนั้นหรอก
เพียงแต่ ถ้าไม่ถามออกไปก็กลัวจะคาใจ ไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไปผจญภัยสักที นานทีปีหน นักเดินทางผู้มากับสายลมคนนี้จะยอมอยู่กับที่บ้าง
เขาต้องคิดเผื่ออนาคตไว้เสียหน่อย
‘ผมคงต้องหาอะไรให้เธอติดตัวไว้แล้วละ’ อายาโตะพึมพำ แต่เพราะในป่านี้มีแค่เสียงลมพัดแผ่ว เสียงนก เสียงการ้องคลอ นอกนั้นก็มีเพียงเสียงสนทนาเบา ๆ ของเขากับเธอ ลูมีนเลยได้ยินชัดเจน
‘มีของจะให้ฉันเหรอ? ’
อายาโตะพยักหน้า
‘อืม หลับตาสิครับ’ ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดดวงตาคู่กลมเบา ๆ
สาวน้อยนักเดินทางงุนงงนิดหน่อย แต่ก็ยังยอมหลับตาตามที่เขาขอ
เจ้ากรมยาชิโระแย้มยิ้ม เขาเลื่อนมือลงมาเชยปลายคางมน เชิดขึ้นมา โน้มหน้าลงไปชิดใกล้ดวงหน้าหวานจนลมหายใจอุ่นรดอยู่บนแก้มใส
ลูมีนได้กลิ่นกายของอีกฝ่ายชัดเจนกว่าเก่า กลิ่นอายบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาแต่เพียงผู้เดียวทำให้เธอมึนเบลอ
‘คุณจะ—’
ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค ริมฝีปากนิ่มก็โดนอีกฝ่ายประกบจูบ ผนึกคำถามของเธอเอาไว้
ลูมีนกลืนคำพูดลงท้อง เรียวลิ้นร้อนที่ถูกแทรกผ่านกลีบปากเข้ามาด้านใน จูบของเขาเร่าร้อนและดุดันทบเท่าทวี
มือใหญ่เลื่อนไล้ขึ้นไปที่ลำคอขาวผุดผาดราวกับน้ำนม ออกแรงเล็กน้อยรั้งหลังคอให้ใบหน้าของเธอเข้ามาชิดกันมากกว่าเก่า ขาข้างหนึ่งของเขาแทรกไปตรงกลางระหว่างขาของลูมีน แยกมันออกจากกัน ทาบทับกายใหญ่จนแผงอกแกร่งถูกเบียดเสียดด้วยเนินอกอวบ แผ่นหลังของลูมีนแนบสนิทชิดกับลำต้นไม้ รู้สึกได้ถึงความขรุขระของเปลือกไม้ เสียดสีกับผิวตนเอง อุณหภูมิร่างกายของทั้งสองสูงขึ้น เขาจูบแล้วผละ แล้วกดจูบลงไปซ้ำ ๆ ทั้งขบกัดย้ำอยู่ตรงที่เดิม
ลูมีนโดนเขากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่นาน โดยไม่มีทีท่าว่าคนคนนี้จะปล่อยเธอเสียที
คล้ายกับว่าอายาโตะไม่ต้องการให้เหลือช่องว่างระหว่างเขากับเธอ รสจูบที่ชายหนุ่มมอบให้ทำให้ขาแข้งของลูมีนอ่อนปวกเปียกเหมือนกลายเป็นเยลลี่ หัวใจเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะ เสียงลมหายใจสอดประสานกันดังกึกก้องในโสตประสาท
หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทัน ‘คุณอายาโตะ!’ ลูมีนหอบพลางร้องท้วง
คนคนนี้ ไม่ไปทำงานหรือไง ดูท่าช่วงนี้ว่างงานเกินไปจริง ๆ!
ลูมีนกำลังจะตั้งท่าพูดอะไรสักอย่าง ก็โดนเขาประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง สองมือของเขากดไหล่เธอเอาไว้ติดกับต้นไม้ เสียงลมหายใจของชายหนุ่มหญิงสาวเริ่มกระชั้นถี่รัว อายาโตะละออกจากริมฝีปากนิ่ม กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
ทว่ากลับโดนแทรกด้วยเสียงหนึ่ง
แกร็ก…
ดังลั่นพร้อมกับสายที่คอยเกี่ยวรั้งท่อนบนของชุดกระโปรงสีขาวตัวเก่งของเธอร่น เลื่อนหลุดมากองกันที่เอว
ลมเย็นหวิวพัดวูบบาดผิว ลูมีนหน้าเหวอ เธอรีบผลักคนตัวสูงออกห่างกายทันที แล้วใช้ท่อนแขนผอมปิดบังร่างกายส่วนบนที่เหลือเพียงชุดชั้นตัวในสีดำ
อายาโตะชะงักงัน ดวงตาคมเบิกกว้าง เขารีบถอดเสื้อคลุมของตนเองคลุมไหล่ให้กับเธอทันที
ผู้นำตระกูลคามิซาโตะกระแอมไอ ใบหูกับแก้มทั้งสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
‘ขอโทษครับ’ เขากล่าวคำขอโทษออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ชายหนุ่มพรูลมหายใจยาว เขาเลียริมฝีปากแห้งผากมองคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้กับ
ลูมีนอายเสียจนอยากมุดดินหนี เธอก้มเก็บเข็มกลัดที่คอยเหนี่ยวรั้งผ้าพันคอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดเอาไว้ มันหักเป็นสองซีก พอกวาดตาหาสาเหตุ ก็เห็นว่าอีกซีกหนึ่งคาอยู่ในโพรงเล็ก ๆ บนลำต้นไม้ใหญ่
‘ฉันไม่เดินออกไปทั้งแบบนี้แน่’ ลูมีนโอดครวญ ถ้าเกิดโผล่หน้าไปข้างนอก พร้อมกับเสื้อคลุมของอายาโตะ มิวายโดนไปม่อนยิงคำถามเป็นสิบ ไหนจะสายตาของเพื่อน ๆ เธออีก
สาวน้อยหันไปหาคนต้นเหตุ
‘ทำยังไงดี? ’
อายาโตะอมยิ้ม ฟ้าฝนช่างรู้เห็นเป็นใจกับเขาดีเสียเหลือเกิน
เขายื่นสิ่งหนึ่งมาตรงหน้าเธอ มันคือเครื่องประดับด้านหลังชุดเครื่องแบบของตน
‘ใช้อันนี้แทนไปก่อนนะ’ ว่าจบเขาก็จัดแจงช่วยให้ตราประจำตระกูล เข้าไปแทนที่เข็มกลัดผ้าพันคอของลูมีน
‘บะ แบบนี้มัน…’ นักเดินทางสาวอึกอัก จู่ ๆ ความเขินอายก็เข้าโจมตี เธอเบี่ยงตัวหลบ แต่กลับถูกเขาจับให้ยืนนิ่ง ทั้งคู่ยื้อยุดกันอยู่พักใหญ่ ลูมีนถึงยอมยกธงขาว ยืนให้เขากลัดเข็มผ้าพันคอใหม่
คล้ายกับเธอได้ของแทนใจมาเสียอย่างนั้น ทั้งที่มันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ลูมีนก็อดคิดไม่ได้ เธอเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ตอนที่ส่งจดหมายของก็อดวินให้กับกลอรี่ หญิงสาวตาบอดในเมืองมอนด์สตัดท์ พวกเขามักแลกเปลี่ยนของสิ่งหนึ่งที่เหมือน ๆ กัน เช่นเมล็ดดอกแดนดิไลออน
ทั้งคู่เรียกมันว่าของแทนใจ
ในกรณีของอายาโตะกับเธอนั้น…เป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง
‘มันทำไมครับ? ’ อายาโตะเลิกคิ้วสูง มองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความลังเล
‘มันแข็งแรงออกนะ แล้วสีก็กลมกลืนกับสีชุดของเธอด้วย’ อายาโตะพูดด้วยความสัตย์จริง สีทองกับสีขาว พู่ห้อยเป็นสีม่วงก็ยังคงเข้ากับชุดที่เธอใส่ประจำตัว
‘เปล่าค่ะ…’ ลูมีนเบลอไปชั่วขณะ
ในใจขัดแย้งกัน เธอรู้สึกเหมือน…กำลังเดินไปติดกับดักอะไรสักอย่างอีกแล้ว
จากผู้ชายคนนี้
‘ใช้ไปก่อนนะครับ ส่วนอันนี้’ อายาโตะชูเข็มกลัดผ้าพันคอสีทองของเธอขึ้นมา
‘ผมจะให้โทมะช่วยดูว่าทำอะไรได้ไหม’ รอยยิ้มพรายปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
พลันบรรยากาศรอบตัวอายาโตะเปลี่ยนเป็นสว่างสดใส ไม่เหมือนกับตอนแรกที่เขาและเธอเข้ามาในป่าชินจูด้วยกัน
นักเดินทางสาวมุ่นคิ้ว สรุปแล้ววันนี้เขาเป็นอะไรกันแน่ เห็นซักไซ้ไล่เลียงประวัติอัลเบโด้เสียยาวเหยียด แต่พอเดินเข้าไปเอกสารที่คฤหาสน์คามิซาโตะ กลับไม่พูดเรื่องอัลเบโด้แล้ว แถมยังดูอารมณ์ดีขึ้นมาถนัดตา
ลูมีนไม่กล้าถามเขา เกรงว่าถ้าถามไปแล้วจะโดนจู่โจมอย่างไร้สาเหตุอีก แบบที่เกิดขึ้นในป่า…
✿✿✿✿✿✿
“เปลี่ยนเครื่องประดับใหม่เหรอครับ” อัลเบโด้เห็นพู่สีม่วงจากด้านหลังของลูมีนไว ๆ พอเธอหันหลังไปคุยกับสิงชิว พอสังเกตดี ๆ มันไม่เหมือนกับภาพที่เขาเคยสเก็ตซ์เอาไว้
ร่างบางสะดุ้งโหยง เธอเอี้ยวตัวไปมองตราประจำตระกูลคามิซาโตะ ก่อนจะช้อนมองอัลเบโด้ที่เหมือนรอคำตอบอยู่
“อันเก่ามันชำรุด รอซ่อมอยู่น่ะ” ลูมีนส่งยิ้มแหยให้หัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุ อัลเบโด้มองลึกเข้าไปในดวงตาสีอำพันใส
ราวกับเขาต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง ลูมีนเป็นฝ่ายหลบตาก่อน
“แบบนี้นี่เอง” อัลเบโด้พึมพำ
ดูท่าว่าหลังจากนักเดินทางสาวคนโปรดของเขา เดินทางมาเมืองอินาซุมะก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างสินะ ถึงแม้เขาจะยังไม่รู้ตอนนี้ แต่อีกเดี๋ยวคงได้รู้แน่นอน
✿✿✿✿✿✿
“นายท่าน ซ่อมเสร็จแล้วขอรับ เอาไปส่งให้เธอเลยดีไหม?” โทมะยื่นเข็มกลัดสีทองชิ้นเล็กมาตรงหน้าอายาโตะ
เจ้ากรมยาชิโระมองมันนอนนิ่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวยาวของตนเองพลางส่ายหน้า
“เดี๋ยวจะเอาไปคืนเอง ขอบคุณนะโทมะ”
“ด้วยความยินดีขอรับ” คนใต้บังคับบัญชามีสีหน้างุนงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรต่อ
“จริงสิ โทมะ” พ่อบ้านหนุ่มกำลังจะเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านาย แต่กลับโดนเรียกไว้เสียก่อน คนตัวสูงหมุนตัวกลับมานั่งลงรอรับคำสั่ง
“ขอรับ?”
“ให้ช่างฝีมือสักคนทำเข็มกลัดแบบนี้อีกอัน” อายาโตะเลื่อนเครื่องประดับชิ้นเล็กคืนให้กับโทมะ
“คราวนี้ให้ห้อยไว้กับตราของตระกูลที่จะติดเครื่องแบบผมทีนะ”
“ห๊า?”
✿✿✿✿✿✿
Talk : มันเป็นแค่พล็อตที่แล่นเข้ามาในหัวค่ะ TwT มีแต่พล็อตเพ้อเจ้อ ไม่ได้ตั้งใจจะชงให้พี่อายาโตะหึงน้องลูมีนขนาดนั้น แต่แอบคิด ๆ ว่าพี่เขาต้องมีปฏิกิริยาบ้างแหละน่าตอนหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นบอกคิดถึงน้อง ฮา
ช่วงนี้อาจจะลงถี่เพราะว่าเราเขียนไปเรื่อยเปื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ แบบนึกอะไรออกก็เขียน เพราะมันกาวเยอะไปหมด วนเวียนอยู่ในหัว