5 ตอน 5: The Second Supper
โดย Black_Spades-MinervaM
#FlyByNightBZ
::::::::
*** Warning ***
Blood, Sexual content
ประตูบานใหญ่สลักลวดลายสวยงามเช่นเดียวกับประตูทางฝั่งตะวันออก..เปิดออกต้อนรับผู้มาเยือนอย่างยินดี
ภายในห้องกว้างขวางนั้นมืดสลัวและเย็นเยียบเช่นเดียวกับห้องสุดทางเดินอีกฟากฝั่ง มีเพียงแสงไฟจากเทียนไขบนโต๊ะที่มีกระจกเงาบานสวยแขวนอยู่ แต่ถึงกระนั้น บรรยากาศของห้องนี้กลับดูไม่น่าหวั่นเกรงเท่าเมื่อคืนก่อน อาจเพราะของประดับห้องและวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้วิจิตรงดงาม พร้อมเสียงดนตรีคลอแผ่วให้ผ่อนคลาย
ชายหนุ่มผู้เป็นแขกอมยิ้มนิดๆ เมื่อได้ยินเนื้อเพลงที่กำลังถูกขับร้องโดยนักร้องหนุ่มใหญ่เสียงทุ้มนุ่ม ขายาวก้าวเดินเข้าไปยังโต๊ะที่จุดเทียนไว้และวางจอกไวน์ในมือลง
Pray for us, sinners,
Now, and in the hour of our death…
แอสมุนด์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป
“คุณจะเปลี่ยนใจฆ่าผมแล้วเหรอ”
แว่นถูกถอดออกวาง ผ้าปิดตาสีดำถูกคาดทับ ก่อนผู้มาเยือนจะทรุดร่างลงนั่งในเก้าอี้ข้างเคียง
สายลมที่ไม่ได้พัดผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่าง..นำพาเงามืดมายืนอยู่ทางด้านหลังของแอสมุนด์
บุรุษหนุ่มผู้สวมหมวกปีกกว้าง ค้อมตัวลงจรดเรียวปากจูบแก้มนุ่ม
“หากการฆ่านั้น หมายถึงพาเจ้าขึ้นสวรรค์… ก็อาจเป็นได้นะ แอสมุนด์”
ชายหนุ่มผู้ถูกบดบังการมองเห็นแย้มยิ้มน้อยๆ ยามรับสัมผัสเย็นเยียบที่นวลแก้ม
“ถ้าอย่างนั้น… ทำไมเมื่อบ่ายถึงเปลี่ยนใจล่ะครับ”
“เพราะเจ้าต้องพักผ่อนให้เต็มที่...”
เสียงทุ้มตอบกลับง่ายดาย มือหนาสอดเข้ากอดเอวบางแล้วพยุงให้ลุกขึ้น
อูริเอลพึงพอใจกับแขกพิเศษคนนี้อยู่มาก ...รูปร่าง ใบหน้า แววตา น้ำเสียง ช่างเข้ากันดีไม่มีส่วนใดให้ขัดใจ
อีกมุมหนึ่งของห้อง ลูซิเฟอร์ผู้พี่นั้นยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขามาเอาส่วนแบ่งที่น้องชายติดค้างไว้ในคืนวาน
...
คนในวงแขนเอนตัวเข้าในอ้อมกอด สองแขนยกขึ้นกอดรอบสะโพกสอบ ก่อนเอียงหน้าซุกซบอกกว้างอย่างออดอ้อน
“ใจดีจัง… ไม่เย็นชาเหมือนคืนแรกเลยนะครับ”
ชายหนุ่มหัวเราะหึในลำคอ พลางหันไปยกยิ้มใส่พี่ชายที่เดินเข้ามาใกล้
“แล้ว..เจ้าชอบแบบไหนมากกว่า”
ลำแขนแกร่งกอดรับร่างที่เอนเข้ามาซบ พลางประคองกันไปที่กลางห้อง แล้วยกร่างนั้นขึ้นนั่งบนโต๊ะกลมตัวไม่ใหญ่นัก แอสมุนด์ยังคงไม่คลายอ้อมกอดออกแม้จะถูกยกตัวขึ้นนั่งแล้วก็ตาม
“ไม่ใช่ว่า… เป็นท่านคนเดียวหรอกเหรอ”
...
“อืม คนเดียวสิ”
ร่างสูงแทรกกายเข้ายืนอยู่กลางหว่างขา อูริเอลไล้สายตาชื่นชมใบหน้างามที่ถูกผ้าสีมืดคาดปิดตาไว้ นิ้วเรียวเกี่ยวเข้ากับสายคาดชุดคลุมที่ร่างบางสวมใส่ อีกมือวางลูบไล้ไปตามหน้าขาเนียนลื่น
ลูซิเฟอร์เลือกที่จะยืนกอดอกอยู่ทางด้านหลังของคนบนโต๊ะ คืนนี้เขาเพียงแค่อยากดื่มกินให้อิ่มหนำ ยังไม่ได้อยากเข้าร่วมกิจกรรมหรรษานี้เท่าไรนัก เลยว่าจะปล่อยให้น้องชายได้สนุกไปก่อน
แอสมุนด์แกล้งหุบขาหนีบคนตรงกลางเอาไว้ ก่อนจะเงยขึ้นเอ่ยอ้อน
“ท่านหลอกผมรึเปล่า… ถ้ามีคนเดียว อย่างนั้น… ห้องนี้เป็นห้องของใครกันเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าคาดหวังให้เรามีกี่คนกันล่ะ”
อูริเอลยังสนุกกับการพูดคุยถามตอบ ขณะที่พี่ชายอย่างลูซิเฟอร์นั้นอยากจะดีดนิ้วสั่งให้ร่างบางช่างซักไซ้นี้เงียบหลับไปยิ่งนัก
ฝ่ามือเย็นชืดลูบลึกเข้าไปภายในถึงสะโพกเปลือยเปล่า มืออีกข้างดึงรั้งชุดคลุมให้เคลื่อนหลุดจากไหล่ขาว
“อย่าเพิ่งถามมากนัก... เดี๋ยวเราจะบอกเอง”
ร่างสูงจะขยับตัวถอยออกเพื่อให้พี่ชายเข้ามาอยู่แทนที่ แต่เหยื่อตัวน้อยยังคงพยายามเกาะเกี่ยวร่างสูงตรงหน้าเอาไว้ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซบลงถูไถไปมาบนแผ่นอกแทน ขณะที่เรียวขาสองข้างก็ยังคงหนีบเอาไว้แน่น
“นั่นสิ มีกี่คนกัน… ท่านคิดจะแบ่งปันผมให้ใครบ้างงั้นเหรอ …ไม่กลัวว่าผมจะเลือดหมด แล้วตายไปเสียก่อนที่..เราจะได้ สนุกด้วยกัน หรอกเหรอ…”
...
“รู้ด้วยหรือ ว่าโดนเราดื่มเลือด”
ชายหนุ่มไม่ขืนตัวออกจากแรงเหนี่ยวรั้ง ซ้ำยังกดกายเข้ากอดร่างบางให้เอนไปทางด้านหลัง มือใหญ่ข้างหนึ่งเท้าลงกับโต๊ะ อูริเอลก้มลงดอมดมไหล่มนอย่างพึงพอใจกับกลิ่นน้ำมันหอมจากการอาบน้ำมาเป็นอย่างดี
ลูซิเฟอร์เองก็ไม่อยากจะรั้งรอกับบทสนทนาไม่รู้จบนี้อีกต่อไป เขาขยับตัวเข้าประชิดอาหารมื้อค่ำ แล้วก้มลงครูดแนวฟันและเขี้ยวคมลงบนไหล่อีกข้าง
“พร้อมจะนับรึยังล่ะ”
เสียงของแฝดผู้พี่นั้นต่ำทุ้มเช่นกัน ทว่าไม่ได้ขี้เล่นเหมือนกับแฝดผู้น้อง ...เป็นน้ำเสียงที่แฝงความเย็นชา..แบบเดียวกันกับน้ำเสียงที่แอสมุนด์ได้ยินภายในห้องปีกตะวันออกเมื่อคืนวาน
...
คนที่โดนประกบไว้ทั้งหน้าหลังเพียงนิ่งไปนิดเมื่อจับน้ำเสียงที่เพิ่มมาได้
เหมือนกันราวกับคนคนเดียว …เพียงแต่เย็นชา ไร้ใจ
นี่กระมัง… เจ้าของห้องปีกตะวันออก
“…ฝาแฝด สองคนเหรอ”
…
ความเงียบเข้าปกคลุม ไม่มีใครตอบคำถามนั้น ลูซิเฟอร์แลบลิ้นเลียผิวนุ่มหอมหวานก่อนจะกัดฝังคมเขี้ยวลง ทันทีที่ปลายเขี้ยวกดทะลุผิวบาง สายโลหิตแดงฉานพลันเอ่อล้นจากรอยกัด แต่ไม่ทันที่หยาดหยดจะไหลริน เลือดเหล่านั้นก็พลันถูกดื่มกินโดยแวมไพร์หนุ่มผู้กระหาย
ส่วนอูริเอลยังคงสนุกกับการหยอกเย้าเรือนร่างบอบบาง เขาไล้ริมฝีปากเย็นจูบผิวเลื่อนลงไปบนแผ่นอกเปิดเปลือย มือที่สอดซุกใต้ชุดคลุมเนื้อผ้าลื่นบีบเคล้นต้นขาขาวเนียนนุ่มมือ..เข้าใกล้ส่วนอ่อนไหวหากยังไม่แตะต้องมัน
อึก…
ร่างบางตรงกลางสะดุ้งนิดๆ เมื่อความเจ็บปวดมาเยือนที่ไหล่ขวาจนอดเกร็งขึ้นน้อยๆ ไม่ได้ ในขณะที่ร่างกายส่วนล่างกลับมีอีกอารมณ์พาดผ่าน
…ช่างน่าสับสนยิ่งนัก
อูริเอลลากลิ้นชื้นกวาดปุ่มป้านสีอ่อนแล้วเริ่มดูดกินมันราวกับว่ามันจะมีน้ำนมสักหยดไหลออกมาให้ลิ้มรส เสียงสวบสาบของชุดประดับลายดอกลิลลี่ที่เลื่อนหลุด ผสานกับเสียงลามกของคนด้านหน้า ในขณะที่ร่างสูงเบื้องหลังยังคงกัดฝังคมเขี้ยวลงเพื่อดื่มกินอย่างเงียบงัน
“อา…”
มือเรียวยกขึ้นเกาะเกี่ยวเส้นผมของคนที่ซุกหน้าเงียบกับลาดไหล่
“…แล้ว..ท่านล่ะ จะไม่มาร่วมสนุก..ด้วยกันเหรอ”
ทันทีที่เรียวนิ้วแตะสัมผัสเข้ากับเส้นผมของลูซิเฟอร์ มือใหญ่ก็คว้าจับมือน้อยนั้นออกไม่ให้แตะต้อง เขาดึงถอนเขี้ยวขึ้นจากผิวนุ่มเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งกัดใหม่ แล้วทิ้งบาดแผลเดิมไว้เช่นนั้นให้เลือดสดยังคงไหลรินอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่กลัวตายแล้วหรือ”
คำถามที่ฟังดูทรงอำนาจดังขึ้น ข้อมือบางถูกบิดจับให้พลิกหงาย เขี้ยวคมกัดงับลงตรงจุดรวมเส้นเลือดน้อยใหญ่จนของเหลวสีแดงสดไหลทะลัก ลูซิเฟอร์สูบกินมันอย่างไม่เกรงใจ ทำเหมือนคนตัวบางนี้เป็นเพียงอาหารจานหนึ่ง ...ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่า บุรุษแวมไพร์ตนนี้กำลังคิดสิ่งใดอยู่
“เจ้าอย่าเพิ่งกวนใจหมอนั่นเลย”
เสียงแวมไพร์อีกตนเอ่ยบอก อูริเอลงับดึงยอดอกแข็งชันจนมันบวมแดงเป็นที่น่าพอใจแล้วจึงเริ่มดื่มกินบ้าง เขาค่อยบรรจงแนบคมเขี้ยวฝังลงบนอกขาว แม้อ่อนโยนกว่าหากแต่ไม่มีความลังเลเช่นเดียวกัน
“ซ…”
แอสมุนด์ครางเบาๆ แผลคมเขี้ยวขนาดใหญ่เกือบเต็มข้อมือนั้นเจ็บปวดกว่าที่คิด
“กลัวสิ… ถ้าพวกท่านเพิ่มมาอีกคน ผมจะตายเอานะ มนุษย์ธรรมดา… จะมีเลือดให้พวกท่านดื่มกินได้สักเท่าไรกัน”
“หึ...”
เสียงกลั้วหัวเราะในลำคอดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เป็นฝ่ายแวมไพร์ผู้น้องที่ถอนเขี้ยวขึ้นมา แล้วจับปลายคางเล็กของแอสมุนด์รั้งให้มารับจูบหวาม เพื่อดูดกลืนถ้อยคำที่อาจจะไปรบกวนการกินอาหารของพี่ชาย
หนึ่ง... เพราะกลัวว่าลูซิเฟอร์จะหงุดหงิดจนสะกดร่างบางช่างพูดให้หลับใหลไปอีก
สอง... ความรู้สึกสับสน ตื่นเต้นของแอสมุนด์ที่อูริเอลจับสัมผัสได้ ก็ช่างเย้ายวนชวนให้เกิดอารมณ์ยิ่งนัก
มือบางเคลื่อนขึ้นคว้าลำคอคนด้านหน้าไว้พลางบดเบียดริมฝีปากกลับไปอย่างเร่าร้อน ยอมปล่อยให้ข้อมืออีกข้างทอดนิ่งอยู่ใต้คมเขี้ยวของบุคคลที่สาม
อีกนิดเดียว… อีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น...
“อ..อยากได้อะไร..บอกสิ”
อูริเอลที่รู้สึกถึงความตื่นเต้นจากร่างกายในอ้อมแขนเป็นผู้เอ่ยถามขึ้น เขาครูดปลายเขี้ยวแหลมที่กลีบปากอ่อนนุ่ม มือเย็นรั้งเรียวขาสวยขึ้นเกี่ยวสะโพกตัวเองเพื่อเปิดทางด้านล่างให้ปลายนิ้วเข้าบดขยี้ซุกซน
ในขณะที่แวมไพร์อีกตนย้ายตำแหน่งอีกครั้ง คราวนี้ลูซิเฟอร์เล็งผิวขาวบริเวณลำคอระหงอันเป็นตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ไว้ ริมฝีปากเย็นเยียบประทับแนบฝังคมเขี้ยว ดูดดื่มเลือดสดที่ทะลักหลั่งจนล้นเลอะ หยาดสีแดงไหลเป็นสายตัดผิวผ่องนวลที่ตอนนี้เริ่มจะเปลี่ยนเป็นซีดขาว
“อา… บอก..ได้เหรอ…”
‘มนุษย์น้อย’ ตรงกลางครวญถามเบาๆ แอสมุนด์เริ่มจะวิงเวียนแล้ว แผลใหญ่น้อยห้าแผลบนร่างทำให้เขาเสียเลือดมากเกินไป มือบางรั้งเกี่ยวลำคอคนตรงหน้าไว้ก่อนซบซุกศีรษะลงตรงซอกคอคล้ายคนสิ้นแรง
“…ได้สิ อย่าเพิ่งสลบ เรายังไม่ได้สนุกกันเลย”
สิ้นประโยคของอูริเอล ลูซิเฟอร์ก็จบมื้ออาหารนี้ลงพอดี ใบหน้าเย็นชาของแฝดผู้พี่ผละออกจากลำคอของร่างบางที่ดูอ่อนแรง เรียวลิ้นกวาดรสเลือดที่ติดเปื้อนริมฝีปากจนหมดจด ปล่อยทิ้งส่วนที่เอ่อล้นจากรูเล็กให้ไหลรินเป็นคราบเปรอะเปื้อนผิว
“ตามสบาย”
ร่างสูงทรงสง่ากล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เปิดทางให้น้องชายได้เริงรักกับอาหารที่ดูท่าว่าจะเป็นจานโปรด
...
“…คนนั้น เขา…ไปแล้วเหรอ”
คนที่ซุกซบอยู่ตรงลำคอเอ่ยถามเสียงเบา ข้อมือขวาที่ยังวางแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมีเลือดไหลรินออกมาเป็นสาย ทั้งไหล่และลำคอก็ยังมีหยาดสีแดงเข้มหยดลงอาบย้อมตัดกับผิวขาวจนเห็นชัด
“อืม..ไปแล้ว ไหน..บอกเราสิ ว่าเจ้าอยากได้อะไร”
อูริเอลหยิบแขนไร้เรี่ยวแรงข้างนั้นขึ้นมาเลียไล้ เก็บกินเลือดหอมหวานระหว่างรอฟัง
เรียวปากอิ่มพรายแย้มรอยยิ้มอย่างสมใจ สัมผัสได้ว่าลำคอที่ซบอยู่กำลังหันไปอีกทาง …เปิดกว้างให้แก่เขาอย่างเต็มที่
ปลายแหลมเล็กคู่นั้นงอกกลับออกมาอีกครั้ง คราวนี้แอสมุนด์ไม่ลังเลเลย..ที่จะกดคมเขี้ยวของตนลงบนลำคอที่อยู่ในระยะประชิดทันที
Comments (0)