กว่าที่สติฉันจะกลับมาเป็นปกติเวลาก็ผ่านไปพักใหญ่ และถ้าฉันฟังไม่ผิดเมื่อกี้เธอเพิ่งจะเรียกฉันว่าน้องสงกรานต์? เท่าที่ฉันจำได้วันนั้นฉันไม่ได้บอกเรื่องส่วนตัวแม้กระทั่งชื่อตัวเอง แล้วนี่เธอรู้ชื่อฉันได้ยังไงแถมยังเรียกฉันว่าน้องสงกรานต์?

          ว่าไงคะน้องสงกรานต์ยังไม่ได้ตอบคำถามพี่เลยนะคะ เป็นอีกครั้งที่เธอถามฉันด้วยรอยยิ้มแต่รอยยิ้มครั้งนี้ไม่ได้ดูเป็นมิตรเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ออกจะเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เหมือนเธอกำลังมีแผนอะไรบางอย่าง

          พี่เหรอคะ?” ฉันเอียงคอถามด้วยความสงสัย

          ค่ะ พี่ชื่อปีใหม่อยู่ปีสองคณะวิทยาศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน หวังว่าน้องสงกรานต์จะยังไม่ลืมพี่นะคะ พี่ปีใหม่พูดด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก ประมาณว่าลองลืมสิรับรองว่าจะได้เจอดี

          ไม่ลืมค่ะ แค่ไม่รู้ว่า...พี่ปีใหม่เรียนที่นี่ด้วย ฉันพูดเสียงเบาอย่างรู้สึกผิดไม่คิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้เจอเธออีกครั้ง แถมเธอยังเป็นถึงรุ่นพี่!!!

          ค่ะ หวังว่ารอบนี้น้องสงกรานต์จะไม่ได้หนีพี่ไปไหนอีกใช่มั้ยคะ ฉันรีบส่ายหัวยิกๆ เป็นการปฏิเสธ

          และพี่หวังว่าเราจะมีโอกาสได้พูดคุยกันยาวๆ อีกครั้งนะคะ พี่ปีใหม่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ฉันยืนหน้าซีดเผือดอยู่ตรงนี้

          สงกรานต์คะ สงกรานต์

          หะ ว่าไงนะอีฟ ฉันสะบัดหน้าไปมาเพื่อเรียกสติของตัวเอง

          สงกรานต์รู้จักปีพี่ใหม่ด้วยเหรอคะ

          นี่อีฟก็รู้จักพี่ปีใหม่ด้วยเหรอ ฉันถามอีฟด้วยท่าทางตกใจ นอกจากจะรู้ว่าพี่ปีใหม่เป็นรุ่นพี่นี่อีฟยังรู้จักเธอด้วยเหรอ?

          ค่ะ ใครๆ ก็รู้จักพี่ใหม่

          แล้วทำไมเราไม่เห็นรู้มาก่อนว่าพี่ใหม่เรียนที่นี่... ถ้าฉันรู้ อย่างน้อยจะทำให้ใจไว้ก่อนและคงเตรียมตัวหรือเผื่อใจไว้

          สงกรานต์ไม่สนใจมากกว่าค่ะ พี่ปีใหม่เป็นถึงดาวมหา'ลัยเลยนะคะ

          เป็นดาวมหา'ลัย ฉห. ก็รู้ว่าพี่ปีใหม่สวยแต่ไม่คิดว่าจะเป็นถึงดาวมหา'ลัย แล้วแบบนี้ถ้ามีคนอื่นรู้เรื่องของเราจะไม่เป็นไรเหรอ คงไม่ได้โดนใครเหม็นขี้หน้าหรือทำอะไรแปลกๆ หรอกนะ

         

          จากตอนแรกที่วางแผนว่าจะโดดฉันกลับต้องเปลี่ยนใจเมื่อเจอพี่ปีใหม่ ก็นะพี่ปีใหม่เพิ่งจะพูดไปหยกๆ ว่าฉันจะไม่หนีไปไหนด้วยน้ำเสียงแกมขู่ ขืนฉันยังโดดต่อก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไร ทางที่ดีฉันควรจะตามน้ำไปก่อน และตลอดเวลาที่อยู่ในช่วงการรับน้อง ฉันสัมผัสได้ถึงสายตาที่เอาแต่จดจ้องมาทางฉันและเมื่อหันไปดูถึงได้รู้ว่าเจ้าของสายตานั้นเป็นใคร ถ้าไม่ใช่ พี่ปีใหม่...

          เอาล่ะครับ ทุกเย็นน้องๆ จะต้องมาเจอพวกพี่ที่นี่เข้าใจมั้ยครับ พี่ว๊ากตะโกนใส่พวกเราซึ่งเป็นเด็กปีหนึ่ง เริ่มแล้วสินะกิจกรรมที่เรียกกันว่าการรับน้อง

          ค่ะ/ครับ

          ไม่ได้ยินครับ พูดดังๆ ฉันคิดในใจว่าพี่คะพี่หูหนวกเหรอคะ ถ้าพี่ไม่ได้ยินจริงๆ พี่ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษานะคะไม่ใช่ตะโกนใส่น้องๆ

          ค่ะ/ครับ

          เอาล่ะแยกย้ายได้

          ฉันขอบอกว่าฉันเป็นมนุษย์ประเภทเกลียดกิจกรรมยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสมัยมัธยมหรือกิจกรรมอะไรก็ตาม ถ้าเลี่ยงได้ฉันก็จะเลี่ยง แล้วไอ้กิจกรรมรับน้องแบบนี้บอกเลยว่าไม่มีทางที่คนอย่างฉันจะเข้าร่วม แต่ความคิดนั้นตรงหยุดลงเมื่อเจอน้ำเสียงอันคุ้นเคย

          น้องสงกรานต์คะพี่ขอคุยด้วยหน่อยค่ะ ฉันมองหน้าพี่ปีใหม่ด้วยถ้าใบหน้าไม่สบอารมณ์ ในเมื่อตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่ฉัน

          ตอนนี้เลยเหรอคะ

          ค่ะ รอยยิ้มเป็นมิตรเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน แต่ในความรู้สึกของฉันรอยยิ้มครั้งนี้มันไม่ได้ดูเป็นมิตรเลยสักนิด ในเมื่อจู่ๆ ฉันที่เป็นเด็กปีหนึ่งกลับโดนรุ่นพี่ปีสองที่พวงด้วยตำแหน่งดาวมหา’ลัยเรียกขณะที่กำลังแยกย้าย ซึ่งมันก็เป็นจุดสนใจได้ดีที่เดียว

          เราสองคนเดินแยกมาคุยในมุมอับ และทันทีที่เราอยู่เพียงลำพังใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มกลับเรียบเฉย ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายความว่ายังไง

          ใจคอจะไม่ทักทายพี่หน่อยเหรอคะ

          สวัสดีค่ะพี่ใหม่ ฉันรีบยกมือสวัสดีอย่างประชด

          กวนตีน แต่ช่างเถอะค่ะพี่ไม่ได้เรียกน้องสงกรานต์มาพูดเรื่องนี้ ที่พี่อยากจะพูดทำไมวันนั้นถึงกลับไปโดยไม่บอกคะ ฉันเม้มปากแน่นและไม่กล้าสบตาเธอเหมือนคนมีชะงักติดหลัง

          ทำไมไม่ตอบคะ?

          ไม่รู้จะตอบว่ายังไงค่ะ ฉันพูดออกไปตรงๆ เพราะในหัวตอนนี้มันช่างว่างเปล่า

          ปกติทำแบบนี้บ่อยเหรอคะ ฉันเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าสงสัยก่อนจะถามออกไป

          หมายถึงที่ไม่ค่อยตอบเหรอคะ

          หมายถึงที่น้องสงกรานต์ฟันแล้วทิ้งทำบ่อยเหรอคะ?” พี่ปีใหม่เน้นเสียงตรงคำว่าฟันแล้วทิ้งอย่างหนักแน่น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันเผลอสบตาถึงได้รู้ว่าในแววตาเธอมีความโกรธปนน้อยใจอยู่ในนั้น

          เปล่าค่ะ...พี่เป็นคนแรก ฉันพูดเสียงเบาอย่างคนรู้สึกผิด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องมันเกินเลย

          พี่ควรทำยังไงกับน้องสงกรานต์ดีคะ พี่ปีใหม่ถอนหายใจเบาๆ เหมือนกำลังเหนื่อยหน่าย

          ให้เราไม่สิ ให้น้องรับผิดชอบพี่มั้ยคะ ฉันไม่รู้ว่าควรแทนตัวว่าอะไรดี ในเมื่อครั้งแรกฉันแทนตัวว่าเราเพราะตอนนั้นดันคิดไปเองว่าพี่ใหม่น่าจะอายุพอๆ กับฉัน

          รับผิดชอบ? ตอนนี้เหรอคะ เธอหันมายิ้มพร้อมหัวเราะออกมาเหมือนว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลก

          แล้วจะให้น้องทำยังไงฉันไม่ได้ประชดแต่ถ้าเธอยากจะให้ฉันรับผิดชอบฉันก็ยินดี

          นั่นสิคะ พี่จะให้น้องสงกรานต์รับผิดชอบยังไงดี? ก่อนอื่นก็เริ่มจากการส่งโทรศัพท์มือถือมาค่ะ ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือไปให้พี่ปีใหม่แต่โดยดี แล้วมองเจ้าตัวที่วุ่นวายกับโทรศัพท์มือถือฉันพักใหญ่

          ตอนนี้น้องสงกรานต์ยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ

          ยังค่ะ

          แล้วน้องที่น่ารักๆ ที่อยู่กับน้องสงกรานต์คนนั้นใครคะ

          เพื่อนค่ะ...แค่เพื่อน ฉันรีบตอบออกไปเหมือนคนมีความผิดทั้งที่มันไม่มีอะไรเลย

          ดีค่ะ ต่อไปนี้ถ้าพี่เรียกน้องสงกรานต์ น้องสงกรานต์ต้องรีบมาหาพี่นะคะ

          ค่ะ ฉันเม้นปากแน่นและยอมรับแต่โดยดีและไม่ว่าเธอจะสั่งอะไรฉันยินดีที่จะทำตามทุกอย่างก็ในเมื่อเรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นเพราะฉัน

          และถ้าพี่โทรหา น้องสงกรานต์จะต้องรับสายพี่ทุกครั้ง

          ค่ะ

          ข้อสุดท้าย...ระหว่างนี้น้องสงกรานต์ห้ามมีใครนอกจากพี่

          คะ? พี่ปีใหม่หมายความว่ายังไงคะ ฉันเอียงคอถามด้วยความสงสัยคิดว่าเธอจะให้ฉันรับผิดชอบด้วยการเป็นเบ๊หรืออะไรทำนองนั้น

          ก็บอกจะรับผิดชอบพี่ไม่ใช่เหรอคะ

          ก็...ค่ะ

          การรับผิดชอบเรื่องนั้นมันหมายความว่ายังไง น้องสงกรานต์ไม่ทราบเหรอคะ แววตาของพี่ใหม่เต็มไปด้วยการหยอกล้อจนฉันไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ และเมื่อคิดตามที่ปีใหม่พูดคงไม่ใช่ว่า...

          พี่คงไม่ได้หมายความว่าให้น้องแต่งงานกับพี่ใช่มั้ย?

          แล้วคิดว่าไงคะ หน้าฉันถึงกลับซีดเผือดเมื่อมองดูท่าทางของพี่ปีใหม่ที่ไม่ได้ดูล้อเล่นเหมือนทุกที

          พี่พูดจริงเหรอคะ ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเธออยากให้รับผิดชอบเรื่องนี้ฉันก็ยินดี

          ทำหน้าเครียดเชียว พี่ล้อเล่นค่ะ ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่าที่พี่ปีใหม่พูดเป็นแค่เรื่องล้อเล่น ค่อยยังชั่ว

          ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอคะที่ไม่ได้แต่งงานกับพี่

          เปล่าค่ะ คือว่า...พวกเรายังไม่ได้รู้จักกันดีพอแล้วจู่ๆ จะให้แต่งงานมันออกจะ…” พูดไปเกาแก้มไปด้วยท่าทางประหม่า

          ไม่ใช่ว่าน้องสงกรานต์รู้จักพี่ทุกซอกทุกมุมแล้วเหรอคะ ฉึก คำพูดพี่ปีใหม่ช่างเสียบแทงใจ

          เรื่องนั้นมันก็...

          ทำไมคะ พูดไม่ออก?

          ค่ะ เรื่องวันนั้นน้องต้องขอ... ไม่ทันที่ฉันจะพูดคำว่าขอโทษพี่ปีใหม่กลับพูดขัดขึ้นมา

          ห้ามขอโทษออกมาค่ะ เรื่องวันนี้เราสองคนทำด้วยความเต็มใจค่ะอย่าพูดเหมือนมันเป็นเรื่องผิดพลาด น้ำเสียงของพี่ปีใหม่ดูโกรธยิ่งกว่าเดิม

          แต่วันนั้นพี่ปีใหม่เมา... พูดตอกย้ำว่าถึงยังไงเรื่องวันนั้นมันเกิดขึ้นเพราะฉันและวันนั้นพี่ปีใหม่กำลังเมา

          ค่ะพี่เมา แต่ก็ไม่ได้เมาถึงขนาดจำไม่ได้ว่ากำลังเอากับใคร ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ยิ่งรู้สึกผิดที่ทิ้งเธอไว้คนเดียว อย่างน้อยเราควรพูดคุยกันว่าจะทำยังไงไม่ใช่หนีออกมาดื้อๆ

          เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าพี่ปีใหม่ต้องการอะไรก็บอกน้อง

          ค่ะ ค่อยคุยกันง่ายหน่อย อย่างแรกวันนี้น้องสงกรานต์ช่วยไปกับพี่หน่อยค่ะ

          ตอนนี้เหรอคะ

          ค่ะ หรือว่าไม่ได้ พี่ปีใหม่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ซึ่งจากสีหน้าที่แสดงออกมาบ่งบอกว่าฉันไม่ได้มีตัวเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง

          ได้ค่ะ แต่ก่อนอื่นขอไปบอกเพื่อนก่อนได้มั้ยคะ

          ค่ะ พี่ให้เวลาสิบนาทีแล้วเราไปเจอกันที่ลาดจอดรถ ฉันพยักหน้ารับแล้วรีบเดินไปหาอีฟ ซึ่งอีฟก็นั่งรอฉันอยู่ที่เดิม

          มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะสงกรานต์

          คือว่า... ฉันหันไปมองรอบๆ พลางคิดว่าจะบอกอีฟยังไง ในเมื่อเราตกลงกันว่าจะไปหาอะไรกินหลังจากนี้ แต่เพราะพี่ปีใหม่เรียก(บังคับ)ให้ฉันไปหาฉันถึงได้ไม่มีทางเลือกนอกจากปฏิเสธอีฟทั้งที่ไม่อยากปฏิเสธ

          สงกรานต์ไม่สบายรึเปล่าคะสีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ ฉันรีบปิดตาแล้วยกมือขอโทษ ยิ่งเห็นท่าทางที่อีฟดูเป็นห่วงฉันยิ่งพูดไม่ออก

          ขอโทษนะอีฟคือว่าเรา...

          ใจเย็นๆ ค่ะสงกรานต์ ไม่ต้องเครียดค่ะมีอะไรก็พูดกับเราได้นะ อีฟหันมายิ้มอย่างอ่อนโยนจนฉันใจอ่อนยวบหรือฉันควรปฏิเสธพี่ปีใหม่ดีเพราะยังไงฉันก็นัดอีฟไว้ก่อน ไม่สิขืนปฏิเสธก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรยิ่งคิดถึงใบหน้าของพี่ใหม่...

          เราขอโทษจริงๆ นะอีฟ พอดีว่าเรามีธุระวันนี้เลยไปกินข้าวกับอีฟไม่ได้ สีหน้าของฉันตอนนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียดายอย่างมากที่ไม่ได้ไปกับอีฟ แต่อีฟกลับหัวเราะออกมาเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่

          เรื่องแค่นี้เอง เราคิดว่าสงกรานต์จะเป็นอะไรไปซะอีก อีฟยังคงหัวเราะออกมาอย่างน่ารัก ต่างกับอีกคนที่เอาแต่พูดจาข่มขู่

          ก็เรากลัวอีฟโกรธที่ผิดสัญญา...

          เราไม่ใช่เด็กนะคะเรื่องแค่นี้ไม่ทำให้เราโกรธค่ะ แต่ครั้งหน้าสงกรานต์ต้องเลี้ยงเราเป็นการไถ่โทษนะ

          อื้ม ได้สิ ฉันรีบพยักหน้ารัวๆ จะเท่าไรฉันก็พร้อมเปย์ เมื่อคุยกับอีฟเป็นที่เรียบร้อยฉันก็รีบตรงดิ่งไปที่ลาดจอดรถ

 

          มีเรื่องอะไรดีๆ เหรอคะถึงได้ยิ้มตลอดทาง ฉันรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อคนข้างๆ ทัก บรรยากาศระหว่างอีฟกับพี่ปีใหม่ช่างต่างราวฟ้ากับเหว นี่ถ้าฉันไม่บังเอิญชนกับพี่ปีใหม่ป่านนี้ฉันคงฉันกินข้าวแล้วคุยเรื่องเกม

          เปล่าค่ะ ว่าแต่เรากำลังจะไปไหนกันคะ ฉันตอบเสียงเรียบเพราะทันทีที่เจอหน้าก็โดนสั่งให้ขึ้นรถโดยที่เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

          ไปกินข้าวค่ะ แล้วก็ช่วยเลิกเรียกพี่จะดีมากค่ะ

          ก็พี่ปีใหม่เป็นรุ่นพี่ไม่ใช่เหรอคะ ฉันเอียงคอถาม ใช่ว่าฉันอยากเรียกเธอว่าพี่แต่เพราะเธอเป็นรุ่นพี่แถมวันนี้เพิ่งโดนพี่ว้ากสั่งว่าต้องสุภาพและเครพรุ่นพี่ทุกคนโดยเฉพาะเวลาที่เจอรุ่นพี่ที่ไหนต้องยกมือไหว้ ฉันถึงไม่กล้าพูดห้วนๆ หรือทำอะไรเสียมารยาทกับเธอ

          ครั้งแรกที่เราเจอกันพี่ไม่เห็นว่าน้องสงกรานต์จะเรียกพี่ว่าพี่นะคะ

          ก็ตอนนั้นยังไม่รู้นี่คะว่าพี่ปีใหม่แก่กว่า ฉันยิ้มเจื่อนเมื่อเจอสายตาพิฆาต

          แค่พี่ปีเดียวค่ะ

          จะปีเดียวหรือสองปีก็แก่กว่าอยู่ดีไม่ใช่เหรอคะ อดไม่ได้ที่พูดจากวนตีน และน่าแปลกแทนที่พี่ปีใหม่จะโกรธกลับยิ้มออกมา

          ที่นี่มัน... ฉันอ้าปากเหวอเมื่อถึงที่หมาย ก็นี่มันคือโรงแรมที่เราเจอกันครั้งแรก

          ยังจำได้อยู่สินะคะ สีหน้าที่เธอมองเหมือนกำลังล้อเลียนฉันอยู่กลายๆ

          ใครมันจะไปลืมได้ลง ฉันบ่นเสียงเบา ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางลืม

          ดีค่ะ เพราะวันนี้เราจะมา...รําลึกความหลังกันค่ะ เป็นอีกครั้งที่ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อมองท่าทางของเธอ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เหมือนงูที่กำลังจ้องมองเหยื่อแล้วเหยื่อที่ว่าคงเป็นฉัน

          ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ค่ะ จะไม่ให้เกร็งได้ยังไงในเมื่อเธอกำลังพาฉันขึ้นลิฟต์ตัวเดิมเหมือนวันนั้น แถมยังบอกว่าจะรําลึกความหลัง? แล้วไอ้ความหลังที่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่อง...

          กลัวเหรอคะ?”

          ใครกลัว ก็แค่หนาวค่ะ...ลิฟต์โรงแรมจะเย็นไปไหน รีบยกมือขึ้นมาถูตัวเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าไม่ได้กลัว คนมันแค่หนาว...

          แล้วพี่ปีใหม่จะขยับเข้ามาใกล้ทำไมคะ บ่นออกไปเมื่อเธอขยับเข้ามาใกล้จนไหล่เราชนกัน

          หนาวไม่ใช่เหรอคะ ถ้าพี่อยู่ใกล้ๆ น้องสงกรานต์จะได้อุ่นไงคะ ฉันรีบเอามือดันเธอออกไป ยิ่งอยู่ใกล้กันยิ่งทำให้คิดถึงเรื่องในคืนนั้นเข้าไปทุกทีโดยเฉพาะในสถานที่เดิม

          ไม่หนาวแล้วค่ะ ถอยออกไปเลยค่ะ

          หายหนาวไวจัง เธอยิ้มเหมือนรู้ทุกอย่างฉันล่ะเกลียดรอยยิ้มของเธอในตอนนี้จริงๆ

          ตึ่ง

          เสียงลิฟต์ดังขึ้นพร้อมประตูลิฟต์ที่กำลังจะเปิดออกฉันมองตัวเลขหน้าลิฟต์...นี่มันชั้นเดียวกับวันนั้น หรือที่เธอพูดออกไปว่าระลึกความหลังจะหมายถึงแบบคืนนั้น?

          น้องสงกรานต์คะ ถึงแล้วค่ะ

          ค่ะ ฉันตัวแข็งทื่อเอาแต่กังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ฉันเลือกที่จะเดินตามหลังเธออย่างเงียบๆ ภาวนาให้ไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด แต่ไม่ว่าจะเงยหน้าขึ้นมองกี่ครั้ง นี่มัน...ห้องเดิม

          ไม่เข้ามาเหรอคะหรือว่า...น้องสงกรานต์จะกลัว? เธอยกยิ้มที่มุมปากเหมือนกำลังท้าทาย บอกตามตรงว่าฉันเริ่มจะเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเธอขึ้นมาแล้วสิ