“พี่ลม ระวังนะ”                        

หนุ่มตี๋ร่างผอมมองหญิงสาวรุ่นพี่ที่เขย่งเท้าอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นห่วง

เช้านี้ภาณุพบว่าหลอดไฟที่อยู่เหนือโต๊ะทำงานของเขาเสีย อิสระที่ยืนดื่มกาแฟด้วยกันในแพนทรีได้ยินเขาบ่นก็หายไปในห้องเก็บของสักพักก่อนกลับมาพร้อมกล่องหลอดไฟแท่งยาว

“ระวังอยู่ ฉันจะตกใจก็เพราะนายทำให้เสียสมาธิเนี่ย”

“ขอโทษครับ แต่มันดูอันตรายนี่นา พี่ลงมาแล้วเรียกช่างเถอะ”

“เสร็จละ นายลองเปิดสวิตช์อีกที” เธอพยักพเยิด

“อ้าว ไฟติดจริงด้วย”

“หมายความว่าไงกัน” หญิงสาวแสร้งหรี่ตาเมื่อเขาดูจะคิดว่าเธอจะทำไม่สำเร็จ ครั้นจะกระโดดลงจากโต๊ะก็ได้ยินเสียงเฉียบขาดดังขึ้นจากด้านหลัง

“คุณอิสระ”

ร่างสูงโปร่งชะงัก ขณะที่หนุ่มรุ่นน้องหน้าซีดเผือดเมื่อหันมาเจอใบหน้าเคร่งขรึมของรองประธานบริษัทกับเลขาหน้าตายของเขายืนอยู่ คิ้วเข้มที่พาดเฉียงเหนือดวงตาคมดุขมวดเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำคนในรัศมีห้าเมตรหายใจไม่ทั่วท้องได้

เธอหดรองเท้าผ้าใบปอนๆ ของตนเองที่เหยียบอยู่บนโต๊ะทำงานสีขาวสะอาดมาด้านหลังอย่างอัตโนมัติ

“ตามไปพบผมที่ห้องด้วย”

            อิสระพึมพำรับทราบตามหลังเขา ภาณุลอบร้องเบาๆ ว่า ‘ซวยละ’ ส่วนกาญจนาที่นั่งโต๊ะข้างๆ กันทันเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดีจึงได้แต่ช่วยยืนไว้อาลัยให้เธออีกแรง

คนผมยาวประบ่ายักไหล่ให้เพื่อนร่วมงานอย่างไม่ร้อนใจพลางมองตามร่างสูงใหญ่ที่ใครต่อใครกลัวจนหัวหด

‘ลักษณ์ ศิริบริพัฒน์’ ลูกชายคนสุดท้องของพศิน ศิริบริพัฒน์ เจ้าพ่ออาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ลักษณ์ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางเมื่อเขาเมินกิจการครอบครัวแล้วเลือกก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เล็กๆ กับเพื่อนสนิทของตัวเอง

ด้วยใบหน้าหล่อเหลากับบุคลิกเอาจริงเอาจัง สำหรับคนทั่วไปเขาเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง สำหรับลูกน้องเขาเป็นรองประธานจอมเฮี้ยบที่ระเบียบจัดเสียจนประธานยังต้องยอมแพ้

ระหว่างทำผิดพลาดต่อหน้าประธานกับผิดพลาดต่อหน้ารองประธาน คนส่วนใหญ่เลือกทำผิดต่อหน้าประธานยังดีกว่า ยามปกติถ้าไม่มีเหตุจำเป็นแทบไม่มีใครกล้ามองหน้าเขาตรงๆ อย่าว่าแต่พูดด้วยเลย

ทว่าอิสระไม่ได้เกรงกลัวเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เธอรู้ว่าจะต้องคุยกับเสือเขี้ยวลากดินตัวนี้ยังไง

บอกไปใครจะเชื่อว่าความสัมพันธ์ของเธอกับรองประธานคนนี้ดีกว่าที่เห็น

ก็เธอเป็นอีหนูของเขานี่นะ