Chapter 1 เพื่อนพวกกูใครห้ามหยามเกียรติ

หญิงสาวในเสื้อชอปวิศวกรรมยานยนต์ นั่งจดจ่อกับอาหารการกินรวมถึงของหวานตรงหน้า เธอสามารถออกมากินสิ่งที่ชื่นชอบคนเดียวโดยไร้เพื่อน เพียงสิ่งนั้นคือของหวานเมนูใหม่ของร้าน นั่งเพียงไม่นานมาเสียงโทรศัพท์เข้ามาจากน้องน้อยในกลุ่ม

“ว่าไงคะน้องวี”

[เมลเปิลอยู่ไหน วีมาถึงแล้วนะ] เสียงปลายสายติดไปทางงอแงและงุนงง

“อ้าว ไหนว่าไม่ว่างต้องไปกับพี่หนึ่งไม่ใช่เหรอ” เธอตอบกลับในขณะเดียวกับตักไอศกรีมรสสตอเบอร์รีเข้าปากด้วยความสงสัย

[ตอนแรกก็ว่าจะไปแต่พี่หนึ่งยังติดประชุมอยู่ เลยให้พี่ภพมาส่ง เราวีกลัวเมเปิลเหงาที่ต้องกินคนเดียว]

“น่ารักจังเลย...ขึ้นมาชั้นสองอยู่ร้านอยู่ทางประตูด้านหน้าห้าง แล้วน้องวีจะกินอะไร ให้เมลสั่งไว้ให้ไหม”

[ไม่เอา เรามาแย่งเมลเปิลกินดีกว่า]

“ได้เลยจร้า...”

หลังจากวางสายหญิงสาวยกยิ้มพลางหัวเราะให้ลำคอในความน่ารักของเจ้าเพื่อนตัวน้อย โดยหารู้ไหมว่าในทุกอิริยาบถนั้นอยู่ในสายตาชายหนุ่มทางด้านข้างที่เขากำลังเดทกับหญิงสาว

เมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวพบว่าชายหนุ่มของเธอนั้นไม่ได้มีความสนใจเธอแม้แต่น้อยกลับมองไปยังผู้หญิงคนอื่น เธอถึงกลับชักสีหน้าไม่พอใจ แต่จะโวยวายก็รู้สึกว่าจะเสียหน้า

แต่ไม่นานนักก็มีชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก ท่าทางซุกซนเหมือนกระต่ายตัวน้อย ๆ เดินเข้ามาร่วมโต๊ะกับหญิงสาวคนดังกล่าวเธอถึงเบาใจ มันเป็นเพียงครู่เดียวเธอพบว่าชายหนุ่มคนนั้นคือ ชายที่ครอบครองหัวใจหลานชายคนโตของตระกูล ศิริกิจวัชรโชติ

“ชวนเรามาเดท แต่เธอกลับมาโต๊ะนั้นไม่วางตาเลยนะ เรายังมีตัวตนอยู่ไหม” น้ำเสียงถามด้วยความราบเรียบเพราะเธอเข้าใจนิสัยของชายหนุ่มตรงหน้าว่ามีนิสัยอย่างไร

“อันนี้แล้วแต่เธอเลย แล้วมื้อนี้เราจ่ายให้แล้วกัน”

“...” เธอไม่กล่าวอะไรต่อ ฟึดฟัดอย่างไม่พอใจยัดสิ่งของลงในกระเป๋าลุกขึ้นออกไปทันที

 

หลังจากจบมื้อแสนหวานของสองเพื่อนรัก น้องวีก็มีแฟนหนุ่มเดินหาด้วยสายตาอันแสนจะหลงใหลในตัวน้องน้อย พอเธอย้ายสายตากลับมายังเพื่อนรักสายตานั้นไม่ต่างจากคนที่กำลังเดินมา หญิงสาวผู้โสดและเดียวดายนั่งกล้ำกลืนฝืนทน ยกมือทำท่าเลียนแบบคนป่วยเป็นเบาหวานถอดปอกเข็มอินซูลินปลอม ๆ กดจิ้มลงหน้าท้องตัวเองบรรเทาความหวานของคู่รัก

“อร่อยไหมคะ กินอะไรอีกไหม” หนึ่งยกมือลูบหัวแฟนหนุ่มตัวเองอย่างรักใคร่และเอ็นดู

“ไม่ครับ วีมาแย่งเมเปิลกินจนอิ่มมากเลยครับ” เจ้าตัวน้อยยื่นหน้ายื่นตาพร้อมอวดพุงกลม ๆ ของตัวเอง จนสายตาคนมองเปลี่ยนเป็นหวานลึกล้ำกระหายใคร่ในตัวคนอ้อน

หนึ่งพยายามกรู่ตัวเองให้กลับมา “งั้นมื้อนี้พี่จ่ายให้แล้วกัน”

หญิงสาวคนเดียวรีบโบกมือปฏิเสธทันที “ไม่ต้องค่ะพี่หนึ่งแฟนพี่กินแค่นี้เอง ให้หนูเลี้ยงน้องวีบ้างเถอะ ขโมยเจ้ากระต่ายน้อยไปจากกลุ่มหนูตั้งแต่ปีหนึ่ง ปล่อยมาให้พวกหนูมาเลี้ยงบ้างก็ได้นะคะ”

คนอายุเยอะสุดหอมแก้มแฟนหนุ่มตัวน้อยดังฟอดท่ามกลางผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา เจ้าตัวตกใจใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ เม้มปากหน้างอใส่คนแกล้ง

“พี่หวงค่ะ” คำบอกกล่าวอันชัดถ้อยชัดคำ ถ้าหากไม่ใช่คนสนิทหนึ่งคงกดเสียงให้เข้มมากกว่านี้

เมเปิลถึงกับเบะปากในความชัดเจนของพี่ชายเพื่อนคนนี้ แต่พอเพื่อนที่โดนแกล้งแอบขำเบา ๆ ในความน่ารัก “ค่า..ค่า I got it.”

“งั้นพี่พาภรรยาแสนน่ารักคนนี้ไปแล้วนะ” แฟนหนุ่มโอบเอวคนตัวน้อยให้ลุกขึ้น

“แล้วเจอกันนะเมเปิล”

เจ้าน้องน้อยของเธอโบกมือลาเดินจากไปพร้อมกับควงแขนคนรักของเขาเดินจากไป เสียงถอนหายใจพร้อมกับการประชดตัวเอง “ถ้ามีคนมาจีบตอนนี้นะ ยอมคบด้วยเลยเอา น้องวีกับพี่หนึ่งแม่งเล่นซะคนโสดอย่างกูแทบไม่มีที่ยืน”

 

เมเปิลอิ่มจัดจึงเดินไปเลือกซื้อเสื้อผ้าพร้อมย่อยของหวานในมื้อนี้ สักพักมือแรงสะกิดบนบ่าจากทางด้านหลัง

“สวัสดีค่ะน้องเมเปิล” หญิงสาวสวยเท่ทักทายด้วยเสียงอันนุ่มละมุน มองใบหน้าเธอด้วยดวงตาหวานล้ำ รอยยิ้มประดับแก้มสร้างความขวยเขินแก่หญิงสาวตรงหน้าอย่างชัดเจน

“อ้าวพี่โฟร์ สวัสดีค่ะ มาซื้อของเหรอคะ” พอปะทะสายตาจากคนข้างกายโฟร์ เธอจึงปัดอาการดีใจนั้นหายไปทันที

หลังการกล่าวทักทายของทั้งสองคนตามด้วยนางแบบสาวที่เมเปิลพอจะคุ้นหน้าบ้างปรี่เข้ามาควงแขนโฟร์ทันที “ประมาณนั้นแหละค่ะ แล้วเราล่ะมาชอปเหมือนกันเหรอคะ” โฟร์ปรายตามองหญิงสาวด้านข้างก่อนจะปรับสีหน้าเรียบเฉยด้วยเช่นกัน

“มาลองชิมเมนูร้านตรงนั้นนะคะ นี่ก็เพิ่งแยกจากวีและพี่หนึ่งมาเอง”

“โอ๊ะ! แล้วเราไม่สำลักความหวานเพิ่มเหรอเนี่ย” เมเปิลและโฟร์เข้าใจความหมายร่วมกันต่างพากันหัวเราะ “แล้วซื้ออะไรหรือยังคะ ไปเดินซื้อด้วยกันพี่ไหมพี่จ่ายให้ได้นะ”

“คุณโฟร์ขา...มัวแต่คุยกับคนอื่นไม่สนใจพิงกี้เลยนะคะ” พร้อมกับแรงกระตุกแขนเบา ๆ เรียกร้องความสนใจ

“...” โฟร์ที่ได้ยินคำว่า คนอื่น ที่ใช้เรียกหญิงสาวตรงหน้า เธอถึงกับใบหน้ากระตุก ขยับปากตั้งใจจะอธิบายแต่โดนขัดด้วยคำพูดจากหญิงสาวตรงหน้า

“งั้นเมเปิลไม่รบกวนพี่โฟร์แล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ด้วยความว่า คนอื่น เมเปิลเข้าใจคนที่มากับพี่สาวของเพื่อนเธอพร้อมแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ เธอจึงต้องรีบออกมาก่อนจะเกิดการเข้าใจผิดมากกว่านี้

“ได้ค่ะ วันไหนพี่แวะไปหาไนน์ซื้อขนมไปฝากแทนคำขอโทษที่เสียมารยาทด้วยนะคะ” กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงด้วยการติเตียนคนด้านข้าง

“ได้ค่ะ” เธอยกมือไหว้และเดินเลี่ยงออกมา ออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวมีชายหนุ่มหล่อรูปร่างหน้าตาดี ก้าวขยับเข้ามา จนทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง พร้อมหันไปมองด้วยความกึ่งไม่พอใจ

คนตรงหน้าอมยิ้ม “ขอโทษด้วยครับ พอดีผมสะดุดตาในความสวยของคุณจนหยุดฝีก้าวไว้ไม่ทัน ดูจากชุดแล้วผมว่าเราเรียนที่เดียวกันนะครับ” เมเปิลก้มลงดูตัวเองทันที “ผมขอแนะนำตัว ผมชื่อปริ้นครับ เรียนสัตวแพทย์ปีสามครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณ...” พร้อมกับยื่นมือออกมาทักทาย

“เมเปิลค่ะ วิศวกรรมยานยนต์ ปีสามเช่นกัน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” หญิงสาวไม่ยื่นมือไปจับ ทำเพียงค้อมตัวลงทักทายเท่านั้น

“ครับ ถ้าไม่รังเกียจผมขอเลี้ยงกาแฟสักแก้วจะได้ไหมครับ”

เมเปิลพลันนึกถึงคำพูดที่บ่นกับตัวเองเมื่อครู่ ลอบสบถในใจว่า ปากพาซวยแต่จะคืนคำตัวเองก็ไม่ได้ จึงตอบตกลงเดินตามชายหนุ่มไป

หลังจากทำความรู้จักกันไปสักพัก เมเปิลพบว่าผู้ชายคนนี้มีอยู่ในระดับที่พอจะคบหากันไปได้ จะให้มาอยู่ในฐานะคนคุยเธอเองยังไม่มั่นใจความชอบระหว่างเธอกับเขาตรงกันหรือไม่ ด้วยหน้าตายอมรับว่าหล่อ แต่ภูมิคุ้มกันความหล่อเธอได้รับเต็ม ๆ จากเพื่อนทั้งสามมาแล้ว ยังไม่รวมบรรดาพี่ชายของบ้านเพื่อนไนน์อีก ความหล่อจึงไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ทัศนคติและความชอบของเธอล้วน ๆ

“ถ้าผมจะขอจีบคุณเมเปิลจะได้ไหมครับ ถึงจะรู้ว่ามันเร็วเกินไป แต่ผมกลัวว่าจะเสียโอกาสนี้ไปครับ” สายตาและน้ำเสียงที่เต็มด้วยความมั่นใจ

“เราว่าแค่ทำความรู้จักกันไปก่อนดีไหม เพราะเราก็ไม่มั่นใจในความชอบของตัวเองเท่าไหร่” ในความคิดเธอไม่ได้ตื่นเต้นหรือใจสั่นในการขอจีบของชายหนุ่ม

หนุ่มสัตวแพทย์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไม่เป็นไรครับถือว่ายังไม่โอกาส” ทั้งสองแลกช่องทางการติดต่อกันและกัน

“แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”

“ยินดีค่ะ งั้นเรากลับก่อนนะ”

“ให้ผมไปส่งนะครับ” ชายหนุ่มถามพรางลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมหญิงสาว

“ไม่ต้องค่ะ เราขับรถมา”

หญิงสาวเดินตรงไปยังลานจอด แต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมลดละจึงเลือกที่อาสาไปส่งยังรถของหญิงสาว พอไปถึงยังรถชายหนุ่มถึงกับตาโตในรถของหญิงสาว เขาบ่นกับตัวเองในใจทันทีกลับไปจะต้องสืบประวัติของเธอคนนี้อย่างแน่นอน

 

สองเดือนต่อมา จัสมินงุนงงกับเพื่อนสาวคนเดียวก้มหน้าอยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะโยนทิ้งบนโต๊ะแล้วปล่อยให้มีการแจ้งเตือนรัว ๆ

“ข้อความเข้าน่ะมึง ไม่อ่านเหรอ”

“ถามอะไรนักหนาว่ะ ก็บอกว่ากินข้าวเสร็จแล้วจะขึ้นเรียนต่อเลย บอกแค่นี้มันไม่เข้าใจหรือไง” เมเปิลเปรยบ่นอย่างหงุดหงิด

“มีคนมาจีบมึงเหรอเมล...” จัสมินตาโตความอยากรู้อยากเห็นมาเต็มเปี่ยม ย้ายตัวไปนั่งลงด้านข้างเพื่อนสาว ยึดคอมองข้อความบนหน้าจอที่ส่งมาอย่างต่อเนื่อง

“...” เมเปิลเองส่ายหัวให้กับเพื่อนตัวดี ดันโทรศัพท์พร้อมปลดล็อกตอบสนองความต้องการ “คุยกันมาสักพักแล้วล่ะ”

“ไอ้คิว!” จัสมินโบกมือเรียกคู่หูคู่กัดให้มาร่วมวง จนชายหนุ่มวางกระเป๋านั่งลง เธอปั้นหน้ายิ้มย่อง “เพื่อนเรามีหนุ่มมาจีบด้วยแหละ นี้ส่งข้อความมาแต่อันหวานเยิ้ม ‘ผมจะฝันถึงคุณในทุกค่ำคืน’

“แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าตอแหล...” น้ำเสียงเย้ยหยันตามด้วยปากที่เบะออกจากชายหนุ่มลูกครึ่ง

“ขัดกูจริงมึงนิ” จัสมินถลึงตาใส่ตามด้วยการจิปากอย่างอารมณ์เสีย

“เถียงอะไรกันแต่เช้าวะ น้องวีกินอะไรมาหรือยัง ไอ้เชี่ยไนน์ยังไม่มาเหรอวะ” เจโอหนุ่มหน้านิ่งเดินคู่มากับเจ้ากระต่ายน้อย เอ่ยถามเพื่อนทั้งสองที่ทุ่มเถียงกันอย่างไม่ใส่ใจ หันไปพูดกับวีอีกครั้ง ก่อนจะเปรยตามถึงเพื่อนอีกคน

“วันนี้เพื่อนกูคงอารมณ์ดีวะ มาทีสามประโยคยาวด้วย” คิวยิ้มกรุ้มกริ่ม

“...” เจโอไม่อ้าปากตอบอะไร นอกจากยักคิ้วอย่างรู้กันให้

“นู้นพูดถึงมันก็มาแล้ว รอมาคบกูจะบอกพวกมึงทีเดียว” สาวสวยฉีกยิ้มอย่างมีความสุข รอจนเพื่อนหนุ่มนั่งลงเริ่มสาธยายทันที “พวกมึง...เมลกำลังมีหนุ่มมาจีบนะคะ นี่ส่งข้อความมาอีกแหละ” เธอยกหน้าจอของเมเปิลแจกคนในกลุ่มทั้งหมดดู ส่วนเจ้าของแบมือของคืน

“ใครวะกล้ามาจีบเพื่อนกู มันจะรู้ไหมว่ามันต้องทนมือทนตีนขนาดไหน” พัวะ!!! ฝ่ามือฟาดลงจนแผ่นหลังคนพูดถึงกับแอ่นลง “ซี้ด...เจ็บนะมึง เชี่ย!”

“สม!” ไนน์หันไปเยาะเย้ยคิวที่โดนทุบ “เมเปิลครับ เล่าให้พวกผมหายอยากหน่อย” ไนน์ยกยิ้มแจกเพื่อน ซึ่งมันแสนหวานจนเมเปิลยอมใจอ่อนพร้อมจะเล่า

พอเจอความอ้อนกำลังสองจากน้องวี “นะ... เมเปิลเล่าให้วีฟังด้วย ใครกันน้า...”

มือสองข้างยกไปหยิกแก้มขาวใสที่มีน้ำมีนวลจากการดูแลของแฟนหนุ่มอย่างมันเขี้ยวจนอยากจับฟัด “ได้เลยค่ะน้องวี” เธอถอนหายใจหนึ่งรอบ “ชื่อปริ้น เรียนคณะสัตวแพทย์ปีสามรุ่นเดียวกับเรา”

“ว้าวโชคดีจังมีคนมีรักษาอิเชี่ยคิวแล้ว”

“รักษามึงสิ” คิวสวนจัสมินคู่กันทันที

“มึงสองตัวเลิกกัดกัน ลุกไปเรียนกันได้แล้ว” เจโอปรามสองคนและเชื้อเชิญเพื่อนทั้งกลุ่มขึ้นไปยังบนตึก จนทั้งหมดลุกขึ้นเดินมากันไป เขาหยุดเดินรอจนเมเปิลเดินมาและกล่าวกับเธอ “พามาแนะนำให้พวกกูรู้จักด้วยดิ จะได้ช่วยดู”

“อืม” หญิงสาวขานรับ

ไนน์เดินเอามือมาพาดคอเพื่อนสาว “สืบประวัติไหมพี่กูพร้อม” ตามด้วยการยักคิ้ว

“พอเลยมึงเขาแค่มาจีบ ไม่คิดจะเอาทำผัวเร็ว ๆ นี้สักหน่อย” เมเปิลยกแขนที่พาดคอเธอออกตามด้วยเสียงบ่นแบบหยอกล้อ “เอาแขนออกไป เดี๋ยวจะมีคนมาว่ากูอ่อยมึง”

“ถ้าเป็นเธอเรายอมเปย์หมดตัว” แสร้งทำตัวเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสส่งสายตาหวานเยิ้ม

“เชี่ยไนน์กูขนลุก” หญิงสาวยกแขนโอบกอดตัวเองด้วยท่าทางขยะแขยง เรียกเสียงหัวเราะให้คนทั้งกลุ่มระหว่างเดินขึ้นบันได แต่หารู้ไหมว่าหนุ่มสัตวแพทย์ที่พูดถึงตามมาดูเธอ

 

ในตอนเย็นก่อนแยกย้าย เมเปิลร้องทักเพื่อน “พวกมึงรอแป๊บดิ กูมีคนจะแนะนำให้รู้จัก” หนึ่งหญิงสาวและอีกสี่ชายหนุ่มหันกลับมาด้วยสายตาวิบวับพร้อมมุมปากยกขึ้น ยกเว้นน้องวีคนเดียวที่ยิ้มกว้าง

ทุกคนต่างพากันนั่งยังโต๊ะตัวประจำ “พวกมึงวันนี้ไปแดกเหล้ากับกูไหม” ไนน์เอ่ยปากชวน

“แล้วมึงไม่ไปสนามเหรอ” เจโอถามอย่างสงสัยเพราะปกติเพื่อนคนนี้จะสนามแข่งรถของพี่ชายฝาแฝดทุกวันศุกร์รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่เป็นประจำ

“ไปไม่ได้แล้ว เพราะโดนคุณปู่จับแล้วล่ะ โดนเฉ่งกันทั้งบ้านเลย อิอิ” พี่สะใภ้อย่างน้องวีรีบบอกตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ต่างจากไนน์ได้ส่งสายตาเฉียดเฉือนมอบให้ตามด้วยมือผลักหัวน้อย ๆ

แต่ยังไม่ทันสาวความกันต่อ ชายหนุ่มอีกคนเดินมายังกลุ่มพวกเด็กวิศวกรรมยานยนต์ เมเปิลลุกขึ้นยืนเดินไปเคียงข้างชายหนุ่มคนดังกล่าว “พวกมึงนี่ ปริ้น คนที่พวกมึงเข้าใจกันนั่นแหละ นี่กลุ่มเพื่อนของเราเอง ไล่จากนี่จัสมิน ไนน์ คิว เจโอและสุดท้าย น้องวีของพวกเราเอง”

“สวัสดีครับ” คำกล่าวทักทายอย่างนอบน้อมและนุ่มนวล

เมเปิลก้าวมายังที่ตัวเอง และขยับให้มีพื้นที่ว่างก่อนจะเชื้อเชิญชายหนุ่มให้นั่งลงเคียงข้างเธอ “นั่งสิ”

ปริ้นยกยิ้มให้ “ขอบคุณครับ”

จัสมินและคิวสองคนที่ช่างจ้อสุดในกลุ่มเริ่มแบบสอบถามการเข้ามาจีบของหนุ่มสัตวแพทย์ พอเรื่องชาวบ้านเข้าขากันอย่างดี ทั้งสองซักไซ้พอหอมปากหอมคอ

“วันนี้ไปไหนกันต่อหรือเปล่า ถ้าผมจะขออนุญาตพาเมเปิลทานอาหารเย็น ทุกคนว่าผมพอจะมีโอกาสบ้างไหมครับ” ปริ้นไล่สบตาเพื่อน ๆ ของหญิงสาว คำตอบที่ได้รับมาคือยิ้มแห้งจากวีและจัสมินส่วนชายหนุ่มในกลุ่มหน้านิ่งตอบ

“ต้องถามเจ้าตัวเขาเองล่ะครับ ส่วนพวกมึงกลับไปขออนุญาตผัวและเมียแล้วไปกับเที่ยวกับกูด้วย” ไนน์ถามขึ้น

เมเปิลกระแฮม “งั้นกูกับปริ้นของตัวก่อนแล้วกัน ไปล่ะ” หญิงสาวลุกขึ้น

ฮิ้ว...เสียงร้องแซวจากเพื่อนในกลุ่ม มองสองคนเดินห่างไป กลับมาโต้เถียงกันต่อภายในกลุ่ม

“มึงมี่รู้จักการหาฟงหาแฟนเหมือนคนอื่นจะได้ไม่รบกวนคนอื่น”

“มึงก็พอกับกูแหละไอ้สัดคิว”

“อย่างน้อยกูก็มีคนให้ขออนุญาตล่ะว่ะ”

“...” ไนน์พูดอะไรไม่ออกจึงเข่นเขี้ยว “เดี๋ยวกูส่งร้านในไลน์กลุ่มนะมึง กูไปล่ะ”

 

 

สามทุ่มทั้งสมาชิกแก๊งวิศวกรรมยานยนต์ก็ครบถ้วนขาดเพียงหญิงสาวเดียวที่ไปดินเนอร์กับแฟนหนุ่ม พวกเขาจึงไม่คิดจะโทรเรียกตัวมาร่วมสนุก สองหนุ่มโสดนั่งมองอาหารตา ยกแก้วชนบรรดาทั้งหนุ่มน้อยและสาว ๆ โปรยเสน่ห์ ส่วนเจโอที่เพิ่มคบกับแฟนหนุ่มไม่แม้แต่จะชายตามองใคร ส่วนอีกคนสองโดนจับจองเป็นที่เรียบร้อยเพียงแค่ยิ้มแหย่ให้คนที่พยายามเข้ามาสานสัมพันธ์ แต่โดนคิว ไนน์ และเจโอมองตาขวางเอาไว้

หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มยกแก้วบรรจุของเหลวสีขาวใสจรดริมฝีปากบางดื่มจนหมด แล้ววางกระแทกโต๊ะอย่างแรงพร้อมร้องเรียกเพื่อนด้วยเสียงแหลม “พวกมึงดูนู้น!!” ตามด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวชี้ไปทางด้านหน้าซ้ายมือ

นักศึกษาสัตวแพทย์ที่เพิ่มได้รับการแนะนำจากเพื่อนสนิทในกลุ่มเดินควงหญิงสาวที่แนบชิดกันมากกว่าคนรู้จักอย่างแน่ อกอันอวบอิ่มกดเบียดแขนหนา

น้องวีผู้มองโลกในแง่ดีที่สุด “คงเป็นแค่คนรู้จัก...” จบประโยคคำพูดต้องอ้าปากค้าง เพราะคนนั้นโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูคล้ายกับการหอมแก้มพาลงไปนั่งยังกลุ่มเพื่อนตัวเอง

“เชี่ยแม่ง!!” สามชายหนุ่มที่เหลือสบถพร้อมกัน ดีดตัวลุกขึ้นยืน

จัสมินมือไวตาไวคว้าเพื่อนหนุ่ม ๆ เอาไว้ “พวกมึงใจเย็นดูไปก่อน” แม้เธอจะบอกอย่างสงบ แต่สายตาจ้องมองไปยังสองคนนั้นแทบลุกเป็นไฟ

ผ่านไปราวเกือบสิบห้านาที หญิงสาวตรงหน้าปีนขึ้นไปนั่งบนตักแนบอิงอกหนาของแฟนหนุ่มเพื่อนเธอ จัสมินกระดกเหล้าเข้าปากเสร็จแล้วกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ ลุกพรวดไปยังโต๊ะของหนุ่มสัตวแพทย์ เพื่อนคนอื่นรีบตามไป

“ปริ้น! อีนังนี้คือใคร” จัสมินถามอย่างคาดคั้นราวกับตัวเองคือแฟนสาว

เจ้าของชื่อผงะเมื่อพบกับเพื่อนของคนที่กำลังตามจีบมายืนอย่างพร้อมเพรียง เขามองหาหญิงสาวในกลุ่มก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง ดันคนบนตักให้ลงไปนั่งกับโซฟาด้านข้าง

“หวัดดีมาเที่ยวเหมือนกันเหรอ”

หญิงรู้สึกโมโหที่ได้รับปฏิบัติเช่นนั้นชักสีหน้ามองตาขวางไปหญิงเพียงคนเดียว “ปริ้นค่ะ นังนี่คือใครเหรอ”

“อ๋อ...ฉันจะเป็นใครไม่สำคัญ แล้วเธอล่ะเป็นใครมิทราบ” จัสมินจ้องเขม็งไปยังชายหนุ่ม

ไนน์แสยะยิ้ม “มึงมาจีบเพื่อนกู เย็นพาไปกินข้าว พอตกดึกควงอีกคน จริงใจมาก...” เสียงลากยาวและเน้นย้ำในคำพูด

“ไม่มีอะไรนี่ครับ เพื่อนกันทั้งนั้น” ปริ้นพยายามจะแก้ตัว

“เพื่อนกันเหรอ อีกนิดจะขึ้นขย่มอยู่แล้ว” คิวโพล่งสวนทันที

“คิว...ไนน์ จัสมิน...” เจ้าน้องน้อยร้องเรียกเพื่อนเสียงเบา เขาเองก็โกรธที่มาทำอย่างนี้กับเมเปิลแต่กลัวว่าทั้งกลุ่มจะมีเรื่องทะเลาะ ด้วยกลุ่มเพื่อนของชายหนุ่มจ้องกลับมายังกลุ่มเขาเช่นกัน

หนุ่มสัตวแพทย์ที่ยังมีอารมณ์หงุดหงิดหลังโดนเมเปิลเพื่อนในกลุ่มคนตรงหน้าเมินแถมยังขอจ่ายค่าอาหารในส่วนของเธอทุกครั้งที่ไปกินข้าวด้วยกัน “ผมแค่มาเที่ยวกับเพื่อน แล้วเพื่อนคุณก็ยังไม่ยอมคบกับผม ผมก็ไม่ควรปิดกั้นโอกาสตัวเองใช่ไหมครับ”

คำตอบที่ได้คล้ายกระชากความอดทนให้ขาดพึงพร้อมกับทั้งกลุ่ม ไนน์พยักหน้าบอกเจโอว่า เขาจะเปิดก่อน แต่ยังไม่ทันจะง้างมัด จัสมินจิกผมหญิงสาวที่ขวางระหว่างเธอกับชายหนุ่มเหวี่ยงออก พร้อมกับฟาดมือฟาดลงหน้าชายหนุ่มทันที เพียะ!!

“เชี่ย!!” สามหนุ่มร้องพร้อมกัน

หญิงสาวที่โดนกระชากผมลุกขึ้นมากระชากผมจัสมินเช่นกัน ทั้งสองชุลมุนตบตีกัน ส่วนไนน์ผลัดดันน้องวีไปทางด้านหลังปรี่เข้าไปชกหน้าคนตรงหน้าทันที ปริ้นเองสวนกลับคืนมาเช่นกัน ส่วนหญิงสาวเข้ามาช่วยเหลือ ชุลมุนแลกหมัดแลกฝ่ามือ เสียงกรี๊ดและคนรอบข้างเริ่มขยายวงให้คนตีกันเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

“ไนน์พอแล้ว คิวพอ เจโอระวัง จัสมิน โอ๊ะ!!” เสียงร้องจากเพื่อนตัวน้อย ช่วยโหมไฟให้แก่เพื่อนคนอื่น หยามหน้าเพื่อนสาวยังจะกล้าทำร้ายน้องน้อยของพวกกูอีก

“พวกมึงอย่าอยู่เลย” จัสมินกรีดร้องตามด้วยการฟ้อนเล็บให้หญิงสาวตามด้วยการยกเท้าถีบให้พ้น ตามด้วยแหวกไปกระชากหัวไอ้ตัวต้นเรื่อง “มึงตายแน่!!”

“หยุด!!!” การ์ดดูแลความเรียบร้อยของสถานบันเทิงแห่งนี้กรูเข้ามาทั้งหมดแยกพวกเขาออกจากกัน ทั้งสองฝ่ายยังชี้หน้ากันไปมา ไม่ยอมจะหยุด การ์ดที่ทนไม่ไหวคิดว่าถ้านำตัวแค่ออกไปทางด้านนอกก็คงไม่พ้นต่อยตีกันอีก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับพวกเขาไป รวมถึงแจ้งข้อหาก่อความวุ่นวาย

“เชิญพวกน้องทั้งหมดไปโรงพัก!!!”

TBC...

 

 

กล้ามาจีบหญิงโสดคนเดียวในกลุ่มแล้ว แต่ยังจะมาทำแอบควงหญิงอื่น เพื่อนรักโดนแบบนี้ ทีเหลือจะยอมเหรอ ขนาดหนูวียังโมโห มึงตายแน่ แถมยังทำหน้าเจ้ากระต่ายเป็นรอย สามีอย่างคุณพี่หนึ่งไม่ยอมนะจ๊ะ

แต่...แต่...มีคนแอบดีใจนะที่เจอน้องเมเปิล แถมยังใจดีจะพาไปเปย์ด้วยแหละ

 

 

สวัสดีค่ะ ทีกลับมาแล้ว ฝากผลงานแนวยูริเรื่องแรกด้วยนะคะ อยากให้ทั้งแก๊งมีคู่กันให้หมด ขอกำลังใจและคอมเม้นให้ด้วยน้าาา เม้นมากเยอะ ๆ นะ รี้ดท่านใดมีขอติชม เสนอแนะ ยินดีน้อมรับเสมอค่ะ