Chapter 17 พบครอบครัวในฐานะพี่สาว

 

บรรยายอึมครึมเล็กน้อย โฟร์คิดว่าการมากินข้าวกับครอบครัวแฟนสาวครั้งแรก ถึงจะแบบสวมรอยก็ตามไม่ควรจะเป็นแบบนี้ เธอจึงช่วยคลายบรรยากาศลง

“ได้ข่าวว่าน้องเข้าไปช่วยงานคุณอา เป็นยังไงบ้าง” โฟร์แอบป้องปากฟ้องบิดาของแฟนสาว “มีคนไปบ่นให้น้องชายหนูฟังนะคะว่าฝึกโหดมาก”

“...” เมเปิลเผลอฟาดมือลงแขนคนพี่ด้วยยังส่งสายตาดุ

คนพ่อมองลูกสาวในจังหวะเดียวกับหญิงสาวตีอีกคนอย่างสนิทสนม “เมเปิลไปตีพี่เขาแบบนั้นได้ไงลูก ถึงพี่เขาจะเป็นพี่สาวเพื่อนสนิทหนู มันไม่สุภาพนะ” คนเป็นพ่อติงในพฤติกรรมของบุตรสาว

เธอเพิ่งเอะใจในการกระทำของตัวเองจากคำดุของบิดา ด้วยความคิดว่าคนพี่คือคนรัก จนลืมไปว่าสถานะของสองเรายังไม่เปิดเผย ทำแบบนี้มันดูไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย “ค่ะพ่อ พี่โฟร์เมลขอโทษค่ะ”

โฟร์รีบค้อมตัวรับ ยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บสักนิด ซี้ด...” หญิงสาวแกล้งสู้ดปากหยอกล้อคนน้อง วางมือบนหัวยี้ด้วยความเอ็นดู “โฟร์เลี้ยงดูเมเปิลมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะคะ จะไม่สนิทกันได้ไงคะ”

“...” คนอายุน้องสุดพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดแฟนสาว ช้อนตามองบิดาตัวเอง

“เอาเถอะ สนิทกับพี่เขาแค่ไหนเราเองก็ไม่ควรทำแบบนั้นนะลูก กินข้าวกันเถอะเดี๋ยวกับข้าวเย็น” ผู้เป็นแม่ช่วยคลายความตึงเครียด “โฟร์เองก็อย่าตามใจน้อง”

“ค่ะคุณอา”

“พอแล้วกินข้าวกันเถอะ” ชายคนเดียวกวักมือให้มาจดจ่อกับอาหารตรงหน้า “นี่หนูโฟร์ทานอันนี้ลูก เมลตักให้พี่เขาสิ” ชายวัยกลางคนเลื่อนจานปลาหิมะนิ่งซีอิ๊ว “กินเยอะนะ”

“ขอบคุณค่ะคุณอา คุณอาทานด้วยนะคะ” โฟร์เองตักชิ้นปลาให้พ่อและแม่ รวมถึงแฟนสาวของตัวเอง

“ขอบใจจ้ะ” แม่ของเมเปิลยิ้มรับกับความผู้ใหญ่ รู้จักกาลเทศะและการวางตัวอย่างเหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับแต่ละคนได้อย่างดี ไม่ว่าจะสามีเธอ ลูกสาวเธอ สมแล้วคือหนึ่งในทายาทตระกูลดัง รวมถึงการได้รับมอบธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย

โฟร์ถือโอกาสอ้อนแม่ของแฟนสาว “คุณอาทั้งสองเลี้ยงเมเปิลออกมาได้ดีมาก ๆ เลยนะคะ โฟร์เองได้ยินคำชมจากหลาย ๆ ที่ว่าน้องทำงานเก่งและเข้าใจความต้องการลูกค้าเป็นอย่างดี โฟร์เองถือว่าน้องต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากคุณอาแน่เลย แล้วน้องตอนเด็กเป็นยังไงบ้างคะ เล่าให้โฟร์ฟังหน่อยค่ะ”

คนเป็นพ่อเป็นแม่เมื่อมีคนลูกตัวเองว่าเก่ง ยิ้มหน้าบาน และต่างพากันเล่าถึงเรื่องราวความน่ารักในครั้นเมเปิลยังเป็นเจ้าตัวน้อยของพวกเขา และที่ทั้งสองขาดไม่ได้เลยคือความกินเก่งและกินเก่งมาก ๆ แถมยังตบท้ายด้วยว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน พลังงานล้นเหลือ

 

อาหารมื้อนี้กินเวลาร่วมสามชั่วโมงในการรับประทานรวมถึงการพูดคุยอย่างสนุกสนาน ทั้งหมดพากันเดินออกมายังนอกร้าน

“คุณอาค่ะ ถือเป็นการตอบแทนสำหรับอาหารมื้อนี้ให้โฟร์พาน้องไปส่งที่คอนโด” โฟร์เอ่ยถามในขณะที่ทั้งสามคนกำลังจะไปขึ้นรถของทางครอบครัว

“โฟร์เองรู้จักคอนโดของน้องเหรอ”

หญิงสาวชะงัก เธอน่ะรู้ดีมากด้วยซ้ำที่เอ่ยปากขอไปส่ง ใจจริงจะพาตัวไปคอนโดตัวเองมากกว่า เมเปิลยกตามองคนพี่ว่าจะลื่นไหลยังไง

“ให้น้องบอกก็ได้ค่ะ โฟร์เดาว่าคงอยู่ใกล้ที่ทำงาน ยังโฟร์ก็มีคนขับรถให้อยู่แล้ว สบายมากเลยค่ะ”

คุณพ่อปรายตามายังบุตรสาวตัวเอง “เอาไงล่ะเรา ให้พ่อไปส่งหรือกลับพร้อมพี่เขา”

เจ้าแก้มกลมหันไปสบตาแฟนสาวตัวเอง “ไปกับพี่โฟร์ก็ได้ค่ะ พ่อจะได้ไม่ต้องวนรถกลับมา” หากมองไปถึงในจิตใจแทบจะออกมากระโดดโลดเต้น ...ใครจะไม่อยากอยู่กับแฟนกับตัวเองล่ะพ่อถามมาได้

“งั้นพ่อไปล่ะ ฝากน้องด้วยนะหนูโฟร์”

“แม่ฝากด้วยนะ”

“ได้ค่ะ โฟร์จะรักจะเอ็นดูและดูแลให้อย่างดีเลยค่ะ” หญิงยิ้มและตอบกลับด้วยหน้าตายด้านราวกับที่พูดคือเรื่องปกติ

เมเปิลใบหน้าเห่อแดงคนพี่เล่นบอกรักเธอกับพ่อและแม่ “สวัสดีค่ะพ่อกับแม่” พลันประตูรถปิดและรถเคลื่อนตัวออกไป ตวัดสายตามามองคนพี่ มือบางขยับไปบิดเอวคนด้านข้าง

“โอ๊ย!!...” โฟร์เอี้ยวตัวหลีกหนี คว้ามือคนน้องมาจูบ “คิดถึงจังเลยค่ะ”

คนพี่จับจูงมือคนน้องไปขึ้นรถของตัวเอง ทันทีประตูปิด กดร่างบางแนบกับเบาะบดจูบด้วยความคิดถึงและโหยหาคนรัก เมเปิลเองเผยอปากรอรับเรียวลิ้นของคนพี่ คนน้องตวัดลิ้นเกี่ยวพัน มือข้างหนึ่งสอดประสานกับมือบาง มืออีกข้างโอบคอกอด ริมฝีปากทั้งสองผละออกจากกันหอบหายใจ สบสายตาซึ่งกันและกันแนบริมฝีปากกันอีกรอบ ความเร่าร้อนและหิวกระหายก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนหวานชื่นพวกเธอทั้งสองค่อย ๆ เล็มเลียชิมริมฝีปากกันและกัน สัมผัสแสนหอมหวานในการตกหลุมรักใครสักคนมันทำให้หัวพองโตราวกับเวลาได้หยุดลง มีเพียงแค่พวกเธอสองคน รวมถึงบรรยากาศอมชมพูฟูฟองอบอวลของพวกเธอทั้งสอง

โฟร์แตะหน้าผากของเธอกับคนน้อง “คิดถึงกันบ้างไหม”

เมเปิลกดกระแทกในสิ่งที่พวกเธอแนบกันอยู่เบา ๆ “เมลบอกอยู่ทุกวันนิค่ะว่าคิดถึง”

โฟร์กดหอมแก้มแฟนสาว “กลับบ้านเรานะคะ” เธอปรับท่าทางให้แฟนสาวนั่งไปยังให้สบายตัว จากนั้นลดกระจก “เป้ไปขับรถกลับคอนโด” เป้ที่ยืนให้ยุงตอมอยู่นาน ในใจแทบกรีดร้องขึ้นมาทันที ...ยุงกัดมันคันนะครับเจ้านาย

 

เมเปิลใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของคนพี่ ตื่นเช้าไปทำงาน เย็นกลับมากินข้าวด้วยกัน มีเซ็กส์ และนอนหลับไปด้วยกัน วันคืนหวานชื่นถูกจำกัดเพียงในห้องคนพี่ เมื่อออกไปข้างนอกพวกเธอคือพี่สาวเพื่อนและเพื่อนน้องชาย โฟร์ยังตึง ๆ ในสถานะนี้ แต่ยอมเพื่อความสบายใจของอีกฝ่าย ยิ่งเวลามีหนุ่ม ๆ มาตามจีบ ทำได้เพียงส่งสายตาปราม ส่วนคนน้องวางตัวได้น่ารักสมกับที่เธอไว้ใจเช่นกัน ส่วนเธอหลังจากเปรยไว้ว่ากำลังมีคนคบหาดูใจเพียงแค่เขาไม่ต้องการแสดงตัว ลดการเข้ามาของผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ยังมิวาย

 

อย่างเช่นวันนี้มีนักธุรกิจสาวเสนอตัวต้องการร่วมลงทุนกับสายการบินวัชรแอร์ไลน์ ด้วยปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว อีกฝ่ายยังมีข้อเสนอของร่วมลงทุนในวัชรแอร์ไลน์ จนเธอทนไม่ไหวและยอมเจอจะได้จบ

เจสสิก้าหญิงสาวลูกครึ่งสิงคโปร์-อเมริกัน หนึ่งในคู่แข่งธุรกิจของหญิงสาว ในวันที่เครื่องบินของวัชรแอร์ไลน์ไถลไปกับรันเวย์ เจสสิกาเดินทางมาท่องเที่ยวกำลังรอรถแท็กซี่เพื่อไปยังโรงแรมโฟร์เองก็เช่นกัน ในจังหวะกวาดสายตาดูสิ่งรอบกาย พบว่าหญิงสาวดังกล่าวกำลังมองมา เธอจึงได้ยิ้มตอบกลับไปด้วยมารยาท และด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวจึงตกหญิงสาวคน แต่นั่นยังไม่เพียงพอเมื่อโฟร์เห็นการกระทำของผู้ชายด้านข้างกำลังหยิบบางอย่างจากกระเป๋าสะพาย ก้าวขยับโอบเอวไปจับมือชายคนนั้นส่งสายตาเตือนในการกระทำ และจับยัดสิ่งนั้นกลับลงที่เดิม พร้อมค้อมตัวขออภัยและถอยห่างออกมา

หญิงสาวเจสสิกาประทับใจในความช่วยเหลืออย่างมาก ได้กล่าวขอบคุณพร้อมทั้งเสนอตัวขอเลี้ยงข้าวตอบแทน และเธอได้ปฏิเสธและขอตัวแยกออกมา นั่นมันควรจะแค่นั้นถ้าหากบังเอิญอีกรอบว่าได้เจอกันที่โรงแรม เมื่อหลบหนีไปพ้นจึงเหลือเพียงแค่กาแฟเท่านั้น เพราะความบังเอิญสองรอบจึงมีบางคนทึกทักว่ามันคือพรหมลิขิต เจสสิกาจึงเดินหน้าจีบเธอนับตั้งแต่นั้น

 

โฟร์เดินทางมาที่ร้านอาหารเรือนไทยติดกระจกสองชั้น ปกคลุมร่มรื่นด้วยแมกไม้นานพันธุ์ ล้อมรอบด้วยสระบัวและมีเรือไว้รองรับการพายเล่น เธอเดินไปยังชั้นบนยังห้องที่มีทำการจองโดยอีกฝ่าย โฟร์ยกแบบธุรกิจอย่างที่มักจะทำอยู่บ่อย

“Hello , Four” หญิงสาวลุกออกจากโต๊ะมากอดทักทาย

คนที่มีแฟนแล้วยึดตัวแข็งใช้มือสองข้างจับไหล่อีกฝ่ายดันตัวออก “สวัสดีค่ะ” และหนีไปนั่งฝั่งตรงข้าม สายตามองไปยังกลุ่มคนเดินเข้ามาใหม่ ชายหนุ่มหน้าตาคุ้น ๆ และเกลียดขี้หน้าอย่างมาก และเธอเดาว่าคนรอบข้างคือคนในครอบครัวชายหนุ่ม

“มองอะไรคะ! คนรู้จักเหรอ” เจสสิก้าถามเธอ

“ใช่ค่ะ คนที่กำลังอยู่ในความสนใจพอดี” โฟร์ตอบพร้อมเหยียดยิ้ม

คนที่โฟร์หมายถึงคือชายหนุ่มแต่เจสสิก้ามองคือหญิงสาวร่างบางเดินหลังสุด เธอขยับเก้าให้มาบังสายตา “เรื่องที่เจสสิก้าสนใจจะมาร่วมลงทุนกับทางวัชรแอร์ไลน์ ทางนี้ยินดีตกลงแล้วใช่ไหมคะ”

“ทางเราขอขอบคุณที่ทางเจสแอร์ที่เล็งเห็นศักยภาพ แต่ในส่วนทางนี้ต้องนำของเสนอนี้เข้าที่ประชุมก่อนนะคะ ถึงจะให้ข้อสรุปในเรื่องนี้ได้”

เจสสิก้าปูไต่จนทาบทับมือหญิงสาว “หรือว่าเราสองคนจะมาร่วมเปิดสายการบินด้วยกันดีกว่าไหมคะ ไม่ต้องรอผ่านที่ประชุมเลย แต่ทำข้อตกลงระหว่างสองเราเท่านั้นเอง”

โฟร์วางมือทาบทับมือหญิงสาวด้านบน ก่อนจะดึงมือด้านล่างออกตามด้วยมือด้านบน “คงไม่ละคะ ความคิดนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวเลย แค่นี้ก็ยุ่งมากเลยอยากใช่เวลาว่างที่มีทั้งหมดร่วมกับคนรัก” ตอบคำถามจบเธอปรายตาไปมองคนอีกฝั่งห้อง หยิบโทรศัพท์มาบันทึกภาพวิดีโอไปตลอด

“แต่ถ้าโฟร์เองยอมมาเป็นแฟนกับเจส เราก็ได้ใช้เวลาร่วมกันสิคะ” คนขยันอ่อยยกมือเท้าแก้มมองหน้าเธอด้วยท่าทางยั่วยวน

“ยังยืนยันคำตอบเดิมค่ะ ทานอาหารกันกว่า” เพื่อตัดจบบทสนทนาก่อนจะลุกไล่ไปมากกว่านี้

หญิงสาวลูกครึ่งตัดอาหารใส่จานของอีกคน หญิงสาวเลือกจะปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นและตักเองมากกว่า ยิ่งสร้างความอยากเอาชนะใจผู้หญิงมากขึ้น เพราะด้วยสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมาเธอเองยังไม่หลักฐานยืนยันว่าคนนั้นมีตัวตนจริงเหรอไม่ หรือต้องการกันเธอออกไปเท่านั้น

“โฟร์ใจแข็งจังเลยนะ ขอแค่โอกาสยังไม่ยอมเจสเลย เราคบกันน่ะมันวินวินทั้งคู่นะ ธุรกิจเดินความสัมพันธ์ดี”

“...” เธอยกยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ โฟร์มองว่าคนที่เอาเรื่องธุรกิจมาสร้างความสัมพันธ์ แล้วถ้าหาวันไหนความสัมพันธ์จบลง ธุรกิจมันจะเดินต่อไปยังไง แต่สำหรับเธอนั้นไม่ผลอยู่แล้ว แต่ต่อให้เสนออะไรมาอีกก็ไม่สนเพราะใจนี้มีเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครอง การเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยผลประโยชน์ไม่ควรให้ค่า

โฟร์เองอยากลุกออกไปหลังจบบทสนทนาแล้ว แต่ด้วยที่เธอต้องการเฝ้ามองอีกคนจึงยอมอยู่ร่วมทานอาหารร่วมกับหญิงสาวต่อ จนเวลาล่วงเลยและอีกฝั่งโต๊ะอาหารลุกเดินไปยังด้านนอก โฟร์จึงกล่าวของตัวจบการร่วมทานอาหารมื้อนี้

“หวังว่าแผนการร่วมลงทุนของเราคงจะไม่ถูกปัดตกไปพร้อมกับความสัมพันธ์ของเราด้วยนะคะ” น้ำเสียงอย่างอ้อนวอน

“ไม่เป็นแบบนั้นแน่นอนค่ะ ถ้าการพูดคุยครั้งนี้ไม่มีอะไรแล้ว ต้องขอตัวนะคะมีเรื่องต้องให้จัดการค่ะ”

โฟร์ลุกขึ้นยืนยื่นมือออกไป

เจสสิก้ายื่นมือไปสัมผัส “แล้วพบกันใหม่พร้อมกับข่าวดีนะคะ”

“แล้วพบกันใหม่ค่ะ”

โฟร์เดินออกมายืนมองสองหญิงหนึ่งชายกำลังร่วมกันถ่ายรูป พบสบตากับคนที่เธอเกลียดขี้หน้า ไอ้คนที่มันบังอาจแย่งชิงน้องรัก และยังได้ความรักจากน้องรักอย่างมากมาย เธอยกยิ้มอย่างเยือกเย็นตามด้วย ยกนิ้วขึ้นมาปาดคอตัวเอง และโบกมือลา

 

ขาเรียวยาวก้าวขึ้นรถยนต์และออกคำสั่งทันที “ไปหาไนน์ที่บริษัท” ทันทีรถหยุดสนิทเธอรีบก้าวลงอย่างรวดเร็ว เดินแวะไปยังห้องของน้องรัก แต่ก็ไม่พบความน่ารักในนั้นจึงคิดว่าน่าจะอยู่ร่วมกับใครอีกคน

ก๊อก ๆ มือดันประตูเข้ามาพบภายในน้องชายที่เฝ้าตามหามาอยู่นี่เอง “สวัสดีค่ะปู่ คนดีอยู่นี้เอง เค้าไปหาที่ห้องไม่เจอ ว่าแล้วต้องอยู่นี่” สองมือยกมือไหว้ปู่ก้าวไปนั่งเคียงข้างน้องชายสุดรัก และเพิ่งรับรู้ว่ามีบุคคลที่สามอยู่ด้วย “อ้าวน้าเบญอยู่ด้วยเหรอ สวัสดีค่ะ”

“อืม” เสียงรับไหว้อย่างไม่เต็มใจ เวลามีหลานคนเล็กของบ้านอยู่ด้วยไม่ว่างจะส่วนไหน ทุกคนแทบจะไม่รู้ว่าเธอมีตัวตนมองข้ามไปทันที

ชายชราวัยเจ็ดสิบห้าปี ยกชาขึ้นมาจิบ “แล้วเรามาทำไม งานการไม่ทำ”

“เพิ่งไปทานข้าวกับคนที่จะมาร่วมลงทุน” น้ำเสียงออกไปทางหงุดหงิด ...ปู่น่ะจะขัดอะไรตอนนี้ใช่เวลางานไหม... “แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ ไนน์เค้ามีเรื่องจะฟ้อง” เสียงออดอ้อนตามด้วยมือล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋า

“หือ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น

“นี่ไง” โฟร์พูดพลางเปิดแกลลอรีภาพถ่ายให้น้องชายดู “มันแอบไปกินข้าวกับว่าที่คู่หมั้น นี่ไงมีป้อนกันด้วย”

“...” เขารับโทรศัพท์มาดู นิ้วของโฟร์เลื่อนให้เขาดูรูปที่มีคนสองคนป้อนอะไรกันสักอย่าง และในรูปแม้จะดูไกลไปหน่อย ไนน์เองมั่นใจว่าคนนั้นคือพี่ซันแฟนหนุ่มของเขา

“เรายังไม่เลิกหวงน้องชายอีกเหรอ” เสียงที่ติดตลกของน้าสาวแทรกมา ปู่และโฟร์เงยหน้ามามองตามเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เรื่องนี้เบญไม่ยุ่งดีกว่า ขอตัวนะคะ” น้าสาวยกมือยอมแพ้และเดินออกไปจากห้อง

“ไหนเอามาดูซิ” ปู่แบมือขอโทรศัพท์ ไนน์ที่กำลังดูอยู่ต้องยื่นให้ปู่ “ทำขนาดนี้มันหักหน้าปู่ชัด ๆ ทีตอนนั้นพูดอีกแบบ แต่ทำอีกแบบ” น้ำเสียงกดต่ำอย่างไม่พอใจ

“ใช่ปู่ ออกคำสั่งห้ามมาใกล้น้องเลยไหม คนของโฟร์พร้อมแล้ว” น้ำเสียงแสนจะแข็งขัน

“แล้วเรารู้เรื่องนี้หรือเปล่า ที่เขามีว่าที่คู่หมั้น” ปู่หันมาถามหลานชาย

ไนน์กำลังจะอ้าปากตอบ โฟร์แทรกขึ้นมาทันที “นี่มีรูปลงเน็ตแล้วนะ เขาประกาศแล้วว่าเขาคือคู่หมั้นกัน” เธอรีบเปิดรูปที่หญิงสาวโพสต์รูปคู่กับแฟนเขา พร้อมกับประกาศว่าทานข้าวกับครอบครัว แต่ข้างหลังมีรูปเป็นแหวนเพชรเม็ดเล็กตามหลัง คนรู้จักและเพื่อนสนิทของหญิงสาวเข้ามาแสดงความยินดี และส่งข้อความแซวอย่างน่ายินดี

ยินดีด้วยนะ ขอตีมหน่อยจะตัดชุดรอ

อิจฉาเพื่อนสาว หนีไปอีกคนแล้ว ยินดีด้วยนะ

ในที่สุดก็เปิดตัวสักที นี่ลุ้นมาตั้งนาน ยินดีนะเพื่อนวีว่า

หัวปีท้ายปีนะ อ้าวลืมไป ยังไม่ได้แต่ง อิอิ

และอีกหลายข้อความมากมาย เขารับมาอ่านแต่ข้อความบน ๆ ที่พอจะมองเห็น แต่ไม่กดเข้าไปอ่านเพิ่ม เขาส่งโทรศัพท์คืนโฟร์ไป ไนน์เม้มปาก เขาคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะตอบปู่ยังไง เขารู้เรื่องว่าหญิงสาวคือว่าที่คู่หมั้นที่ทางบ้านซันจับคู่ไว้ตั้งนานแล้ว เขารู้สึกเจ็บจี๊ดตรงอกข้างซ้าย ลมหายใจมันจุกไปหมด ทั้งที่รับรู้อยู่แล้วมันก็อดรู้สึกไม่ได้ รูปคู่ที่ด้านหลังเป็นสระบัว ดูเหมาะสมกันดีเนอะ

พอไม่ได้รับคำตอบจากหลานชาย เขาและหลานสาวที่นั่งมองอยู่เห็นคนโปรดของพวกเขาเงียบลง นั่งนิ่ง แม้แต่เสียงสั่นจากโทรศัพท์ที่ดังอยู่โต๊ะตรงหน้ายังไม่รับรู้เลย

“ไนน์ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เหมือนจะมีงานค้างอยู่” พอพูดจบเขาก็เดินออกมาทันที เขาไม่ต้องการให้ใครคาดคั้นอีก เพราะเขาก็ไม่รู้จะตอบยังไง

“ปู่ โฟร์ไปดูน้องก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เธอไม่เคยเห็นน้องอยู่ในอารมณ์นี้เลย พอน้องหนีออกไป เธออยากจะตามไปดูแล

“ไม่ต้องไป” ปู่สั่งเสียงเข้ม

“ปู่คะ โฟร์เป็นห่วงน้อง” น้ำเสียงอ่อย

“เดี๋ยว! ปู่ก็ห่วง แต่ไปตอนนี้เราทำอะไรได้ มีเรื่องต้องจัดการก่อน รับสายแทนไนน์ก่อน” ชายชราบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และชี้ไปที่โทรศัพท์ของหลานชายที่ทิ้งไว้

[ไนน์ครับ] เพียงแค่แตะรับสาย ซันพูดแทรกมาเลย

“ไม่ใช่ โทรมาทำไม!” เธอตอบน้ำเสียงไม่พอใจ

[ผมขอคุยกับไนน์หน่อยครับ ผมจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไนน์ฟังครับ]

“...”

[ตอนนี้ผมอยู่ข้างล่าง ให้ผมอธิบายให้ไนน์ฟังจากปากผมเองได้ไหมครับ]

โฟร์ทำปากบอกปู่ว่าตอนนี้ อยู่ข้างล่างแล้ว เจ้าสัวตอบกลับทันทีว่า “บอกคนของเราไล่กลับไป”

“คงได้ยินแล้วนะ นายไปจัดการเคลียร์ตัวเองก่อนเถอะ พวกฉันเคยบอกไว้ว่ายังไง”

[แต่ผม...]

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น แล้วทำไมคนอย่างฉันต้องมาพูดดี ๆ แบบนี้กับแกด้วยวะ” เสียงโวยวายใส่ปลายสาย หญิงสาวงงตัวเองเหมือนกัน ถ้าแบบเมื่อก่อนนี้ เวลาที่มีใครที่จะทำให้น้องเสียใจ เธอจะไม่มาช่วยเหลือไอ้มนุษย์ตัวนั้นเลย กลับดีใจด้วยซ้ำ คอยเข้าไปปลอบน้อง และให้ลูกน้องไปจัดการแทน แต่เห็นอาการน้องชายสุดที่รักเลยใจอ่อนช่วยมันซะงั้น หลังจากพูดจบกดวางสาย

“ช่วงนี้สั่งคนของเราจับตาดูทางนั้นด้วย อย่าเพิ่งให้มาใกล้ไนน์จะเป็นข่าวได้” เสียงที่ทุ้มนุ่มที่เจือปนอำนาจสั่งการออกมา ก่อนจะลดลงเป็นเสียงที่เบาบางปนความห่วงใย “คอยดูอยู่ห่าง ๆ ก่อน และบอกเจ้าพวกนั้นด้วย อย่าเข้าไปกวนอารมณ์น้องช่วงนี้”

“ค่ะ โฟร์จะรีบจัดการให้” หลานสาวรับคำสั่ง และหยิบโทรศัพท์ออกมาสั่งการลูกน้อง พร้อมกับส่งข้อความไปหาลูกพี่ลูกน้องอีกทีด้วย

ลุกขึ้นหมุนตัวเดินออกไปจากห้องของประมุขของบ้านโดยลืมว่าลืมบอกลาด้วยซ้ำ ก้าวเดินไปยังลิฟต์ลงชั้นหนึ่งพบชายหนุ่มคนดังกล่าวกำลังให้ประชาสัมพันธ์พยายามต่อสายหาน้องชายเธอ

“ไม่ต้องโทรขึ้นไป!” เสียงกดเข้มจากหญิงสาวที่เดินออกมาจากลิฟต์ บุคคลทั้งหมด รวมทั้งซันที่อยู่ตรงนั้นหันไปมองคนที่เดินมาพร้อมผู้ติดตามอีกสองคน “กลับไปซะ! อย่าให้ฉันต้องจับโยนออกไป!”

ชายหนุ่มร่างสูงยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร หนึ่งในชายชุดสูทสีดำผายมือไปยังทางออก “เชิญครับ”

โฟร์สั่งให้บอดี้การ์ดประจำกายให้ไล่มันออกไป พอเธอเห็นว่ารถของชายหนุ่มออกไปแล้ว ส่วนเธอมุ่งหน้ากลับไปร้องงอแงกับคนรัก รถยนต์สองคันขับมาจอดเทียบเคียงในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอลงจากรถไปยืนรอรับและเดินร่วมทางไปห้องรังรักของเราด้วยกัน

“มีอะไรเหรอคะ เมลเห็นพี่หน้างอมาก ๆ เลย ไหนลองเราให้แฟนคนนี้ฟังหน่อย” เมเปิลปีนขึ้นมานั่งตักจูบจมูกอย่างปลอบโยน

โฟร์โอบเอวสูดกลิ่นกายคนรักจูบซอกคอ “ไอ้คนที่พี่เกลียดขี้หน้าและวันนี้มันยิ่งทำให้พี่เกลียดเพิ่มอีก”

หญิงคนร่างบางกลอกตาในอาการและเดาออกว่าคนที่พูดถึงคือใคร “เล่ารายละเอียดให้เมลฟังหน่อยค่ะ” เธอแตะหน้าผากขยี้คลายตรงระหว่างคิ้ว “หน้ายุ่งหมดแล้วค่ะที่รัก ระบายมันออกมานะ แล้วเมลจะได้ปลอบ”

ร่างโปร่งเงยหน้าไปจูบปากคนรัก “พี่เจอมันไปกินข้าวกับว่าที่คู่หมั้นมัน ป้อนข้าวป้อนน้ำอย่างกะตัวเองพิการแขนขาดทำอะไรเองไม่เป็น แล้วมันยังจะมีหน้ามาหาคนดีของพี่ที่บริษัท เพื่อต้องการอธิบาย” ใบหน้าบิดเบี้ยวเย้เกในการเล่า

“...” เมเปิลจ้องหน้าหญิงสาวที่เล่าได้ออกรสออกชาดมาก ๆ

“อธิบายเชี่ยไร ทำผิดเห็น ๆ มันคบอยู่กับไนน์ยังกล้าไปกินข้าวกับคนอื่น แล้วไปกินกับแบบสองครอบครัวชู้ชื้น แม่งน่าจะลากไปกระทืบชะมัดเลย” มือที่โอบเอวคลายออกมานวดกำปั้นแทน

ร่างบางแตะนิ้วที่จมูก “แล้วไนน์ว่าไงมั้งค่ะ”

“อันนี้พี่สะใจ ไนน์ไม่สนมันเลย โทรศัพท์ก็ว่างทิ้งไม่สนใจ พี่ว่าเรื่องนี้ไนน์ไม่ใจอ่อนแน่ ๆ แล้วหนูเมลจะช่วยปลอบพี่ยังไงคะ” โฟร์กลับมาโอบเอวดังเดิม รั้งให้มาแนบชิด ซุกใบหน้ากับเนินอกอันอวบอิ่มไล่ขบเม้มลงต่ำ

“อื้ม...มะ เมลยังไม่ได้อาบน้ำนะคะ อือ...”

“ไม่อาบก็หอมค่ะ พี่หิวของกินนมก่อนไปอาบน้ำ อื้ม...แล้วกินหนูต่ออีกได้ไหม จ๊วบ จ๊วบ ๆ ๆ “เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายเลอะระหว่างดูดเต้านม

“อ้า...พี่โฟร์ขา มะ เมล สะเสียว...”

เสียงร้องครวญครางของคนรักรวมถึงความวาบหวิบในบรรยากาศจนโฟร์เผลอลืมบอกเรื่องสำคัญของตัวเอง

TBC...

-----------------------------------------------------------------------------------

ทีคนอื่นจะมาจีบคนสำคัญของตัวเอง หวงไปหมด ทีของตัวเองนะ อิแม่จะแจ้ง จะแจ้ง