Chapter 8 แฟนปลอม ๆ ฟิวแฟนจริง

ในช่วงคนพี่บินไปทำงานยังสเปนถึงช่วงเวลาทั้งสองประเทศจะห่างกันมาก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนไกล ที่ขยันไม่ว่าจะโทรมาบอกฝันดีเพียงแค่วันละไม่ถึงห้านาที ยังไม่รวมข้อความที่ส่งมาทุกครั้งที่ว่าง จนเมเปิลรู้สึกว่าช่วงนี้ได้รับความสุขจนหัวใจพองโต จึงต้องไปลดพลังความสุขด้วยการออกกำลังกายบ้าง เพราะไม่งั้นในหัวก็จะเอาแต่คิดถึงอีกคนจนไม่มีสมาธิทำอะไร

 

เมเปิลขับรถไปยังฟิตเนต จัดเก็บข้าวของลงในล็อกเกอร์ มองดูอุปกรณ์ที่ยังว่าง จนไปถึงลู่วิ่งที่คนน้อย ร่างบางก้าวขึ้นกดหน้าจอเลือกระบบการวิ่ง

“สวัสดีครับ มาออกกำลังกายคนเดียวเหรอครับ”

เมเปิลหันไปตามเสียงทักทายและพบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อ สูงไหล่กว้าง หุ่นนายแบบ ใส่เสื้อกล้ามรัดอวดรูปร่างของตัวเอง ถ้าสาวมาเห็นคงมองตาค้าง แต่สำหรับเธอเองในตอนนี้คงไม่มีใครอยู่ในสายตาจึงขานตอบ ค่ะ ตามมารยาทและหันมองไปยังข้างหน้า

“ผมเขมรัฐ เรียกว่า เขมก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่มยกยิ้มพราวเสน่ห์ พร้อมยื่นมือมาหาหญิงสาว

“ค่ะ ปัญพารีย์ เมเปิลค่ะ” เธอน้อมศีรษะลงตอบรับไมตรี

“ผมขอเสียมารยาทนะครับ น้องเมเปิลมีคนที่อยู่ในฐานะพิเศษหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มยังตื๊อที่จะสานสัมพันธ์ต่อ

เมเปิลกดปุ่มหยุดวิ่ง ในใจสบถด่าหยาบคายเท่าที่เธอจะนึกออกในตอนนั้น “คุณก็ทราบว่ามันเสียมารยาท แต่เราไม่รู้จักกันที่จะมาถามเรื่องนี้นะคะ”

“ก็ทำความรู้จักกันเพิ่มสิครับ”

ชายหนุ่มก้าวขยับเดินมาใกล้เริ่มจะประชิดตัวหญิงสาว บอดี้การ์ดคนที่โฟร์สั่งให้มาดูแลความปลอดภัย เดินมาวิ่งในเครื่องลู่วิ่งถัดห่างไปหนึ่งเครื่อง เอียงคอมองชายหนุ่มอย่างไม่วางใจ จนตัวเขารับรู้ถึงสายตาขยับออกห่างไปอีกเล็กน้อย

“ขอปฏิเสธนะคะ” เมเปิลตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“โอเคครับ แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะครับ เพราะคุณคือผู้หญิงที่สวยต้องตาผมมาก”

เมเปิลหันไปมองคนเดินจากไป คิ้วเรียวบางขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยด้วยคำว่า สวยต้องตา

...หลุดมาจากไหนวะ...

“ขอโทษนะครับ ผู้ชายคนเมื่อกี้คุกคามคุณหรือเปล่า” บอดี้การ์ดของโฟร์เอ่ยถามก่อนที่เมเปิลจะได้ตอบกลับ “ผมออกกำลังกายอยู่แถวนี้นะครับ มีอะไรเรียกได้ตลอดครับ” โค้งตัวพร้อมเดินจากไป

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” คิ้วที่ยังขมวดอยู่เริ่มขมวดเข้าอีก มองตาชายหนุ่มเดินจากไปและผงกหัวขอบคุณซ้ำอีกรอบ

...ท่าทางแบบนี้เคยเห็นที่ไหนวะ ไอ้โค้งคำนับหลังพูดจบ...

 

หญิงสาวไล่เรื่องไร้สาระออกจากหัว หันมาสนใจข้อความที่ส่งมาสเปน รอยยิ้มผุดขึ้นประดับใบหน้าสวย

FOuR : เหนื่อยจังค่ะ คิดถึงจังอยากกลับไทยจะแย่อยู่แล้ว

MAppLE : อีกไม่กี่วันเองค่ะ อดทนหน่อยนะคะ

FOuR : ได้กำลังใจแล้ว กลับเข้าไปในงานก่อนนะ

 

สองวันถัดมา

ชายหนุ่มที่เมเปิลเบื่อขี้หน้ามากในตอนนี้กำลังฉีกยิ้มกว้างที่ได้พบเธอ ก้าวฉับ ๆ มายืนประจันหน้าทันที

“สวัสดีครับ ผมมารอน้องเมเปิลทุกวันเลย ปกติมาวันไหนครับ” เสียงพูดคุยราวกับสนิทสนมกับเธอมานับสิบปี

คนที่โดนจู่โจมอ้าปากพะง้าบ “ค่ะ!!! งั้นขอพูดให้ชัดตรงนี้เลยนะคะ ฉันมีคนมีอยู่ในใจแล้ว หวังว่าคุณจะเข้าใจ และฉันไม่ชอบการกระทำของคุณ” เธอพยายามอธิบายอย่างใจเย็นที่สุด ถ้าหากมากับเพื่อนคนอื่นคงมีด่าเปิงและอาจจะบวกกับคนตรงไปแล้ว

“ถ้าผมยังไม่เห็นคนนั้นของน้องเมเปิล ผมก็ยังไม่ถอดใจ ถึงอย่างนั้นผมก็อยากรู้จักน้องเมเปิลมากขึ้นนะครับ”

หญิงสาวกำหมัดแน่น คนอะไรช่างหน้าหนาหน้าทนแบบนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดช้า หันหลังกลับเดินออกไปทันที ฟิตเนตห่างนี้มันใกล้คอนโดเธอที่สุด และจากเลิกงานแวะมาออกกำลังกายได้เลย พอเสร็จขับรถต่อไปอีกนิดก็ถึงคอนโดแล้ว

 

เธอจัดการส่งข้อความในกลุ่ม เรียนวิศวะมาทำไม

MApLE : พวกมึงกูมีเรื่องให้ช่วย ใครว่างมาเจอกูหน่อย กูอยากฆ่าคน รอมาเจอกันก่อนกูจะสาธยายให้ฟัง

MApLE : ออกมาตอนนี้เลยได้ไหมวะ ร้านประจำกูเลยนะมึง ด่วน ๆ ๆ ๆ

MApLE : กูโมโห

MApLE : แมวน้อยตัวกลมทำลายตึก

 

ผ่านไปสองชั่วโมงเพื่อนทั้งกลุ่มมานั่งรวมตัวกับหญิงสาวเมเปิล ที่กำลังกินเครปเย็น และยังมีจานเปล่าอีกสองจานที่ไม่เหลืออะไรแล้ว

“มึงใจเย็นยัง เล่ามาเลย กูกระสันตั้งแต่มึงส่งข้อความมารับบึ่งรถพร้อมโทรไปบอกคุณสามีแล้วมาหาทันที” จัสมินเพื่อนสาวรีบลากเข้าเรื่อง

“แหม่...ไม่ค่อยจะอยากเสือกเท่าไหร่เลยนะมึง” คิวเริ่มแขวะคู่กัด

“สัด!”

“ไม่ทะเลาะกัน เมเปิลเล่าให้วีฟังหน่อย”

“มึงจะเปิดปากได้ยัง กูรำคาญเสียงเชี่ยสองตัวนี้” ไนน์ชี้นิ้วไปยังจัสมินและคิว

“...” เจโอเงยหน้าจากหน้าจอพยักหน้าให้แก่เพื่อนสาว

“คือย่างงี้พวกมึง กูไปเล่นฟิตเนสแล้วมีคนมาจีบ แบบหน้าด้านสุด ๆ กูบอกว่ามีที่คนสนใจแล้วมันก็ไม่แคร์ตราบใดที่มันไม่เจอตัว พวกมึงช่วยกูด้วย กูแทบอยากเอาตีนยัดปากมันสุด ๆ แต่ต้องคงภาพลักษณ์รักษาหน้าตาของพ่อกู ไม่งั้นมึง” น้ำเสียงบอกเล่าให้เพื่อนสนิทอย่างสุดจะอดกลั้น เค้นหมัดอย่างเดือดดาล

“เอาจ้า...ขอของหวานเสิร์ฟเพื่อนกูหน่อยน้องค่ะ พี่สั่งขนมหน่อยค่ะ” จัสมินปลอบเพื่อนสนิทให้คลายอารมณ์อันคุกรุ่นลง พร้อมโบกเรียกพนักงานมาสั่งของหวานที่ชื่นชอบให้เมเปิลอีก

“มึงก็รีบหาผัวไปโชว์มัน ถ้าไม่มี ก็หาผัวปลอบ ๆ แทน”

“จัส! กูว่าแค่แฟนก่อนไหม ถึงขั้นหาผัวเลยเหรอ” น้ำเสียงถามอันเอื่อยเฉื่อยจบลง คล้ายว่าจุดประกายความคิดในหัวของหญิงสาวทันที “งั้นพวกมึงมาเล่นเป็นแฟนกู เอาตบหน้าไอ้เชี่ยนั้น อาสามาเลยเพื่อน”

“...” สามหนุ่มคิว วีและไนน์มองหน้ากันไปมา ส่วนเจโออีกหนึ่งคล้ายตัดขาดจากกลุ่มเพื่อนหนีไปอยู่ในโลกส่วนตัวไม่สนใจ

เจ้าน้องน้อยยกมือทันที “วีอาสา”

จัสมินนั่งข้างคว้ามือเรียวบางให้ลดลง “หนูวีลูก...ถ้าหนูไปเขาคงเปลี่ยนเป้าหมายมาจีบหนูแทน ในฟิตเนสเสือ สิง กระทิงเต็มไปหมด” จัสมินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับลูกน้อยของเธอจริง ช่างไม่รู้อะไรว่าตัวเองเหมือนกระต่ายน้อยถ้าหลงไปในดงนั่นมีหวังโดนลากไปกินแน่

“มีหวังหนึ่งบุกไปฆ่าคนตายคนที่แน่” ไนน์หันไปกระซิบกับคิว

“อีกอย่างคนที่พี่มึงฆ่าเพิ่มคือพวกกู ยกเว้นมึงกับเมียพี่มึง” คิวหันมากระซิบตอบไนน์

“เอางี้กูคิดแผนให้ ตัดเชี่ยเจโฮออกไปเลย”

“เออดี กูไม่ว่าง” ถึงหน้าจะก้มแทบจะติดจอแต่หูยังฟังในบทสนทนาระหว่างเพื่อนอยู่

“แล้วมึงเป็นเชี่ยไรเนี่ย กดมือถือหงิก ๆ เมียหนีออกจากบ้านหรือไง” คิวหันไปถามเจโออย่างใคร่สงสัย

“สัด! หนีเหี้ยไร ออกไปถ่ายละครต่างจังหวัด ไม่ยอมให้กูไปส่งด้วย แถมไอ้นักแสดงนั่นที่ชอบเกาะพี่ไอซ์มารับด้วยนะมึง ตอนแรกบอกว่าทีมงานจะมารับ แต่มันอาสามารับแทนบอกว่าจะได้นั่งสบาย ๆ หงุดหงิดสัด!!!” ทั้งหมดเงียบไม่พูดต่อเพราะคนที่นิ่งเงียบที่สุดอารมณ์ไม่ดีมาก จึงไม่กล้าป่วนต่อ ลอบสบตาว่าใครจะพูด

“เจโอพี่ไอซ์ไม่ใช่คนแบบนั้น อยู่ในวงการมาตั้งกี่ปีไม่เคยมีข่าวเสียหาย วีว่าพี่ไอซ์เองรู้จักวางตัวอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

“แต่โอไม่ไว้ใจมัน งั้นกูไปก่อนนะมึง ใจกูไม่เป็นสุขแล้ว” แล้วชายหนุ่มลุกขึ้นหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้เพื่อนอีกห้าคนมองตาค้าง

“อะ อือ...” เมเปิลขานรับ

“หมดกันภาพลักษณ์หนุ่มมาดขรึม หน้านิ่ง” คิวเปรยพร้อมกับส่ายหัว

บรรยากาศเดดแอร์ไปชั่วขณะ กลับมาคืนสภาพเมื่อพนักงานเดินเสิร์ฟอาหารที่สั่งก่อนหน้านี้

“เมล มึงกินชาเชียวลาวา นี่เมล่อนบิงซุ กินค่ะเพื่อน” ดันขนมทั้งสองชนิดไปตรงกลาง ไนน์และวีที่ชอบกินของหวานยกช้อนจ้วงตักกิน

“จัสมึงต่อเลย กูรอแผนมึง”

“ที่บอกว่าตัดเจโอเพราะมันหน้านิ่ง ควงเป็นแฟนก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อมาน้องวีตัดออกไป กูไม่ยากโดนผัวลูกชายฆ่าตาย ส่วนไอ้ไนน์กับมึงเหมือนเพื่อนกันเกินไป ไม่ค่อยดูเชื่อถือ เหลือมึงคนเดียวไอ้คิว มีความเหมาะสมดูพึ่งพาได้ที่สุด ด้วยหน้าตา และความตอแหล เจ้าบทบาทและฝีปากสามารถฟาดฟันได้” หญิงสาวปรบมือให้กับแผนการตัวเอง

“จัสกูถามมึงหน่อยนะ กูเคยไปจุดไฟเผาบ้านหรือแย่งผัวมึงหรือเปล่า ชมกูไม่ทันจะครึ่งประโยคทีjเหลือแดกดันกูตลอด และมึงดีกว่ากูมากนักแหละ ผู้หญิงอะไรหยาบคาย เถื่อน ทำอาหารห่วยสุด ๆ คนที่ทนมึงได้มีแต่ผัวมึงคนเดียว”

ด่าคำอื่นเธอทนได้ แค่คำว่าทำอาหารห่วยมันคือปมในใจตั้งแต่ในช่วงสมัยเรียนปีหนึ่งที่ตัวเองทำไปให้พวกมันลองชิม หญิงสาวคายก้อนน้ำแข็งจากปาก เคี้ยวใส่เพื่อนตัวโตที่นั่งตรงข้าม “ไอ้เชี่ยคิว!!!”

“มึงเล่นเหี้ยไรเนี่ย” ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบ

“พวกมึงเล่นกันเนี่ย สกปรกสัด! ทะเลาะกันอย่างกะเด็กสามขวบ” ไนน์ขมวดคิ้วด่าเพื่อนทั้งสอง

“จัสมินกับคิวเจอกันทีไร ไม่ทะเลาะกันไม่ได้เหรอ” น้องวีเสริมกับคำพูดเพื่อนหนุ่ม

“คนสันดานเดียวกันจะอยู่ด้วยกันไม่ค่อยได้”

“อ้าวเมลเพื่อนรัก นี่กูเพื่อนมึงยังจำกูได้ไหม ทำไมแว้งกัดวะ” จัสมินถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจตบอกด้วยความเจ็บปวด

คิวยกแขนกอดอก “เพื่อนเมเปิลมึงยังต้องใช้ประโยชน์จากกู มาคุกเข่าขอโทษบัดเดี๋ยวนี้” คิวคลายมือออก ชี้นิ้วลงบนพื้นข้างตัว

“เออมึง มันพูดคำนี้กับกูด้วยว่ะ เพราะคุณคือผู้หญิงที่สวยต้องตาผมมาก”

สามหนุ่มสองสาว มองหน้ากันและพยายามกั้นขำที่จะไม่หัวเราะเพื่อนโดนชมด้วยคำพูดแบบนี้ แต่น้องน้อยหลุดก๊ากมาคนแรก จากนั้นทั้งหมดก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ดกันไปเลย

“เชี่ย! พีเรียดมาก” จัสมินจีบคอกล่าวประชด

“ฮ่า คงต้องตามาก ฮ่า ถึงหลุดคำนี้ออกมา ฮ่า ฮ่า” คิวพูดไปขำไป

“ไปว่าเขาทำไม...อุ๊บ! เขาชมเมเปิลนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” น้องวีพยายามกั้นขำพร้อมตำหนิเพื่อนทั้งสองที่ต่อว่าคนอื่น

เสียงหัวเราะและเสียงต่อล้อต่อเถียงกันในกลุ่มช่วยให้หญิงสาวสบายใจขึ้น ไม่ว่ามีใครจะเรื่องอะไรขอแค่ได้เอ่ยปาก ทุกคนในกลุ่มพร้อมอาสาช่วยเหลือเสมอ ถึงในบางครั้งตัวจะมาไม่ได้ก็มาทางวิดีโอคอล

 

ในช่วงกลุ่มเพื่อนเดินไปยังลานจอดรถ เมเปิลมองดูบอดี้การ์ดประจำตัวของไนน์และวีเดินเข้ามาพูดคุย และโค้งคำนับพาเดินไปยังรถที่จะพากลับ หญิงสาวเกาหัวอย่างสงสัย แต่ยังไม่ทันจะคิดไปไกล คิวเรียกเธอ

“เมเปิล”

“อือ ว่าไงมึง”

“แล้วมึงจะให้กูไปรับออกเดตวันไหนจ๊ะ”

“มึงว่างวันไหน กูแล้วแต่มึงเลย”

“พรุ่งนี้เลยไหม กูไปรับตอนสี่โมงเย็น”

“ได้เลยค่ะ เออคิว ขอบใจมึงมากนะ”

ฝ่ามือหนาของชายหนุ่มตบบ่าเพื่อนสาว “เพื่อนกันคิดไรมากว่ะ”

 

เย็นวันถัดมา ชายหนุ่มลูกครึ่งเดินเข้ามายังบริษัทของเพื่อนสาว โดยมีเลขาสาวมาต้อนรับและพาขึ้นไปยังห้องทำงาน เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยแขกของเจ้านายเดินเข้าไปด้านใน

“มึงมาก่อนเวลายังไม่ถึงเวลานัด และกูยังเสร็จงานด้วย”

“พ่อมึงมาทำงานไหมวะ กูจะไปไหว้สักหน่อย” คิวถามถึงผู้ใหญ่ด้วยต้องรักษามารยาท

“ให้เลขากูพาแล้วกัน” เมเปิลพูดจบกดโทรศัพท์ “พี่เอ้ค่ะ พาเพื่อนหนูไปพบท่านประธานหน่อย”

“คุณเมเปิลค่ะ ท่านประธานอยู่หน้าห้องแล้ว” เลขาหน้าห้องรายงานกลับ

“พ่อกูอยู่หน้าห้อง มึงไปเปิดให้กูหน่อย” เมเปิลนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานออกปากใช้แฟนปลอม ๆ ของเธอ

คิวยืนไม่ห่างจากประตู ขยับไม่กี่ก้าวเปิดออกพร้อมกับกล่าวคำทักทายบิดาของเพื่อนสาว “สวัสดีครับคุณพ่อ เชิญครับ”

“อ้าวเจ้าคิว มาหาเมเปิลเหรอ เออ ๆ สวัสดี สบายดีนะเรา ตั้งแต่จบกันมาไปค่อยได้เจอกันเลย” ชายวัยกลางตบหลังชายหนุ่มเพื่อนลูกสาว ก็นับว่าเป็นลูกชายอีกคน พาเดินเข้าไปยังในห้องทำงาน

“สบายดีครับ พอดีว่างและผ่านมาทักทายหน่อยครับ” คิวพยายามหาเหตุผลไหลไปตามน้ำ

“ได้นัดเจอเพื่อนกันบ้างไหม ว่าง ๆ ชวนกันไปกินข้าวบ้านพ่อกันสิ ไม่ได้ยินเสียงเราทะเลาะกับเจ้าจัสมินนานแล้ว”

“อุ๊บ! คิคิ” เมเปิลหลุดขำออกมา เพราะเมื่อวานทั้งสองยังฟาดฝีปากกันอยู่เลย

“ได้ครับ ถ้าว่างตรงกันไปแน่นอน ผมจดโน้ตไว้เลยนะครับ”

“แล้วจะออกไปไหนกันหรือเปล่า อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนไหมลูก” ชายวัยกลางคนรั้งทั้งสองเอาไว้

“เอ่อ...”

“ผมกับเมเปิลต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีว่ามีนัดกินข้าวกับเพื่อน ๆ ไว้นะครับ” คิวแย้งขึ้นมา ถึงจะเป็นคำโกหกผู้ใหญ่ เขาเดาว่าเพื่อนคงไม่อยากให้พ่อตัวเองต้องรับรู้ในเรื่องที่พวกเขากำลังจะไปทำ

“งั้นก็ตามสบายกันละลูก ไม่รบกวนเวลาของวัยรุ่นล่ะ”

“แล้วพ่อแวะมาหาเมลมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ก็จะชวนเราไปกินข้าวด้วยแหละ แต่เมื่อไปกับเพื่อนแล้ว พ่อคงต้องไปเดตกับแม่เราสองคน” ชายวัยกลางคนยกยิ้มกรุ้มกริ่ม

“แล้วเมเปิลจะได้น้องเพิ่มอีกคนไหมครับ” คิวขานรับอย่างเป็นธรรมชาติ

“อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน พ่อกะว่าจะมอมเหล้าแม่เขาสักหน่อย” คนพ่อตอบกลับ

“อันแน่....”

“ไปล่ะ อย่ากลับดึกและเมากันมากนะลูก” บิดาของหญิงสาวเดินออกไป

“สวัสดีค่ะพ่อ”

“สวัสดีครับพ่อ”

“ส่วนมึงจะไปได้ยัง กูส่งข้อความไปหาพวกนั้นก่อนจะได้ไม่โบ๊ะแตกกันถ้าเจอพ่อกับแม่มึง” คิวเร่งรัดเพื่อนสาวพร้อมกดส่งข้อความเล่าเรื่องให้เพื่อนในกลุ่มรับรู้เช่นกัน

 

ชายหนุ่มขับรถพาเพื่อนสาวมายังฟิตเนสที่เป็นประเด็น เมเปิลหันตัวจะเปิดประตูรถลงเอง คิวจึงคว้าแขนหญิงสาวเอาไว้ก่อน

“ทำไมมึงไปย้ายไปเล่นที่อื่นวะ” คิวถามอย่างสงสัย เพื่อนเขาคนนี้เงินก็มี ถ้าจะถามว่าเสียดายก็ไม่น่าจะเป็นไปได้

“ทำไมกูต้องหนี กูผิดอะไร ไปลงได้แล้วไปฟาดหน้ามัน” เมเปิลตอบกลับ

“หยุดก่อนมึง มาทำข้อตกลงกันก่อน” น้ำเสียงบอกอย่างจริงจัง

“มีอะไรอีกล่ะ มึงว่ามาสิ” เมเปิลเร่งรัด

คิวถอนหายใจอย่างแรง “เฮ้ย...ก่อนอื่นคือกูเป็นแฟนมึง ประตูรถกูต้องไปเปิด และเมื่อเข้าไปในนั้นมึงต้องจำใส่กะโหลกไว้เลยว่ากูคือแฟน ไม่ว่ากูจะทำอะไรมึงห้ามขัดขืน ให้คล้อยตามทุกอย่าง” คิวยกนิ้วชี้หน้าย้ำในสิ่งที่บอกไปข้างต้น

“มะ มึงจะไปหอมแก้มหรือจะ จูบกูใช่ไหม” เมเปิลห่อตัวหลบแนบติดประตูรถ

พัวะ! ฝ่ามือตบไปยังหัวหญิงสาว “มึงคิดอะไร กูไม่ลดตัวไปทำแบบนั้น อย่าเถียงทำตามที่กูบอกไปก่อนหน้านี้ด้วย” นิ้วชี้จ่อไปหน้าแทบจะทิ่มตา

“เออ!!” เสียงกัดฟันตอบ

 

ด้วยหญิงสาวเป็นเมมเบอร์วีไอพี การจะพาเพื่อนมาร่วมเล่นด้วยย่อมได้ คิวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อสบตากับชายคนหนึ่งมองเขาอย่างไม่ชอบหน้าแบบชัดเจน เขามองตอบกลับด้วยสายตาไม่ต่างจากชายคนนั้นเช่นกัน และเป็นคนนั้นทนไม่ไหวสะบัดหน้าเดินหนีออกไป

เมเปิลที่นั่งรอตรงเบาะสำหรับนั่งพักระหว่างเครื่องออกกำลังกายโบกมือให้เพื่อนหนุ่มรับรู้ เขาโบกมือพร้อมยกยิ้มตอบกลับ ก้าวเดินเข้าไปวางมือบนหัวเอ่ยถามด้วยเสียงอันแสนอบอุ่น

“รอนานไหม”

“...” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นพร้อมส่ายไปมาโดยมือยังวางหัว

“หัวยุ่งหมดแล้ว” หนุ่มลูกครึ่งใช้มือสองข้างลูบผมอันแสนยุ่งให้เรียบลง แต่มันใช่ว่าจะดีขึ้นแก่มันเป็นการสร้างโมเมนต์แฟนนั่นเอง

“ขอบคุณนะ เล่นด้วยไหม” พอมือผละออกไปเธอลุกขึ้นยืนและเอ่ยชวน

“ไม่ล่ะ วันนี้จะเป็นเทรนเนอร์ จะเทรนให้หนักจนลุกไม่ขึ้นเลย” ตามด้วยรอยยิ้มอันแสนพราวเสน่ห์เต็มไปด้วยบางอย่างซ่อนเร้นในรอยยิ้มนั้น

“ไม่เอา...” เมเปิลตอบด้วยเสียงอย่างเขินอาย

เมเปิลรู้ว่าคิวจงใจพูดด้วยถ้อยคำแสนหวานและสื่อความหมายในแบบสองแง่สองง่ามหยอกล้อกันระหว่างคนรัก แต่ด้วยเธอคือเพื่อนสนิทและรู้สันดานกันอย่างดี คำว่า เทรนให้หนักจนไม่ได้นอน มันหมายความอย่างนั้นจริง ๆ คือให้เธอปวดร้าวไปทั้งตัวจนนอนไม่ได้ต่างหาก

คิวใช้สายตาปรายมองไปบนลู่วิ่งพร้อมทั้งยกยิ้มบ่งบอกว่าไปวิ่งได้แล้วครับคุณแฟน เพราะเป็นกีฬาเดียวที่เพื่อนเธอชื่นชอบและถัดมาคือปั่นจักรยาน ส่วนอย่างอื่นเธอไม่สน และที่มาวิ่งในฟิตเนสแทนที่จะวิ่งในสวนสาธารณะเพราะนางทนอากาศร้อนไม่ไหวนั้นเอง

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง คิวที่ยื่นเคียงข้างไม่ห่างแม้แต่นิด เดินไปหยิบขวดน้ำเปล่ามาส่งให้หญิงสาว พร้อมกับผ้ามาซับเหงื่อตามใบหน้าและต้นคอ

“เก่งมากเลยค่ะ ยังเหลืออีกรอบหลังนะ ดื่มน้ำระหว่างที่พัก คิวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” แฟนตัวปลอมโยนผ้าเช็ดเหงื่อคลุมหัวเมเปิลและออกแรงยีหัวหยอกเย้า

 

คล้อยหลังชายหนุ่ม คนที่จ้องจะเข้าหาหญิงสาวเดินออกมาทันที คิวเองไม่ได้ตั้งใจไปเข้าห้องน้ำอย่างที่บอกเอาไว้ เขาเพียงรอให้หมอนั่นมันเผยตัวออกมา

“น้องเมเปิลครับ ผู้ชายคนนั้นคือใคร เพื่อน พี่ชาย หรือแฟนครับ” น้ำเสียงจี้ถามต้องการคำตอบทันที

“แล้วผมจะเป็นอะไรกับเมเปิล คุณเกี่ยวอะไรด้วย” น้ำเสียงเข้มกดต่ำถามกลับ “อ๋อ เห็นในความเสียมารยาทของคุณแล้ว ผมจะตอบให้ก็ได้ ผมคือแฟนของเมลเอง แล้วผมที่ผมถามกลับคุณช่วยตอบผมด้วยว่า คุณ เกี่ยว อะ ไร ด้วย” คุณแฟนหนุ่มใช้สายตาหยาดเหยียดจ้องมอง และเน้นย้ำประโยคทีละคำอย่างชัดเจน

“ผมกำลังสนใจคุณเมเปิลครับ” เขมตอบกลับมาอย่างหน้าทนโดยไม่เกรงใจ

คิวที่อาศัยว่าตัวสูงใหญ่กว่าคว้าคอเสื้อพร้อมก้าวประชิด กดเสียงต่ำพร้อมคำรามด้วยเสียงอันดัง “อย่ามายุ่งกับแฟนกู” และใช้แรงเหวี่ยงให้ลงไปกองอยู่กับพื้น และพาตัวเองก้าวคร่อมตัวชายหนุ่มตบแก้มเรียกสติ “ครั้งนี้กูแค่มาเตือน ครั้งหน้ากูไม่เตือนแล้วนะมึง” คิวเองลุกออกไปหันหาแฟนสาวที่ยืนมองอยู่โดยไม่สนใจคนรอบข้างหยุดทุกอย่างแล้วหันมาสน “รออะไรคะ ต้องวิ่งต่ออีกครึ่งชั่วโมงไม่ใช่เหรอคะ” รอยยิ้มกว้างจากชายหนุ่มที่สาว ๆ ชวนฝัน แต่มันคือรอยยิ้มแสนชั่วร้ายของเธอ

“โอเคค่ะ” แฟนสาวขานรับด้วยน้ำเสียงอันสดใส

คนโดนหยามมองสองคนคู่รักอย่างไม่พอใจก่อนจะรีบลุกขึ้นและเดินจากไปทันที

 

คิวเองไม่ได้ขยับตัวจากไปไหน ยืนเฝ้าเพื่อนสาวออกกำลังกาย พร้อมกับแนะนำการออกกำลังกายที่เน้นส่วนต่าง ๆ ให้เพื่อนสาว

“มึงน่ะต้องวิ่งให้ครบชั่วโมง เผาผลาญน้ำตาลออกจากร่างให้เยอะ ไม่ใช่ว่าห้ามให้กินนะมึง กินแล้วต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ตามใจปากเกินไปไม่ได้” น้ำเสียงออกไปทางบ่น แต่เต็มไปด้วยความห่วงใย

 

เมื่อออกกำลังกายจนครบตามเวลาคุณเพื่อนกำหนดแล้ว เมเปิลมานั่งเหนื่อยหอบตรงเก้าอี้ คิวเดินยกขาหญิงสาวมานวดคลายกล้ามเนื้อจนพอและหันไปนวดคลายกับขาอีกข้าง

คิวดันขาเพื่อนสาวลงวางที่เดิม เมเปิลขยับขาที่สบายมาก “ขอบใจมากนะมึง แต่กูเพิ่งรู้ว่าเพื่อนกูเป็นแฟนที่แสนดีมาก”

คิวยกน้ำดื่มจนหมดขวด และกล่าวด้วยน้ำเสียงปนเศร้า “ถ้าคนนั้นเขายอมให้กูได้ทำสักครึ่งหนึ่งที่ทำให้มึงก็คงจะดี”

เมเปิลเคลื่อนใบหน้ามองด้านข้างชายหนุ่ม “เอาน่ามึงพยายามมาตั้งกี่ปี ทำไมน้องมันจะไม่รู้ว่ะ แต่เส้นที่ขีดกั้นระหว่างมึงกับน้องมันยากที่จะก้าวข้ามมา มึงคงทำได้แค่รอ รอจนกว่าน้องมันมีความกล้ามาพอ”

คิวถอนหายใจและพูดกับเธออย่างเจ็บปวด “งั้นต้องอย่างนั้นแหละ เพราะกูเองก้าวข้ามาแล้ว พอกูก้าวไปหาน้องมากขึ้น น้องก็ยิ่งขยับถอยไป คงทำได้แค่ยืนรอ” ...ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาจะไม่ข้ามมันมาเด็ดขาด...

TBC...

---------------------------------------------------------

พี่คิวสายโหด โหมดหวงเพื่อน ทำหน้าที่อย่างดี ถ้าคนทางไกลรับรู้ว่ามีคนมาปลอมเป็นแฟนมาทำหน้าที่แทนจะควันออกหูไหมหนา... ส่วนช่วงท้ายแอบมาทิ้งปมของพี่คิวไว้นิดหน่อยก่อนหน้านี้มีฝากไว้กับพี่หนึ่งและน้องวี (เขตพื้นที่รัก)