9 ตอน เล่นเกมกับอัยญ์
โดย กระจ่างดาว
เฮียสามอย่าแกล้งน้อง
กระจ่างดาว : เขียน
เฮียสาม X อัยญ์
บทที่ 8
เล่นเกมกับอัยญ์
“เฮีย บอกอัยญ์มาว่าใครทำเฮีย”
“เฮียพูดจริง ๆ ไม่มีใครทำเฮียทั้งนั้นแหละ” สามยืนยันเสียงแข็ง จ้างให้ก็ไม่บอกหรอกว่า รอยช้ำที่มุมปากนี่เกิดจากลูกเตะมหาภัยของเด็กที่นั่งทำตาแดงคล้ายว่าจะร้องไห้เต็มแก่นี่น่ะ ใครจะไปรู้ว่าพอคนน้องตื่นมาเห็นเขากำลังนั่งประคบน้ำแข็ง ก็เกิดอาการอย่างที่เห็น จะไปทุบคนทำบ้างล่ะ จะให้สามไม่ต้องให้คนนั้นกินขนมบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าถ้าเด็กน้อยรู้ว่าตัวเองเป็นคนทำจะทำหน้าแบบไหน แต่เขากลัวอีกฝ่ายจะร้องไห้งอแงมากกว่าเนี่ยสิ
สามไม่ได้โกรธอะไร ก็คนไม่ได้ตั้งใจนี่นา แต่ว่าความเจ็บมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
“ผมเอาประคบน้ำแข็งมาเปลี่ยนให้ครับ แหม่ คุณหนูนี่สุดยอดจริง ๆ เลยนะครับ ผมนี่เห็นฉากนั้นกับตา บอสนี่ร่วงไปนอนกับพื้นอย่างกับผักแหนะ…ตาบอสเป็นอะไรครับ”
สามกรอกตามองบนยีนส์ที่ทำหน้างง แถมยังมีหน้ามาถามเขาที่ขยิบตาว่าตาเป็นอะไรอีก นี่เขาขยิบจนกล้ามเนื้อตาจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว อีกฝ่ายยังไม่เข้าใจอีกว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร อีกฝ่ายเป็นบอดี้การ์ดประเภทไหนกัน
“ม หมายความว่ายังไงครับพี่ยีนส์”
“อ่าว บอสยังไม่ได้บอกคุณหนูเหรอครับว่าที่บอสต้องมานั่งประคบน้ำแข็งแบบนี้ ก็เพราะโดนคุณหนูนอนดิ้นแล้วเตะปากเอา”
“อืม ยังไม่ได้บอกแล้วก็ไม่คิดที่จะบอกด้วย…”
“ขอตัวครับ”
สามมองบอดี้การ์ดตัวสูงที่ขอตัวออกไปอย่างเหนื่อยใจก่อนจะหันมาโฟกัสเด็กตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน
ร้องไห้ไปแล้ววววว
“อัยญ์ครับ ฟังเฮียก่อน…”
“ต้องเจ็บมากแน่ ๆ ฟืดด อัยญ์ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะเฮีย ฮืออ”
“ใช่ ๆ อัยญ์ไม่ได้ตั้งใจเฮียรู้ อีกอย่างมันไม่ได้เจ็บเลย นี่ ๆ ดูนะ เดี๋ยวเฮียจิ้มให้ดู” สามกลั้นใจใช้นิ้วจิ้มลงไปอย่างเต็มแรงสองสามครั้ง ฮึ่บหน้าเก็บอาการเต็มที่ หวังว่าจะสามารถหลอกเด็กน้อยได้นะ
“...”
“เห็นไหม ไม่เห็นเจ็บตรงไหนเลย” แต่น้ำตาซึมแล้ว เจ็บฉิบหาย
“ฮือออ เฮียต้องเจ็บแน่ ๆ ไม่งั้นมันจะแดงได้ไง ขนาดอัยญ์ไม่ได้ตั้งใจเดินแตะขาโต๊ะยังเจ็บแทบตายเลย แล้วนี่ นี่ ฮึก ฮืออออ”
สามรีบขยับเข้าไปใกล้คนน้อง คว้ามือเรียวทั้งสองข้างที่กำลังขยี้ตาอย่างเต็มแรง สามบรรจงเช็ดคราบน้ำตาให้คนน้องอย่างทะนุถนอม เห็นอีกฝ่ายร้องไห้สามก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจ สามไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเจ็บตัว น้องก็แค่นอนดิ้น ถ้าสามไม่ได้เอาตัวเองไปนั่งใกล้ ๆ น้อง เขาก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัว ส่วนน้องก็ไม่ต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้
สรุปว่าเรื่องนี้สามนี่แหละผิดเต็ม ๆ
“ที่จริงเรื่องนี้เฮียนี่แหละเป็นคนผิด”
“ไม่เอา เฮียอย่าโทษตัวเอง อัยญ์ผิดเอง จะตีอัยญ์ก็ได้”
“ไม่ครับ คือเฮียผิดเอง…เฮียเห็นอัยญ์ตอนนอนแล้วน่ารัก เฮียก็เลยเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วเราก็นอนดิ้นพอดี”
“...”
“สรุปคือถ้าเฮียไม่เอาตัวเองไปใกล้ เฮียก็ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้…เฮียถึงบอกว่าเรื่องนี้เฮียผิดเต็ม ๆ ทีนี้เข้าใจหรือยังครับ”
สามเอ่ยถามคนน้องที่นั่งก้มหน้างุดคางชิดอก ไม่รู้ว่าเขาพูดตรงไหนผิดไปหรือเปล่า ทำไมถึงได้เงียบไปแบบนั้น สามรวบรวมความกล้าก่อนจะใช้มือประคองใบหน้าของคนน้องขึ้นมองจนเต็มสองตาจนได้เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำ แถมยังหลบตาสามอีก นั่นจึงทำให้สามงงไปกันใหญ่ นี่เขาผิดพลาดตรงไหนอีกแล้วหรือยังไง
“ทำไมหน้าแดงแบบนี้ล่ะ ไม่พอใจอะไรเฮียหรือเปล่า”
สามเอ่ยถามอย่างร้อนรนพลางขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น กลายเป็นว่าตอนนี้ช่องว่างระหว่างสามกับอัยญ์แทบไม่มีเหลือ คนที่โดนถามก็ได้แต่อึกอัก จะบอกยังไงว่าที่ตัวเองหน้าแดงไม่ได้เป็นเพราะโกรธ แต่เป็นเพราะคำพูดของสามมากกว่า
อยู่ดี ๆ ก็มาชมกันซึ่ง ๆ หน้า จะไม่ให้อัยญ์เขินยังไงไหว
“เปล่าครับ เอ่อ เดี๋ยวอัยญ์ทำให้ครับ ”
คนตัวเล็กส่ายหน้าดิกคว้าเอาถุงน้ำแข็งไปประคบให้สามเอง สามก็ไม่อยากรั้นอะไรมากนักเห็นว่าอีกฝ่ายทำแล้วสบายใจก็ปล่อยให้ทำไป เนิ่นนานจวบจนกระทั่งเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กหยุดชะงัก
จ่อกก
“หิวเหรอตัวแสบ”
“งื้อออ เฮียอย่าแซวนะ!”
สามหัวเราะอย่างอารมณ์ดียามเห็นใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อ ก็ไม่น่าแปลกที่จะหิวเพราะนี่มันก็เย็นมากแล้ว สามส่งข้อความถามเลขา ฯ ส่วนตัวเรื่องที่ให้ไปจัดการ ก่อนจะได้คำตอบกลับมาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เป็นแบบนั้นสามก็ไม่รีรอที่จะฉุดคนน้องให้ลุกขึ้นเดินออกไปยังชายหาดด้านนอก ก่อนจะพบว่าทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“เห็นเมื่อวานบ่นว่าอยากปิ้งย่างเอง”
สามพูดอย่างเอาใจตอนที่เห็นตาของคนน้องเป็นประกายวิบวับ ปาร์ตี้ขนาดเล็กถูกจัดเตรียมเอาไว้ อาหารทะเลและซีฟู้ดของที่อัยญ์ชอบทุกอย่าง อยู่ที่นี่หมดแล้ว มีทั้งที่ถูกทำให้สุกไว้แล้ว และของสดที่รอให้เด็กน้อยที่ชื่นชอบการเล่นทำอาหารได้เพลิดเพลินไปกับมัน
ยามที่แดดกำลังร่ม ลมกำลังนิ่งได้ที่ คนตัวเล็กก็เพลิดเพลินไปกับการนำอาหารลงปิ้งย่าง บอดี้การ์ดที่อยู่เป็นเพื่อนเล่นมาทั้งวัน ก็ถูกชวนให้มาร่วมวงด้วย ยีนส์กับพยัคฆ์ถึงแม้จะโดนสายตาดุดันของผู้เป็นเจ้านายเชือดเฉือน แต่ก็ไม่อาจต้านพลังลูกอ้อนของคุณหนูอัยญ์ได้ กลายเป็นจากที่ควรเป็นปาร์ตี้ของสามกับอัยญ์ กลายเป็นมีบอดี้การ์ดเข้ามาร่วมวงเต็มไปหมด
อันที่จริงสามไม่ได้รังเกียจที่จะร่วมวงกับลูกน้อง หากแต่ในใจลึก ๆ เขาอยากที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเด็กน้อยแค่สองคนเท่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าอัยญ์เป็นคนชวน แถมอีกฝ่ายก็ยังดูสนุกสนานกับการย่างกุ้ง ย่างหมึก ให้คนนู้นที่ คนนี้ที สามก็พูดไม่ออกไปเสียอย่างนั้น
“เฮีย~ อัยญ์เอากุ้งมาให้” เด็กน้อยเดินมาพร้อมกุ้งย่างจานใหญ่ เอ่ยด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“พอได้แล้วมั้งครับ ให้คนอื่นทำบ้าง ร้อนหมดแล้วเนี่ย”
สามบ่นอย่างไม่ใส่อารมณ์มากเท่าไหร่ มือคว้าผ้าเช็ดหน้าก่อนจะเอื้อมไปซับเหงื่อให้คนน้องอย่างนุ่มนวล ถึงว่าจะดูเหมือนดื้อรั้นแต่พอสามทักแบบนั้น อีกฝ่ายก็ว่านอนสอนง่าย ยอมนั่งลงแล้วลงมือแกะกุ้งกินอย่างอารมณ์ดี จังหวะที่โดนความร้อนจากตัวกุ้งเล่นงานอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นมาเป่าแล้วหัวเราะเสียงใส
สามเห็นแบบนั้นก็จัดการแย่งจานกุ้งไปวางไว้ด้านหน้าตัวเอง ก่อนจะเริ่มแกะให้อีกฝ่ายแทน ดูเหมือนอาหารมื้อนี้จะทำให้คนตัวเล็กอารมณ์ดีมากกว่าดินเนอร์เมื่อวานเสียอีก
“เฮียสาม เรามาเล่นเกมกันดีกว่า พี่ยีนส์ พี่พยัคฆ์ พี่ ๆ ครับ เรามาเล่นเกมกันดีกว่า”
หลังจากกินอิ่มเป็นที่เรียบร้อย สามที่คิดว่าจะชวนอีกฝ่ายไปเดินเล่นก็เป็นอันต้องเบรคหัวทิ่มเพราะคนตัวเล็กที่ดันนึกสนุก หันไปเรียกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่แถวนั้นมารวมตัว แล้วเสนอไอเดียร์ที่สุดแสนจะบรรเจิดอย่างการเล่นเกม ‘พูดความจริง’ ที่เจ้าตัวเคยเห็นในซีรี่ย์เกาหลีที่เจ้าตัวเล็กชอบนักหนา
“กติกาก็ง่าย ๆ เลย ถ้าปากขวดนี้หมุนไปหาใคร คนนั้นก็ต้องตอบคำถาม เลือกได้ว่าจะพูดความจริงหรือถ้าไม่อยากพูดความจริงก็ต้องดื่ม โอเคไหมครับ”
ทั้งสามรวมไปถึงคนอื่น ๆ ที่มานั่งล้อมวงพยักหน้าบอกว่าตัวเองเข้าใจ
“งั้นเรามาเริ่มเลย อัยญ์ขอหมุนนะ”
คนที่ออกไอเดียร์เล่นเกมนี้เสนอตัว จับขวดแก้วลงวางกับโต๊ะก่อนจะจัดการหมุนมันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปากขวดจะไปจ่อที่บอดี้การ์ดคนหนึ่ง อัยญ์ยิงคำถามใส่อย่างสนุกสนาน ส่วนมากก็เป็นเรื่องแฟนหรือพฤติกรรมส่วนตัวที่พอจะพูดถึงได้อย่างเช่น…
“เรื่องที่บอกว่าพี่ดริฟไม่ชอบอาบน้ำนอน จริงหรือไม่จริง” สามมองอย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กไปสรรหาเรื่องแบบนี้มาจากไหน แต่ถ้าให้เดา ก็คงไม่พ้นยีนส์กับพยัคฆ์นั่นแหละ นี่เขาวางใจสองคนนี้มากเกินไปหรือเปล่า
“จริง”
ดริฟตอบหน้านิ่ง หากแต่ในใบหน้านิ่ง ๆ ก็ซ่อนความขวยเขินไว้ในนั้น หลังจากที่ดริฟตอบคำถามเรียบร้อยก็หันไปจับขวดหมุนทันที สามภาวนาขอให้ปากขวดไม่หันมาหาตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิงคำถามประเภทไหนใส่เขา สุดท้ายสามก็รอดไปอีกตา เพราะปากขวดหันไปหยุดที่พยัคฆ์ คนที่ตกเป็นเป้าหมายคนต่อไปนั่งหลังตรงแหน่ว หนังตากระตุกยิกรู้สึกถึงลางไม่ดีทันทีที่เห็นปากขวดหันมาหาตัวเอง
“คำถามคือ…พยัคฆ์จีบยีนส์อยู่ จริงไหม” ดริฟถามเสียงเจ้าเล่ห์ ต่างจากยีนส์ที่เหงื่อตก ไม่ว่าจะคำถามจากดริฟหรือคำตอบจากพยัคฆ์ ก็ทำให้เขาหัวใจวายได้เหมือนกัน
“...จริง” พยัคฆ์หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเรียบ แต่กลับเรียกเสียงแซวให้ดังกระหึ่ม ยีนส์หน้าแดงแปร๊ดหยิบแก้วแอลกอฮอล์ตรงหน้ายกดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะเอ่ยขอกับพยัคฆ์เบา ๆ
“ขอหมุนนะ” คนที่ถูกขอพยักหน้าอย่างว่าง่าย ยีนส์จับขวดที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามที่นั่งหน้าซีด เหงื่อตก มองหน้าลูกน้องตัวเอง ก่อนที่จะโฟกัสขวดที่หมุนติ้ว ๆ ๆ ๆ
“หึ่ย พี่ยีนส์อย่าถามคำถามยากนะ” คนที่รับรู้ได้ว่าโดนหมายหัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อปลายขวดค่อย ๆ หยุดหมุนแล้วไปชี้ที่คนที่นั่งถัดจากเขาแทน อัยญ์ที่เพิ่งโดนขวดหมุนไปหาครั้งแรกดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อย เอ่ยขอกับเจ้าของคำถามให้เห็นใจไม่ส่งคำถามยาก ๆ มาให้
“ไม่ยากครับ ๆ อืม เอาเป็นถามว่า…คุณหนูยังเก็บเบอร์ติดต่อของฝรั่งสุดหล่อคนเมื่อเที่ยงเอาไว้ จริงหรือไม่ครับ”
“จริง!! โห่ คำถามง่ายมาก ไม่หนุกเลยพี่ยีนส์อ่ะ”
คนตัวเล็กตอบออกไปอย่างไม่ลังเล สีหน้าดูมีความสุขที่ตอบคำถามได้ ต่างจากสามที่นั่งหน้าคล้ำอยู่ข้างกันโดยที่คนตัวเล็กไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดเดียว
Comments (0)