เฮียสามอย่าแกล้งน้อง


 

กระจ่างดาว : เขียน


 

เฮียสาม X อัยญ์



 

บทที่ 5



 

ภูเก็ตจ๋า อัยญ์มาแน้ว~~~~




 

“ภูเก็ตจ๋า อัยญ์มาแน้ว~~~~”


 

สามอมยิ้มให้กับภาพที่เห็น คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่พาคนน้องมาด้วย เพราะคนน้องดูจะแฮปปี้กับห้องพักและบรรยากาศเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นห้องแบบดีลักซ์ ซีวิว จึงทำให้มองเห็นวิวทะเลได้เพียงแค่เปิดม่าน ยังไม่นับรวมสระว่ายน้ำที่สุดแสนจะส่วนตัว ทำให้สามไม่ต้องกังวลว่าถ้าเกิดเขาไปทำงาน แล้วคนน้องเกิดอยากจะว่ายน้ำขึ้นมา ก็จะไม่มีใครมองเห็นแน่นอน



 

“หิวไหมไปทานข้าวกันเถอะ”


 

สามเดินเช็กความเรียบร้อยของห้องคร่าว ๆ ก่อนจะเดินมาหาคนตัวเล็กที่เดินออกไปชมวิวด้านนอกห้องแล้วก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปห้องของสามที่อยู่ติด ๆ กัน 



 

“เฮียนอนห้องนี้เหรอ”


 

อัยญ์ชี้ไปยังห้องข้าง ๆ ที่อยู่ติดกัน ห้องที่สามจองเป็นห้องแฝดที่เชื่อมต่อกันทั้งสองห้อง สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ อันที่จริงสามกับอัยญ์สามารถนอนด้วยกันได้ แต่เพราะว่าสามอยากให้ความเป็นส่วนตัวกับน้อง จึงเลือกที่จะจองสองห้องแต่เลือกเป็นห้องที่สามารถเดินหากันได้แทน 



 

“อืม ทำไมเหรอ หรืออยากย้ายไปนอนห้องนั้น”


 

“เปล่า…” สามมองท่าทางที่ดูแปลกไปของคนน้อง พยายามคิดหาเหตุผลมากมายแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ การถามออกไปจึงเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด แต่อัยญ์ก็ไม่ยอมบอก

“ถ้าไม่มีอะไร งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า เฮียจองร้านอาหารไว้แล้ว มีกุ้งเผาด้วยนะ”

“อัยญ์อยากกินกุ้ง~~”


 

คนน้องหน้าตาเป็นประกาย ดวงตากลมวิบวับตอนที่พูดถึงกุ้ง เมนูโปรดอีกอย่างของอัยญ์ สามพาเดินลงไปยังชายหาด ลัดเลาะไปเรื่อยด้วยความที่ร้านอาหารไม่ได้ไกลจากที่พักเท่าไหร่ เดินชิลริมหาดฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งรู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงร้านอาหารที่สามจองเอาไว้แล้ว


 

พนักงานเดินออกมาต้อนรับก่อนจะพาเดินไปยังโต๊ะที่สามจองเอาไว้ สามเลือกจองโต๊ะที่อยู่ในห้องที่สามารถมองเห็นวิวหาดทรายได้โดยไม่มีอะไรมาบัง ตอนแรกสามก็อยากพาคนน้องไปนั่งริมหาดแต่เมื่อมาคิดดู ยิ่งดึกลมก็ยิ่งแรง อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการรับประทานอาหารได้ก็ได้ สามจึงเลือกนั่งด้านในร้านอาหารแต่เลือกมุมที่ดีที่สุดแทน


 

สามและอัยญ์เลือกสั่งเมนูคนละสองสามอย่าง และส่วนมากสามก็เลือกสั่งแต่เมนูที่คนน้องชอบ ไม่ต่างอะไรกับอัยญ์ที่เลือกสั่งแต่เมนูที่สามชอบ


 

รออาหารไม่นาน อาหารที่สั่งเอาไว้ก็มีพนักงานนำมาเสิร์ฟ อัยญ์ดูจะตื่นเต้นกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะกุ้งเผาตัวโตที่สามสั่งมาให้แบบไม่กั๊กเพราะรู้ว่าเป็นเมนูที่น้องชอบเอามาก ๆ สามจัดการแกะกุ้งตัวโตจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดให้เหมือนอย่างเคย มองดูเด็กตัวเล็กที่เคี้ยวด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะจิ้มหมึกย่างป้อนคนพี่กลับไปบ้าง ทั้งคู่ผลัดกันป้อนไปมาจนอาหารที่สั่งมาหมดลงอย่างรวดเร็ว 



 

“เฮีย อัยญ์อยากไปเดินเล่นอ่ะ”

“ไปสิ”

“ซื้อน้ำมะพร้าวไปด้วยได้เปล่าครับ”


 

อัยญ์เอ่ยถามทำหน้าเหมือนเขินนิด ๆ เพราะเพิ่งบ่นไปหยก ๆ ว่าอิ่มจนไม่อยากเดิน สามอมยิ้มก่อนจะเดินไปซื้อน้ำมะพร้าวให้โดยไม่ได้ว่าอะไร ไม่นานน้ำมะพร้าวน้ำหอมลูกใหญ่ก็อยู่ในมือสาม สามอาสาถือให้เพราะไม่อยากให้น้องมือเปื้อน มองดูคนน้องที่ก้มลงดูดน้ำมะพร้าวในมือ ใบหน้าหวานยิ้มระรื่นตอนที่ดูดเสร็จ


 

ความน่ารักเป็นธรรมชาติทำให้สามลืมรอบข้างไปชั่วขณะ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนน้องตะโกนเรียกเมื่อเห็นว่าสามไม่เดินตามไปเสียที



 

ทั้งคู่ใช้เวลาเดินเล่นไม่นานมากนัก เพราะสามเห็นว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างจะดึกรวมกับการเดินทางอาจจะทำให้คนน้องอ่อนเพลียได้ จึงอยากให้เวลาได้พักผ่อน เขายังอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน ถ้าเสร็จงานเมื่อไหร่ค่อยพาคนน้องไปเที่ยวเล่นให้หายเบื่อก็ไม่สาย

สามกับอัยญ์พากันกลับมาที่ห้องพัก ก่อนที่จะแยกกัน สามไม่ลืมกำชับว่าถ้าหากมีอะไรก็สามารถเดินไปหาเขาที่ห้องได้ และพอได้ยินแบบนั้นคนน้องก็ถึงกับหน้าถอดสี ถึงแม้ว่าสามจะเป็นห่วงแต่ในเมื่อคนน้องไม่พูดเขาก็ไม่ดึงดันที่จะถาม พร้อมกับแยกย้ายกันทันที



 

สามกลับเข้ามาที่ห้อง จัดการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ใช้เวลาไม่นานร่างสูงก็เดินก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่พันไว้ที่เอวหนาอย่างหมิ่นเหม่ มือหนาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกซกขณะที่เดินมาที่เตียง ก่อนจะงงงวยกับภาพของอัยญ์ที่อยู่ในชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวนั่งกอดหมอนอยู่ที่ปลายเตียง ใบหน้าราวกับแมวน้อยขี้อ้อน



 

“คืนนี้อัยญ์นอนกับเฮียได้ไหมครับ…”


 

“...”


 

“อัยญ์กลัวคุณแคสเปอร์”