3 ตอน ตอนที่ 3 ช่วงเวลา
โดย กัปตันอเมริก้า
** การพูดคุยของเด็ก ๆ บางครั้งอาจจะใช้ภาษาอังกฤษพร้อมกับคำแปลด้านหลังเพื่ออรรถรสเสมือนว่าอยู่ต่างประเทศงับ อาจจะมีแกรมม่าหรือคำผิดบ้างต้องขออภัยไว้ก่อนคับ"
แพททริคบอกว่าจะมาส่งเด็ก ๆ ด้วยตัวเองทุกครั้งหลังจากนี้และก็ทำจริงดังที่พูดไว้.. ทุกครั้งที่ต้องพาทั้งคู่มาอยู่บ้านผู้ดูแลตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ แม้ว่าในสัญญาจะระบุให้ป้าเดียร์ดูแลเด็ก ๆ ในช่วงที่แพททริคต้องทำงานแต่ดูเหมือนว่าช่วงหลัง ๆ แม้แพททริคจะไม่มีงานที่ต้องทำก็จะพาเด็ก ๆ มาที่บ้านของป้าเดียร์ตลอด บางครั้งก็ขอมาในวันที่ไม่ได้ตกลงกันไว้
และแน่นอนว่าแพททริคพาตัวเองมาสิงสถิตอยู่บ้านของผู้ดูแลบ่อยขึ้น จากที่ปกติมาส่งจะยืนรออยู่แค่หน้าประตูก็เริ่มเข้าไปนั่งเล่น ดื่มชา ดื่มกาแฟในบ้าน นานวันเข้าก็เริ่มอยู่รอกินข้าวกลางวันพร้อมกับทุกคน
บางวันก็เหมือนจะพาเด็ก ๆ มาก่อนเวลาที่ป้าเดียร์จะกลับจากที่ทำงานประจำและมักจะมานั่งรอในบ้านมองดูเด็ก ๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานพร้อมนั่งมองดูสกายที่นั่งอยู่ที่ห้องครัว ที่ประจำบริเวณหน้าต่างห้องครัว มุมประจำที่แพททริคสังเกตเห็นอีกคนนั่งอยู่พร้อมสมุดเล่มเล็กและหนังสืออ่านเล่น
อีกหนึ่งอย่างที่แพททริคสังเกตเห็นอีกคนในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ป่านมาคือจะมีบางวันที่เขามาส่งเด็ก ๆ แล้วไม่เจอสกายนั่งอยู่ที่ประจำหรือออกมารับเด็ก ๆ เหมือนทุกครั้งและก็ได้รู้จากวีว่าและวิสที่หลังว่าสกายป่วยบ่อยและชอบฝันร้าย และนั้นจึงเป็นเหตุผลที่วิสและวีว่าชอบบอกให้เขาพาไปซื้อหนังสือนิทานใหม่มาอีกหลายเล่มเพื่อจะนำไปให้สกาย
แม้ว่าใจหนึ่งก็อยากถามออกไปว่าอีกคนป่วยเป็นอะไรแต่ก็กลัวว่าจะล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของสกายมากเกินไปเพราะใช่ว่าพวกเขาทั้งคู่จะสนิทกันมากขนาดนั้นและอีกอย่างคือแพททริคเองยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยทำความรู้จักกับสกายจริงจังนอกจากการพูดคุยเรื่องของวิสและวีว่า
Viva: "วิส เอาอะไรให้ดัดตี้ (Dusty) "
Wiz: "เลโก้ที่ซื้อเมื่อวานแล้วก็หน้ากาก"
Viva: Nice!!
เสียงของวีว่าเอ่ยถามพี่ชายที่กำลังใช้กระดาษหลากสีสันห่อเป็นกล่องของขวัญโดยมีสกายช่วยพับและตัดปลายกระดาษที่เกินออกมาให้
เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนร่วมชั้นเรียนของวิสและวีว่า ซึ่งมีการจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ สำหรับเด็กขึ้นที่สวนสาธารณะใกล้บ้านของป้าเดียร์ แพททริคจึงใช้โอกาสนี้พาเด็ก ๆ มาเตรียมตัวและขอให้สกายช่วยห่อของขวัญกับพวกเขา
รวมไปถึงใช้โอกาสนี้ชวนสกายไปงานนี้เป็นเพื่อนพวกเขาพร้อมเด็ก ๆ แม้ว่าตอนแรกสกายจะพยายามปฏิเสธแต่เพราะได้รับความช่วยเหลือจากป้าเดียร์ที่เสนอให้สกายลองออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง โดยให้เหตุผลว่าไปลองดูว่าเด็ก ๆ เล่นกันอย่างไรเพียงไม่กี่ชั่วโมงอีกคนจึงยอมตกลงไปกับพวกเขาด้วย
............/////.............
Wiz: "พวกเราจะไปเล่นกับดัดตี้แปปเดียว"
Viva: "You two wait here. ok?" (ทั้งสองคนรอที่นี่นะ)
"ได้ครับ"
“ครับ”
แพทริคและสกายยืนมองวิสและวีว่าวิ่งเข้าไปหากลุ่มเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นอยู่ในลานทรายกับเครื่องเล่นกระดานลื่น รวมไปถึงชิงช้าและเครื่องเล่นอื่น ๆ โดยเป้าหมายของเด็กทั้งสองคนคือเจ้าของวันเกิดที่มีชื่อว่าดัดตี้ ก่อนที่ทั้งแพททริคและสกายจะมองหาที่ว่างเพื่อนั่งรอเด็ก ๆ เล่นกันหลังจากนี้
เก้าอี้นั่งรอบ ๆ ลานทรายตอนนี้ดูจะเต็มไปด้วยผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานของตนมาร่วมงานและรอให้พวกเขาเล่นกันก่อนจะพากลับบ้านเหมือนแพทริคและสกายในตอนนี้
"ผมได้ยินว่าสกายมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหมครับ"
แพททริคพาสกายเดินมานั่งเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกมาจากลานทรายพอสมควรแต่ไม่ไกลมากยังพอมองเห็นเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่ และพอให้วิสและวีว่ามองเห็นว่าพวกเขายังอยู่บริเวณนั้น
"ใช่ครับ มาครั้งแรกครับ"
"แล้วเป็นไงบ้างครับ ที่นี่น่าอยู่ไหม"
"ครับ น่าอยู่มาก อากาศก็ดี... ผมไม่แน่ใจว่าช่วงหน้าหนาวเป็นยังไงแต่ผมชอบตอนนี้นะ"
"แล้ว... สกายจะอยู่ถึงช่วงนั้นไหมครับ หน้าหนาว?"
"ไม่ครับ อีกเดือนกว่าผมก็จะไปแล้ว"
"แล้วสกายจะกลับมาอีกไหมครับหรืออยากอยู่จนถึงช่วงนั้นไหม"
"ไม่ครับ"
สกายเอ่ยตอบกลับไปอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะหยุดคิดหรือลังเลสักนิด ทำเอาคนที่ได้ฟังอย่างแพททริคเงียบไปเพราะไม่รู้จะต่อบทสนทนาอย่างไรดีก่อนจะนึกขึ้นได้และพูดขึ้นมาอีก
"ตอนผมอายุเจ็ดขวบ ผมย้ายมาอยู่กับครอบครัวที่นี่ครั้งแรก ตอนนั้นผมไม่อยากอยู่ที่นี้เลย"
แพทริคเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้อีกคนฟังเผื่อว่าพวกเขาจะได้มีหัวข้อคุยกันมากขึ้น
"สังคมใหม่ ภาษาใหม่ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ผมงอแงกับพ่อทุกวันว่าให้พาผมกลับไทย"
สกายหันมามองคนที่กำลังพูดเรื่องราวของตนเองด้วยรอยยิ้มเพราะกำลังคิดไปถึงตอนที่มาอยู่ที่แห่งนี้ครั้งแรก
"แต่พอผมปรับตัวได้ ผมกลับชอบที่นี่มากจนพอถึงช่วงซัมเมอร์ที่ต้องกลับไปเยี่ยมญาติที่ไทย ผมก็ไปงอแงกับพ่ออีกว่าไม่ให้พาผมกลับ ผมงอแงทุกวันเลยแถมยังโทรก่อกวนท่านช่วงเที่ยงวันด้วย ยังไม่หมดนะครับ ตอนหลังเลิกงานตลอดสองสัปดาห์ก่อนถึงกำหนดการผมก็โทรกวนพ่อแบบนั้นตลอด"
แพททริคเล่าถึงวีรกรรมตนเองในตอนนั้นอย่างออกรสชาติ
"ขนาดนั้นเลยหรอครับ แล้วเป็นยังไงครับ" เสียกลั้นหัวเราะพร้อมเอ่ยถามเรื่องราวต่อจากนั้นของสกายถามต่อด้วยความใครรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
"ผมก็โดนพ่อดุแล้วก็ยังต้องกลับไปเยี่ยมญาติอยู่ดีครับ... ฮ่า ๆ แต่ที่นั่นก็โอเคครับ ไม่ได้แย่อะไร... ตอนนั้นผมคิดว่าผมแค่เป็นเด็กเอาแต่ใจนิดหน่อย"
แพททริคพยายามพูดแก้ตัวให้ตนเองก่อนจะเห็นสีหน้าไม่มั่นใจนักของสกายส่งมาให้ก่อนที่จะได้ยินอีกคนพูดขึ้น
"ครับ? ... แต่จากที่ฟังคุณเล่า คุณดูไม่น่าจะแค่... เอาแต่ใจนิดหน่อยเลยนะครับ"
"ฮ่า ๆ ครับ ๆ ก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเอาแต่ใจมากกกก แล้วก็ยังเป็นตัวป่วนของครอบครัวอีก"
"ฮึ ๆ ครับแบบนี้ค่อยดูน่าจะเป็นเรื่องจริงขึ้นมาหน่อย"
เสียงหัวเราะของทั้งสองคนยังดังอยู่เนือง ๆ จากเรื่องเล่าสมัยเด็กของแพททริคที่สรรหาเรื่องป่วนของตนเองมาเล่าให้สกายฟังและดูเหมือนว่าจะพอทำให้สกายหัวเราะได้และยอมพูดคุยทั้งยังเล่าเรื่องของตัวเองแลกเปลี่ยนกับเขาอีกด้วย...
"No way!? เรื่องจริงหรอครับ.. คือแบบผมไม่อยากจะเชื่อว่าคุณไม่เคยปั่นจักรยานแล้วก็ไม่เคยปั่นเรือเป็ด"
"เรื่องจริงครับ ผมค่อนข้างขี้กลัวนิดหน่อยตอนเด็ก ๆ เลยไม่เคยคิดอยากจะลองปั่นจักรยานหรือเล่นเรือถีบผมว่ามันน่ากลัว แล้วเวลาไปไหนมาไหน ผมจะใช้วีธีเดินไปหรือไม่ก็เรียกรถหน้าปากซอยไปส่ง... พอโตขึ้นเอ่อ... ช่างมันเถอะครับ"
สกายพูดข้ามเรื่องของครอบครัวและอุบัติเหตุไปเพราะกลัวว่าถ้าหยิบยกมาพูดอาจจะทำให้เสียบรรยากาศเปล่า ๆ และดูเหมือนว่าแพททริกจะพอรู้อยู่แล้วว่าเขาเคยเกิดอุบัติเหตุอีกทั้งป้าเดียร์เคยมาถามเขาถึงเรื่องที่สามารถเล่าได้หรือเรื่องไหนที่เล่าไม่ได้กับสกายอยู่ครั้งหนึ่ง เดาได้ไม่ยากเลยว่าใครมาถามเรื่องของเขากับป้าเดียร์
"งั้นลองไหมครับ?"
"ครับ?"
"จักรยานกับเรือปั่น"
แพททริกเข้าใจสถานการณ์จึงลองเปลี่ยนหัวข้อเป็นการชวนให้สกายได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำแทน
"ผมช่วยสอนเอง ช่วงนี้ผมเคลียร์งานหลาย ๆ อย่างเรียบร้อยแล้วด้วย... ค่อนข้างว่างมากเลยครับ"
"ผมไม่แน่ใจว่าจะ..."
"นะครับ ลองหน่อย ไม่ต้องกลัวผมอยู่ข้าง ๆ เอง เดี๋ยวให้วิสกับวีว่าช่วยสอนด้วยเลย สองรายนั้นกำลังเตรียมลงแข่งปั่นจักรยานเด็กที่โรงเรียนด้วย"
แพททริคพยายามใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อให้สกายตอบตกลงพร้อมอ้างถึงงานกีฬาสีของเด็ก ๆ ที่จะเกิดขึ้นมาช่วยให้สกายได้ลองพิจารณาแม้ว่างานเหล่านั้นขะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสกายเลยก็ตาม
"งั้น..ก็ได้ครับ"
"เยส!!!"
ท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าของแพททริกทำให้หลายคนที่อยู่ใกล้เคียงหันมามองด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเลิกสนใจและละสายตาไป ส่วนคนที่ดูเหมือนจะได้โอกาสใช้เวลาร่วมกับอีกคนยังคงยิ้มกว้างส่งไปให้คนที่นั่งอยู่ข้างกันตลอดเวลา
นอกจากสายตาของผู้ปกครองที่อยู่รอบบริเวณนั้นก็ยังมีสายตาอีกสองคู่ที่มองดูพวกเขาทั้งสองคนจากลานทรายบริเวณเครื่องเล่น ตัวนกสปริงโยกเยกและตัวม้าที่กำลังโยกสลับไปมาของเด็กสองสามคนที่กำลังเล่นกันอยู่... วิส วีว่าและเจ้าของวันเกิดอย่างดัตตี้
Viva: Why daddy acting like that? (ทำไมแด๊ดดี้ทำท่าทางแบบนั้น?)
Wiz: Yeah, what do you think? (นั่นสิ น้องคิดว่าไงละ?)
Viva: Weird. (แปลก)
Wiz: yeah weird (ใช่ แปลก)
Dusty: no, it's not (ไม่เห็นแปลกเลย)
เสียงเพื่อนเจ้าของวันเกิดที่นั่งเล่นม้าโยกเยกอยู่ข้างกันเอ่ยแทรกขึ้นมา
Viva: why? (ทำไมละ?)
Wiz: yeah... why not? (ใช่ ทำไมถึงไม่แปลก)
Dusty: my dad act like that all the time when my mom allowed him to go hang out. (พ่อฉันชอบทำท่าทางแบบนั้นตลอด เวลาที่แม่อนุญาตให้พ่อออกไปเที่ยวข้างนอก)
Wiz: but Sky is not our mom (แต่ว่าสกายไม่ใช่แม่พวกเราสักหน่อย)
Viva: yeah... They are not a couple and Sky is a man (นั่นสิ พวกเขาไม่ได้เป็นคู่รักกันเสียหน่อยแล้วอีกอย่างสกายเป็นผู้ชาย)
Dusty: yeah, I know it. it's obvious that only your dad thought (เรื่องนั่น ฉันรู้ และก็ดูออกชัดเจนมากว่าพ่อพวกเธอรักเขาข้างเดียว)
เจ้าของวันเกิดพูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้มมุมปากและกระตุกคิ้วทั้งสองข้างไปให้สองพี่น้องที่มองอยู่ในขณะที่เท้าก็กำลังโยกเจ้าม้าสปริงไปด้วยอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้เพื่อนตัวน้อยของตนมองกลับมาด้วยสายตาประหลาดต่อไป
............../////..............
Wiz: "Did you just flirt with him?" (พ่อจีบสกายหรอ?)
วิสยืนกอดอกด้วยแขนเล็ก ๆ ของตนพร้อมเอ่ยถามผู้เป็นพ่อเสียงเรียบนิ่งและยังไม่วายมองด้วยสายตาเอาเรื่อง? แล้วยังใช้สรรพนามแทนแพททริคว่า you จากปกติที่เรียกเขาว่า daddy อีก?
“I afraid I am” (ใช่ครับ)
แพททริกตอบกลับลูกชายและลูกสาวที่ยืนกอดอก กดดันเขาหลังจากกลับมาถึงบ้าน
Viva: "If you want to flirt with him you need to go through us” (ถ้าคิดจะจีบสกายต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน)
เสียงเล็ก ๆ ของวีว่าพูดขึ้นมาบ้างหลังจากได้ยินคำตอบของผู้เป็นพ่อซ้ำยังกอดอก เชิดหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อด้วยหางตาเลียนแบบผู้เป็นพี่ชายของตน ซึ่งมันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยแม้แต่น้อยนอกจากน่าฟัดแก้มมากกว่า และยังไม่ทันที่แพททริคจะได้พูดอะไรต่อ วิสก็พูดขึ้นมาอีกเพราะคนเป็นพ่อคิดช้าและตอบช้าเหลือเกิน!
Wiz: “or you need aaaa war” (หรืออยากจะทำสงครามก็ได้นะ)
เสียงลากตัวเอ ยาวขึ้นกว่าปกติตามด้วยเสียงคำที่ใช้เหมือนจะประกาศสงครามกับผู้เป็นพ่อ เอ่ยเสริมทัพให้น้องสาวขึ้นมาเพื่อกดดัน
“Why not? I thought you two love Sky? Am I wrong?” (ทำไมละ พ่อนึกว่าทั้งสองคนชอบสกายเสียอีก พ่อเข้าใจผิดเหรอ?)
เสียงของแพททริกเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ในใจก็คิดไปว่าเด็กอาจจะเริ่มไม่ชอบสกายแล้วหรืออย่างไร ถึงคิดจะกีดกันไม่ให้เขาไปจีบใครเหมือนอย่างที่เคยเขม้นใส่เพื่อนของแพททริคหลังจากที่พาเขาไปนัดบอดกับผู้หญิงคนหนึ่ง
Viva: No, you not, we do like Sky soooo much!” (เปล่า พวกเราชอบสกายมากกกก)
Wiz: Yeah! Sooooo much (ใช่ ชอบมั่กๆๆๆ มากกกก)
Pattrick: So, what is the problem then? (แล้วติดปัญหาอะไรละ ถ้าพ่อจะจีบสกาย)
Wiz: You! (ตัวพ่อนั่นแหล่ะ)
Viva: yeah, You! (ใช่ ตัวพ่อนั่นแหล่ะที่เป็นปัญหา)
What? (ห๊ะ?)
สีหน้าของแพททริกบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังสับสน งุนงงมากถึงที่สุด เพราะทีแรกตนคิดว่าทั้งวิสและวีว่าหวงก้างผู้เป็นพ่อ ไม่อยากให้เขามีคนรักหรือพาใครเข้ามาในครอบครัว จนคิดไปว่าอาจจะมีปัญหาไปถึงสกายหรือเปล่า แต่กลับกลายเป็นว่า ตัวเขาเองต่างหากที่เป็นปัญหาแบบนี้มัน... หมายความว่าไง?
Viva: you busy all the time! (พ่อชอบงานยุ่งตลอดเวลา)
Wiz: Yeah, you will make him sad (ใช่ พ่อจะทำให้สกายเศร้าใจ)
Patrick:?
Viva: you cannot cook. (พ่อทำอาหารไม่เป็นเลย)
Wiz: only have money to buy it (มีแค่เงินที่ใช้ซื้อกิน)
Pattrick: rude!! but true. I'm rich (หยาบคาย! ทำร้ายจิตใจมากกก แต่ก็มีเรื่องจริงอยู่คือ พ่อรวยจริง ๆ)
Viva: Sky like the funny man (สกายชอบคนตลก)
Wiz: that why Sky likes me because I'm funny. (และนั่นทำให้สกายชอบผม เพราะผมเป็นคนตลก)
Pattrick: whaaat? (ไงนะ?)
Wiz: zipped please... young man (เงียบไว้ก่อนพ่อหนุ่ม)
พร้อมทำท่าเอามือปิดปากของตัวเองเหมือนกำลังรูดซิปเพื่อบอกให้แพททริกเงียบเสียงไว้ก่อน
Viva: you can take care of no one, even your own kids (พ่อดูแลใครไม่รอดสักคน แม้แต่พวกเรา)
Wiz: that made you look… not cool! (และนั่นทำให้พ่อดูไม่เท่)
Viva: Exactly! Sky don't like you if you not cool (ใช่.. สกายชอบคนเท่ ๆ ถ้าพ่อไม่หล่อเท่ สกายไม่ชอบพ่อหรอก)
Wiz: yeah, and we cannot allow who is not cool to flirt with Sky. (ใช่! พวกเราไม่อนุญาตให้ใครที่ไม่คู่ควรมาจีบสกายเด็ดขาด)
แพกทริกนิ่งอึ้งไปกับสิ่งที่ลูก ๆ ของตนบอก แม้อยากจะเปิดปากเถียงกับพวกเขาเรื่องที่ทั้งคู่กล่าวหา แต่วีว่ากลับเอานิ้วเล็ก ๆ มาทาบที่ปากของตนไว้พรางส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกให้เขาอยู่เงียบ ๆ และฟังสิ่งพวกเขาพูดให้จบ แม้ว่าจะไม่อยากยอมรับแต่ก็มีบางส่วนที่เป็นเรื่องจริง อย่างเช่นขาเองไม่มีเวลาและให้ป้าเดียร์ดูแลพวกเด็ก ๆ แทนเขาเสียส่วนใหญ่
Wiz: If you want sky like you. You need to change (แต่ถ้าพ่ออยากให้สกายชอบพ่อ พ่อต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่)
Viva: yeah, or if you're not. There is no chance for you (ใช่ ถ้าไม่เปลี่ยนพ่อก็จะไม่มีโอกาสได้จีบแน่นอน)
Pattrick: Okey, well. Could you give me any advice to be a cool gay, please? Mister and Miss gradian of Sky (งั้น ช่วยแนะนำผมการเป็นคนหล่อเท่ ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ เหล่าผู้พิทักษ์ของสกาย)
Wiz: be opposite what we said before (ทำตัวตรงข้ามกับที่พวกเราบอกเมื่อกี้)
Viva: follow our lead and do whatever we said (ทำตามที่พวกเราสั่งทุกอย่าง)
Pattrick: But.. (แต่ว่า..)
Wiz, Viva: No question! (ห้ามมีคำถาม)
Pattrick: Okay (ก็ได้ครับ)
Wiz: Good (ดีมาก)
Viva: we will help you (พวกเราจะช่วยเอง)
Pattrick: Thank you so much. Sir, and my lady (ขอบพระคุณขอรับ นายท่านและท่านหญิงของกระผม)
Viva: No need
หลังจากจบบทสนทนาตามประสาพ่อลูกที่รักกันมาก? สองพี่น้องทำเพียงยิ้มกรุ้มกริ้มให้ผู้เป็นพ่อของพวกเขาก่อนจะเดินเชิดหน้าตรงไปทางห้องพักของตัวเอง จนแพรกทริคอดไม่ได้ต้องตะโกนถามออกไปก่อนจะได้ยินคำตอบตะโกนไล่หลังกลับมา..
Pattrick: Am I still your daddy? (ฉันยังเป็นพ่อของพวกเธออยู่รึเปล่าเนี่ย?)
Viva: yeah! you are (ใช่ ยังเป็นพ่อพวกเราอยู่)
Wiz: for now (แค่ตอนนี้)
Pattrick: ...
และเป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่ทิ้งให้ผู้เป็นพ่อนั่งอึ้งและคิดว่าบางทีตนเองอาจจะปล่อยลูก ๆ อยู่กับทีวีหรือไอแพดมากเกินไปหรือเปล่านะ หรือเด็ก ๆ จะโตเกินไปจนเขาตามไม่ทันเองหรือเปล่า..
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี อย่างน้อยก็มีทัพเสริมคอยช่วยให้เขาได้มีโอกาสใช้เวลาทำความรู้จักกับอีกคนมากขึ้น.. มั้ง?
............../////..............
"ผมจับไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวนะครับ... โฟกัสที่แฮนด์บังคับตรง ๆ และก็มองไปข้างหน้าไว้ครับ อย่าลืมใช้นิ้วจับตัวเบรกไว้ด้วยนะ"
เสียงร้องบอกคนที่กำลังบังคับ จับแขนของจักรยานและทำล้อมันส่ายไปมาจนแทบจะวิ่งวนเป็นวงกลม โดยที่แพททริคเป็นคนช่วยพยุงและจูงจักรยานจากด้านข้างก่อนจะเปลี่ยนมาช่วยผลักดันจักรยานจากด้านหลังในตอนที่เห็นว่าอีกคนเริ่มคุมตัวบังคับได้และทำให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ตรงแล้ว
"หืออออ... ยะ อย่าเพิ่งปล่อยมือนะคุณ"
Wiz: "สู้ ๆ ค้าบ"
Viva: "Fighting"
สกายเกร็งแขนทั้งสองข้างไว้เพื่อให้มันสามารถวิ่งไปข้างหน้าได้ขณะที่ตัวเองก็พยายามถีบตัวปั่นให้มันสามารถขับเคลื่อนล้อของมันไปข้างหน้าโดยที่ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าคนที่คอยพยุงรถไว้ให้จากด้านหลังปล่อยมือนานแล้วและตอนนี้แพททริคกำลังวิ่งตามจักรยานของสกายที่เริ่มไปเร็วขึ้น
"ด ได้แล้ว ๆ คุณ! ผมปั่นได้แล้ว..."
เสียงร้องบอกของคนที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าตอนนี้ตนสามารถบังคับและปั่นจักรยานได้แล้วก่อนจะหันไปมองคนที่คิดว่ายังช่วยดันอยู่ด้านหลังแต่ความจริงแล้วอีกคนกลับไม่ได้จับอยู่ ซ้ำยังอยู่ห่างออกไปและกำลังวิ่งตามเขามา
และเพราะหันไปมองอีกคนจึงทำให้ตนเองเกิดเสียหลักแต่โชคยังดีที่จำได้ว่ามือข้างหนึ่งยังแตะอยู่ที่เบรกค้างไว้จึงกดนิ้วลงเพื่อให้เบรกทำงาน แต่ดูเหมือนว่าจะยังทำให้คนที่ไม่ชินกับแรงเหวี่ยงของล้อ พอสกายเบรกแรงไปจึงทำให้ล้อหยุดและมือเริ่มส่ายไปมาจนเกือบจะล้ม แต่โชคของสกายจะยังมีอยู่บ้างที่ก่อนตัวจักรยานจะพาล้มลงแพททริกวิ่งมาทันพอดีและคว้าตัวของอีกคนไว้ทัน จึงทำให้อีกคนยังพอทรงตัวยืนอยู่ได้
"เก่งมากเลยครับ แต่ครั้งหน้าค่อย ๆ ดึงเบรกตรงนี้เบา ๆ นะครับ รับรองว่าสกายจะจอดได้นิ่มกว่านี้แน่นอน"
"จริงหรอ"
"จริงครับ แล้วก็ยินดีด้วยนะ ตอนนี้คุณปั่นจักรยานเป็นแล้ววว"
คนที่ถูกชมยิ้มให้แพททริกจนตาแทบปิด รู้สึกยินดีและดีใจที่ตัวเองสามารถปั่นจักรยานเป็นแล้วแม้ว่าจะยังเบรกได้ไม่ดีเท่าที่ควรก็ตามแต่ก็รู้สึกว่าตนเองมีความกล้าและมั่นใจที่จะลองปั่นจักรยานมากขึ้นจริง ๆ แต่ก่อนที่สกายจะได้ลองปั่นดูอีกรอบเด็ก ๆ ที่ปั่นจักรยานคันเล็กตามหลังมาทันก็โห่ร้องดีใจขึ้นเรียกความสนใจจากสกายและแพททริคให้หันไปมอง
Viva: "เย้ะ... Sky soooo great!!!!"
Wiz: "เย้ สกายเก่งมาก ๆ ๆ ๆ เลยค้าบบบบ"
"ขอบคุณมากเลยครับ"
แพททริกปล่อยให้สกายได้ลองปั่นไปมาด้วยระยะทางสั้น ๆ พร้อมทั้งสอนให้เลี้ยวและเอียงตัวเพื่อรักษาสมดุลอยู่สักพัก ไม่นานสกายก็สามารถปั่นได้คล่องขึ้น... เสียงโห่ร้องยินดีของเด็กแฝดสองพี่น้องยังมีให้ได้ยินตามหลังทุกครั้งที่สกายทำบางอย่างสำเร็จ
สกายเหมือนรู้สึกได้รับพลังและมีแรงใจมหาศาลที่ช่วยให้ตัวเองพยายามจนสามารถทำในสิ่งที่กลัวได้สำเร็จ... เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตตลอดเกือบสามสิบปีที่ผ่านมาเลยจริง ๆ
............../////..............
แพททริกพาสกายกลับบ้านด้วยรถยนต์โดยมีเด็ก ๆ ทั้งสองคนนั่งเล่นกันอยู่เบาะหลัง สวนสาธารณะที่พวกเขาพากันไปปั่นจักรยานวันนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของสกายก็จริงแต่จะให้อีกคนปั่นจักรยานกลับมาเลยก็คงจะไม่สะดวกนักเพราะยังคงเป็นมือใหม่อาจจะเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดระหว่างทางได้
ดังนั้นพวกเขาจึงยัดจักรยานไว้ด้านหลังรถยนต์และพากันนั่งชิลขับรถเล่นบ้างระหว่างทางเพื่อให้สกายได้เห็นวิวรอบเมือง และก่อนจะพามาส่งที่บ้าน แพททริคพาสกายไปกินข้าวรวมไปถึงแวะจุดท่องเที่ยวเพื่อถ่ายรูปอีกหลายแห่งแม้ว่าอีกคนจะบอกว่า ไม่จำเป็นต้องถ่ายไว้ก็เถอะ
"วันนี้สนุกไหมครับ สกาย"
"ครับ สนุกมากเลย ขอบคุณนะครับ... ขอบคุณวิสกับวีว่าด้วยนะครับที่อุตส่ามาช่วยให้กำลัง"
Wiz: "For your smile, I'll do anything for you, Anything เลยคร้าบบบบ"
Viva: "yeah me too"
เสียงเอ่ยร้องสดใสของวิสทำเอาทั้งสองคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าหัวเราะออกมา ให้กับความน่ารักและความพยายามพูดของเด็กทั้งคู่จนอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ไม่แน่ใจนักว่าลูก ๆ ของเขาไปจดจำคำพูดพวกนี้มาจากไหน อาจจะเป็นการ์ตูนที่ดูทุกเช้าหรือเปล่านะ.. แต่ถ้ามันทำให้สกายยิ้มได้แบบนี้ เขาคงต้องไปหามาดูบ้างแล้วละ...
Comments (0)