warning! : sexually explicit มีการบรรยายฉากเซ็กซ์

Dirty talk มีบทสนทนาหยาบโลนค่อนไปทางทะลึ่ง

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


 

แสงอาทิตย์ยามเช้าเล็ดลอดผ่านผ้าม่านปลุกให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย รู้สึกร่างกายตัวเองกำลังถูกกดทับอย่างหนักจึงรีบพลิกตัวหันไปมองต้นเหตุ ก็พบเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับไม่รู้เรื่องราว อีกทั้งแขนและขาของเขายังพาดกอดตัวผมเอาไว้แน่น

เพียงนึกว่าเกือบสิบปีแล้วที่ไม่ได้ตื่นเช้ามามองหน้ารอนด้าแบบนี้ พลันหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอีกหน ภาพเมื่อคืนที่เราสองคนโอบกอดซึ่งกันและกันมันเสมือนความฝันที่ผมเฝ้ารอมาหลายปี

ราวกับต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวมานานจนถูกเจ้าของเดินมารดน้ำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ผมค่อยๆ เลื่อนมือไปสัมผัสคนที่กำลังนอนหลับอย่างแผ่วเบา เรือนผมยาวประบ่าที่ชอบสอดมือเข้าไปขยุ้ม คิ้วเข้มดกดำที่ชอบใช้นิ้วเกลี่ยเล่น ขนตายาวเรียงตัวเป็นแพอย่างสวยงามจนน่าอิจฉา จมูกโด่งเป็นสันที่ผมชอบสัมผัส ริมฝีปากกระจับที่ผมชอบจูบ

ทุกอย่างที่เป็นรอนด้ากำลังอยู่ตรงหน้าผม..

“จะลักหลับเหรอ”

“รอน” ผมสะดุ้งโหยงจนเผลอชักมือกลับ แต่คนที่เพิ่งลืมตาตื่นรีบคว้าจับมือผมไว้แล้วนำไปวางทาบบนแก้มเขาเหมือนเดิม

“มอร์นิ่งครับ”

“อือ” ผมขานตอบในลำคอพลางหลบสายตาหวานหยาดเยิ้มที่คนตรงหน้าส่งมาอย่างนึกเขินอาย จำได้ว่าตอนคบกันใหม่ๆ ผมก็เขินรอนด้าแบบนี้แหละ

นึกแล้วก็ตลกดี รู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับไปเป็นเด็กน้อยที่เพิ่งหัดมีความรักอีกครั้ง หัวใจฟูฟ่องยิ่งกว่าลูกโป่งถูกอัดลมซะอีก

“ไม่อือ”

“แล้วต้องการอะไร” ถามลองเชิงไปอย่างนั้น ผมรู้ว่ารอนด้าต้องการอะไร

“Morning Ki..” ไม่รอให้คนตัวสูงพูดจบ ผมรีบยื่นริมฝีปากประทับจูบรอนด้าก่อนจะผละออกมาแล้วสบตากับเขาอย่างสื่อความหมาย

“คิดถึงครินต์”

“พูดคำนี้ทั้งคืน”

“คิดถึงมาก” ปากหยักพูดพลางกระชับเอวผมเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิม ผมจึงเลื่อนแขนทั้งสองข้างเข้าไปคล้องรอบคอเขาแล้วส่งยิ้มหวาน

“รู้แล้ว..”

“…”

“คิดถึงรอนเหมือนกันครับ”

“Dream come true”

“เว่อร์”

“ไม่เว่อร์ ฝันว่าอยากนอนกอดเธอมาตั้งนาน”

“เดี๋ยวนี้เป็นหนุ่มปากหวานแล้วเหรอ”

“ไม่ดีเหรอ เธอจะได้หลงรอนหัวปักหัวปำ”

“ไม่หลงหรอก”

“จริงหรือเปล่า แล้วใครอ้อนรอนเสียงหวานทั้งคืน”

“รอนก็อ้อนครินต์เหมือนกันนั่นแหละ”

“อยากอ้อนอีกแล้ว..” คนเจ้าเล่ห์ไม่พูดเปล่า ค่อยๆ เลื่อนฝ่ามือตัวเองที่อยู่ใต้ผ้าห่มลูบไล้หน้าท้องของผมแล้วไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ ความรู้สึกวาบหวามแล่นเข้ามาจนต้องซุกใบหน้าเข้าหาซอกคออุ่น

เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ไม่มีกั้นกลางสักชิ้น เพราะเมื่อคืนกว่าจะเสร็จกิจกรรมรักอันเร่าร้อนก็ปาไปเกือบตีสี่ หมดแรงสลบไสลทั้งร่างกายเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่

“มันเสียว..” ผมบ่นอู้อี้ขณะใบหน้ายังซุกอยู่ที่ซอกคอหนา ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมติดสกินชิพจากรอนด้ามาก ตอนอยู่เยอรมันการกอดจูบหรือแม้กระทั่งเซ็กซ์ถือเป็นเรื่องปกติของเราสองคน

“แล้วชอบมั้ย”

“รู้แล้วจะถามทำไม” ผมเงยหน้าถลึงตาใส่จนรอนด้าหัวเราะร่วน ก่อนปากหยักจะโน้มเข้ามาดูดริมฝีปากผมแรงๆ แล้วเลื่อนไปขบงับติ่งหูอย่างหยอกเย้า ทุกสัมผัสจากเขาทำเอามวนท้องจนต้องกลืนน้ำลาย

“แฉะแล้ว”

“อือ ใครทำล่ะ” บิดกายครางตอบด้วยความเสียวซ่าน ก็มือซุกซนของรอนด้ากำลังลูบไล้แก่นกายและช่องทางรักของผมจนอารมณ์พลุ่งพล่านไปทั้งตัว

เมื่อคืนโดนไปสองรอบ ถ้าเช้านี้ไม่ได้โดนอีกผมคลั่งตายแน่!

“ไม่ไหวแล้วอะ แกล้งครินต์ทำไม” ผมจับฝ่ามือหนาให้ออกจากแก่นกายตัวเอง ก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมร่างสูงอย่างทนไม่ไหว

“ใครแกล้ง”

“ลูบขนาดนี้”

“กระตุ้นอารมณ์เธอไง”

“อย่าท้าทายคนอดอยาก”

“เบบี๋!” คนใต้ร่างอุทานพลางเบิกตาโตราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน วินาทีนี้ความอายก็สู้แรงปรารถนาของร่างกายไม่ได้

ผมห่างหายจากการมีเซ็กซ์ตั้งแต่รอนด้าความจำเสื่อม ไม่ได้รับบทเป็นนายเอกที่เก็บช่องแคบไว้ชิงโชคนะครับ แต่อย่างที่บอกว่าเปิดใจคุยกับใครก็ไม่สปาร์กถึงขั้นคบเป็นแฟนสักคน แห้งเหี่ยวจนแมงมุมจะเข้ามาทำรังหยากไย่ได้อยู่แล้ว

ถ้าถามว่าก่อนหน้านี้เวลามีอารมณ์ผมทำยังไง โลกสวยด้วยมือเราน่ะสิครับ

สมัยยังเป็นเด็กเคยเรียนสุขศึกษา คุณครูออกข้อสอบโดยการถามว่าถ้าเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาต้องทำอย่างไร จำได้ขึ้นใจว่าคำตอบที่ถูกต้องคือชวนเพื่อนไปเตะบอล

GOD! มีอารมณ์แต่ต้องถ่อไปเตะบอล ฆ่าผมให้ตายยังดีกว่า!

ผมเชื่อว่าวัยรุ่นหลายคนคงเคยคิดว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องน่าอายหรือไม่เหมาะสม อาจจะคิดว่าตัวเรากำลังหมกมุ่นหรือโรคจิตอยู่หรือเปล่า แต่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องผิดแถมยังมีประโยชน์ตั้งหลายอย่าง

ร่างกายคนเรามันเป็นเซลล์และฮอร์โมนเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนความรู้สึก เพราะฉะนั้นเวลาเกิดอารมณ์ทางเพศแล้วช่วยตัวเองจะทำให้เราหลั่งสารเอ็นโดรฟินจนทำให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น แถมยังไม่เสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ในกรณีที่เราไม่มีแฟน

ผมไม่ได้กำลังรับบทเป็นคุณครูสอนสุขศึกษานะครับ แค่อยากแชร์ในมุมมองของตัวเองว่าการมีเซ็กซ์หรือการช่วยตัวเองมันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน แค่รู้จักดูแลและป้องกันตัวเอง

ซึ่งตอนนี้ผมก็ถูกคนเจ้าเล่ห์กระตุ้นให้เกิดอารมณ์จนอยากหลั่งสารเอ็นโดรฟินแทบแย่!

“รับผิดชอบเดี๋ยวนี้” ผมพูดพลางใช้ฝ่ามือยันตรงหน้าท้องที่แน่นไปด้วยซิกแพคของรอนด้า ก่อนจะใช้ส่วนล่างของตัวเองถูไถกับลูกชายเขาอย่างยั่วยวน

“Good shit! ครินต์เซ็กซี่ชะมัด”

“อยากแตกในปากครินต์มั้ยครับ” ผมโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูรอนด้าเสียงกระเส่า ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากขบเม้มไปตามลำคอขาวจนคนถูกเล้าโลมครางต่ำราวกับเสียวกระสัน

“อ่าส์ เบบี๋..รอนอยากกินเธอมากกว่า”

“อ๊ะ!” ไม่ทันตั้งตัว ผมก็ถูกร่างสูงจับพลิกให้นอนราบแล้วเขาเป็นฝ่ายขึ้นมาคร่อมแทน ลิ้นร้อนตวัดซุกไซ้โลมเลียไปตามผิวเนื้อของผมอย่างหื่นกระหาย รู้สึกวาบหวิวจนต้องใช้ฝ่ามือปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังหนา

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ปล่อยให้รอนด้าละเลงลิ้นบนเรือนร่างของผมอย่างไม่คิดจะห้าม ทำได้เพียงหลับตาพริ้มรับความเสียวซ่านอย่างเคลิบเคลิ้ม ตอนนี้เลือดในกายสูบฉีดจนฉุดไม่อยู่แล้ว

“อื้อ สะ เสียว” ผมแผดเสียงร้องครางไม่เป็นภาษา ร่างกายแทบดิ้นพล่านเมื่อถูกรอนด้าสะบัดลิ้นใส่ตรงช่องทางรักอย่างรัวเร็ว

มันเป็นความทรมานจนอยากคลั่งแต่กลับอ้าขาให้เขาทำได้ถนัดมากกว่าเดิม บางทีผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..

“ไม่ไหวแล้วเบบี๋ รอนอยากกระแทกเธอแรงๆ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกความต้องการ ก่อนจะป้อนจูบแสนหวานให้ผมอย่างมูมมามจนน้ำลายไหลเปื้อนไปตามมุมปาก

เซ็กซ์ของรอนด้าเร่าร้อนทุกครั้ง แต่ผมชอบ

“ครินต์อยากโดนรอนกระแทกแรงๆ” พูดหยอดคนตรงหน้าเสียงหวานพลางใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งอย่างยั่วยวน ผมรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้จะยิ่งช่วยกระตุ้นอารมณ์เขาให้พลุ่งพล่านมากกว่าเดิม

“จะกระแทกให้ขาดใจเลย”

“สอดเข้ามาสักที”

“สด?”

“แตกในก็ยังได้”

“ฮึ..” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนมือหนาจะจับขาข้างหนึ่งของผมพาดไปบนไหล่กว้างของเขา แล้วค่อยๆ สอดแก่นกายไซซ์ใหญ่เข้ามาในร่างกายผม

“อ๊ะ!”

“อ่าส์ ดีฉิบ..” เหลือบมองร่างกำยำที่กำลังเชิดสันกรามสูดปากด้วยความเสียวซ่าน ไม่ใช่แค่รอนด้าที่พร่ำบอกทั้งคืนว่าหลงใหลผม เพราะผมเองก็หลงรักทุกอย่างที่เป็นเขาเหมือนกัน อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีเพียงเราสองคนไว้ให้นานที่สุด

“อ๊ะๆ ระ รอน”

“ครางดังๆ เลยเบบี๋”

สองเสียงร้องประสานดังระงมไปทั่วห้อง หลายครั้งที่ร่างกายผมกระเพื่อมไปตามแรงกระแทกเข้าออกของแก่นกาย อารมณ์ล่องลอยเสมือนโบยบินอยู่กลางอวกาศ

เป็นบทรักอันเร่าร้อนในยามเช้าที่แฝงไปด้วยความสุข กว่าจะสิ้นสุดความอยากเราสองคนก็หมดแรงจนผล็อยหลับด้วยกันทั้งคู่ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าเข็มนาฬิกาหมุนวนไปจนถึงบ่ายสองโมง

ใช้เวลาถ่ายทอดความคิดถึงกันทั้งวันทั้งคืน

 

“ดูดบุหรี่อีกแล้ว” ผมเดินเข้าไปโอบคล้องรอบคอหนาจากทางด้านหลัง ขณะคนตัวสูงกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้อง

“ตัวหอม” รอนด้าพูดพลางเอียงคอเข้ามาหอมแก้มผม ไม่ได้สนใจเรื่องที่บ่นไปเลยสักนิด

“ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ” แถมตอนนี้ยังใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวโอเวอร์ไซซ์ของรอนด้า แต่พอมันมาอยู่บนตัวผมความยาวของเสื้อปิดกางเกงบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนถึงน่องขา

“ขออาบด้วยก็ไม่ยอม”

“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวก็ยาวอีก”

“พูดเหมือนไม่ชอบ”

“ชอบ..แต่ครินต์เพลียแล้ว” ผมซุกหน้าลงบนไหล่กว้างอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาจึงยื่นมาลูบศีรษะผมด้วยความอ่อนโยน

“ที่บอกว่าคิดถึงเธอ รอนพูดจริงๆ นะ”

“อือ รู้แล้ว”

“ครินต์”

“จ๋า”

“รอนอยากกลับมาคบกับเธอ”

เพียงประโยคเดียวที่ทำหัวใจผมเต้นแรงขึ้นมา ทว่ายังดีใจได้ไม่ถึงนาทีก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเสียงทุ้มพูดประโยคถัดมา

“แต่รอนขอเวลาหน่อยได้มั้ย”

“ทำไม..”

“รอนยังมีเรื่องต้องจัดการอีกหลายอย่าง”

“เรื่องอะไร”

“เธอไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่ารอนรักเธอคนเดียว”

ผมทำได้เพียงนิ่งเงียบเพราะไม่อยากเร้าหรือเขา แต่ในใจกลับรู้สึกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก อยากรู้แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะถ้ารอนด้าอยากบอกเขาคงไม่พูดปัดแบบนี้

“ครินต์ก็รักรอนนะ”

ช่วงเวลาที่เราสองคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตมันนานเกินพอแล้วสำหรับผม ครั้นปัจจุบันได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดเขาอีกครั้ง ผมแค่อยากมั่นใจว่าเราจะไม่ห่างหายไปจากกันอีก

“เบบี๋..เธอร้องไห้ทำไม” คนตัวสูงเบิกตาโตราวกับตกใจ เมื่อเจ้าตัวหันหน้ามามองแล้วพบว่าผมกำลังเบะปากร้องไห้

ไม่ได้อยากอ่อนแอแต่น้ำตามันไหลลงมาเอง เพียงแค่นึกถึงคำพูดของรอนด้าหัวใจก็วาบหวิวแปลกๆ

“บอกรอนได้มั้ย เธอเป็นอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้ง หลังจากเขาดึงผมให้ขึ้นมานั่งบนตัก สองมือแกร่งสวมกอดเอวผมไว้แน่น

“เปล่า” ผมส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ เจ้าตัวเอื้อมมือมาเช็ดคราบน้ำตาให้ผมพลางเอ่ยพูดเสียงนุ่ม

“ไม่โกหกสิคะ เธอคุยกับรอนได้ทุกเรื่อง”

“เหมือนกันนั่นแหละ”

“เหมือนกัน?” คนตรงหน้าเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ผมจึงพูดตอบเสียงแผ่ว

“รอนก็บอกครินต์ได้ทุกเรื่อง”

“เธอกำลังคิดมากเรื่องที่รอนขอเวลา?”

“…”

“ที่รอนไม่บอกเพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก”

“แล้วทำไมครินต์ต้องคิดมาก หรือว่ารอนมีคนอื่นด้วย” เมื่อคืนผมถามสถานภาพของรอนด้าถึงสองครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบอย่างหนักแน่นว่าไม่มีแฟน

“ไม่เบบี๋..รอนไม่มีแฟน”

“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ” คนตัวสูงนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหลบสายตาผมพลางพูดเสียงเบา

“เกรท..”

“คุณเกรททำไม ไหนรอนบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับคุณเกรท” สำหรับอดีตที่ผ่านมาผมไม่สนใจว่ารอนด้าจะเคยมีใคร เมื่อคืนที่ผมยอมใจอ่อนเพราะถามจนมั่นใจว่าปัจจุบันเขาไม่มีคนอื่น

แต่ทำไมตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้ว..

“ใช่ รอนไม่ได้เป็นแฟนกับเกรท”

“ไม่ได้เป็นแฟนแล้วต้องจัดการเรื่องอะไร หรือว่ามีอะไรที่รอนยังไม่ได้บอกครินต์”

“คือ..” เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีกระอึกกระอัก ผมจึงเค้นถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พูดออกมาตรงๆ รอน”

“เธอสัญญากับรอนมาก่อน”

“สัญญาอะไร”

“ถ้ารอนบอกแล้วเธอจะไม่โกรธ เธอจะเชื่อใจในตัวรอน”

“ไม่ ครินต์ไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น จนกว่ารอนจะบอกว่าเรื่องอะไร” ผมปฏิเสธเสียงแข็งพลางจ้องนัยน์ตาคมเขม็ง ตอนนี้อารมณ์ในใจเริ่มคุกรุ่นกับท่าทางกระอักกระอ่วนของเขา

“ตอนนี้รอนยังทิ้งเกรทไม่ได้”

“…”

“ตอนที่รอนไม่มีเธอ เกรทเขาอยู่ข้างรอนมาตลอด”

“…” ผมรู้สึกจุกในใจจนไม่รู้จะตอบโต้อะไรกลับไปเลยจริงๆ

“แต่อย่างที่รอนบอกเธอ ขอเวลาให้รอนเคลียร์กับเกรทก่อนได้มั้ย”

“ครินต์ถามจริงๆ นะรอน”

“…”

“ถ้ารอนยังไม่พร้อม รอนจะพาครินต์มาที่นี่ทำไม” ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกหน มันเป็นความรู้สึกสับสนจนอยากร้องไห้

“ตอนรู้ว่ารอนจำครินต์ได้แล้ว ครินต์ดีใจมากเลยนะ”

“…”

“แต่ตอนที่รอนบอกว่าไม่มีใคร ครินต์ดีใจมากกว่า” ผมกลั้นน้ำตาไม่ไหวแล้วจริงๆ

“…”

“แล้วตอนนี้ครินต์ก็ไม่แน่ใจว่ารอนยังรักครินต์จริงๆ หรือรอนแค่คิดถึงกันแน่”

“รอนรักเธอ”

“แค่คำพูดมันไม่พอหรอกรอน”

“…”

“บางที..คนที่รอนขาดไม่ได้อาจจะเป็นคุณเกรทก็ได้นะ”

ผมตัดสินใจลุกเดินออกมาจากตรงนั้น ได้แค่หวังลึกๆ ว่าเขาจะเรียกหรือพูดอะไรตอบกลับมาบ้าง แต่สุดท้ายก็พบเพียงความเงียบงัน

ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องราวเมื่อคืนระหว่างเราสองคนมันเหมือนความฝัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เหมือนแล้วครับ เรื่องเมื่อคืนมันเป็นแค่ฝันดีสำหรับผมจริงๆ

 

Great : ผมรู้ว่าคุณไปกับรอนด้า

Great : ผมไม่รู้ว่ารอนด้าสนใจคุณหรือคุณตั้งใจอ่อยเขากันแน่

Great : แต่ผมอยากบอกให้คุณรู้เอาไว้

Great : ต่อให้คุณกับรอนด้าจะสนุกด้วยกันแค่ไหน

Great : สุดท้ายรอนด้าก็ต้องเป็นของผมคนเดียว

Great : เขาไม่มีทางทิ้งผมไปหาคุณได้

ครับ : KHRIN

 

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมปล่อยให้น้ำตาได้ทำหน้าที่ล้างความเจ็บปวดที่ก่อขึ้นในใจ ถ้าหากช่วงเวลาที่อยู่กับรอนด้าผมสนใจโทรศัพท์สักนิด ตอนนี้คงไม่รู้สึกว่าตัวเองโง่และไร้ยางอายขนาดนี้

คุณเกรทไม่ได้เป็นแฟนกับรอนด้าก็จริง แต่เขาสำคัญกับรอนด้ามากกว่านั้น

 

#นอกจากชื่อผม