"ฮึมมมมมมม"ผมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะเขียนโค้ดที่ใกล้เสร็จสมบูรณ์ เหลือแค่ลองรันดูเท่านั้น จะว่าไปตอนนี้ก็เย็นแล้ว โทรไปถามร็อกซี่ก่อนดีกว่าว่าจะให้ซื้ออะไรกลับบ้านไหม

 

ตื๊ดดด

"ไงเดฟ มีอะไรเหรอ?"

"ไงร็อกซี่ ผมแค่จะโทรมาถามว่าอยากให้ผมซื้ออะไรเข้าบ้านไหม ผมว่าวันนี้น่าจะได้กลับเร็วน่ะ"

"เท่าที่ดูยังไม่มีอะไรต้องซื้อเพิ่มนะ คิดว่าจะกลับมากี่โมงล่ะ จะได้ทำแฮมเบิร์กเตรียมไว้ให้"

"ถ้าโค้ดรันได้ไม่มีปัญหาก็น่าจะอีกชั่วโมงกลับนั่นล่ะ"

"โอเค อีกชั่วโมงเจอกัน"ร็อกซี่กดวางสาย ผมกลับไปโฟกัสกับงานที่ผมเพิ่งเขียนเสร็จ

 

"ไหนลองรันซิ"ผมกดทดสอบงานที่เขียน ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีเออเรอร์ 

โอเค ทดสอบแล้ว เซฟงานแล้ว ที่เหลือก็...

"เดฟ! ลูกค้าโทรมาบอกว่าโปรแกรมมีปัญหา ไปเช็กด่วนเลย"คลินท์ ฝ่ายติดต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงานของผมอีกคนได้วิ่งมาที่โต๊ะผม

"ไว้ตรวจพรุ่งนี้ได้ไหม ตอนนี้ก็เลิกงานแล้ว"

"ก็เข้าใจ แต่ปัญหามันต้องแก้ด่วนจริง ๆ "

 

ตื๊ดดดด

"ร็อกซี่ ขอโทษนะ แต่ดูเหมือนงานจะมีปัญหา ผมคงกลับช้าล่ะวันนี้"

"เข้าใจแล้ว"ร็อกซี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนกดวางสาย ก็น่าสมควรงอนอยู่หรอก

สุดท้ายผมก็นั่งแก้งานสองชั่วโมงกว่า ถ้านั่นยังไม่แย่พอ ขากลับเจอรถติดเพราะอุบัติเหตุอีก

"ทำไมติดยาวขนาดนี้ว้าาาาาาา"ผมบ่นเสียงดังจากในรถ ด้วยสปีดเต่าคลานแบบนี้รีบโทรบอกร็อกซี่ว่าไม่ต้องรอกินข้าวดีกว่า

 

ตื๊ดดดดดดดด

ตื๊ดดดดด

ตื๊ดดดด

ไม่รับสายด้วยว่ะ

......

"ว่าจะกลับเร็ว สุดท้ายก็สี่ทุ่ม"ผมยืนจ้องนาฬิกาบนมือถืออยู่หน้าบ้านพลางถอนหายใจ คิดว่าจะเข้าไปเจอหน้าร็อกซี่ยังไงดี ตอนนี้นางอาจจะนอนไปแล้วก็ได้มั้ง ไฟก็ปิดหมดแล้วแบบนี้

ผมไขกุญแจเข้าไปในบ้าน แล้วกดสวิทช์ไฟ

"อุ้ย!"ผมสะดุ้งทันทีที่หันกลับมาเห็นร็อกซี่ยืนกอดอกอยู่ตรงทางเดิน

"กลับมาแล้วเหรอ"ร็อกซี่มองจิกมาที่ผม

"กลับมาแล้วครับ"บรรยากาศกดดันจังวุ้ย สายตาดุ ๆ ของร็อกซี่เองก็ไม่ได้ช่วยให้หายอึดอัดเลย

"ขอเดา ยังไม่ได้กินอะไรสินะ"

"ตอนนี้หิวสุด ๆ เลยล่ะครับ"

"ชั้นก็หิวเหมือนกัน แต่พอดีเก้าอี้ของฉันดันกลับมาเลท ชั้นก็เลยต้องรอท้องกิ่วนี่ไง"เอาแล้วไง บรรยากาศแบบนี้ คำพูดแบบนี้ ชัดเลย

............

กิ๊งงงง

"ตอนแรกชั้นก็คิดว่าอาจจะกลับเลทสักชั่วโมงสองชั่วโมง เลยทอดแฮมเบิร์กทิ้งไว้ แต่ดันดึกซะขนาดนี้ ไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ"ร็อกซี่หยิบจานแฮมเบิร์กออกจากไมโครเวฟ ขณะที่ผมคลานเข่าอยู่ตรงโต๊ะอาหาร 

"อุ๊ฟ!"น้ำหนักตัวของร็อกซี่ที่มานั่งบนหลังผมทำผมแขนสั่นเล็กน้อย นี่นางหนักขึ้นรึเปล่าเนี่ย

"ขอโทษจริง ๆ ครับ แต่ขากลับรถติดหนักมากด้วยเลยกลับมาช้าหนักกว่า-โอ๊ย"ผมรู้สึกถึงส้อมที่จิ้มตรงไหล่ผม

"เห ไม่ยักกะจำได้ว่าเก้าอี้มันพูดได้ด้วยนะ"ร็อกซี่ขูดส้อมจากไหล่ลงมากลางหลังผม ความรู้สึกหิวกับเสียวทำให้ผมเริ่มยันพื้นลำบาก

"ดูสิ รสชาติมันดรอปลงจากตอนทอดใหม่ ๆ เยอะเลย"ร็อกซี่ค่อย ๆ บรรจงหั่นแฮมเบิร์กทานอย่างช้า ๆ เสียงครูดของมีดและส้อมบนจานดังลั่นแบบจงใจเสียดเข้ามาในหูผม กลิ่นของอาหารที่ลอยเข้ามาในจมูกผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 

ผมเหนื่อย ผมหิว แต่ผมจะส่งเสียงออกมาไม่ได้

"โฮ่ ดูเหมือนเก้าอี้ตัวนี้จะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นะ นั่งแล้วสั่นเหมือนขามันจะหักได้ทุกเมื่อเลย"ไม่รู้ว่าด้วยความเหนื่อย ความหิว หรือด้วยน้ำหนักตัวของร็อกซี่ แต่ตอนนี้แขนผมเริ่มดันตัวไม่ไหวแล้ว

"เอาล่ะ คงหิวมากสินะ"ร็อกซี่ลุกขึ้นแล้วหยิบจานแฮมเบิร์กอีกจานที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำแล้วมาวางตรงหน้าผม

"....ผมพูดได้แล้วใช่ไหม?"ผมที่แขนหมดแรงก็ทรุดลงไปเล็กน้อย

"ได้สิ ตอนนี้ชั้นไม่ได้นั่งบนตัวนายแล้วนี่"

"เออจริงด้วย ฮะ ๆ"

"งั้นผมก็ลุกได้แล้วใช่-อ๊อก"ส้นเท้าของร็อกซี่กระแทกหลังผมอย่างแรง

"ใครบอกให้ลุกได้"ร็อกซี่ขยี้เท้า

"ถ้าไม่ให้ผมลุก ผมจะใช้มือได้ยังไงอ่ะ"

"ก็ ไม่ ต้อง ใช้ ก้มกินไปทั้งอย่างนี้นี่ล่ะ"ร็อกซี่เลื่อนเท้ามาที่คอผมแล้วกดหัวผมลงมาใกล้จานอาหาร

ผมก้มหน้าใช้ฟันกับลิ้นคีบแฮมเบิร์กเย็นชืดเข้าปากทีละชิ้น โดยมีร็อกซี่ยืนมองผมด้วยสีหน้าพึงใจ

ผมคีบกินจนถึงชิ้นสุดท้ายพร้อมทั้งเลียซอสที่เหลืออยู่บนจานด้วย

"แฮมเบิร์กเย็นชืดอร่อยดีไหมล่ะเดวอน"ร็อกซี่นั่งลงแล้วจับคางผมยกขึ้น

"จะดีกว่านี้ถ้ามันร้อนน่ะนะ"ผมยิ้มกลับ

"พูดได้ดี ซอสเลอะเต็มหน้าแล้วเนี่ย"ร็อกซี่บรรจงเลียซอสที่เลอะข้างแก้มผมก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้ปากเรื่อย ๆ จนกลายเป็นจูบอันดูดดื่ม

"ไปต่อที่ห้องนอนเลยได้ไหม"

"ไม่ใช่ว่าเหนื่อยจากงานเหรอ หืม"

"ก็ตอนนี้สวิทช์มันติดแล้ว ปล่อยไว้แบบนี้คงหลับยากล่ะ"

"แต่ชั้นมีจานต้องล้างนะ"

"ไว้ล้างพรุ่งนี้ก็ได้ คืนนี้เหลือเวลาไม่มากแล้วนะคุณ"

"งั้น.."

"ได้โปรด...."

"..."

"เห็นสีหน้านายตอนนี้แล้วฉันล่ะเซย์โนไม่ลงจริง ๆ"ร็อกซี่ถอนหายใจก่อนจูบปากผมเบา ๆ 

.........

ปลอกแขนที่ยึดกับโครงหัวเตียงและที่ปิดตาให้ความรู้สึกเหมือนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นี่ตอนแรกผมก็หวาด ๆ อยู่เหมือนกัน แต่พอร็อกซี่เป็นคนทำแล้วก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คงเพราะผมเชื่อใจนางก็ได้มั้ง จากความกลัวก็เลยกลายเป็นความตื่นเต้นขึ้นมาแบบเหมือนรอเซอร์ไพรซ์ว่านางจะทำอะไรเราบ้าง แค่คิดก็ใจเต้นแล้ว

"อืมมมม"ผมรู้สึกถึงเล็บของร็อกซี่ที่ครูดไปมาตรงอกผมระหว่างที่เราจูบกันอยู่ มือนั้นเลื่อนลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ จนถึงใต้กางเกง

"เอาไงกับแท่งนี่ดีน้าาา"ถึงจุดนี้จะใช้มือหรือเท้าผมก็ยอมแล้วล่ะตอนนี้

"เอาแบบนี้ดีกว่า"ผมได้ยินเสียงร็อกซี่ลุกจากเตียงไปหยิบของบางอย่าง 

ผมเริ่มรู้สึกถึงมีของบางอย่างเหมือนยางสวมทับแท่งเนื้อที่แข็งตัวของผม ก่อนบางอย่างเปียก ๆ ไหลลงมาชโลม

ถุงยางเหรอ?

"อุก"ผมเริ่มหลั่งออกมาเล็กน้อย

"นี่แค่หล่อลื่นเองนะเดวอน"

"ร็อกซี่ ขอล่ะ เลิกหยอกผมสักที"

"นั่นสินะ คืนนี้ก็แสนสั้นซะด้วย"

ในที่สุดผมก็รู้สึกมีอะไรให้ถูไถสักที เดี๋ยวนะ ทำไมมันอุ่นแปลก ๆ 

"ซี๊ดด"ผมรู้สึกถึงเล็บของร็อกซี่จิกตรงเอวพร้อมกับน้ำหนักของนางทับลงมา

เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าบอกนะว่า

"ร็อกซี่ คุณใช้..."

"ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำกันไม่ใช่รึไง ทำเป็นตกใจไปได้"

"ผมนึกว่าคุณยังโกรธผมเรื่องที่ผมกลับบ้านช้าซะอีก"

"ชั้นว่าการให้นายเป็นเก้าอี้ให้ชั้นนั่งก็น่าจะลงโทษพอแล้วนะ"

"......"

"หรือจ๋องกะปิ๋มมันรู้สึกดีกว่าล่ะ ชั้นจะได้ลุก"

"ผมไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย"

"งั้นก็ต่อเลยนะ"ร็อกซี่เริ่มโยกตัว เล็บยังเกาะตัวผมแน่น

"ครั้งนี้อย่าดึงที่ปิดตาผมออกแบบตอนนั้นอีกล่ะ"

"กลัวฟุ้งซ่านอีกรึไง"ร็อกซี่หัวเราะ

"ผมอยากเก็บช็อตนั้นไว้เป็นรางวัลมากกว่า ทำบ่อย ๆ แล้วผมกลัวว่ามันจะไม่ตื่นเต้นเอาน่ะสิ"

"จ้า จะจำไว้ละกันนะ"

 

[ร็อกซี่]

หลังจากหยิบถุงยางสามอันไปทิ้ง ฉันก็แกะพันธนาการที่ล่ามเดวอนไว้ (จริง ๆ มันก็มีแค่กุญแจมือกับที่ปิดตาอ่ะนะ) ไปเก็บใส่กล่องหรรษาข้างเตียง ก่อนหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ติดกันมา นี่ทำครั้งที่สองแล้วก็ยังรู้สึกไม่ชินกับการมีอะไรกระแทกอยู่ในตัวเราอยู่ดีแฮะ

"ยาทาแก้ฟกช้ำมันอยู่ไหนนะ"ฉันคุ้ยหายาในกล่องจนเจอ

"เย็นจัง"ฉันทายาที่หลังเดวอนตรงจุดที่ฉันใช้ส้นเท้ากระแทก ถึงจะไม่ช้ำมาก แต่ทาไว้ก่อนดีกว่า

"ไม่ลุกไปอาบน้ำเหรอ"

"ไว้อาบตอนเช้าละกัน ตอนนี้กำลังนอนได้มุมสบายเลย"

"จ้า"ฉันปิดหลอดยาแล้วก้มไปเก็บใส่กล่อง

"เออนี่ ร็อกซี่"

"หืม?"

"ถ้าผมกลับดึกแบบนี้อีก ไม่ต้องรอผมนะ ตอนผมเจอรถติดก็โทรหาคุณเพื่อบอกเรื่องนี้ตั้งหลายรอบ แต่คุณไม่ยอมรับสายผมเลย"

"ชั้นรอได้ นอนดึกสักวันสองวันน่ะไม่เป็นไรหรอก ชั้นก็ไม่ได้เป็นเด็กอนามัยขนาดนั้นสักหน่อย ตอนที่กดสายทิ้งก็เพราะรู้ว่านายจะกลับมาไง"

"แต่ผมรู้สึกแย่นะ ที่ปล่อยให้คุณหิวเพราะรอผมน่ะ"

"แต่การกินข้าวพร้อมหน้ามันดีกว่านี่นา"

"ขอบคุณที่รอผมนะ"เดวอนจับมือฉันก่อนหยิบไปหอมหนึ่งฟอดก่อนหลับไป

"จริง ๆ เลย"ฉันดึงมือออกมาลูบหัวเขาเบา ๆ 

.........

"เดฟ เมื่อวานต้องขอโทษจริง ๆ นะ ที่ให้อยู่แก้งานจนดึกน่ะ เอ้านี่ ฉันเลี้ยง"คลินท์ยื่นแก้วกาแฟเย็นมาให้ผม

"มันก็สุดวิสัยจริง ๆ นี่นะ"ผมรับแก้วกาแฟมาแล้วชิมดู

"เห็นเมื่อคืนได้ข่าวว่าทางกลับบ้านนายมีอุบัติเหตุรถโคตรติด เมื่อคืนนายได้กลับถึงบ้านกี่โมงเนี่ย"

"สี่ทุ่ม ร็อกซี่ทำแฮมเบิร์กรอไว้ที่บ้านด้วย นางกริ้วมากเลยล่ะที่กลับไปเลทขนาดนั้น"

"ผู้หญิงก็งี้ล่ะ ต่อให้บอกเหตุผลยังไงก็งอนได้ตลอด ลองซื้อของอะไรไปเซ่นนางสักหน่อยน่าจะหายงอนได้ไม่ยากหรอก เวลาเมียฉันงอนก็ใช้วิธีนี้ล่ะ ซื้อกระเป๋าแพง ๆ ให้สักใบก็กลับมาเลิฟ ๆ ต่อแล้ว"

"ซื้อของไปเซ่นงั้นเหรอ"ผมฟังคำแนะนำจากคลินท์ก่อนครุ่นคิดสักครู่ จะซื้ออะไรให้นางดีล่ะเนี่ย ปกตินางก็ไม่ชอบให้ใครซื้อของขวัญเซอร์ไพรซ์ซะด้วย 

 

ตื๊ดดดดดดด

"วันนี้จะกลับดึกอีกแล้วเหรอ"

"เปล่า ไม่ใช่ ๆ"

"งั้นโทรมามีอะไรล่ะ"

"เอ่อ คืองี้ ผมยังรู้สึกแย่ที่เมื่อวานให้คุณรอผมจนดึก เลยคิดว่าอยากซื้อของอะไรให้น่ะ"

"เดฟ ฉันว่าเมื่อวานฉันพูดเคลียร์แล้วนะ"

"ผมรู้ว่าคุณไม่ได้โกรธผมเบอร์นั้น แต่ให้ผมสปอยคุณบ้างเถอะ"

"งั้นให้ชั้นสำรวจประตูหลัง-"

"ไม่ อันนั้นไม่ได้"

"ว้า"

"อย่างอื่นได้ ยกเว้นประตูหลัง ขอล่ะ ผมยังไม่พร้อม"

"งั้นซื้อเทียนเป็นไง"ขออะไรธรรมดากว่าที่คิดแฮะ

"งั้นเดี๋ยวผมซื้อเทียนหอมกลับไปนะ"

"ไม่ ๆ เดี๋ยวชั้นไปเลือกเอง วันหยุดนี้ไปดูซื้อกันเป็นไง"

"ก็ได้นะ"

"เยี่ยม"ร็อกซี่ตอบด้วยน้ำเสียงดีใจแล้วกดวางสายไป

 

แค่เทียนก็พอเหรอวะ ไอ้เราก็นึกว่าจะขอของอะไรแพง ๆ ซะอีก บางทีตรรกะที่ว่าผู้หญิงชอบให้ซื้อของแพงให้จะใช้ไม่ได้กับทุกคนล่ะมั้งนะ