3 ตอน 3
โดย เดรสสีฟ้ารองเท้าก็ต้องสีฟ้า
3 เดือนก่อน
“หยิน ลุงผ่านโหมดฝึกสอนแล้วนะ ไปไหนต่อ” หลี่ไป่ตะโกนเรียกหลานชายให้เข้ามาดูหน้าจอเกม URH แสดงรางวัลผ่านโหมดฝึกสอนและยินดีตอนรับสู่เมืองแพนโดร่า
“ลุงเปิดดูเควสแรกว่ามันให้ทำอะไร” หยินเดินถือขวดน้ำอัดลมเข้ามายืนข้างหลังหลี่ไป่
[เข้าศึกษาที่อะคาเดมี่เซนทรา]
[รายละเอียด : ผู้เล่นเข้าศึกษาที่อะคาเดมี่เซนทราเพื่อเลือกพลังฝึกฝนจนสำเร็จความสามารถและสกิลพื้นฐานของตัวละครเพื่อเสร็จสิ้นภารกิจ]
[รางวัล : เหรียญทอง 100 เหรียญ]
“ลุงต้องไปหา NPC หน้าอะคาเดมี่แล้วขอเข้าสถาบัน หลังจากเข้าได้แล้วมันจะสอนลุงใช้สกิล” หยินกล่าวจบก็เดินหันหลังกลับไปห้องตัวเอง
“อ้อ ต้องเรียนก่อน”
ปัจจุบัน
“เจ้า ไม่มีฉายาผู้กล้าจริงรึ” หลี่ไป่ถามคามิวที่ยืนเงียบกับความประหลาดของหลี่ไป่ทั้งคำพูดคำจาและพฤติกรรม
“ฉายาอะไร ข้าบอกแล้วว่ายังไม่ได้เป็นผู้กล้า” คามิวขมวดคิ้วตอบคำถามด้วยประโยคเดิมรอบที่สอง
“ฉายาในสถานะตัวละครของเจ้าไง นี่ไงของข้าเปิดอยู่” หลี่ไป่พยายามชี้กระดานหน้าต่างตรงหน้าตนให้คามิวดูแต่นอกจากคามิวจะไม่เห็นแล้วกลับขมวดคิ้วกับท่าทางประหลาดนั้น
“เจ้าตัวเล็ก ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร แต่ข้ายังไม่ได้เรียนที่อะคาเดมี่เซนทรา เพราะฉะนั้นข้ายังมะ...”
“อ้อ!เควสเริ่มต้นของเกมนี่เอง” หลี่ไป่พูดขัดขึ้นเพราะเข้าใจถึงสาเหตุที่ผู้กล้าคามิวยังไม่ได้เป็นผู้กล้า แสดงว่าตัวเขาเข้ามาในโลกนี้ก่อนเริ่ม เควสแรก
“เอ๊ะ! เดียวนะเจ้าเรียกข้าว่าอะไร ใครตัวเล็กไอ้หนู" หลี่ไป่กระฟัดกระเฟียดใส่คามิวพร้อมถกแขนเสื้อขึ้นทั้งข้างซ้ายและขวายกกำหมัดด้วยมือเล็กๆ ขาวซีดเดินเข้าหาคามิวประหนึ่งจะเข้าไปชกต่อยอีกฝ่าย
“ชื่อเจ้าเรียกยาก ลี่ หลี่ โอกิลไป่" คามิวยักไหล่ไม่แยแสต่อความน่ากลัวของหมัดตรงหน้าที่กำลังจะชกตน แม้จะอายุเท่ากันแต่ความสูงห่างกันพอสมควร ผมสีทองที่สะท้อนแสงอาทิตย์กับดวงตาสีแดงเมื่อมองลึกลงไปมันแวววาวเหมือนผลึกทับทิมความสวยของมันดึงดูดจนไม่อาจละสายตา
“ข้า ชื่อ หลี่ ไป่ “หลี่ไป่ย้ำทีละคำให้ได้ยินชัดเจนทำให้คามิวหลุดจากภวังค์
คามิวหมุนตัวออกเดินไปทางเมืองหลวงแพนโดร่าต่อทันที เขาคงไม่มีเหตุจำเป็นต้องยืนเถียงกับเด็กหนุ่มตรงหน้าต่อ
“ไปหาข้าวสาลีต่อมั้ยเจ้าคะ” มินเนสทักขึ้นเมื่อเห็นว่านายเธอยืนค้างอยู่สักพัก
“ไปสิ มาขนาดนี้แล้ว”
“ถ้าเจอมอนสเตอร์อีกจะทำไงเจ้าคะ”
“ช่างมันแล้ว เดิน ๆ ไปเถอะค่อยตายเอาดาบหน้า” หลี่ไป่ออกเดินทางหาทุ่งข้าวสาลีอีกครั้งโดยครั้งนี้ไม่ลืมที่จะสอดส่องมอนสเตอร์และหลบเลี่ยงด้วยความระมัดระวัง
“เจอแล้ว อยู่นั่นเจ้าค่ะ” มินเนสร้องทักเมื่อภาพตรงหน้าคือทุ่งข้าวสาลีป่าขนาดใหญ่สีเหลืองอร่ามกว้างพอ ๆ กับสวนสาธารณะในเมืองใหญ่ของโลกที่เขาจากมาหากเก็บทั้งหมดคงได้หลายร้อยกิโล
ดวงตาของหลี่ไป่เบิกกว้างแวววาวและความตื่นเต้นกับภาพที่เห็นจนแสดงออกทางสีหน้าชัดเจน
ผ่านไป 5 ชั่วโมง
“อึบ เอาละ มินเนสทีนี้ไงต่อ” หลี่ไป่วางกระสอบข้าวสาลีที่เก็บมาได้ไว้กลางห้องพักตัวเองด้วยท่าทางเหนื่อยหอบเพราะพลังกายอันล้นเหลือจะหมดหลอดอยู่รอมร่อกว่าจะเก็บเสร็จนั้นทำให้เขาต้องหยุดพักทุก ๆ สิบนาที ขณะลากกลับมาที่พักก็ใช้สังขารเกือบทั้งร่างขยับกระสอบทีละสิบเมตรแต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาทราบว่ามินเนสเด็กน้อยน่ารักที่อยู่กับเขาสามารถยกกระสอบข้าวสาลีได้ด้วยมือเดียวและเดินหน้าตายนำเขาเข้าเมืองเหมือนไม่รู้สึกอะไรประหนึ่งถือหมอน ศีลธรรมในใจลุงรู้สึกผิดบาปนักที่ใช้แรงงานผู้หญิงแถมยังเป็นเด็กอีก
“ปกติท่านทำอย่างไรเจ้าคะ” มินเนสตอบพร้อมเดินกลับไปนั่งกินธัญพืชมุมเดิมของเธอ
“ข้าเหรอ ข้าไม่รู้”
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกันเจ้าค่ะ”
“...”
“...”
“ละ แล้วปกติข้าทำยังไง” หลี่ไป่เริ่มมีเหงื่อไหลซึม สีหน้าแสดงออกว่ากังวลหันไปขอความช่วยเหลือจากมินเนส
“ปกติ ท่านจะใช้มือหมุนๆ มันก็แปรสภาพแล้วเจ้าคะ”
“...” หลี่ไป่ใช้มือหมุนรอบ ๆ ข้าวสาลีที่อยู่ตรงหน้า เหงื่อที่กรอบหน้าจากที่เริ่มซึม ๆ ขณะนี้มันเป็นเม็ดใหญ่จนจะทำให้หน้าเปียกชุ่ม เขาลองเปิดกระดานหน้าต่างเวทแปรสภาพแต่มันเพียงอธิบายรายละเอียดของเวทมนตร์ดังกล่าวไม่บอกวิธีใช้เสียอย่างนั้น จะลองค้นหาคำว่าคู่มือใช้เวทก็กลัวว่าจะโดนระบบเตือนว่าเขาโกงอีกครั้ง เขายังคงจำหมายเหตุตัวแดง ๆ ได้ชัดเจนว่าห้ามโกงเกินสามครั้ง
“มินเนส ข้าไม่พูดอะไรเลยเหรอเวลาข้าใช้พลัง”
“เหมือนท่านจะ พึมพำพูดอะไรสักอย่างนะเจ้าคะ”
“เจ้าไม่รู้เหรอว่าข้าพูดอะไร”
“ไม่ทราบเจ้าค่ะ”
“...”
“...”
“นี่ มินเนส ข้าสงสัยเรื่องเจ้าอยู่อย่าง” หลี่ไป่วางมือจากข้าวสาลี่ตรงหน้าหันมามองมินเนสด้วยสีหน้าจริงจัง
“เรื่องอะไรเจ้าคะ” มินเนสยังคงไม่วางมือจากเมล็ดธัญพืชของนาง
“เจ้าไม่ประหลาดใจรึไง จู่ ๆ เจ้านายที่เจ้ารับใช้มาตลอดเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแถมทำอะไรไม่เหมือนปกติ” หลี่ไป่สงสัยเรื่องนี้มาสักพักแล้วเพราะเท่าที่เคยถามมินเนสวันแรกที่ตัวเขาตื่นขึ้นมาในโลกนี้ว่านางคอยรับใช้เขานานแค่ไหน นางตอบเขาอย่างมั่นใจว่าเกินห้าปี นั้นแปลว่านางสนิทและรู้จักกับโอกิลวีเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเด็กน้อยขนาดไหนคงต้องประหลาดใจและนึกสงสัยกันบ้าง
“ข้ายอมรับว่าแรก ๆ ข้าประหลาดใจแต่ข้าพึ่งมานึกขึ้นได้ ท่านเคยบอกข้าไว้ หากวันหนึ่งท่านเปลี่ยนไปเป็นอีกคน แม้ตัวท่านไม่ใช่ตัวท่านก็อย่าได้ประหลาดใจเจ้าค่ะ” มินเนสวางเมล็ดธัญพืชลงอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
“หมายความว่ายังไง แล้วเจ้าถามโอกิลวีมั้ยว่าทำไม” หลี่ไป่ไม่เข้าใจคำพูดของมินเนสเลยสักนิด
“ถามเจ้าค่ะ แต่ท่านไม่บอกข้า” มินเนสหันกลับไปหยิบเมล็ดธัญพืชขึ้นมากินอีกครั้ง
“มินเนสข้าถามอีกเรื่อง” หลี่ไป่ทำหน้าจริงจังกว่าเก่า
“เจ้าคะ”
“เงินที่เจ้าขโมยมา เหลืออีกหรือไม่” หลี่ไป่ยิ้มแหย ๆ จะศักดิ์ศรีหรือศีลธรรมอะไรในใจก็ขอตั้งไว้ก่อน ตั้งแต่สอนมินเนสเรื่องการเป็นเด็กดีตัวเขายังไม่ได้กินอะไรเลย ก่อนหน้านี้ภาวนาว่าให้ตัวเองแปรสภาพข้าวสาลีเป็นข้าวหรือแป้งหรืออะไรที่พอจะกินได้ แต่ดันลืมคิดไปว่าตัวเขาไม่รู้วิธีใช้เวทมนตร์ ถ้าอยู่โลกเดิมคงจะบากหน้าแก่ ๆ ไปขอเงินพี่ชายแต่หลุดมาที่แบบนี้หัวเดียวกระเทียมลีบจะไปขอช่วยใครได้ เขาขอลดศักดิ์ศรีใช้เงินมินเนสไปซื้ออะไรลงท้องก่อนแล้วกัน
วันถัดมา
“มินเนส ใช่ที่นี่แน่นะ” หลี่ไป่กระซิบกับมินเนสที่เกาะอยู่บนไล่ข้างซ้าย ภาพเบื้องหน้าคือกำแพงขนาดใหญ่สูงเกือบสองเมตรลวดลายงดงามตั้งโอ่อ่าความยาวของกำแพงเรียกได้ว่าสุดลูกหูลูกตา ป้ายหน้าประตูเขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ว่า 'อะคาเดมี่เซนทรา’
หลี่ไป่นอนคิดเรื่องเควสแรกที่เขาเริ่มเล่นเกม URH จากโลกเดิมคือเข้าฝึกพื้นฐานในอะคาเดมี่เซนทรา เขาพยายามเปิดกระดานหน้าต่างหาเควสของตัวเองแต่กลับไม่พบเควสการเข้าเรียนในอะคาเดมี่เซนทราเลยด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะตัวละครโอกิลวีไม่ใช่ผู้กล้าตามเนื้อเรื่องในเกมแต่ไม่ว่าจะยังไงเขาต้องเข้าไปเรียนวิธีใช้พลังเวทให้ได้จะได้รู้วิธีใช้พลังเสียทีเพราะเริ่มสมเพชตัวเองที่อยู่แบบคนพิการมาตั้งหลายวัน
“ถ้าจำไม่ผิด หยินบอกไว้ว่าให้หา NPC หน้าอะคาเดมี่” หลี่ไป่หันซ้ายหันขวาเพื่อหาใครที่อาจจะเป็น NPC ของอะคาเดมี่
หลี่ไป่พบเข้ากับชายร่างสูงสวมชุดเกราะแถมยังถืออาวุธครบมือดาบข้างเอว หอกยาว คันธนู ประหนึ่งพร้อมออกรบตลอดเวลานึกสงสัยเพียงแค่เขาหนักอาวุธหรือร้อนกับชุดเกราะมากกว่ากัน
‘คนนี้แน่นอน’ หลี่ไป่มั่นใจเต็มร้อยพุ่งตรงไปยังชายคนดังกล่าวด้วยความเร็วค่าสูงสุด 10/100
“ท่านเป็น NPC ใช่หรือไม่ ข้าต้องการเข้าเรียนทีนี่ต้องทำเช่นไร”
“? ”
*NPC ในเกมหมายถึง ตัวละครใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้เล่น โดยปกติในวิดีโอเกมจะหมายถึง ตัวละครที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ผ่านปัญญาประดิษฐ์