เช้าวันหนึ่งในฤดูเหมายันอันแสนหนาวเหน็บ แสงอาทิตย์อ่อนๆ เริ่มทอแสงสีทอง เหล่าวิหคชนิดต่าง ๆ เริ่มโบยบินออกหากินท่ามกลางแสงสลัวๆ กริ๊งงงงงงงงงงงง! เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้นภายในห้องห้องหนึ่ง ที่มีเด็กชายวัยรุ่นกำลังอยู่ในห้วงนิทรา เขาเอื้อมมือมาปิดนาฬิกาเจ้ากรรมที่หัวนอน ก่อนจะลืมตาขึ้น

          “เชี่ยย!! จะสายแล้วนี่หว่า วันนี้วันไปทัศนศึกษาด้วย”  เขาสบทออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับรีบยันกายขึ้นนั่ง ทิ้งความง่วงที่มีอยู่แล้วแทนที่ด้วยความรีบร้อนใจและตะโกนออกมาว่า

          “พัฒน์! ตื่นได้แล้วเดี๋ยวสายโว้ย!!!”  เด็กชายอีกคนที่นอนอยู่อีกด้านของห้องก็ค่อย ๆ ตื่นด้วยความงัวเงียและตอบกลับเสียงตะโกนนั้นไปว่า

          “เออ ๆ กูตื่นละไอภู"  น้ำเสียงที่เปล่งออกมา บ่งบอกได้ถึงความงัวเงียที่มีอยู่เต็มเปี่ยม แต่ก็ต้องฝืนพยายามบังคับร่างกายให้ขยับ

          “เออ วันนี้มึงต้องไปทัศนศึกษานิ ต้องผ่านดงพญาเย็นด้วย เอานี้ไปสิ"  พัฒน์โยนหนังสือขนาดใหญ่เล่มหนึ่งให้กับเขา หนังสือนั้นที่หน้าปกเป็นตัวหนังสือ เขียนเอาไว้ว่า “สัตว์ในตำนานของไทย” พัฒน์พูดต่อด้วยความงัวเงียว่า

          “มึงลองเอาไปอ่านระหว่างเดินทาง จะได้ไม่เบื่อ”

          “เออ ๆ เดี๋ยวกูเอาไปอ่าน แต่มึงจะให้กูอ่านตำนานพวกนี้ตอนผ่านป่าน่ากลัวนั่นจริงดิ?”

          “เผื่อมึงจะหลงป่าไง”  พัฒน์พูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอ

          ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจภู ว่าทำไมถึงเอาหนังสือเล่มนี้ให้ คนกำลังจะเดินทางแท้ ๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะข่าวการหลงป่าก็มีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน อ่านเพื่อเก็บความรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย หลังจากคิดเช่นนั้น ภูก็รีบลุกไปอาบน้ำทันที