7 ตอน ขอแก้ตัว
โดย พิมพ์ลภัส
“แล้วไงต่อนะ พอยต์คือ?”
“อีพี่ม่อน ไอ้ควาย เซียนพูดเป็นชั่วโมงมึงถามแบบนี้เหรอ”
สิ้นคำถามกวนประสาทนั้น คนกำลังทุกข์ใจอย่างเซียนก็เอ่ยแหวกลับไปด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เมื่อคนที่เธอหนีมาขอคำปรึกษาตั้งแต่เช้าถามกลับมาอย่างเนือย ๆ แบบนั้นราวกับไม่ได้ฟังกันเลยสักนิด! ทั้ง ๆ ที่เธอเล่าจนปากเปียกปากแฉะไปหมดเปลือกแล้วมันตอบกลับเธอมาแค่เนี้ย?!
ตอนนี้เซียนหนีมาอยู่ที่ห้องของ พี่เบม่อน รุ่นพี่คนสนิทมาตั้งแต่เช้าแล้วอย่างทุกข์ใจ เธอทำหน้าเซ็งแล้วกระดกเป๊บซี่กระป๋องในมืออึกใหญ่ ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งอยู่ตลอดเวลากลับหงิกงอไปทั้งหน้าราวกับเด็กเอาแต่ใจ พานให้เจ้าของห้องตัวจริงอย่าง เบม่อน ที่โดนเด็กสาวรุ่นน้องคนสนิทตรงหน้ารัวคำหยาบคายถึงบุคคลที่สามใส่มาเป็นชั่วโมง ๆ มองกันอย่างเหนื่อยหน่าย
ก็ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจอะไร… ถ้าใครโดนคนสวย จูบ แล้วอยู่ ๆ ก็พ่นอ้วกใส่หน้ามาก็คงจะหงุดหงิดและเสียเซลฟ์อย่างที่เซียนเป็นนั่นแหละ ม่อนเองก็เข้าใจ
แต่ต้องไม่ใช่มาบ่นกันตั้งแต่เช้าขนาดนี้ไหมวะ! เบม่อนคิดในใจปลง ๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าเช้านี้เขาคงไม่ได้นอนต่อแล้วแหละ
แล้วปกติเซียนมันแทบจะไม่เคยเห็นมันอดทนกับใครขนาดนี้เลย ขนาดทั้งบ่นทั้งด่าคนที่ชื่อ ‘อิงฟ้า’ มาตลอดตั้งแต่บุกมาหากันตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เซียนมันก็ไม่ยักจะหยุดพูดถึงสักที! ไม่รู้ว่าแค้นหรืออะไรถึงเอาแต่พูดถึงอีกคนไม่หยุดขนาดนี้
“โอ๊ย กูเห็นมึงพูดวนมาตั้งแต่เช้าละ จะงอแงอะไรนักหนาเนี่ยน้องเซียน”
“มึงไม่ต้องมาน้องเซียนเลย คนเครียด ๆ อยู่นะ แล้วพี่จะต้องต้องรำคาญกันขนาดนี้เลยเหรอ” เซียนพูดอย่างนั้นแล้วเบะปากงอแงขึ้นมา พออยู่ต่อหน้ารุ่นพี่ของตัวเองแล้วก็คิดว่าปลอบโยนกันซะอีก แต่อีพี่ม่อนนอกจากจะไม่ปลอบแล้วมันยังหัวเราะใส่เธออีก! หัวเราะไม่ว่ามันยังทำท่าจะไม่ฟังเธออีก เซียนที่ไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้วก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“โอ๋ ๆ ไม่เบะนะน้องเซียน มึงไม่ได้น่ารักค่ะ” รุ่นพี่ตัวสูงยิ้มคิกคักที่เห็นอย่างนั้น ก็แกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ ไม่มีใครน่ารักเท่ารุ่นน้องเธอคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งเห็นเซียนที่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะนิ่งขึ้นกว่าเดิม กลับมาแสดงอาการงอแงราวกับเด็กกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วเธอก็รู้สึกสบายใจที่เห็นอย่างนั้น อดไม่ได้ที่จะแกล้งมันสักหน่อยให้น้องมันเบะกว่าเดิม
“พี่ม่อนแม่ง ไม่ปลอบก็ไม่ต้องพูดเลย” ยิ่งพูดก็ยิ่งเบะ เซียนถอนหายใจอย่างขัดใจแล้วนั่งเหม่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานอีกครั้งเป็นรอบที่ล้าน อยู่ ๆ ก็ใจเต้นระรัวเมื่อนึกถึงภาพอิงฟ้าอ่อนระทวยภายใต้ร่างของเธอ แล้วก็มายั่วยวนบนตักเธออีก …พอนึกถึงภาพที่อิงฟ้าโน้มตัวลงมาแตะปากบนริมฝีปากเธอ เซียนก็เผลอหายใจสะดุดขึ้นมา
กระทั่งนึกถึงภาพถัดไปเท่านั้นแหละ.. กลิ่นเหม็นที่ติดอยู่ในความทรงจำก็พวยพุ่งออกมาจนเซียนสะดุ้งเฮือกแล้วสะบัดหัวไล่ความทรงจำนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย!
โอ๊ย เอามันออกไปจากหัวเธอทีได้ไหมเนี่ย!!
ส่วนอีกคนที่เห็นเหตุการณ์อย่างนี้วนกลับมาอีกครั้งก็ถอนหายใจขึ้นมาอย่างไม่รู้จะช่วยอะไรได้ เซียนมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว สงสัยจะเป็นบ้าขึ้นมาจริง ๆ แล้วมั้ง
“พอ ๆๆ แล้วจะไปนึกถึงทำไมเล่า ไม่ต้องนึกแล้ว” ม่อนว่าอย่างนั้นแล้วแปะมือบนหัวน้อง ลูบเบา ๆ ปลอบใจกันสองสามทีให้มันได้เหลือบตาขึ้นมามองกันอย่างงอแง พอหงอยแล้วก็เป็นอย่างนี้ตลอดเลยนะ
“ก็ใครให้มันมาจูบอะ หยุดคิดไม่ได้เลยเนี่ย” เซียนบ่นงึมงำในลำคอจนแทบไม่ได้ยิน มือก็ปิดใบหน้าร้อน ๆ ของตัวเองอย่างสับสนเพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกอย่างไรก่อน
ไอ้เขินมันก็เขิน แน่นอนว่าเธอมีอารมณ์ แต่หลังจากนั้นมัน…
ยิ่งนึกเขาก็ยิ่งสะบัดหัวไปมาอย่างแรงจนผมสะบัดปลิวไปหมด โอ๊ยยย อิงฟ้าแม่ง!!
“พี่ล่ะอยากเจอจริง ๆ ใครมันมาทำน้องพี่เนี่ย” ได้ยินเสียงหยอกล้ออย่างนั้นเซียนก็มองกลับไปตาขวาง ชอบนักแหละมาทำราวกับเธอยังเป็นเด็กเนี่ย ทั้ง ๆ ที่เธอก็โตจนจะเรียนจบอยู่แล้ว อีพี่ม่อนก็ไม่เลิกมองเธอเป็นเด็กมอปลายคนเดิมคนนั้นสักที
“กูจะอ้วก” เธอด่าพี่มันกลับไปเบา ๆ อย่างเอาคืนแต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะกลับมาซะอย่างนั้น
“แหม ก็มานั่งเครียดอยู่แบบนี้เพราะตัวเองอยากจะเอาเค้าจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ พอโดนอ้วกเค้ามาถึงกลับไปไม่เป็นเลยอะดิ” พอได้ยินพี่ม่อนมันสรุปให้ฟังอย่างนั้นเซียนก็รู้สึกอับอายจนต้องหาอะไรขว้างมันไปสักที นี่คิดถูกคิดผิดที่มาปรึกษามันเนี่ย!
“.....”
“มึงลองเลิกอยากเย็ดเค้าแล้วกลับไปตั้งใจเรียนมะ เผื่อจะช่วยให้มึงเลิกหื่นได้”
“อีควาย กูไม่เคยหยุดตั้งใจเรียนค่ะ” เซียนตอบกลับอย่างฉุนเฉียวที่ได้ยินอีกคนกวนตีนไม่หยุดอย่างนั้น สนุกมากมั้งหัวเราะบนความทุกข์คนอื่นเนี่ย
…แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหรอกนะว่าตอนนั้นเธอ ‘อยาก’ ทำแบบนั้นกับอิงฟ้าจริง ๆ
“อะ ๆ ถ้ากลัวว่าคราวหน้าจะไปเย็ดเค้าแล้วได้กลิ่นอ้วกตีหน้าขึ้นมาอีก งั้นพี่สาวคนนี้ขอเสนอให้น้องสาวของพี่ไปหาเย็ดคนอื่นดีมั้ย สาวสวยคนอื่นมีเพียบเลยนะ”
ปั่ก!
“อีเหี้ยพี่ม่อน เลิกกวนตีนสักทีได้มั้ยเนี่ย” เซียนว่าอย่างนั้นด้วยใบหน้าแดงก่ำที่ไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธกันแน่ ปาหมอนไปทีนึงก็ยังไม่สลด พอเห็นพี่ม่อนมันอ้าปากจะพูดอีกเธอเลยง้างมือจะปากระป๋องอัดลมในมือขว้างหน้ามันอีกสักที
“ฮ่าๆๆ น้องหญิงเมี้ยวอย่าโกรธ” ว่าแล้วก็เอื้อมมือมาเกาคางเธอจนเซียนต้องหันหนีเป็นพัลวัน
“เมี้ยวกับแม่มึงนะ”
“ปากร้ายอะ ใช่สิ เดี๋ยวนี้น้องพี่มันริจะเป็นเสือแล้วนี่” เซียนได้ยินอย่างนั้นก็หลุดยิ้มออกมา สงสัยภาพลักษณ์ ‘น้องเซียน’ ที่เธอมีติดตัวตั้งแต่เรียนไฮสคูลด้วยกันมันคงจะขัดกับเธอในตอนนี้น่าดู
ใครจะไปคิด ว่าเซียนที่เคยเป็นเด็กเนิร์ดตัวท็อปในสมัยที่ยังเรียนไฮสคูลคนนั้น จะกลายมาเป็นเซียนคนบ้ากามอย่างที่โดนกล่าวหากันอย่างในทุกวันนี้กันล่ะ
“อะไร เซียนเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วมั้ยล่ะ” เธอบ่นอุบอิบ
“เหอะ ตั้งแต่มึงมีแฟนมึงก็ติดกีแล้วค่ะ ถ้ารู้ว่ามีแฟนแล้วจะใจแตกขนาดนี้กูให้น้องเซียนเรียนจบก่อนแล้วค่อยมียังจะดีกว่า” ม่อนเอ่ยอย่างทีเล่นทีจริงเมื่อย้อนนึกไปถึงเซียนสมัยนั้นอีกครั้ง
“โคตรเวอร์”
“ไม่เวอร์ แฟนคนแรกมึงนั่นแหละทำน้องกูใจแตก” คนฟังเผลอหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น
จะปฏิเสธก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะแฟนคนแรกของเธอทำเธอใจแตกจริง ๆ นั่นแหละ จากคนที่ไม่เคยสนใจใครคนนั้น พอมีแฟนขึ้นมาเธอก็ตรัสรู้ได้เดี๋ยวนั้นเลยว่า ‘ผู้หญิงมันอร่อย' อย่างไร
“ไปโทษอีพี่สองนู่น มารับน้องกันด้วยพี่สาวแซ่บทำไม” เซียนเอ่ยกลั้วหัวเราะ นึกไปถึงแฟนคนแรกแล้วเธอก็เผลอทำหน้าสลดออกมา แต่ก็หลุดยิ้มบาง ๆ ตามมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว
ก่อนที่อยู่ ๆ สมองมันก็พาให้เธอนึกไปถึงใบหน้าเพื่อนสนิทตัวเล็กของอิงฟ้าแว่บขึ้นมาแทนที่กะทันหัน เซียนชะงักแล้วก็เริ่มสงสัยแล้วสิว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่
ส่วนม่อนก็งงไปเลยที่เห็นเซียนเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวทำหน้าเครียดแบบนั้น แต่ก็ยังทำใจเย็นลอบมองน้องเงียบ ๆ
“เครียดเหรอวะ”
“.....” เซียนกระพริบตาปริบ ๆ แล้วลองทบทวนตัวเองอีกที พอนึกอะไรไม่ออกก็เลยส่ายหน้าไปก่อน
“หรือมึงแค่อยากเย็ดวะ เงี่ยนหรือเปล่า” คนฟังเม้มปากเมื่อได้ยินคำเถรตรงเช่นนั้นจากรุ่นพี่สาว คนพวกนี้นี่! เห็นเธอชอบเซ็กส์ก็คิดว่าเธอจะไม่เขินคำพวกนั้นเลยหรือไง
พอเห็นเซียนยังคงนิ่งแบบนั้นม่อนก็เลยเดาสุ่มไปเรื่อย “ถ้าแค่อยากเย็ดมึงไปเย็ดกับใครก็ได้ กับสองแฟนเก่ามึงก็ได้ ไม่ต้องเครียดหรอก”
เซียนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมา อันนี้เธอว่าอีพี่ม่อนมันกวนตีนแล้วล่ะ
“อีควาย อย่าพูดถึงคนตายค่ะ”
ม่อนหัวเราะร่วน “แรง งั้นก็ไปหาวันไนท์สแตนด์ดิ”
จนแล้วจนรอดอีพี่ม่อนก็ยังไม่เลิกคิดว่าเธออยากมีเซ็กส์อยู่นั่นแหละ นี่เธอเป็นคนยังไงในสายตามันกันแน่เนี่ย!! เซียนเห็นแล้วรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นมันจะพูดขึ้นมาอีก พอก่อนเถอะ ก่อนที่มันจะหาผู้หญิงมาให้เธอเอาจริง ๆ
“พอ ๆ อีพี่เหี้ย กูไม่ได้อยากอะไรทั้งนั้นแหละ!”
คนฟังกลอกตามองบนที่ได้ยินมันปฏิเสธกันอย่างนั้น “อ๋อจ้า ไม่อยากเลยเนอะ แต่มานั่งเครียดที่เมื่อคืนไม่ได้เย็ดอิงฟ้ากับกูเนี่ย”
“โอ๊ยอีเหี้ย กูไม่ได้คิดเรื่องนั้น! มึงได้ฟังกูบ้างมั้ยเนี่ยว่ากูเครียดอะไร!” ยิ่งพูดก็ยิ่งไปกันใหญ่ เซียนส่ายหน้าแล้วคิดว่าอีพี่นี่มันช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย! ก็เลยวางกระป๋องในมือลงแล้วเตรียมตัวจะกลับห้องตัวเองสักที
ก็ขลุกอยู่กับมันมาตลอดช่วงเช้าแล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าคนเมาที่ยังนอนอยู่ในห้องเธอจะเป็นอย่างไรแล้วบ้าง
ติ๊ง
ไม่ทันขาดคำ เจ้าของเสียงแจ้งเตือนเธอก็เป็นคนเดียวกับที่เธอนั่งนึกถึงอยู่พอดิบพอดี เซียนก้มมองแจ้งเตือนในโทรศัพท์ที่รัวหาเธอเป็นสิบ ๆ ข้อความนั้นด้วยความงุนงง เธอยังไม่ทันจะกดอ่านอะไร อีกฝ่ายก็ส่งข้อความยาวเหยียดมาต่อ ๆ กันอย่างลนลาน ที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอิงฟ้าเป็นอะไร
“กลับละ” เธอเอ่ยสั้น ๆ แล้วเตรียมจะเดินออกไปอย่างเร่งรีบเพราะกลัวคนที่บ้านเกิดคิดมากอะไรขึ้นมา ถ้าไม่ทันได้ยินเจ้าของห้องมันพูดมาก่อนนะว่า
“ใจเย็นนะวัยรุ่น อย่าปล้ำคนเมาล่ะ เงี่ยนก็ไปซื้อกินนะลูกนะ”
“อีเหี้ยพี่ม่อน ไปตาย!!”
………………………
ติ๊ด…. แกร๊ก
ทันทีที่เซียนแตะคีย์การ์ด และแง้มเปิดประตูบ้านตัวเองได้ไม่ทันไร เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็วิ่งตรงมาทางนี้จนเจ้าของบ้านผงะถอยหลังไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อ๊ะ!” เซียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนมือเล็กทุบอกอย่างแรงหนึ่งทีจนตัวเธอเซ ยังไม่ทันที่เธอจะได้อ้าปากพูดอะไรก็โดนคนตัวเล็กดึงมือให้เข้าบ้านอย่างแรงจนเซียนตั้งตัวไม่ทันอีกแล้ว
อะไรล่ะเนี่ย
“เดี๋ยว ๆ เป็นอะไรเนี่ย” เธอเอ่ยปากถามไปอย่างงุนงง ลอบมองใบหน้าบูดบึ้งของอีกคนหวาด ๆ เอาแต่ไม่พูดไม่จาดึงมือเธอเดินอยู่นั่นแหละ ไม่เข้าใจเลยว่าเป็นอะไร ตื่นมาแล้วก็หงุดหงิดอะไรของเค้านะ
เธอพากันมาหยุดอยู่กลางโซฟาห้องรับแขกได้ไม่ทันไร ตัวเธอก็โดนอีกคนผลักซะจนก้นจ้ำเบ้าลงกับโซฟาอย่างแรง
จุก! ถึงจะไม่เจ็บเพราะเบาะมันนุ่ม แต่มันจุก!
“นี่!! เป็นบ้าอะไรของมึงเนี่ย!” เซียนตะคอกเสียงถามด้วยความไม่เข้าใจ ผินใบหน้าเหยเกขึ้นมองอีกคนอย่างเอาเรื่องที่มาทำตัวเอาแต่ใจกับเธออยู่ได้ สรุปคือไลน์ตามเธอมาทำร้ายหรือไง
พอเธอเงยหน้ามอง ก็เจอกับใบหน้าที่เคยดูสวยเฉี่ยวที่ตอนนี้มันกลับลู่คิ้วเสียน่าสงสารราวกับจะหลุดร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่ออย่างไรอย่างนั้น พานให้คนที่ตั้งใจจะโกรธถึงกับชะงักกึกด้วยความตกใจ
"..?!"
“ทำไมต้องโกรธกันด้วย”
อิงฟ้าเอ่ยเสียงอ่อนแต่ก็ยังติดน้ำเสียงสะบัดอยู่ในที เซียนขมวดคิ้วที่ได้ยินอย่างนั้นแต่ตอนนี้กลับไม่ได้โกรธเท่าคราแรกแล้ว
ขี้โกงชิบหาย ทำหน้าตาน่าสารแบบนั้นแล้วจะเอาแรงที่ไหนไปโกรธ
“อะไร ยังไม่ได้โกรธอะไรเลย มีแต่มึงเนี่ยเอาแต่ตีแต่ทุบกันอยู่ได้” พอเห็นว่าอีกคนไม่ได้โวยวายเสียงดังอย่างที่เธอเป็น เซียนก็เลยยอมลดระดับน้ำเสียงลงบ้างไม่ได้ดูโมโหจนเกินไป
“ก็ทำไมต้องหลบหน้ากันด้วยอะ ทำไมต้องหนีหน้า”
“อะไรกูยัー”
“ตื่นมาก็ไม่เจอ ทำไมต้องทิ้งกูไว้ที่นี่คนเดียวด้วย” เซียนอ้าปากพะงาบ ๆ อย่างคนพูดอะไรไม่ทัน เพราะแม่คุณตรงหน้าก้มหน้าก้มตาพูดเสียรัวเร็วจนเธอไม่มีโอกาสจะแก้ตัวอะไรเลย
เห็นคนทำท่าทางตัดพ้อกันขนาดนั้นแล้วเซียนก็ยอมนิ่งฟังมันสักหน่อยแล้วกัน
“.....”
“ไม่อยากเจอกันขนาดนั้นเลยเหรอ จะให้กูออกจากห้องมึงไปเลยมั้ย”
“.....”
“โกรธอะไรกันขนาดนั้นอะ”
“.....”
"เซียน"
"....."
“พูดสิวะ! เอาแต่เงียบอยู่ได้” พอเห็นคนตัวสูงเอาแต่นั่งเงียบอยู่แบบนั้นก็เป็นเธอเองที่อดไม่ได้จนต้องแหวขึ้นมาเสียงดังอย่างเอาแต่ใจ ไม่ชอบเลยนั่งนิ่งอย่างกับไม่ฟังกัน เข้าหูบ้างหรือเปล่าที่เธอพูดไปอะ
ส่วนคนฟังก็ขมวดคิ้วงงที่อยู่ ๆ ก็โดนวีนซะงั้น อะไรของยัยคนนี้นะ เดี๋ยวก็มาโกรธ เดี๋ยวก็ตัดพ้อ แล้วตอนนี้มาวีนเธออีก หนึ่งนาทีสี่ล้านอารมณ์ที่แท้จริง
พูดก็ว่า นิ่งก็ว่า เอาใจยากชะมัดเลย
“จะให้พูดจริง ๆ เหรอว่าโกรธอะไร” เซียนกระแอมไอแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่ง แม้ว่าในใจเธอจะสั่นระรัวเพราะแค่เห็นหน้าเธอก็เผลอนึกถึงฉากที่โดนจูบขึ้นมาอีกแล้ว (พยายามไม่นึกถึงฉากต่อมาก็แล้วกัน)
ไม่ได้รู้เลยว่าเสียงตัวเองสั่นแค่ไหน สั่นจนคนก้มหน้าก้มตาตัดพ้อกันอยู่ตรงหน้ายังรู้สึกได้เลย
“โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ” อิงฟ้าลองเอ่ยถามกลับไป
ก็เพราะไม่รู้น่ะสิว่าโกรธเรื่องไหนกันแน่ เธอตอนเมาก็ทำอะไรบ้า ๆ ไปตั้งเยอะเลยด้วย…
เพราะรู้ว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายไปมากแค่ไหน ตอนตื่นมาเธอถึงได้อับอายซะจนแอบรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำที่ตื่นมาไม่เจอมัน แต่จะมัวแต่ปล่อยเบลอไม่ยอมคุยกันก็ไม่ได้หรือเปล่า
“แล้วเมื่อคืนอิงจำไม่ได้เลยเหรอว่าทำอะไรไว้” เซียนเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ เพราะดูอิงฟ้าทำท่าทางหงอยเสียจนเธอไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองโกรธคนเมาอยู่หรือเปล่า เกิดอิงฟ้าจำไม่ได้จริง ๆ เธอก็เหมือนโกรธคนเมาไปเองน่ะสิ ก็เลยลองถามไปแบบนั้นเพื่อความแน่ใจ
ถ้าจำไม่ได้ก็ดีไป เธอจะได้ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน
“.....”
“สรุปจำได้มั้ย” เซียนถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นคนขี้วีนตรงหน้าเงียบไป ภาวนาให้มันจำไม่ได้อยู่นิดหน่อย แต่พอเห็นอิงฟ้าก้มหน้างุดอย่างนั้นเธอเริ่มจะเอะใจขึ้นมาแล้วว่าอีกคนกำลังคิดแก้ตัวอะไรอยู่
“ก็…ก็….” เป็นคนตัวเล็กซะเองที่เอ่ยตอบกลับมาเสียงตะกุกตะกัก จะโกหกไปว่าลืมแล้วทำเป็นจำอะไรไม่ได้เลยเธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี… เกิดโดนจับได้ทีหลังเซียนก็คงจะโกรธเธอจริง ๆ แล้วแหละ
ใช่ เธอไม่ได้ลืมทั้งนั้น จำได้หมดทุกอย่างเลยด้วย
“อีอิง” เซียนกดเสียงต่ำเมื่อเริ่มจะรู้สึกได้แล้วว่าอีกคนมันคิดอะไร
มันคิดจะเนียนแกล้งลืมใช่มั้ยเนี่ย!!
“โอ๊ย ทำไมต้องดุด้วย อย่าโกรธดิเรื่องแค่นี้เอง!” พอโดนจี้เข้ามาก ๆ คนที่ทำเป็นหงอยมาได้ตั้งนานก็เป็นฝ่ายน็อตหลุดอย่างห้ามไม่ได้ พอปิดบังไม่ได้อิงฟ้าก็เลยทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนขึ้นมาซะเลย ยิ่งทำสีหน้าเลิกลักพยายามจะแก้ต่างให้ตัวเองพ้นความผิดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้คนมองหมั่นไส้มันขึ้นมาจริง ๆ
“อิงฟ้า มึงจำได้ใช่มั้ย!!” เซียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง คิ้วก็ขมวดกันเสียน่ากลัวที่เห็นอีกคนไม่ได้ปฏิเสธคำถามเธอเลย! จนคนตัวเล็กก็ลนลานขึ้นมาที่เห็นอย่างนั้น
“เออ! ก็จำได้ไง ไหนบอกไม่ได้โกรธไงทำไมต้องเสียงดังด้วย!” เซียนเผลอชะงักที่อิงฟ้าบอกว่าเธอเสียงดังใส่ ขอโทษเถอะแม่คุณ ตั้งแต่เข้าห้องตัวเองมานี่ก็ได้ยินแต่เธอนั่นแหละโวยวายอยู่คนเดียวเลย
หนอย คิดจะทำเป็นเนียนตัดพ้อใส่เธอใช่มะ เกือบรู้สึกผิดแล้วเชียว
“มีแต่มึงนั่นแหละเสียงดังอยู่คนเดียวเลยอีควาย” เธอเอ่ยติดน้ำเสียงประชดประชัน จะโมโหคืนก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องพอดี
ยัยคนนั้นก็แสดงเก่งเหลือเกิน ถ้าเธอหลงไปเชื่ออะไรยัยนี่เข้าคงต้องกลายเป็นฝ่ายผิดแน่ พอคิดอย่างนั้นเซียนก็หงุดหงิดที่อิงฟ้ามันดูอยากจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เหลือเกิน ทั้งที่เค้าก็ทั้งโดนจูบ แถมยังโดนอ้วกใส่อีกต่างหาก คนเสียหายน่ะมันเธอไม่ใช่หรือไง
“เนี่ยเซียนโกรธอะ”
“จะโกรธก็ตอนนี้แหละ สรุปจำอะไรได้ก็พูดสิ” เธอเหลือบตามองอีกคนอย่างขุ่นเคือง แต่พอเห็นสีหน้าลนลานราวกับกลัวเธอโกรธจริง ๆ แล้วก็แอบยิ้มในใจกับท่าทางคล้ายจะว่าน่ารักแบบนั้น
ก็ได้แค่เกือบน่ารักแหละ ถ้ายอมสารภาพความผิดมาก่อนเธอถึงจะยอมมองว่าน่ารักให้ก็ได้
“ก็…ก็เป็นภาระ”
“อ่าฮะ” เธอเอ่ยรับแล้วนิ่งเงียบฟังต่อ ส่วนอีกคนที่เห็นว่าเซียนยังคงจ้องมานิ่ง ๆ ราวกับอยากได้คำตอบมากกว่านี้ คนมีความผิดติดตัวก็เลยต้องรีบพูดเสริม
“ขอโทษที่กินไวน์”
“อืม แล้วไงอีก” พูดถึงไวน์แล้วเซียนก็ควันออกหู แต่ก็พยายามข่มความไม่พอใจเอาไว้ก่อนเพราะมีเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่าเรื่องนั้นเยอะ! ใหญ่ซะจนเธอเกือบลืมหวงของไปแล้ว
“ขอ…ขอโทษที่อ้วก”
ปึ่ก!
เซียนได้ยินอย่างนั้นก็อดกระทืบพื้นระบายความขุ่นเคืองไม่ได้ พอพูดถึงอ้วกเธอก็ได้กลิ่นอีกแล้วเนี่ย!!
“แล้วไงอีก!!”
“..แต่กูเก็บอ้วกเองเลยนะ เมื่อเช้าแม่บ้านมากูก็ช่วยเค้าเก็บเองเลยด้วย” อิงฟ้าเอ่ยพลางยืดอกภูมิใจตัวเองเล็ก ๆ ราวกับทำคุณประโยชน์อะไรให้นักหนาอย่างนั้นแหละ
มันใช่สิ่งที่เธออยากได้ยินที่ไหนเล่า! โอ๊ย อันนี้กวนตีนหรือแกล้งจำไม่ได้กันแน่เธอชักจะไม่แน่ใจ พูดมากกว่านี้อีกหน่อยสิ เอาแต่เลี่ยงไปเลี่ยงมาอยู่นั่นแหละ
เธออยากรู้จะแย่อยู่แล้วว่าอิงฟ้ามันจำ จูบ ได้หรือเปล่า!
“แล้วอะไรอีก”
“อะไรอีกอะไร กูทำอะไรอีกอะ” อิงฟ้าเอ่ยถามกลับอย่างงง ๆ เมื่อโดนจี้ถามอีกครั้ง อะไรอีกคืออะไร เธอก็ทำแค่นั้นไม่ใช่เหรอ
พอเห็นสีหน้าที่ดูจะงงจริงของอิงฟ้าแล้วก็ทำเอาคนที่ลุ้นรอฟังอยู่อย่างเซียนถึงกับขบกรามแน่น เมื่อเรื่องที่หวังจะให้มันจำได้ที่สุด มันกลับลืมได้ขนาดนั้น
ลืมได้ยังไง มันจูบเธอก่อนเลยนะ!
“อิงฟ้า กูให้นึกดี ๆ อีกที” เซียนเอ่ยกดดัน แต่คนที่ยืนต่อหน้าเธอก็ยังเอาแต่ขมวดคิ้วงงใส่อยู่นั่นแหละ
“อะไรอ่า เฉลยสิ” พอได้ยินว่าจำไม่ได้จริง ๆ เธอก็นอยด์เลยอะ ทั้ง ๆ ที่ก็คิดว่าตัวเองก็อยากให้มันลืมเหมือนกันนะ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่พอใจอะ ทำไมถึงลืม แล้วทำไมถึงเป็นเธอที่คิดมากกับจูบนั้นอยู่คนเดียว อดไม่ได้ที่จะกอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างน้อยอกน้อยใจ
“หึ สงสัยจูบกูจะแย่มากเลยสินะ”
“ฮะ?!”
“มันแย่จนต้องอ้วกใส่เลยดิ แย่จนต้องลืมเลยมั้ง!” เซียนเอ่ยเสียงกระแทกกระทั้นอย่างต้องการประชดกัน ใบหน้าเรียบตึงแต่ปากก็เผลอยื่นออกมาอย่างเง้างอน
“เดี๋ยว ๆๆ กูไปจูบมึงตอนไหน”
“ให้กูเอาหัวโขกฝาบ้านดีมั้ย เผื่อจะจำอะไรได้บ้าง” จากที่ไม่เคืองเธอก็จะเคืองเพราะแบบนี้แหละ เรื่องสำคัญที่ว่าตัวเองเป็นคนจูบเธอก่อนก็ยังลืมกันได้ลง
“เอ้า ก็กูไม่ได้จูบจริง ๆ อะ มึงนั่นแหละจูบหลังกู เลียอีกต่างหากอันนี้กูจำได้นะ” พอได้ยินอิงฟ้าพูดขึ้นมาบ้างเซียนก็ชะงักไปเลย ทีแบบนี้ล่ะจำได้.. เซียนกระแอมไออย่างขัดเขินเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็เป็นฝ่ายกระทำเค้าเหมือนกัน
“ต...แต่มึงจูบปากกูอะ”
เป็นอิงฟ้าที่ตกใจจนตาแทบถลนเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“มึงอย่ามาตอแหล! กูแค่ไซร้คอมึงคืนไม่ใช่เหรอ” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เซียนหลุดหน้าแดงแปร๊ด! มันกล้าพูดมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอย่างนั้นได้ยังไงเนี่ย แค่นึกถึงเธอก็ขนลุกซู่ขึ้นมาเมื่อสัมผัสวาบหวามนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำอยู่เลย เธอจำได้หมดแหละว่าลิ้นเล็ก ๆ ของอิงฟ้าที่แตะปะเหลาะปะแหละอย่างไร้เดียงสานั่นมันตราตรึงอยู่ในหัวเธอขนาดไหนอะ
ถึงจะไม่เท่าตอนที่ปากนั้นมางับกันที่จุดเดียวกันก็เถอะ
แต่มันดันจำไม่ได้นี่สิ!
“ทีแบบนี้ล่ะจำได้” เซียนเอ่ยอุบอิบอย่างขัดเขินขึ้นมาบ้าง ปกติก็ทำแต่เค้า พอโดนทำคืนแล้วมันก็…. มันเขินอย่างนี้นี่เองสินะ
“จำได้ ก็จำได้ว่าดูดคอ แล้วก็กัด แล้วก็อ้วก… แล้วมันไปจูบได้ยังไงอะ” อิงฟ้าเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อพูดถึงอ้วก แต่เซียนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อเอะใจอะไรบางอย่าง
จำได้หมดขนาดนั้นมันจะไม่นึกถึงจูบได้ยังไงวะ
“กัดอะไร มึงกัดคอกูด้วยเหรอ”
“ก็เปล่า…” อิงฟ้าเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าขึ้นสีอย่างเคอะเขิน ผินไปหน้ามองนู้นมองนี้อย่างคนไม่รู้จะวางสายตาที่ไหน ส่วนเซียนที่เห็นอย่างนั้นก็รีบถามจี้เข้าไปอีก จะพูดก็พูดไม่หมดสักที!
“แล้วกัดอะไร กัดปากกูใช่หรือเปล่า”
“เออ..ก็ เออ…”
ชัดเลย
มันก็จำได้นี่!
“เนี่ย มึงจูบกูอะ!!!” เซียนโพล่งขึ้นมาทำอย่างกับว่าจับผิดคนร้ายได้แล้วอะไรอย่างนั้น จนคนที่ยังลีลาไม่ยอมพูดตรง ๆ ต้องเป็นฝ่ายสะดุ้งออกมาเมื่อได้ยินมันพูดสรุปอย่างนั้น
ก็กัดนี่ ไม่ได้จูบ!!
“ไม่ได้จูบ! มึงบ้าหรือเปล่า กูไปจูบมึงตอนไหนก่อน!!” ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ยอมสิ คนตัวเล็กแก้ต่างให้ตัวเองอย่าเอาเรื่องเพราะเธอจะไม่ยอมเป็นฝ่ายจูบมันก่อนหรอก! ถึงปากจะแตะกันแต่มันก็ไม่ใช่จูบหรือเปล่า
“ก็มึงเอาปากมาแตะกูอะ มึงงับด้วย! อยากดูมั้ยเนี่ยปากกูยังเป็นรอยฟันมึงอยู่เลย” เซียนว่าอย่างนั้นแล้วลุกขึ้นยืนเมื่อทนฟังคนแก้ตัวต่อไปไม่ไหว เธอสับขาเข้าไปใกล้แล้วดึงปากตัวเองให้ดูว่ามีรอยฟันอยู่จริง ๆ นะ อิงฟ้าเหล่สายตามองนิดนึงแต่ก็ยังเชิดหน้าอยู่อย่างไม่ยอม
“โอ๊ยก็แค่กัดไหมเซียน! ไม่เคยจูบกับผู้หญิงหรือไงถึงแยกไม่ออกอันไหนกัด อันไหนจูบ!” พอได้ยินคนแก้ตัวอย่างนั้นเซียนก็หุบปากฉับไปเลย ไม่ยอมรับไม่พอมันยังมาปรามาศว่าเธอไม่เคยจูบอีก! มันจะปากดีเกินไปไหมยัยคนนี้
“ก็กูเนี่ยจะจูบมึงไง แต่มึงมาอ้วกใส่กูก่อนอะ!” พอไม่รู้จะเถียงอะไร เซียนก็เลยพูดเลยว่าตัวเองนั่นแหละอยากจะเป็นฝ่ายจูบเค้าซะเอง ส่วนอีกฝ่ายที่ได้ยินมันจะเลี่ยงไปอย่างนั้นก็อดส่งมือไปทุบมันอีกทีไม่ได้ กล้าพูดมาได้ว่าจะจูบเธอ!!
แล้วเมื่อกี้ทำมาเป็นหาเรื่องเธอนะ
“แล้วใครจะให้มึงจูบ อีบ้า!” อิงฟ้าว่าอย่างนั้นด้วยใบหน้าขึ้นสี จะด้วยความโกรธหรืออะไรเธอก็ไม่สนใจหรอก รู้แต่ว่าคนตัวเล็กเนี่ยไม่ยอมรับแล้วยังเถียงเธอคอเป็นเอ็นเลย
มันจะยอมรับไม่ได้เลยดิว่าจูบอะ …ไม่จูบก็จุ๊บอยู่ดีอะ ก็ปากแตะกันแล้วนี่
“แล้วทีมึงอะ ใครให้มึงมาจูบกู” เซียนเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน จะให้อิงฟ้ายอมรับให้ได้ว่าจูบ!
“เอ๊ะ พูดไม่รู้เรื่อง ก็บอกว่าไม่ได้จูบไง!” เธอเอ่ยเสียงสะบัด ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าใครผิดใครถูก แต่เธอต้องเอาชนะอีเซียนให้ได้สักอย่างแหละ เห็นเอาแต่ต้อนเธอฝ่ายเดียวแล้วมันโคตรน่าหมั่นไส้เลย!
“ไม่คุยด้วยแล้ว ตัวเองผิดก็ยังไม่ยอมรับอีก” เซียนเองก็เคืองจนไม่อยากจะคุยด้วยแล้ว เถียงไปก็ไม่ยอมรับอีก แค่ยอมรับว่าเราจุ๊บกันมันจะยอมรับยากขนาดนั้นเลยเหรอ เซียนคิดอย่างนั้นแล้วกระแทกตัวกลับไปนั่งอย่างแง่งอน ปากก็ยื่นออกมาไม่รู้ตัวแม้ใบหน้าจะเรียบตึงอยู่ก็ตาม ยิ่งหางตาเฉี่ยวคมแบบนั้นก็ยิ่งทำให้อีกคนดูดุอยู่พอสมควร
ถ้าไม่เห็นว่ากำลังอมลมเข้าปากอย่างกับเด็กขี้งอนอยู่นั่นอะนะ
งอนอีกและ.. อุตส่าห์ดึงตัวมาเคลียร์กันก็มาจบที่งอนเธอกว่าเดิมซะงั้น อิงฟ้าจะง้อต่อก็ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเธอก็เชื่อในสิ่งที่เธอทำเหมือนกันอะ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มันมามึนตึงกันแบบนี้ด้วย แค่เมื่อเช้าที่มันหายไปเธอก็ใจหายจะแย่ เธอกลัวว่าจะโดนเกลียดเข้าแล้วที่ทำตัววุ่นวายอย่างนั้น
แล้วมาตอนนี้เธอก็ไม่อยากโดนเมินแบบนั้นอีกแล้วอะ
อิงฟ้าคิดอย่างนั้นแล้วถอยหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มันจะอะไรกับจูบเธอนักหนา ไม่รู้ว่าโกรธที่เธอเอาปากไปแตะ หรือเสียดายที่เธอไม่จูบมันกันแน่
ก็นั่นมันไม่ใช่จูบจริง ๆ อะ ถ้าจูบมันก็ต้องอีกแบบสิ
“นี่เซียน” เธอเอ่ยเรียกอย่างลองเชิงแต่มันก็ไม่หันมาสนใจเธอเลย จะงอนอะไรขนาดนั้น พอเถียงไม่ได้ก็มางอนเธอเนี่ยนะ
หรือจะต้องจูบให้ดูก่อนถึงจะเข้าใจว่าเธอน่ะเป็นฝ่ายถูก! คิดอย่างนั้นอิงฟ้าก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปชิดโซฟา จับไหล่ให้มันนั่งดี ๆ แล้วทิ้งตัวนั่งทับตักมันซะเลย
“อะไร ๆ มานั่งตักกูทำไมเนี่ย ไม่ต้องมาง้อเลยนะ” เซียนตกใจที่จู่ ๆ ก็โดนอีกฝ่ายมาทิ้งตัวลงบนตักเธอแบบนั้น แต่มือก็ไวกว่าความคิด เธอส่งสองมือไปรวบกอดเอวมันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ถึงปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายโอบรัดให้หน้าอกหน้าใจมันเบียดชิดกับเธอแน่นซะเอง
“ก็จะทำให้ดูไง ว่าจูบจริง ๆ เป็นยังไง” อิงฟ้าเอ่ยน้ำเสียงจริงจังจนเซียนต้องหยุดฟัง ใจที่เคยนิ่งสงบก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงเป็นระดับเมื่อสายตาของอีกคนค่อย ๆ เลื่อนลงมาจ้องปากเธออย่างตั้งใจแบบนั้น
คนที่บอกว่าไม่ต้องง้ออย่างเซียน กลับเป็นฝ่ายตั้งตารอคอย ง้อ จากอิงฟ้าอย่างเต็มใจไปแล้ว
จูบเลย จูบสักที
เซียนคิดอย่างนั้นเมื่อมันเอาแต่จ้องปากเธออย่างลังเลอยู่นั่นแหละ อยากจะเป็นฝ่ายกดริมฝีปากลงไปจะแย่แต่ก็ไม่อยากเป็นฝ่ายเริ่มก่อน อยากรู้ว่าอิงฟ้าจะแสดงจูบแบบที่ว่านั่นยังไง
ไม่นานอย่างที่คิด คนตัวเล็กก็เป็นฝ่ายเคลื่อนหน้าเข้าหาเธออย่างเชื่องช้า จนในที่สุดก็จรดลงบนริมฝีปากเธอแผ่วเบา …เซียนพยายามห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เป็นฝ่ายขยับจูบซะก่อน ก็ในเมื่ออิงฟ้าบอกจะจูบ เธอก็จะปล่อยให้อีกคนนำไปก่อนแล้วกัน
เซียนปรือตามองอีกคนที่หลับตาพริ้มแตะปากค้างอยู่ตรงหน้าเธออย่างนั้น ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับริมฝีปากอย่างนุ่มนวลราวกับไม่แน่ใจในตัวเองอย่างไรอย่างนั้น แต่เซียนก็ยังรอคอยสัมผัสจากอิงฟ้าอย่างเต็มใจ อยากทำอะไรก็จะปล่อยให้ทำอย่างเต็มที่ไปเลย
ทางด้านอิงฟ้าก็เอาแต่ไม่มั่นใจอยู่แบบนั้น คราแรกเธอก็แค่เล็ม ๆ ริมฝีปากพอเป็นพิธีไปอย่างนั้น เดี๋ยวงับเดี๋ยวปล่อยซ้ำ ๆ ไม่ได้ลงแรงอะไร แต่พอเห็นอีกคนไม่หือไม่อืออะไรกลับมาเธอกลับรู้สึกยอมไม่ได้! บอกว่าจะจูบแล้วเธอก็จะไปให้สุดเลยแล้วกัน
เธอคิดอย่างนั้นจึงค่อย ๆ ขยับองศาใบหน้าให้ถนัดมากขึ้น ก่อนจะกดจูบลงไปให้แนบสนิทมากขึ้นจนไม่มีพื้นที่ห่างกันสักนิด เริ่มขยับบดเบียดริมฝีปากเรียวบางของอีกคนอย่างเอาแต่ใจ พยายามรุกไล่ให้อีกคนตอบสนองกลับมาแต่มันก็ยังเอาแต่นิ่ง เธอทั้งบดขยี้ ทั้งขบเล็ม ทั้งดูดดึงริมฝีปากทั้งบนทั้งล่างก็แล้วมันก็ยังไม่ทำอะไรเธออีก
“ฮื่อ!”
สงสัยชอบจูบแบบใช้ลิ้น
เธอผละออกมาอย่างหงุดหงิดจนได้ยินเสียง จุ๊บ ดังหลุดรอดออกมา ขมวดคิ้วใส่ไปทีนึงแล้วก็ขยับใบหน้าเข้าหามันอีกครั้งอย่างต้องการเอาชนะ เธอจรดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายแลบลิ้นร้อนออกมาแตะ ๆ ริมฝีปากที่ปิดสนิทนั้นอย่างใจกล้า ลากไล้ไปมาราวกับลองชิม
สัมผัสแผ่วเบาอย่างนั้นกลับทำให้คนโดนกระทำรู้สึกอุ่นวาบจนเริ่มจะร้อนไปทั่วร่าง เซียนคิดอยากจะเป็นฝ่ายเกี่ยวลิ้นนั้นเข้าปากซะเอง
อิงฟ้าใช้เวลาละเลียดชิมริมฝีปากนั้นไม่นานเท่าไหร่ เธอพยายามใช้ลิ้นชอนไชไปตามรอยแยกจนในที่สุดเซียนก็ยอมเปิดปากออก อิงฟ้าเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่งลิ้นเล็ก ๆ เข้าไปก่อกวนอีกคนถึงในโพรงปากหวานนั้นอย่างชะล่าใจ
กระทั่งเรียวลิ้นของอีกฝ่ายที่เคยอยู่นิ่งให้เธอตวัดเล่นนั่นเป็นฝ่ายกระดกเกี่ยวลิ้นเธอกลับมานั่นแหละ..
“อ๊ะ.. อื้อ!” อิงฟ้าเผลอสะดุ้งร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็โดนอีกฝ่ายตวัดคืนมาแบบนั้น มันเสียววาบในอกจนเธอแทบจะถอดถอนลิ้นออกมาตั้งตัวอยู่แล้ว แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายเกี่ยวลิ้นเธอกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นออกแรงดูดปลายลิ้นเธอจนต้องส่งเสียงครางออกมาด้วยความสยิว
“อื้ม... นิ่ง ๆ”
ตุบ
เธอทุบไหล่เซียนเมื่ออีกคนไม่ยอมปล่อยลิ้นเธอสักที เอาแต่ดูดดึงราวกับเป็นขนมหวานอย่างไรอย่างนั้น มือที่เคยเกาะเกี่ยวเอวเธอก็เลื่อนมาหยุดที่ท้ายทอยเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แรงกดมากมายที่ตรึงไม่ให้เธอขยับไปไหนก็ทำเอาแทบจะหายใจไม่ทันด้วยความตื่นเต้น
จุ๊บ แผล่บ
อิงฟ้าได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อเมื่ออีกคนเอาแต่เล่นกับลิ้นเธออยู่อย่างนั้น ต่อให้เธอชักลิ้นกลับมาแล้วแต่มันก็ยังตามมาเกี่ยวกันไม่หลุดไปไหนเลย ไหนจะดูดลิ้นเธอแรงราวกับจะทำโทษกันอีก
“อื้ออ.. น นี่!” จังหวะที่เซียนผละออกเพียงเล็กน้อย เธอก็เบี่ยงหน้าหลบลิ้นของมันแล้วรีบส่งเสียงประท้วงก่อนที่จะโดนปิดปากอีกรอบ ส่วนอีกคนที่โดนห้ามก็หอบหายใจอย่างแรงราวกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายโดนระดมจูบอย่างนั้นแหละ ตาก็ยังไม่ละออกไปจากปากเธอสักที
“อืม” เซียนขานรับเพียงสั้น ๆ แถมยังแลบลิ้นเลียปากอย่างกับกระหายอะไรให้เธอเห็นอีก
กลับเป็นเธอเสียเองที่พอเห็นสีหน้าหื่นกระหายเธอขนาดนั้นก็ทำเอาพูดไม่ออก ได้แต่นิ่งเงียบอย่างเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก
…กระทั่งเซียนไม่อดทนรออีกต่อไปแล้ว เธอกระซิบเสียงแหบพร่าชิดริมฝีปากนั้นแผ่วเบา
“ตาเซียนบ้างนะ”
Comments (0)