ถ้าซอมบี้มา แล้วกูไม่ทำห่าอะไรเลยล่ะ

 

 

ครั้งที่สี่แห่งการกรีดร้อง

ดูเหมือนวันนี้พวกเราจะพบ หรือถูกพบอีกแล้ว

โดย เด็กชายผู้นี้มีนามว่า

 

บันทึก:วันที่ยี่สิบหลังเหตุการณ์วันสูญเสีย

ฉันเจอณัฐในวันที่สี่หลังเหตุการณ์นั้น

ทหารโผล่หัวเข้ากราดยิงวันที่สิบสอง

เมธาเจอพวกเราในวันที่สิบสี่

และดูเหมือนวันนี้พวกเราจะพบ

หรือถูกพบอีกแล้ว

 

ชายคนหนึ่งที่โผล่พรวดออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ระหว่างทางที่ไทกับหมอกกำลังจะไปหาของใช้จำเป็นเพิ่มเติมอย่างที่ทำเป็นประจำ

"ในวันที่โลกเหี้ย ยังเหวี่ยงคู่ผัวเมียมาให้เจออีกว่ะ"เขาเดินเข้ามาพูดประโยคนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ฮะ?..ว่าไงนะคะ"ไทหยุดเดินทันที เธอเอ่ยถามด้วยใบหน้าฉงน

"ก็พูดว่า ผัว เมีย คู่ นี้ มัน เกะ กะ"ชายคนนั้นกล่าวเน้นทีละคำท่าทางยียวน"ไม่รู้รึไงว่าแถวนี้น่ะมีเจ้าของแล้ว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ออกไปซะ จะไปเ*ดกันที่ไหนก็ไป"เขาเน้นประโยคหลังเสียงดังฟังชัดราวกับอยากจะตะโกนให้คำพูดเหล่านั้นดังไปถึงหูซอมบี้ทุกคนในระแวกนี้

เขาดูท่าทางอายุไม่เยอะ วัยคงจะไม่ต่างจากไทมากนัก สวมชุดสะอาดสะอ้านไม่ได้มีรูปลักษณ์ของคนที่เผชิญความยากลำบากมาเหมือนกับกลุ่มของเมธาเมื่อวันนั้น

ไทกางขาออกเล็กน้อย หยัดกายให้ยืนอย่างมั่นคง

"กัดฟันไว้หน่อยค่ะ"เธอพูดเสียงเรียบ

"ว่างะ..อั่ก!"

ไทงัดคางของชายหนุ่มคนนั้นขึ้นด้วยกำปั้นเปล่า ๆ ของเธอ

"ทีเดียวก็หมอบซะแล้ว ถ้างั้นคุณไม่ควรจะซ่าแบบนี้ในเขตเจ้าถิ่นสิคะ"ไทใช้เท้าเขี่ยให้ชายคนนั้นนอนหงายขึ้น เขาดูมึนงงกึ่งหลับกึ่งตื่น การตอบสนองที่ดูคล่องแคล่วเมื่อครู่ก็ทำไม่ไหวแล้ว

"หมอก"

"หือ ว่าไง"หมอกถูกเรียกสติให้กลับคืนหลังจากตกตะลึงกับสิ่งที่ไททำลงไปจนแทบจะทำกระเป๋าในมือหล่น

"หมอกจะถืออันนี้ หรือ อันนั้น"ไทชูกระเป๋าในมือ และชี้ไปยังร่างปวกเปียกเพราะถูกซัดสลับกันให้ชายหนุ่มเลือก

"ดูท่าจะหนักนะ เราสลับกันครึ่งทางดีมั้ย"หมอกเสนอ

"อือก็ดี งั้นหมอกถืออันนี้ก่อน เราถืออันนั้นเอง"

ไทยกกระเป๋าทั้งหมดยัดใส่มือหมอก แล้วก้าวขายาวไปยังซากคนที่เคยปากดี เธอเหวี่ยงซากนั้นขึ้นพาดบ่าแล้วเดินนำไปยังทางกลับบ้าน

 

เขาพูดว่าที่นี่มีเจ้าของแล้ว

ถ้าอย่างนั้นเขาก็คงมีกลุ่มของตัวเอง

ที่ใหญ่มากพอสมควร

ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาดีหรือมาร้าย

และมีทางเดียวที่จะรู้

 

"แล้วไทก็แบกเขามาตลอดทางเนี่ยนะ"เมธากล่าวถามเสียงหลง หลังจากที่ซักถามเรื่องที่มาของซากอดีตคนเคยปากดี

"ก็มันร้อนนี่คะคุณเมธา จะสลับระหว่างทางมันเสียเวลาก็เลยรีบเดินให้ถึงเลยจะดีกว่า"ไทกล่าวอย่างรีบร้อน เธอรู้ว่าเมธาเป็นห่วงทุกคนในบ้านมากแค่ไหนเธอจึงไม่อยากให้เมธาเป็นห่วงมากนักกับแค่การแบกของหนักของเธอ

"แบกของพวกนี้ผมก็หนักนะครับแม่"ส่วนลูกชายตัวจริงของเธอกลับกลายเป็นเด็กขี้งอนตัวน้อยไปเสียแล้ว

เมธาส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับลูกชายของเธอ แล้วเข้าไปลูบหัวของเขาเบา ๆ "เก่งแล้วนะครับเด็กโข่งของแม่"

สิ้นประโยคนั้นทุกคนบ้านก็ขำพรืดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ไม่เว้นแม้แต่ตัวหมอกเอง ธารหัวเราะจนสำลักน้ำลายไปไม่รู้กี่รอบ

 

คุนเมธามีความมั่นใจที่จะเรียกตัวเองว่าแม่แล้ว

เธอดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้เรียกตัวเองแบบนั้น

และเด็ก ๆ ทุกคนในบ้าน

แม้จะไม่ใช่ลูกในสายเลือดของเธอ

แต่ทั้งหมดก็ยินดี

และยอมรับให้เมธาดูแลพวกเขาในฐานะแม่ของตัวเอง

อาจจะยกเว้นฉันเอาไว้คนนึง

ฉันยังมีแม่คนใหม่ไม่ได้

ยังมีตอนนี้ไม่ได้

ฉันยังไม่ไหว

 

ไทกับหมอกอาบน้ำกันเสร็จแล้วก็ออกมาดูอาการของชายคนนั้น

"หลับไปนานแล้วนะ"หมอกเอ่ยขึ้น

"เขาไม่ได้หมดสติตั้งแต่แรกสักหน่อย พึ่งจะมาหลับเอาตอนเข้าซอยบ้านเรานี่เอง น่าจะเป็นหลับไปเพราะแดดแรงน่ะ"ไทยักใหล่ไม่ได้เป็นห่วงคนที่นอนอยู่บนโซฟานุ่มมากนัก

"เช็ดตัวให้เขาสักหน่อยให้สบายตัวเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วล่ะ"เมธาเดินออกมาจากครัวพร้อมกับกะละมังที่ใส่ทั้งน้ำ และผ้าขนหนูผืนเล็กเอาไว้ให้แล้ว

"หมอกกับเด็ก ๆ จัดการเลยนะ"ไทลุกขึ้นเตรียมจะออกไปนั่งในสวนอีกครั้ง"ไม่รู้เขาจะสะดวกใจที่ถูกเพศตรงข้ามเห็นร่างกายเปลือยมั้ยน่ะ เราออกไปก่อนดีกว่า"

 

หลังจากนั้นไม่นานไทก็ต้องกลับเข้าบ้านอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นหูโวยวายอยู่ในบ้าน

"มาแล้วเหรอ!! มานี่เลยนะไอ้เหี้ย มึงพากูมาที่นี่ทำไม!!"ชายคนนั้นหลุดจากการเกาะกุมโดยกลุ่มคนในบ้านตรงเข้ามาหาไท

หญิงสาวหมุนตัวหลบได้ไม่ยากนัก ชายคนนั้นเสียหลักเข้าอ้อมแขนของไทเสียเอง

"เลิกดื้อแล้วอยู่นิ่ง ๆ ทีเถอะค่ะ ฉันเหนื่อย"

ชายปากเสียเงียบลงราวกับลืมวิธีออกเสียง เขาก้มหน้างุดลงหลบสายตาแต่น่าเสียดายที่ไทตัวเล็กกว่าเขายิ่งก้มก็ยิ่งเห็น 

คนปากเก่งกลายเป็นมนุษย์ตัวแดงไปแล้ว เขาถูกดันหลังให้กลับไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่อย่างง่ายดาย

"เข้าเรื่องเลยก็แล้วกันค่ะ คุณมาจากกลุ่มที่เป็นแบบไหนกันแน่คะ"ไทนั่งลงบนพื้นตรงหน้าของชายคนนั้น เธอเอ่ยถามน้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็ว และมองตาเขาเพื่อรอคำตอบอย่างตั้งใจ

"ทำไมกูต้องบอกด้วย"น้ำเสียงของเขายังคงหงุดหงิด แต่ไม่มีท่าทีต่อต้านเหมือนคนไร้สติอย่างเมื่อครู่

"จะไม่บอกก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันอยากจะรู้ชื่อของคุณสักหน่อย"ไทยังคงน้ำเสียงและท่าทางที่สบาย ๆ ไม่ได้มีความกดดันส่งไปยังคนตรงหน้า"ก็แค่อยากรู้จักชื่อของคนที่ยังไม่กลายเป็นซอมบี้เพิ่มอีกสักคนน่ะค่ะ"

ชายคนนั้นเม้มปากนั่งคิด เขายังดูไม่แน่ใจนักที่จะเอ่ยออกมา

"ฉันชื่อไทค่ะความหมายเหมือนชื่อประเทศนี้ คุณแม่เป็นคนตั้งให้ส่วนคุณพ่อก็เป็นคนอยากให้ทั้งชื่อจริงแล้วก็ชื่อเล่นของฉันเป็นชื่อเดียวกัน"

เมื่อหญิงสาวพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียด

"ถ้า..ถ้ากูจะไม่บอกอยู่ดีก็จะต่อยกูแบบเมื่อกี้ใช่มั้ย"แม้คำพูดจะยังมีความต่อต้านอยู่บ้าง แต่ท่าทางของเขาก็ผ่อนคลายลงแล้ว

"อ๋อไม่หรอกค่ะ ฉันทำได้มากกว่าต่อยน่ะ คุณอยากได้แบบไหนลองบอกมาก่อนก็ได้ค่ะ"ไทพูดประโยคนี้ด้วยรอยยิ้มที่ดูใจดีสุด ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ

"ประโยคกับท่าทางมึงมันไม่ได้เข้ากันเลยเถอะ"เขาพูดออกมาทันทีแบบไม่ต้องคิดเมื่อเจอด้านนี้ของไท

ครั้งนี้ทั้งบ้านกลั้นยิ้มกันไม่อยู่แล้วจริง ๆ พวกเขาไม่คิดว่าไทจะมีทักษะด้านนี้ด้วย

จากนั้นทั้งบ้านที่รู้แล้วว่าไทรับมือกับชายคนนี้ได้พวกเขาก็แยกย้ายกันไปหมด ให้ไทกับชายคนนี้นั่งอยู่ที่เดิม

"...ซี"ชายหนุ่มพูดออกมาคำหนึ่ง หลังจากทำหน้าตาประหลาดอยู่พักใหญ่ ทั้งอ้าปากหุบปากสลับกันแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา ทั้งพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่พูด หันหน้าหนีไปแล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็ว จนภาพทั้งหมดที่ไทเห็นมันรวมกันเป็นกิริยาที่เรียกว่าการตั้งใจทำหน้าบูดอย่างไม่ได้ตั้งใจ

"คะ"ไทเลิกคิ้วน้อย ๆ อุทานถามออกมา เพราะเธอรอจนจะงีบหลับกลางอากาศอยู่แล้ว

"เรียกกูว่าซี..ก็ได้"เขาพูดช้าเสียจนเกือบจับคำมาต่อเป็นประโยคไม่ถูก

"อ้อ โอเคค่ะคุณซี หิวรึยังกินอะไรหน่อยมั้ย"หยิงสาวลุกขึ้นเธอตั้งท่าจะเดินเข้าไปในครัว

"ไม่"

"โอเคค่ะ"

ไทเดินเข้าไปในครัวหยิบขนมปังแผ่นและนมกล่องกลับมานั่งที่เดิม เธอแบ่งส่วนหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะตรงหน้าซีด้วย

"บอกว่าไม่กิน"ซีพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

"ถ้ายังไม่อยากกินตอนนี้ก็วางไว้เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย"หญิงสาวยังคงท่าทางเป็นมิตรเช่นเดิมไม่ได้หงุดหงิดกับคำพูดของอีกฝ่ายเลยสักนิด

ซีนั่งเงียบปล่อยให้ไทนั่งจัดการกับของว่างตรงหน้าจนเสร็จ

"แดดร่มแล้วไปดูสวนกันมั้ยคะ มีทั้งไม้ประดับทั้งพืชสวนครัว"ไทลุกขึ้นเก็บจานล้างเรียบแล้วจึงหันมาชวนชายหนุ่มออกไปสูดอากาศด้านนอก

เห็นว่าซียังคงนิ่งอยู่ หญิงสาวก็ยักไหล่เดินออกไปไม่หันมาสนใจอีก

แน่นอนว่าซีเดินตามออกมา

 

กับแค่เลี้ยงเด็กอีกสักคนมันไม่ยากนักหรอก

 

ตอนนี้ทุกคนออกมาทำสวนกันหมด หมอกตัดแต่งสวนต้นไม้ประดับ เมธาพาเด็ก ๆ ดูแลพืชสวนครัว

"ทำนี่กันเองหมดเลยเหรอ"ซีตาโตกับสิ่งตรงหน้า

"ทั้งใช่แล้วก็ไม่ใช่ สวนนี้เป็นของครอบครัวของไทน่ะ พวกเราแค่เข้ามารับช่วงต่อ"เมธากล่าวพลางพรวนดินในแปลงผักกาดขาว

"แล้วครอบครัว.."

ซียังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมามือข้างที่ว่างอยู่ของหมอกก็ยื่นมาปิดที่ปากของเขาได้อย่างทันท่วงที

"ขอโทษทีค่ะยังไม่ใช่ตอนนี้"ไทมีสีหน้าหม่นลง เธอพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ"ยังไม่มีใครในบ้านหลังนี้ที่รู้เรื่องค่ะ ฉันไม่พร้อมจะนึกถึงมันเพื่อเล่าออกมาจริง ๆ"

ไทพยายามยิ้มออกมาแล้วจริง ๆ

"ไม่ต้องฝืนก็ได้"หมอกพูด

"ไม่ได้ฝืน"

"ก็เห็นอยู่"

ไทกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เธอยกมือยอมแพ้ในที่สุด

 

หลังจากพาซีเดินดูโน่นนี่จนเย็นทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร

"ไม่เอาคะน้า"ซีเขี่ยยอดผักใบสีเขียวเข้มออกไว้ข้างจานตัวเอง

"งั้นเอาหมูของผมไป แลกกัน"ณัฐจัดการตักผักจากจานของซีแลกกับหมูบางส่วนในจานตัวเองเสร็จสรรพ

เห็นเพื่อนทำแบบนั้นธารก็เอาบ้างเอาหมูในจานของตัวเองตักใส่จานของเพื่อนสนิทอย่างณัฐ

หมอกเห็นดังนั้นก็กลัวน้องจะกินไม่อิ่มจึงตักหมูในจานตัวเองใส่ในจานของธาร

เมธาผู้เป็นแม่ไม่มีทางที่จะทนเห็นลูกกินอาหารไม่ครบหมู่เธอยกหมูในจานของตนให้กับหมอก

ไทมองอย่างไม่เข้าใจแต่เธอเองก็ไม่อยากให้เมธากินข้าวไม่อิ่มรู้ตัวอีกทีหมูในจานตัวเองก็ไปอยู่บนจานของเมธาหลายชิ้น

ซีเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นยกช้อนตักหมูในจานตัวเองให้กับไทอย่างคนตั้งสติไม่ทัน

รู้ตัวอีกทีผัดคะน้าหมูชิ้นก็ถูกตักเวียนจนครบทั้งโต๊ะทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็ตักใส่จานโดยแบ่งเอาไว้ดีอยู่แล้ว

มื้ออาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างที่เคยเป็น และซีก็ได้เห็นมัน

 

ซีออกมานั่งกับไทที่หน้ากองไฟอย่างที่เธอเล่าให้ฟังว่าทำอย่างนี้อยู่ทุกวัน

"ฉันอยู่กับพี่สาว"เขากล่าวขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

ไทนั่งเงียบฟังอย่างตั้งใจ

"กลุ่มของพวกเราเป็นพวกที่เคยทำงานกับรัฐบาล แล้วพวกเราก็ตั้งใจจะก่อกบฏ"

 

โดย เด็กชายผู้นี้มีนามว่า

TW : @JustAimXIII_fic

 


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทที่สี่อีกครั้งนะคะ

ตอนแรกตั้งใจว่าจะพาไทไปที่เรื่องการเมืองในตอนนี้ค่ะ แต่เขียนไปเขียนมาก็ยังไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนสักทีเลย

อภัยแด่ความยึดติดกับครอบครัวของเอมด้วยนะคะ

ตอนหน้าสัญญาว่าจะดำเนินเรื่องไปให้ไกลกว่านี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ และให้กำลังใจกันเสมอมานะคะ

 

สามารถพูดคุยกับเอมได้ทางช่องคอมเมนต์

และทางทวีตเตอร์ผ่านการติด #ถ้าซอมบี้มาแล้วกูไม่ทำห่าอะไรเลยล่ะ

แล้วมาเจอกันนะคะ