ข้าอยากเข้าเรียนที่นี่” หลี่ไป่พูดกับชายร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง

หมดเขตเปิดภาคเรียนแล้ว เจ้าต้องรอใหม่ปีหน้า” ชายร่างสูงตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบมองสำรองหลี่ไป่เด็กชายตรงหน้าผมสีทองดวงตาสีแดงตัวขาวซีดและหนูบนไหล่ซ้ายของเขา

อ้าว ทำไมล่ะ ข้านึกว่าจะสมัครเรียนเมื่อไหร่ก็ได้เสียอีก” หลี่ไป่นึกว่าจะง่ายเหมือนในเกมที่เขาเล่นเพียงเดินไปคุยกับ NPC หน้าประตูแล้วเข้าได้เลยเสียอีก

หากเป็นเช่นนั้น ผู้สอนคงต้องจัดตารางสอนบทพื้นฐานทุกเดือนเพราะมีคนเข้ามาใหม่ตลอดเวลา มันต้องมีลำดับชั้นเพียงแต่ผู้ที่เรียนรู้ไว้จึงจะสามารถข้ามชั้นได้เร็ว เจ้าขะ...เดี๋ยว เจ้าหยุดก่อน!” ชายร่างสูงที่กำลังอธิบายหลี่ไป่ให้เข้าใจระบบชั้นของอะคาเดมี่แต่กลับมีชายแปลกหน้าอีกคนเดินผ่านเข้าประตูอะคาเดมี่ไปหน้าตาเฉย

เจ้าเด็กปากเสีย” หลี่ไป่ตะโกนไล่หลังชายแปลกหน้าที่เดินผ่านตนไปเมื่อสักครู่

เจ้ารู้จักกันรึ ไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามเข้าหากไม่ใช่คนของอะคาเดมี่” ชายร่างสูงที่ยืนคุมหน้าประตูเมื่อครู่เดินไปประจันหน้าและยกอาวุธขว้างหน้าคามิวนั้นทำให้คามิวต้องหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นมองชายคนดังกล่าว

เจ้าคงต้องหน้าแตกแล้วเดินกลับออกไปพร้อมข้าแล้ว” หลี่ไป่เดินไปเกาะไหล่คามิวแสดงสีหน้าเศร้าใจ

“...” คามิวใช้มือปัดมือหลี่ไป่ข้างที่เกาะไหล่เขาอยู่ออก ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใด สักพักล้วงหยิบจดหมายออกจากอกเสื้อของตนยื่นให้ชายร่างสูงคนตรงหน้า

ชายร่างสูงวางอาวุธลงรับจดหมายดังกล่าวขึ้นมาไล่สายตาอ่านจนครบ

เจ้าไปได้” ชายร่างสูงขยับเบี่ยงขวาหลบให้คามิวเดินเข้าไป

อ้าว! ทำไมเป็นงี้ล่ะ ทีข้าเจ้าไม่ให้ผ่าน นั้นจดหมายอะไรทำไมถึงผ่านได้” หลี่ไป่ออกอาการโวยวายเหมือนเด็ก

จดหมายแนะนำจากราชวงศ์ เขาเป็นละ..”

อย่างเจ้าไม่ต้องรู้หรอก” คามิวพูดขัดชายร่างสูงไม่ให้พูดจบส่งสายตาเย้ยไปยังหลี่ไป่ที่ยืนกระฟัดกระเฟียดพร้อมท่าต่อยเขาอีกครั้ง

ที่แท้ก็เด็กเส้น” หลี่ไป่ง้างมือตั้งท่าสั่งสอนเด็กไร้มารยาทเดินเข้าไปจ้องหน้าคามิวเขม็ง

“..” คามิวหันหลังให้หลี่ไป่ขยับขาเดินเข้าไปในอะคาเดมี่ทันที เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเมื่อมองลึกเข้าไปในดวงตาสีทับทิมของเด็กคนนี้คล้ายถูกสะกดจิต

ส่วนเจ้า เดินออกไปได้แล้ว” ชายร่างสูงที่เปรียบเสมือนคนเฝ้าประตูขยับมาประชิดหลี่ไป่เพื่อกันไม่ให้หลี่ไป่ก้าวขาเข้าไปมากกว่านี้

ก็ได้” หลี่ไป่หันหลังกลับแบบไม่สบอารมณ์ เขาเดินกลับที่พักแบบหดหู่ใจ ตัดพ้อตัวเองว่าหมดหนทางที่จะไปต่อเหมือนขับรถมาเจอเหวข้างหน้า

ระหว่างทางกลับที่พักหลี่ไป่และมินเนสเดินผ่านตลาดของค้าขายและสินค้าแลกปลี่ยนต่าง ๆ นั้นทำให้เขานึกเอะใจกับสินค้าตรงหน้า

มินเนส นั้นอะไร”

หญ้าน้ำค้างเจ้าคะ”

หญ้า น้ำ ค้าง”

 

3 เดือนก่อน

หยิน ลุงฆ่าสไลม์แล้วได้ของที่ตกอยู่คือหญ้าน้ำค้าง แต่ลุงพยายามเก็บเท่าไหร่ก็เก็บไม่ได้” หลี่ไป่หันไปถามหลานชายที่กำลังนอนเล่นเกมอยู่กลางห้องนั่งเล่น

ไหนขอดูหน่อย” หยินลุกขึ้นเดินมาหาหลี่ไป่พร้อมทั้งเอื้อมมือไปจับเมาส์คอมพิวเตอร์

ลุงหลี่ คลังเก็บของลุงเต็มแล้ว ลุงจะเก็บหญ้าน้ำค้างไปทำมั้ยตั้งห้าร้อยชิ้น เอาไปขายสิครับ” หยินพูดจบก็ควบคุมตัวละครของหลี่ไป่เข้าตลาดไปขายของเพื่อลดพื้นที่คลังเก็บของ

 

ปัจจุบัน

ลองดูแล้วกัน ‘เปิดคลังเก็บของ’ ” หลังหลี่ไป่พูดจบ กระดานหน้าต่างตรงหน้าเด้งขึ้นมาภายในเขียนด้วยข้อความ

[คลังเก็บของ]

[ทองคำ 100 เหรียญ , เงิน 500 เหรียญ,เพชรแห่งสุสานสคามัน ,สร้อยอาถรรพ์ของมาเรีย,ลูกแก้วของเทียน่า,ดวงตาสีชาดและอัญมณีอีกกว่า 20 เม็ด]

มะ ไม่จริง เอ๊!!!!!” หลี่ไป่ตกใจจนเผลออุทานเสียงดังกลางตลาด ทุกคนบริเวณโดยรอบต้องหันมามองต้นเหตุของเสียงดัง ขนาดมินเนสที่เกาะอยู่ยังพลอยสะดุ้งกับอาการประหลาดของนายเธอ

หลี่ไป่รีบก้มหัวเพื่อแสดงออกว่าขอโทษคนรอบข้างที่ทำให้ตกใจเพราะตนแต่ในเสียววินาทีต่อมาเขากลับฉีกยิ้มกว้างและดวงตาเป็นประกาย

มินเนส วันนี้ข้าจะซื้อเมล็ดธัญพืชของโปรดเจ้าเยอะ ๆ เลย” หลี่ไป่เดินยิ้มหน้าบานแวะร้านค้าเพื่อซื้อของมากมายกลับที่พักโดยไม่ลืมซื้อแป้งสาลีกับวัตถุดิบสำหรับทำปาท่องโก๋ด้วย มินเนสมองการกระทำของนายเธอด้วยความสงสัยเพราะก่อนหน้านายท่านของเธอสอนเธอว่าไม่ให้เธอใช้เงินที่ขโมยมาและตอนนี้นายเธอกลับเพลิดเพลินกับมันโดยไม่รู้ตัวเสียอย่างนั้น

บ้านเช่าของโอกิลวีนั้นค่อนข้างใหญ่ของภายในตกแต่งสวยงาม แม้แต่ในห้องครัวก็มีอุปกรณ์ครบเครื่อง หลี่ไป่พุ่งตรงไปยังห้องครัวแล้วจัดการทำอาหารเที่ยงให้ทั้งตนและมินเนส

วัตถุดิบมากหน้าหลายตาถูกหยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะห้องครัวแม้ชื่อของวัตถุดิบในโลกนี้จะมีอะไรแปลก ๆ และประหลาดมากมายอย่างเนื้อของ กริฟฟิน ไข่ของบาซิลิส ผักแอกลอส และอีกเยอะที่เขาฟังชื่อแล้วนึกภาพตามถ้าหากพวกมันยังมีชีวิตอยู่จะเป็นยังไงก็ทำเอาขนลุกซู่ถึงกระนั้นวัตถุดิบปกติ อย่าง ไก่ หมู และเครื่องปรุงแบบโลกเดิมก็ยังมีอยู่ทั่วไปนั้นทำให้หลี่ไป่เบาใจ

มื้อเที่ยงถูกกินจนเกลี้ยงเป็นอาหารประหลาดในสายตามินเนสเพราะเธอเพิ่งเคยกินครั้งแรก นายเธอเรียกว่าหมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวานและผัดผักแต่ถึงจะเพิ่งเคยกินครั้งแรกรสชาติกลับอร่อยกว่าขนมปังแข็ง ๆ ที่เธอกินประจำแต่ไม่ว่าจะอร่อยขนาดไหนก็ยังสู้เมล็ดธัญพืชของเธอไม่ได้อยู่ดี

กำลังจะทำอะไรเจ้าคะ” มินเนสถามขึ้นเมื่อเห็นนายเธอหยิบถุงแป้งสาลีขึ้นมา

ลองทำปาท๋องโก๋” หลี่ไป่ตื่นเต้นกับความรู้สึกเก่า ๆ ที่เหมือนกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาเริ่มนำแป้งพร้อมส่วนผสมต่าง ๆ ร่อนเข้าด้วยกัน

แล้วกระสอบข้าวสาลีนั้นล่ะเจ้าคะ” มินเนสเก็บความสงสัยเรื่องชื่ออาหารแปลกๆ ไว้ในใจแต่ไม่สามารถเก็บความสงสัยต่อกระสอบข้าวสาลีที่หนีมอนสเตอร์เกือบตายนั้นได้

ทิ้งไปเถอะ” ความสนุกของหลี่ไป่ถูกขัดด้วยความทรงจำอันทรมาน เหน็ดเหนื่อยแต่ผลกลับสูญเปล่าแค่คิดก็ทำให้เขาหงุดหงิด ระหว่างนำส่วนผสมต่าง ๆ เข้าด้วยกันและทำการนวดด้วยมืออยู่นั้นหน้ากระดานหน้าต่างก็เด้งแจ้งเตือนเควสแรกให้เขาได้เห็น