Chapter 23 บทลงโทษคนโกหก

นับจากพี่บอกว่าจะไปทำงานยังต่างประเทศก็ผ่านมาสองวัน โดยไม่ได้รับรายงานอะไรเลย เมเปิลพยายามโทรหาคนรักรวมถึงคนสนิทของคนรักอีกด้วย ความผิดปกติบวกกับเซนส์ของผู้หญิงแล้ว พร้อมกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของน้าสาวที่มีประเด็นกับเพื่อนไนน์พร้อมกับการหายตัวไปของคนพี่ นั่นยิ่งทำให้เธอสงสัยเพิ่มไปอีกเดาไม่ออกก็โง่แล้ว เมเปิลแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย กดรายการบางอย่างในมือถือ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น

ประตูห้องเปิดออกก็พบกับชายหนุ่มบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอยืนถัดไปจากหน้าเธอ “คุณมิกซ์มาทำอะไรตรงนี้ค่ะ” เสียงแสนเยือกเย็นตามใบหน้ายิ้มแย้มแสนหวานต่างจากดวงตาแทบลุกโชน

“คือ ผมแค่แวะมาดูความปลอดภัยตามหน้าที่ครับ”

“อ๋อเหรอคะ” เมเปิลพูดจบหันมาต่อสายไปยังพนักงานส่งของ

“พี่ค่ะ ของน่ะ พอดีไม่หิวแล้ว เอาไปได้เลยนะคะ” หันหลังกลับไปเปิดประตูห้อง “เราเข้าไปคุยกันข้างในหน่อยไหมคะ” เมื่อเห็นท่าทีอึกอักของชายหนุ่ม เมเปิลย้ำเข้าไปอีกครั้ง “ไม่ได้รับคำสั่งมาเหรอว่าให้ทำตามที่เมลสั่ง”

บอดี้การ์ดมิกซ์ลูบต้นคอ เข้าใจแล้วว่าทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงเข้ากับเจ้านายของเขาดี “ครับ” เสียงปิดประตูคล้ายกับการตอกฝาโลงของมิกซ์ แม้จะได้รับการสั่งสอนรวมถึงคำสั่งให้ปิดปากเงียบในเรื่องต่าง ๆ และแน่นอนแฟนเจ้านายคนนี้มีคนให้สืบเยอะแถมยังใกล้ตัวอีกด้วย ประโยคคำถามนั่นก็มา

“จะบอกเองหรือให้เมลสืบเองค่ะ”

“...”

“ไม่ตอบถือว่าเลือกอย่างหลังนะคะ เมลเข้าใจว่ามันคือหน้าที่ ลองคิดดูนะคะ ถ้าคนรักของเราโกหกปิดบังบางอย่าง เราควรจะไปต่อหรือยุติความสัมพันธ์แค่นี้ดี เพราะเมลเองเคยโดน คนที่กำลังคบด้วยโกหก พอจับได้เลิกทันที” เมเปิลใช้น้ำเสียงบอกเล่าแบบผ่าน ๆ ปรายตาเขี่ยเล็บมืออย่างไม่ใส่อีกด้วยจากนั้นต่อสายหาเพื่อนสนิทตัวน้อย

[เมเปิล...]

“อืมวี เมลโทรหาไอ้ไนน์ไม่ติดเลย มันหายหัวไปไหน”

เจ้าน้องน้อยเสียงสูดของเหลวขึ้นจมูกตามพูดด้วยเสียงอ่อย [ไนน์น่ะ ก่อนหน้านี้โดยน้าเบญจับตัวไป พี่ ๆ คนอื่นตามไปช่วยออกมา ไนน์ผ่าตัดพ้นขีดอันตรายยังไม่ฟื้นเลย ส่วนพี่ ๆ คนอื่นโอเคนะ มีแต่พี่โฟร์คนเดียวกระดูกซี่โครงร้าวกำลังนอนรักษาตัวอยู่] พบรับรู้ว่าคนรักของตัวเองรับบาดเจ็บโทรศัพท์ในมือเกือบจะร่วงลงพื้นพร้อมใจเธอที่ปลิวไปด้วย มืออันสั่นเทากำไว้แน่น อารมณ์ของเธอตอนนี้ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งกลัว แต่ที่มากสุดคือความเป็นห่วงและเสียใจ กดกลั้นน้ำตาจนตาแดงก่ำ

 

“ถ้าเมลจะไปเยี่ยมไนน์ได้ไหม จะมีปัญหาอะไรไหม”

[แป๊บนะ] เมเปิลได้ยินเสียงเจ้าตัวหันไปถามแฟนในเรื่องนี้ เธอก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาเช่นกัน “เมลพี่หนึ่งบอกว่ามาได้เลย เผื่อช่วยให้ไนน์ฟื้นเร็วขึ้น

“อืม มันเป็นหนักมากเหรอ”

[ก็...]

“งั้นเข้าไปตอนนี้เลยได้ไหม เมลเป็นห่วงมัน” น้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อนนั้นจริงจัง แต่ในใจอยากไปดูสภาพคนเจ็บอีกคนด้วย

[มาแล้วโทรหาวีน่ะเดี๋ยวลงไปรับ]

เมเปิลตอบตกลง พร้อมลุกเดินออกไปทันที มิกซ์เองรีบตามทันทีไม่มีเวลาจะโทรไปแจ้งข่าวคราวกับอีกฟากฝั่งให้เตรียมตัวรับมือ บอดี้การ์ดหนุ่มทอดถอนหายใจ ... ผู้หญิงเนี่ยรับมือยากชะมัด...

รถเข้ามาจอดในโรงพยาบาล เมเปิลไม่รอเปิดประตูลงไปเอง ต่อสายหาเพื่อนตัวน้อยแจ้งให้รู้ว่ามาถึงแล้ว ตวัดสายดุมาชายหนุ่มคนขับรถ “คุณมิกซ์ฝากโทรบอกละกัน”

“ครับผม” มิกซ์ตอบรับเสียงอ้อมแอ้มไม่เต็มปาก ...จะขัดใจแฟนเจ้านายได้ยังไงขนาดเจ้าตัวเองยังไม่กล้าขัด ส่วนคำสั่งจะไม่ทำตามกฎไม่ได้ เกิดเป็นไอ้มิกซ์เนี่ยยุ่งยากจังวะ...

 

ห้องโถงโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของประเทศ ชายหนุ่มตัวน้อยและแฟนหนุ่มสุดหล่อกำลังยืนรอรับหญิงสาวที่เป็นเพื่อนสนิทน้องชายคนคนตัวน้อยข้างกาย

“สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง หนูวี”

หนึ่งขานรับอย่างยิ้มแย้มแม้ใบหน้าจะดูซูบเซียว ขอบตาคล้ำชัดเจน “จะซื้อกาแฟหน่อย น้องวีเอาเขียวมัชฉะ แล้วน้องเมเปิลเอาอะไรไหม”

“ไม่ค่ะ”

“งั้นวีพาเพื่อนหนูขึ้นไปก่อน เสร็จแล้วพี่หาค่ะ”

 

ส่วนอีกฟากฝั่งห้องพักถัดจากห้องน้องชาย เป้บอดี้การ์ดรับโทรศัพท์จากมิกซ์บอดี้การ์ดอีกคนที่ต้องการรายงานสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

“ว่าไง”

[เข้าประเด็นเลยนะพี่ คุณเมเปิลรู้เรื่องหมดแล้ว]

“หา!!!”

[ไม่ต้องหาแล้วพี่ อยู่โรงพยาบาลแล้วตอนนี้คงถึงห้องคุณไนน์แล้วด้วย]

“เออ ๆ ๆ”

โฟร์ได้ยินเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของคนเฝ้า ตวัดสายตาไม่พอใจ ก่อนจะเหลือบดูสภาพตัวเองความไม่ใจเพิ่มอีกเท่าตัว อยากกลับไปหาแฟนแล้ว ถ้าไปสภาพนี้ใช้ความน่าสงสารเป็นข้อแก้ตัว

“เสียงดังเชี่ยไร กูยิ่งหงุดหงิดคิดถึงเมียอยู่นะมึง” โฟร์เค้นเสียงเขียวตวาดใส่

“ครับ เดี๋ยวได้หายคิดถึง คุณเมเปิลอยู่ห้องข้าง ๆ แล้ว”

“หา!!! เมียกูมา ฉิบหายตัวเท่าบ้านแล้ว”

“ผมบอกแล้วว่าให้บอก คุณโฟร์ไม่คิดบ้างเหรอครับ ว่าคุณเมเปิลมีที่ให้ถามเยอะแยะไปหมด ทั้งคุณไนน์ คุณวี”

โฟร์ดันตัวกดปุ่มให้เตียงตั้งขึ้น “มึงจะพูดทำเชี่ยไร มาพยุงกูด่วน แล้วพาไปส่งห้องน้องเร็ว”

เป้พาร่างเจ้านายสาวไปยังรถเข็นอย่างรวดเร็วไม่ถึงห้านาทีทั้งสองมายังหน้าประตูห้อง เหงื่อแห่งความผิดอาบไปทั่วร่าง เป้เตรียมเปิดและเข่นเข้าไปแต่โดนยกมือเบรกก่อน

“มึงไม่ต้องไปส่ง รีบลงไปหาขนมเค้ก เครื่องดื่มที่น้องชอบ เหมามาหมดร้าน”

เป้เร่งสปีดตีนผีทันทีสมกับเป็นบอดี้การ์ดคู่ใจที่เติบโตมาด้วยกัน โฟร์ก็ใช้สภาพร่างกายค่อยเปิดประตูอย่างทุลักทุเล ค่อยเข่นวีลแชร์พาตัวเองเข้ามา ญาติผู้พี่และผู้น้องทำเพียงปรายมองแล้วหันไปสนใจพูดคุยกับเพื่อนสาวของน้องชายดีกว่า

“น้องเมล พี่โฟร์มาแล้วค่ะ” หญิงสาวบนรถเข่นร้องทักด้วยเสียงสดใส เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจเมื่อพบหน้าคนรักของตัวเอง

“อ้าว!! สวัสดีค่ะพี่โฟร์ คิดว่าทักครบแล้ว เมลลืมสังเกตไปเลยนะคะว่าที่นี่ไม่มีพี่อยู่” เมเปิลตอบร้องทักล้อเล่น ทำหน้าตกใจเจือความขี้เล่นในแบบเจ้าตัว แววตากลับมองอย่างเย็นชา

“ก็คงไม่สำคัญ ลืม ๆ มันเถอะน้องเมเปิล” ฮาจิรีบเสริม

“ได้เหรอ” เมเปิลรับมุกกับน้องชายโฟร์ ก่อนจะตบมุกย้อนกลับอีกรอบ “พี่จิก็ เมลล้อเล่นนะคะพี่โฟร์” แล้วเงียบลงตามด้วยคำถามอีกครั้ง “ดีขึ้นยังค่ะ”

“...ดะ ดี” โฟร์อ้าปากตอบแต่พบคนรักเธอหันไปคุยกับซันแล้ว ราวกับว่าถามพอเป็นพิธีเท่านั้น ไม่ให้ความสนใจกับคำตอบมากนัก

“พี่ซันอาการเป็นไงมั่ง”

“พี่น่ะดีขึ้นมากแล้วค่ะ เพียงแค่ยังเจ็บหน้าอกจากแรงกระแทก” ซันยกมือลูบอกที่นานะดึงตัวเขาไปรับกระสุนแทน “ห่วงแต่ไนน์...” สายตาย้ายไปมองคนรักของชายหนุ่ม

เมเปิลจับแขนเพื่อนออกแรงบีบกระตุ้นคนป่วย “ฟื้นมาได้แล้ว พี่ซันห่วงมึงจนหมดหล่อแล้ว รีบฟื้นนะกูมีเรื่องจะสารภาพบาปกับมึง”

เมเปิลคิดว่าตัวเองคงต้องรีบกลับได้แล้ว ถ้าอยู่ต่อจะโดนลูกอ้อนจากโฟร์ให้เธอสงสารและยอมยกโทษให้ง่าย “พี่ ๆ ค่ะ เมลของตัวกลับก่อนนะคะ”

“อย่าเพิ่งรีบกลับเลยครับ กว่าพี่จะได้มีสิ่งสวยงามมาปลอบประโลมจิตใจอันแสนเศร้าของพี่ อย่าไปเลยนะคะน้องเมเปิล....” ทรัวยกมือแตะหัวใจลากออกยื่นแบบอยากจะคว้าหญิงสาวในแบบละครช่วงที่บทพระนางต้องแยกจากกัน

“อย่าไปเลยนะน้องเมเปิล...” พี่ชายเพื่อนคนอื่นเริ่มเลียนแบบเช่นกัน และยังแข่งกันประสานเสียง “อย่าไป...”

“...” วีและเมเปิลหลุดขำในความขี้เล่นของคนบ้านนี้ “คือเมลต้องไปแล้วจริง ๆ ค่ะ” เพราะมีเพียงคนที่สนิทและคุ้นเคยถึงจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้

“น้องเมเปิล...อย่าไป...” เสียงร้องโหยหวนปานจะขาดใจของชายหนุ่มตระกูลศิริกิจวัชรโชติดังอีกครั้งแบบไม่ต้องเกรงใจใครเพราะทั้งชั้นคือพวกเขา

“หุบปากได้เลยไอ้พวกเวร!!!” โฟร์ร้องตะโกนด่าสวน “เมลขาช่วยไปส่งพี่ที่ห้องด้วยค่ะ แค่ก ๆ” โฟร์ไถลรถให้มาหยุดตรงหน้าแฟนสาว แสร้งไอกุมหน้าอก

เมเปิลยังโกรธเคืองอยู่เบะปากใส่ทันทีกำลังจะขยับปากเสียดสีคนรักของตัวเอง ประตูห้องเปิดออกตามด้วยแขกอีกสามคนเดินเข้ามา

“เสียงโหยหวนเชี่ยไรดังไปถึงข้างนอกเลย โฟร์มีคนขอมาเยี่ยมมึงแน่ะ” หนึ่งแหกปากด่าจบ เบี่ยงตัวเผยหญิงสาวทางด้านหลัง

“อ้าวซีซันนิ ไม่เจอกันนานเลยนะ”

“หวัดดีค่า..” ซีซันโบกมือทักทายอย่างคนคุ้นเคย

“กูกับไอ้เป้เจอตอนกำลังขึ้นลิฟต์มา ซีซันแม่งพอรู้ว่าโฟร์ได้รับบาดเจ็บ อ้อนวอนจะขึ้นมาหามึงให้ได้ นี่เลิกกันไปตั้งนานยังห่วงหามึงไม่เลิก ต่างจากแฟนคนปัจจุบันของมึงน่ะ ไม่แม้จะโพล่งหัวมาเลย มึงไม่คิดจะพามาให้พวกกูรู้จักบ้างหรือไง”

“ไอ้เชี่ยหนึ่งมึงหุบปาก!! พูดมากไปแล้วมึง!!! กูรู้ว่าคนของกูเป็นไงมึงไม่ต้องเสือก!!!” โฟร์ตวาดใส่พี่ชายคนโตของบ้านเสียงดัง หันมาปรับเสียงลดลง “กูกับน้องจะกลับแล้ว พี่ไปส่งนะคะ”

“มึงจะไปส่งน้องทำไม เดี้ยงซะขนาดนี้ นู้นคนเขาอุตส่าห์มาเยี่ยม” ฮาจิบอกแก่พี่สาว

“ซีซันพาไปส่งห้องเอง โฟร์จะพักผ่อนด้วย” หญิงสาวพยายามทำคะแนนกับอดีตคนรักเต็มที่ ยังคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ช่วยให้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง

“ก็ไม่เคยขอร้องให้มาสิ” น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์จะพูดต่อ สร้างความอึดอัดในทุกคนร่วมฟังบทสนทนานั้น ก่อนจะพาตัวเองออกไปยังด้านนอก

เมเปิลอาศัยจังหวะนี้ “เมลกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพี่ทุกคน”

อะ!! เมเปิลตกใจเมื่อข้อมือเธอโดนคว้าพร้อมกับล็อกตาย “มากับพี่ค่ะ” แม้สภาพร่างกายต้องนั่งบนรถวีลแชร์แต่ยังสามารถลากตัวหญิงสาวที่ปกติไปถึงห้องตัวเอง

ซีซันรีบตามออกมาหวังว่าจะได้คอยตามดูแลอดีตคนรักในระหว่างพักรักษาตัว พบกับบอดี้การ์ดที่คุ้นหน้ากางแขนขวาง ส่วนปลายตาพบว่าหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งออกมากำลังโดนลากไปยังห้องพักผู้ป่วยถัดไป

“ปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันดีกว่าครับ คุณซีซันไม่ได้มีความหมายกับคุณโฟร์อีกต่อไปแล้ว ถ้ายังมารบกวนหรือสร้างความไม่สบายใจแก่เจ้านายและคนรักของเจ้านายผม คงต้องยอมรับชะตากรรมนะครับ” เป้เน้นย้ำในคำว่าคนรักของเจ้านาย เพื่อต้องการใช้หญิงสาวรับรู้ว่าคนนั้นสำคัญมาก

ภายในห้องผู้ป่วยของหญิงสาวร่างโปร่ง ไม่มีญาติผู้พี่หรือผู้น้องคนไหนคิดจะย่างกรายเข้ามาเด็ดขาด และคนที่จะเข้ามามีแค่หมอและพยาบาลเท่านั้น จึงคิดว่าไม่มีใครตามมาแน่ เธอปล่อยมือแฟนสาวอย่างอ้อยอิ่ง

เธอย้ายมือข้างที่ยังปกติโอบเอวคนรัก “เมเปิลขา พี่ขอโทษ” เสียงอ่อย

เมเปิลชำเลืองปรายตามองคนรัก “พี่โฟร์ทำผิดอะไรเหรอคะ ต้องขอโทษ”

“เอ่อ...” โฟร์อึกอักได้ยินเสียงเย็นชาจากคนรัก

เมเปิลไม่รอคำตอบ “ที่บอกว่าจะไปทำงานเมืองนอก อ๋อ...ไม่ได้บินแต่ยังคงอยู่เมืองไทย แล้วที่แขนหัก กระดูกซี่โครงร้าว ไปทำอะไรมาเหรอคะ อ๋อ...ไปเสี่ยงอันตรายช่วยชีวิตน้องชาย แล้วไม่คิดว่าคนรักจะเป็นห่วง อ๋อ...”

โฟร์สะดุ้งทุกครั้งเมื่อได้ยินคำว่า อ๋อ...ลากเสียงยาว “พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษค่ะ พี่ผิดทุกเรื่องผิดที่ไม่บอกความจริงกับหนู อย่าโกรธพี่นานนะคะ พี่ปวดใจมาก ๆ”

เมเปิลแกะมือคนพี่ออก ขยับตัวปีนขึ้นไปนั่งบนเตียง ตวัดแขนกอดอกจ้องมองคนอยู่บนวีลแชร์ สำรวจร่างกายคนรักรู้สึกปวดหัวใจ “เมลยังโกรธอยู่นะคะ แต่ยอมยกโทษให้กึ่งหนึ่งเพราะพี่ไปช่วยไนน์ยังเจ็บตัวกลับมาอีก ส่วนที่ยังไม่ยกโทษให้คือพี่โกหกเมล”

คนพี่ใจชื้นขึ้นมา โน้มตัวหนุนตักคนรักโอบเอววางแขนที่หักทับตักด้วย “ขอบคุณนะคะที่รัก”

เมเปิลเสียงแข็ง “แล้วก็อย่าทำอีกล่ะ เมลเอาตายแน่ อ๋อ...” คำนี้ออกมาแล้ว โฟร์สะดุ้งอีกรอบ “แล้วเรื่องแฟนเก่าน่ะ! จัดการด้วย เพราะเมลหึงโหดมาก!!!”

เสียงข่มขู่ขึงขังสร้างความคันยุบยิบในใจโฟร์ก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเกรงใจว่าคนน้องจะเห็นความระรื่นเกินไป “ได้ค่ะพี่จะจัดการให้เรียบร้อยเลยน้า..”

“ดีค่ะ น่ารักที่สุดคุณแฟนสุดเท่” เมเปิลดึงแก้มสุดแรงจนย้วยอย่างหมั่นไส้ จริง ๆ ควรจัดการนานแล้ว แต่ปล่อยให้คาราคาซัง

“ค่ะ อือ...เพราะพี่รักหนู พี่จะไม่ยอมเสียหนูไปเด็ดขาด” โฟร์เงยหน้ามองคนรัก “จูบกันหน่อยนะคะ”

เมเปิลประคองใบหน้า โน้มตัวมาประกบแนบความนุ่มยุ่น ขบเม้มละไล่เลียริมฝีปากบนและล่าง คนพี่เปิดปากให้ลิ้นคนน้องแทรกเข้ามา ด้วยว่าตัวเองอยู่ต่ำกว่า ลิ้นเรียวลัดเลาะสำรวจตามไรฟันทีละซี่ แวะมาตวัดรัดสัมผัสเรียวลิ้นอีกอันในช่องปาก ทั้งสองเริ่มจมดิ่งในห้วงความปรารถนา เมเปิลจึงผละริมฝีปากจ้องมองแววตาหวานเยิ้มเจือปนความร้อนแรง และเธอสัมผัสได้อีกอย่างคือมือในข้างยังคงดีขย้ำก้อนเต้ากลมของเธอ

เมเปิลกัดริมฝีปากกดข่มความต้องการของเธอเช่นกัน ร้องซี้ดด้วยความเสียดาย ใช้นิ้วชี้ยกปลายคางคนรักขึ้น แตะริมฝีปากข้างแก้มกระซิบด้วยเสียงแหบพร่า

“บนลงโทษการโกหกคนรัก” มือบางลูบไล้ไปตามเรือนร่างในชุดคนไข้แสนเบาบาง เสียงครางของอีกฝ่ายช่างเร้าอารมณ์ มือตามลงไปเตะขอบกางเกงลากเลื้อยขึ้นมาสาละวนบริเวณท้องน้อยและแอ่งสะดือ

“อ้า...อือ...ลงไปอีกนิด สัมผัสพี่ ที่รักได้โปรด”

“ข้างล่างอีกเหรอคะ” มือบางมุดหายไปในกางเกงใช้นิ้วเกี่ยวตวัดกับขนอ่อนกำลังขึ้นรำไร ปัดป่ายเฉียดติ่งเสียว “ให้หนูเขี่ยหรือเลียให้ดีค่ะ” เมเปิลแลบลิ้นตวัดรัวยั่วคนรัก กดนิ้วเขี่ยติ่งไปหนึ่งที

“ฮ้า...ตามใจหนูค่ะ ทุกอย่างแล้วแต่หนูจะกรุณา อือ...อ้า...”

เมเปิลยังสาละวนทั้งสัมผัสทั้งลูบไล้แต่ไม่ยอมแหย่นิ้วเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มหรือเขี่ยติ่งแรง ๆ “นี่คือบนลงโทษค่ะ ต่อไปนี้ห้ามทำอะไรจนกว่าหมอจะบอกว่าพี่หายดี” เมเปิลดึงมือจากกางเกง

โฟร์ขึงตัวไปกับวีลแชร์อ้าปากด้วยสภาพอารมณ์ค้าง “เมลขา ฆ่าพี่เถอะค่ะ”

เมลจูบแก้มคนรัก “ไปนะคะ ขอให้ฝันนี้นอนหลับฝันดี” หญิงสาวเดินสะบัดก้นงอนไปยังประตู ยกยิ้มมุมปาก “หายเมื่อไหร่ค่อยว่ากันค่ะ”

โฟร์หัวเราะหึ หึ ตามหลังคนรัก “แล้วหนูจะได้ว่าเวลาพี่หิวมันน่ากลัวขนาดไหน”

TBC...