3 ตอน กลุ่มผู้รอดชีวิต
โดย เด็กชายผู้นี้มีนามว่า
ถ้าซอมบี้มา แล้วกูไม่ทำห่าอะไรเลยล่ะ
ครั้งที่สามแห่งการกรีดร้อง
กลุ่มผู้รอดชีวิต
โดย เด็กชายผู้นี้มีนามว่า
ยังมีคนที่รอด
พวกเขาเดินทางจนมาเจอเรา
"พวกเธออยู่กันแค่สองคนมาตลอดเลยเนี่ยนะ"ชายคนที่ดูจะอายุมากที่สุดเอ่ยถามเมื่อทั้งหมดแยกย้ายกันพักผ่อนตามห้องนอนที่ไทจัดให้
"อืม ก็น้ำไฟมันยังใช้การได้ปกตินี่นา"ไทตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ"พวกคุณจะอยู่ที่นี่เลยก็ได้ค่ะ แต่ฉันขอร้องให้พวกคุณช่วยรับณัฐไปดูแลเพิ่มอีกคนด้วย"
"ถ้าพวกเราจะอยู่ พวกเราก็จะดูแลทั้งณัฐทั้งเธอ"
คน ๆ นี้ชื่อเมธา
เป็นหมอ หรือเคยเป็น
พอตั้งสติได้ก็พาเด็กที่เจอในโรงพยาบาลออกมาด้วยกัน
ถึงจะเหลือกันอยู่ไม่มาก
แต่พวกเขาก็อยู่รอด
เดินทางดิ้นรน
จนมาเจอพวกเรา
"คุณเองก็เอาของไปวางที่ห้องเถอะ เดี๋ยวฉันพาไป"ไทลุกจากโซฟาตัวใหญ่เดินนำไปยังห้องนอนที่มีบรรยากาศอบอุ่นที่สุดในบ้าน
"ขอบคุณ"
"ยินดีค่ะ ตามสบายเลย"ไทเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเมธาเดินเข้าห้องนอนด้วยสีหน้าคลายความกังวลลง
ไทหันหลังให้กับประตูบานนั้น ที่เคยเป็นห้องของพ่อกับแม่
ไม่ได้อยากร้องไห้เลย
ไม่เลยสักนิด
แต่ก็เป็นแบบนี้ทุกที
"ฮู่.."ไทปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ปรับลมหายใจแล้วออกเดินต่อ
ในวันนี้หลังประตูบานหนึ่งในบ้านถูกแทนที่ความเงียบด้วยเสียงจากคนที่เป็นคนจริง ๆ ณัฐมีคนที่คุยถูกคอด้วยแล้ว
เด็กคนนั้นชื่อธาร
อายุเท่ากับณัฐเลย
พวกเขาพึ่งจะขึ้นม.ปลายได้ไม่ถึงเดือน
กลับต้องมาพบเจอโลกที่มันแย่
แย่อยู่แล้วกลับแย่ขึ้นกว่าเดิม
เพราะพวกรัฐบาลโง่เง่า
ที่ไม่ยอมจัดการอะไรเลย
ไทเดินไปยังสวนหน้าบ้านที่ประจำของเธอ แต่เก้าอี้ตัวเก่งที่เคยเป็นที่นั่งของพี่ชายคนโต ตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งมานั่งแทนที่
หญิงสาวเดินไปนั่งเงียบ ๆ บนพื้นหญ้าตรงหน้าเศษขี้เถ้าจากกองไฟที่เธอจุดทุกคืนใกล้ ๆ กับเก้าอี้ตัวนั้น
"หมอก"ชายหนุ่มพูดขึ้น
"หื้อ"ไทเอี้ยวคอหันไปอุทานเสียงหลงให้ชายตัวสูงทีหนึ่ง
"ยังไม่ได้แนะนำตัวน่ะ เลยคิดว่าอย่างน้อยต้องบอกชื่อหน่อย"เขายกยิ้มขึ้นแล้วกระชากปากหยักโค้งลงมาเป็นเส้นตรงอย่างรวดเร็ว
"ไม่ต้องฝืนก็ได้"
"ไม่ได้ฝืน"
"ก็เห็นอยู่"
หมอกยกมือขึ้นยอมแพ้ แล้วทำท่าจะหันกลับไปชมนกชมไม้เช่นเดิมไม่หันมาสนใจอีก แต่สุดท้ายก็หันกลับมา
"เธออ่านหนังสือด้วยเหรอ"
"นี่เหรอ นิยายน่ะลองอ่านมั้ย"ไทยื่นหนังสือเล่มขนาดจับถนัดมือเล่มหนึ่งให้กับหมอก
"นครมัวเล่มนี้เป็นหนังสือแฟนตาซีเกี่ยวกับความฝันที่หมายถึงความฝันว่าเราอยากจะทำอะไรในชีวิตน่ะ อ่านแล้วใจมันฟู"ไทอธิบายภาพรวมของหนังสือน้ำเสียงคล่องแคล่ว คนที่รับเล่มไปก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ"ส่วนเล่มนี้เมื่อความตายทำให้เราพบกันเป็นเรื่องที่ความตายนำพามาพวกตัวเอกมาเจอกันจริง ๆ ตามชื่อเรื่องเลย ที่ชอบมากในนี้ก็คือมีเมืองที่คนมาใช้ชีวิตในโลกหลังความตายด้วยน่ะ อะ.."
จู่ ๆ ไทก็ชะงักหลังจากพึ่งรู้ตัวว่าพูดมากเกินไป
"ต่อสิ"หมอกฟังเพลินจนเปลี่ยนท่ามาเท้าคางแล้ว
"..อ่า..คนเขียนน่ะคุณรทิมาทั้ง..ทั้งสองเล่มเลย"ไทชี้ไปยังหนังสือในมือของหมอก"เล่มนั้นเล่มล่าสุดของคุณรทิมา สนุกมาก ฉันไปขอลายเซ็นจากเธอมาด้วย มันสนุกมาก ๆ อ่านเลย"
ไทรัวคำที่ไม่ทันได้เรียบเรียงดีในสมองออกมาจนจบแล้วก็ลงมืออ่านหนังสือเล่มโปรดในมือทันที ไม่รู้ว่าหูดับไปก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูกของคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ นั่นหรือเปล่าถึงได้ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยต่อเสียงนั้น
เมื่อถึงเวลามื้อเย็นไทและเมธาช่วยกันเตรียมอาหารมื้อนั้นให้กับทุก ๆ คน โต๊ะอาหารถูกเติมเต็มมากกว่าทุกที เสียงพูดคุยทำให้บ้านหลังนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
พวกเรา
กลายเป็น
'กลุ่ม'ผู้รอดชีวิต
หลังจากส่งณัฐกับธารเข้านอนสามคนที่เหลือก็มานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน
"เมื่อกลางวันยังไม่ทันได้แนะนำตัวกันดี ๆ เลย ฉันเมธาเป็นแม่ เอ่อพ่อของหมอกน่ะ"เมธาพูดขึ้น
"แม่"หมอกเรียกเสียงดุเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจออกมาจากเมธา
"คือ..ขอโทษ..ฉันยังไม่มีความกล้ามากพอน่ะ"เมธาตาละห้อยมองมายังหนุ่มสาวทั้งสองคน
ไทมองหมอกและเมธาสลับกัน ดูเหมือนเธอจะพอมองออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคน
"อยู่กับพวกเรา คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เลยค่ะคุณเมธา แล้วก็คุณหมอกคุณเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปกดดันคุณเมธานะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา สิ่งที่คุณทำได้มีแค่ให้กำลังใจ แล้วก็อยู่เคียงข้างเท่านั้น"ไทเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ และเน้นหนักที่ประโยคเมื่อหันหน้าไปคุยกับชายหนุ่ม
"ขอบคุณนะ"เมธาก้มหน้าลงปาดน้ำตาใส ๆ บนใบหน้าของเธอทิ้งด้วยมือสั่นเทา
"นิยามเพศของคุณต้องเป็นคุณที่กำหนดได้เอง และต้องเป็นคุณที่พูดมันออกมาเองค่ะ พวกเราทุกคนอยู่เคียงข้างคุณนะคะ"ไทขยับตัวไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันกับเมธาและสวมกอดเธอ หมอกที่นั่งอยู่ติดกันกับแม่ของเขาเองก็เช่นกัน ทั้งสามคนสวมกอดกันและกันจากนั้น..
จากนั้นฉันก็ร้องไห้
ร้องไห้ในอ้อมกอดของพวกเขา
พยายามฝืนแล้วนะ
แต่มันไม่ไหว
ฉันคิดถึงอ้อมกอดของคนในครอบครัวมากจริง ๆ
โดย เด็กชายผู้นี้มีนามว่า
Twitter : @JustAimXIII_fic
สวัสดีค่ะ ถ้าซอมบี้มา แล้วกูไม่ทำห่าอะไรเลยล่ะ เดินทางมาถึงตอนที่3แล้ว ขอบคุณทุก ๆ คนเลยนะคะที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ รวมถึงกดเลิฟ และคอมเมนต์ให้กับเอมด้วย ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ที่การเดินทางของไทถูกพบเห็นมากมายขนาดนี้
ตอนนี้ก็ยังกลับมาที่คำว่าครอบครัวสิ่งที่ไทเสียไปเมื่อตอนที่1 สิ่งที่ไม่อาจเอาย้อนกลับมา เพื่อตอกย้ำความสูญเสียของตัวละคร และความเสียใจของไทที่ไม่มีวันหายดี
และมีการกล่าวถึงเรื่องเพศของตัวละครเมธที่นิยามเพศตนเองเป็นผู้หญิงค่ะ อยากให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นนิยายที่จั่วหัวมาว่าเป็นแนวการเมืองก็ตาม และแน่นอนว่าอยากจะให้สารเหล่านี้ถูกส่งไปให้ถึงผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ มาทำให้สังคมประเทศของเราน่าอยู่ขึ้นด้วยการทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ทีละน้อย และให้ความสำคัญกับผู้คนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเถอะค่ะ
ขอบคุณที่ร่วมเดินทางด้วยกันกับนิยายเรื่องนี้
สามารถพูดคุยกับเอมได้ทางช่องคอมเมนต์
และทางทวีตเตอร์ผ่านการติด #ถ้าซอมบี้มาแล้วกูไม่ทำห่าอะไรเลยล่ะ
แล้วมาเจอกันนะคะ
นิยายเรื่องนครมัว โดยคุณรทิมา
https://www.readawrite.com/a/Z3c0g5-นครมัว?r=search_article
นิยายเรื่องเมื่อความตายทำให้เราพบกัน โดยคุณรทิมา
https://www.readawrite.com/a/4d36353db6234af6a4f1349fefef0d59?r=user_page
ติดตามผลงานอื่น ๆของคุณรทิมา ได้ทาง
https://www.readawrite.com/?action=user_page&user_id_publisher=937662
Twitter : @Rtima1123
Comments (0)