14 ตอน Chapter 14 ลักพาตัวไปกกกอด
โดย T.mines
Chapter 14 ลักพาตัวไปกกกอด
รถสปอตสีขาวมีคนขับบอดี้การ์ดตัวโต ด้านหลังมีสองสาวคู่รักนั่งแอบอิงโอบกอดไม่สนใจการจราจรแสนติดขัด ต่อให้รถติดยังพรุ่งนี้อีกวันพวกเธอก็ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น แตกต่างจากคนขับนั่งหน้านิ่งทอดสายตาอย่างเบื่อหน้าไปยังปลายทางข้างหน้า
และจวบจนเวลาสองชั่วโมงบนท้องถนนสิ้นสุดลง รถขับขึ้นมาจอดยังชั้นบนคอนโดคนพี่ เมเปิลรู้ตัวว่าโดนลักพาตัวแล้ว คงไม่ยอมปล่อยกลับไปแน่นอน เสียงหัวเราะคนพี่ เธอหันไปเบะปากใส่ คนบ้านนี้ไว้ใจไม่ได้สักคนจอมแผนการ ยกเว้นเพื่อนรักคนเดียวที่ดูเป็นคนดีที่สุด
โฟร์หอมแก้ม กระซิบข้างหู “พี่ไม่จับหนูกินวันนี้หรอกค่ะ” เมเปิลเขินอายมุดหน้าซุกอก ตามด้วยฝ่ามือฟาดต้นแขนระบายความเขิน
เป้บอดี้การ์ดผู้ซื่อสัตย์ในหน้าที่ ตวัดสายตาไปมองกระจกหลังจากได้เสียงดังปาบ จังหวะเดียวกับใบหน้าเจ้านายสาวบิดเบี้ยว เขาเกือบหลุดขำต้องปั้นหน้านิ่งตามเดิม ...ท่าทางจะแสบน่าดู...
ทั้งสองขึ้นไปยังห้องส่วนตัว เมเปิลมองไปรอบ ๆ ห้อง การตกแต่งคล้ายกับห้องเพื่อน และมีขนาดเล็กว่าเท่าตัว มีห้องนอนเพียงห้องเดียวอยู่ชั้นสอง โฟร์พาคนน้องนั่งส่วนโซนรับแขก
“หนูเมลพี่มีคนจะแนะนำให้รู้จักค่ะ” ชายหนุ่มสองคนในชุดสูทเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นคือคนขับรถที่พามาร่างบางคุ้นหน้าอยู่ ส่วนอีกคนก็พอคุ้นบ้าง “นี่เป้ บอดี้การ์ดประจำตัวพี่ ส่วนที่มิกซ์ที่จะให้เขาคอยดูแลความปลอดภัยของหนูค่ะ”
“สวัสดีค่ะ เอ๊ะ!! คุณคือคนที่ฟิสเนตนิค่ะ” เมเปิลร้องเสียงหลง
“ครับผมเอง”
เมเปิลเอียงคอไปจ้องหน้าแฟนสาวของเธอทันที จะดีใจหรือเสียใจในความใส่ของคนคนนี้ “ให้ตามเฝ้าเมลมาตลอดเลยเหรอคะ” มือบางย้ายไปบิดเอวคนพี่ หวนนึกถึงคำพูดเพื่อนไนน์มาทันที
“จะ เจ็บค่ะ เจ็บนะคะ ก็พี่เป็นห่วงความปลอดภัยหนูนี่ค่ะ” โฟร์ดึงมือออกจากเอว “เผลอแป๊บเดียวยังมีคนมาจีบเลย จะไม่ให้คนตามเฝ้าได้ไง” พลางโอบเอวรวบมือมาจับห้องกันการโดนทำร้ายอีกรอบ จูบต้นคอ
“...” สองชายหนุ่มเหลือบเจ้านาย โอดครวญในใจ ...ปล่อยพวกผมไปเถอะหัวใจชายโสดโดนทำร้าย...
ทั้งสองยังไม่สนใจในโลกนี้มีเพียงเราสองคน “ต่อไปนี้มิกซ์จะคอยดูแลหนู ขับรถให้ด้วย เจ้านี่พักอยู่ชั้นล่างคอนโดหนู รบกวนขอคีย์การ์ดให้มันด้วยนะ”
เมเปิลจ้องใบหน้าคนรักทำหน้าตาย เบี่ยงตัวมองหน้าคนรักชัด ๆ เธอถามย้อนกลับเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อในคำพูด “มีห้องให้พักด้วย มาขอคีย์การ์ดเมล ไม่มีจริง ๆ เหรอคะ”
“...” โฟร์ไม่ตอบ อุ้มคนรักหายไปยังห้องนอนชั้นสอง
สองชายหนุ่มโสดมองคู่รักหายไปในห้องพร้อมกับเสียงหัวเราะ นั่งลงยังโซฟาของเจ้านายเมื่อกี้ ถอนหายใจออกมาพร้อม พี่ใหญ่อย่างเป้ตบบ่าปลอบใจบอดี้การ์ดรุ่นน้อง และยังให้กำลังใจตัวเอง ว่าคงต้องเจอแบบนี้ตลอดแน่
ภายในห้องนอนโฟร์วางร่างบางบนเตียง ตามปีนขึ้นมาเท้าแขนคร่อมตัวจ้องมองไปยังดวงตาใสกลมโต ใบหน้าสวยอ่อนหวาน ริมฝีปากขยับขบเม้มมันช่างเชื้อเชิญให้สัมผัส ใบหน้าด้านบนก้มลงต่ำ คนด้านล่างเอียงหน้าหลบ เธอกดหอมแก้มหนัก ๆ ตามกัดต้นคอเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว
“อื่อ...ไม่เป็นคำพูดเลยนะคะ” เมเปิลดุคนพี่ “เมลจะไปอาบน้ำ”
“ค่ะ” โฟร์ยอมแพ้พลิกตัวลงไปนอนราบด้านข้าง “เสื้อผ้าของหนูพี่ให้คนเตรียมไว้ในห้องน้ำแล้วนะคะ” โฟร์หลับตาความคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติ
เมเปิลเบิกตากว้าง รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมาก “พี่โฟร์วางแผนไว้หมดเลยสินะ” เสียงหัวเราะหึหึคือคำตอบ เมเปิลโมโหที่เสียรู้ยกแขนกัดเต็มแรงเป็นการลงโทษ ก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำกดล็อกทันที
โฟร์สะดุ้งขึ้นมาลูบรอยกัด โครงหัวไปมายกยิ้มในความแสบสันของเจ้าแก้มกลม จะไม่ให้รักไม่ให้หลงยังไง นั่งรอจนอีกคนออกจากห้องน้ำ ลุกก้าวเดินไปหาวางมือบนผมนุ่ม เลื่อนมือมาสางผมนุ่มสลวย
“ดึกมาแล้ว นอนไปก่อนได้เลยนะ พี่ขอตัวอาบน้ำแป๊บนะ”
“ค่ะ”
เมเปิลปีนขึ้นไปบนเตียง ใช้มือลูบไล้ผ้าปูที่นอน ราวกับว่ากำลังสัมผัสร่างกายคนพี่ผ่านผ้าผื่นนี้ ล้มตัวลงนอนสูดกลิ่นหอมของพี่โฟร์ สอดตัวในผ้าห่ม เธอพยายามขึงตารออยากหลับพร้อมกัน เมื่อหัวถึงหอมและความสบายใจตลอดสองวันที่ผ่านมาจึงผล็อยหลับไปอย่างเร็ว
โฟร์อาบน้ำเสร็จออกมาเห็นว่าอีกคนหลับไปแล้ว เธอเดินไปปิดไฟ สอดตัวอีกฝั่งกอดคนน้องจากทางด้านหลัง จูบผ่านเส้นผม “ฝันดีนะคะ” เมเปิลพลิกตัวซุกอกยกแขนโอบเอว โฟร์กดจูบหน้าผากไปอีกครั้ง
เช้าวันต่อมา โฟร์ตื่นแล้วนอนมองในอ้อมกอด เสียงนาฬิกาปลุกคนหลับตื่นมาสบตากับดวงตาอีกคู่ เมเปิลรู้สึกว่ามันเกินในสิ่งที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้ การตื่นมาเจอหน้าพี่โฟร์ ริมฝีปากทั้งสองแตะกันเบา ๆ ร่างบางยกแขนคล้องคอ แนบริมฝีปากอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่ความฝันยืนยันว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วและผละออกมา
คนพี่เคาะจมูก “ยั่วพี่แต่เช้านะคะ” โฟร์ลุกขึ้นดึงเจ้าตัวให้ไปอาบน้ำเตรียมตัวลงไปกินข้าวจะได้ไปทำงาน หากไม่ย้ายตัวน้องออกไกลจากตัวเธอ มีหวังอดใจไม่ไหวต้องหยุดงานเฉพาะกิจทั้งคู่แน่
ก่อนจะออกจากห้อง โฟร์รวบตัวมาในอ้อมกอด “จูบหน่อย” เมเปิลคล้องคอจูบกันอย่างดูดดื่ม ผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่งทั้งสองเดินลงมายังลานจอดรถมีคนขับรถประจำตำแหน่ง แยกกันไปทำหน้าที่ตัวเองรับผิดชอบ
โฟร์มองท้ายรถคันหน้า กดโทรศัพท์หาเลขาส่วนตัว ทำการสั่งซื้อรถยนต์รุ่นเดียวและสีเดียวกับเธอ ให้มาส่งเร็วที่สุด
เมเปิลไม่คุ้นเคยกับการที่มีบอดี้การ์ดคุ้มกันพวงด้วยตำแหน่งคนขับ เธอจึงไม่รู้ว่าจะให้ชายหนุ่มผู้นี้ไปอยู่ในส่วนไหน
“คุณเมเปิลครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งด้านใน แล้วจะขอไปสำรวจรอบ ๆ บริษัทนะครับ ถ้าจะไปไหนรบกวนโทรเรียกผมด้วยนะครับ
“แต่ว่า...ขึ้นนั่งรอข้างบนดีกว่า...ถ้าไม่ไปเฝ้าข้างบนจะไม่มีปัญหากับพี่โฟร์ใช่ไหม” เธอถามออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“ถ้าคุณเมเปิลถามว่ามีไหม ถือว่าผมบกพร่องต่อหน้าที่ งั้นวันนี้ผมของขึ้นไปสำรวจพื้นที่แล้วค่อยกลับมาคุยกับทางทีมอีกก็ได้ครับ ถือว่าวันนี้ผมรบกวนด้วยนะครับ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ”
รถเลี้ยวเข้ามายังบริษัท เมื่อพบว่าเป็นรถของบอสเล็กเจ้าหน้าที่ให้ผ่านเข้าไปทันที มิกซ์จอดรถในซองของผู้บริหาร ก่อนรีบลงมาเปิดประตูรถให้หญิงสาว ก็ยังไม่คุ้นเคยอยู่ดี
เมื่อเรื่องเจ้านายคือเรื่องของพนักงาน สองสาวประชาสัมพันธ์ สองสาวหนึ่งจากฝ่ายบุคคลและเจ้าประจำเลขาส่วนของเธอเอง มองด้วยความปลื้มปริ่มของสุภาพบุรุษในชุดสูทดำ เมเปิลตวัดตาไล่ให้มองยังที่อื่น ส่วนชายหนุ่มมิกซ์ยังช่วยถือเอกสารและกระเป๋า ผายมือให้แฟนเจ้านายเดินนำหน้า ...ยืนยิ้มอะไรกันหา! มองจากนอกโลกยังดูรู้ว่าไม่ใช่แฟนกัน
“พี่เอ้ตามเมลมาด้วยค่ะ” บอสเล็กเรียกลูกน้องนั่งเม้ามอยอย่างเพลิดเพลินมาให้งานทันที
ทั้งสามขึ้นลิฟต์โดยไม่มีการพูดจาอะไรทั้งสิ้น มีเพียงแค่เลขาชำเลืองมองชายหนุ่มเป็นระยะ จนคนอย่างเธอทนไม่ไหว ตวัดตาดุบอกด้วยเสียงอันเย็นชา “เลิกมองได้แล้ว เขาไม่ใช่แฟนเมล เขารับหน้าที่มาดูแลเท่านั้นค่ะ”
“ฮู้ว...เพิ่งจะเป็นแฟนกันไม่กี่วัน สั่งให้คนมาดูแล เขาคนนั้นต้องหวงบอสเล็กพี่มากแน่ ๆ เลย” เมเปิลจิปากไม่พอใจใส่อีกหนึ่งดอก เลขาสาวยอมหุบปากลง จนถึงห้องทำงาน
“พี่เอ้หาจัดหาโต๊ะว่าง มาให้คุณมิกซ์นั่งด้วย” พูดจบกับเลขาหันมาในส่วนบอดี้การ์ดของเธอเอง “คุณมิกซ์ ทางนั้นห้องน้ำ ส่วนเครื่องดื่มต่าง ๆ ในห้องครัวทางนู้น ตามสบายเลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณครับ คุณเมเปิลไม่ต้องกังวล พวกเราถูกฝึกมารับมือสถานการณ์ต่าง ๆ กินง่ายอยู่ง่าย สบายใจได้ครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเพื่อคลายความกังวลให้แก่เจ้านายคนใหม่ที่เขาต้องดูแลนับตั้งแต่นี้
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ”
ข่าวล่าเรื่องชายหนุ่มมาตามประกบติดบุตรสาวส่งตรงไปยังหูบอสใหญ่ ข่าวดีแบบนี้เขาจะพลาดไง เอกสารต้องอนุมัติไว้ก่อน เซ็นหลังสิบโมงเช้าก็ไม่มีใครกล้าเร่งใครจะมาใหญ่เกินฉันไม่ได้
บอสเล็กกำลังอ่านข้อความจากหวานใจอดยิ้มจนแก้มแทบจะแตกอยู่แล้ว เงยหน้าพร้อมเก็บโทรศัพท์ลงทันทีอย่างมีพิรุธ เมื่อมีชายวัยกลางคนเปิดประตูเข้ามา ไร้การเคาะบอก
“ชายหนุ่มข้างหน้าใครเหรอลูก คงไม่ใช่แฟนหนูใช่ไหม” พ่อเธอไม่มีการเกริ่นนำ ถามเข้าประเด็นเลย
เมเปิลคิดว่าบอกความจริงไปดีกว่าปิดบัง ถึงเรื่องบางอย่างจะบอกไม่ได้ “คนนั้นคือบอดี้การ์ดที่แฟนหนูส่งมาดูแลความปลอดภัย รวมถึงช่วยขับรถให้นะคะ”
บิดาของหญิงสาวคิดวิเคราะห์ทันที “บ้านเราตระกูลที่มีเงินจ้างบอดี้การ์ดแบบเหลือเฟือ มีแค่ไม่ตระกูลหรอก อันดับหนึ่ง ศิริกิจวัชรโชติของเจ้าสัวชัช หนูคบกับใครในบ้านนั้นไหม หรือว่าจะตระกูลนี้....”
“พ่อค่ะ!!” เมเปิลขัดขึ้นมากลัวว่าพ่อจะเริ่มซักไซ้หนักขึ้น กลัวจะหลุดออกมา “ไม่ต้องเดาเลยค่ะ ถึงเวลาหนูพาไปเจอแน่ ตอนนี้ออกไปทำงานได้แล้ว งานหนูล้นโต๊ะแล้วค่ะ” บุตรสาวก้าวออกแรงดุนดันหลังบิดาออกไปส่งยังหน้าห้องทำงานและปิดประตูทันที
นักธุรกิจอย่างเขามีความมุ่งมั่นเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว จึงเดินไปหาชายหนุ่มหน้าหล่อในชุดสูท และเริ่มแอบสอบถาม รวมถึงลูกล่อลูกชนขนมาหมด และได้รับคำตอบเพียง ขอโทษด้วยครับและขอโทษด้วยครับ สร้างความปวดหัวให้บอสของบริษัท จนเดินสะบัดตัวหนีไปทำงาน พร้อมโทรฟ้องภรรยาสุดรักอีกด้วย
ล่วงเลยมาถึงเวลาเที่ยง เมเปิลนั่งรอโทรศัพท์จากคนพี่ แต่ผ่านไปจนถึงบ่ายแล้วไร้วี่แวว ความแปลกใจรวมถึงความกังวลพี่โฟร์ไม่เคยผิดคำพูด แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยพลาดสักครั้ง
[ค่ะหนู พี่ขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้พี่ยุ่งมาก เจอกันตอนเย็นพี่ค่อยเล่าให้ฟัง]
“ค่ะ”
[รักเจ้าแก้มกลมของพี่นะ]
คนพี่ไม่รอให้เธอบอกลาหรือวางสายเหมือนครั้งก่อน แต่น้ำเสียงมีความกังวลเจือปนความเครียด เมเปิลเดินออกไปเรียกชายหนุ่มหน้าห้องมาสอบถาม
“คุณมิกซ์ไม่รู้ว่าทราบว่าพี่โฟร์มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ น้ำเสียงแปลก ๆ ค่ะ”
“ผมไม่ได้รับแจ้งอะไรมาครับ คุณเมเปิลมีอะไรให้ผมสอบถามหรือเปล่า ให้ผมโทรไปสอบถามข้อมูลให้ไหมครับ”
ตอนแรกเธอลังเล แต่เมื่อคนพี่บอกว่าจะเล่าให้ฟังตอนเย็น “ไม่เป็นค่ะ”
มิกซ์มองใบหน้าเจ้านายสาวเต็มไปด้วยความกังวล แต่เขามีหน้าที่แค่ดูแลความปลอดภัย แต่เจ้านายที่แท้จริงของเขาคืออีกคน ถ้ามีเรื่องที่ทางนั้นบอกแก่คนนี้ไม่ได้เขาก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง
“งั้นผมของตัวนะครับ”
ช่วงเย็นเมเปิลสั่งให้มิกซ์พาเธอมายังคอนโดของโฟร์ ด้วยกลัวว่าคนพี่จะกลับดึกเธอจึงสั่งอาหารเดลิเวอรี่ นั่งรอไม่นานอีกคนเปิดประตูเข้ามา เมเปิลวิ่งเข้าสวมกอดด้วยความคิดถึง ใบหน้าเคร่งเครียดผ่อนคลายลงในทันที โฟร์กดลงมาจูบคนรักด้วยความคิดถึงเช่นเดียวกัน
เมเปิลจูงแฟนสาวลงมานั่งลง และตัวเองปีนขึ้นไปนั่งคล่องบนตัวยกแขนคล้องคอ “สรุปมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ แฟนสาวของเมลสีหน้าไม่ดีเลย”
โฟร์ยกยิ้ม ใจห่อเหี่ยวก่อนหน้า พองโตในคำพูดและท่าทาง ขยับปากไปขมกัดริมฝีปากคนขี้อ้อนอย่างมันเขี้ยว ใช้มือบีบจมูก “ห้ามไปอ้อนใครแบบนี้นะคะ พี่หึงโหดมาก มากที่สุด” เสียงกดเข้มย้ำในคำบอก
“...”
“เมื่อตอนเที่ยงปู่ของพี่ความดันขึ้น วูบหมดสติ วุ่นวายกันทั้งวันเลยค่ะ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วค่ะ”
เมเปิลหน้านิ่ง “แล้วไนน์ว่ายังไงมั่งค่ะ”
โฟร์อ้ำอึ้ง “เรื่องนี้แหละค่ะที่พี่กังวล รวมถึงคนทั้งบ้าน คนดีของพี่ไม่เคยรับรู้ว่าปู่ป่วย พอเริ่มอาการไม่ดีปู่ ก็ส่งเจ้าตัวไปอยู่เชียงใหม่กับไอ้หนึ่ง และคนที่รู้ว่าปู่หมดสติคือคนดีของพี่ด้วยนะ”
“...” เธอเองก็ไม่รู้จะปลอบเรื่องนี้ยังไง พี่โฟร์ก็ไม่ใช่คนผิด แต่มีส่วนร่วมในการปิดบัง
“คนดีจะโกรธพวกพี่มากไหมคะ”
เมเปิลเอียงซบไหล่ ลองมองมุมในตัวเธอคือเพื่อนสนิท “อันนี้พูดตามความรู้สึกนะคะ ถ้าเป็นเมลคงโกรธมากค่ะ สำหรับไนน์แล้วเจ้าสัวเปรียบเสมือนพ่อต่างแค่คำเรียกเท่านั้น ยิ่งทุกคนทำแบบนี้เหมือนโดนหักหลัง เมลเดาตอนนี้ไม่มีใครเข้าหน้าได้ยกเว้นแฟนไนน์ใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ!!” เมเปิลมุมปากยกขึ้น ไอ้ที่กังวลเรื่องว่าน้องชายโกรธน่ะส่วนหนึ่ง แต่โมโหตรงที่คนปลอบมากกว่า
“ไม่ผิดไปตามที่เมลเดาไว้หรอกค่ะ พี่ซันเขาไม่มีความผิดในเรื่องนี้จะอยู่ปลอบใจก็ไม่แปลก ช่วงนี้พี่ก็อย่าไม่ขวางพี่ซันเยอะ รอให้ไนน์หายโกรธก่อนค่อยไปอาละวาดยังทัน งั้นเมลรอให้ข่าวออกก่อนค่อยโทรไปสอบถาม ถ้าไปถามตอนนี้ไนน์มันเดาว่าเมลอยู่วงในแน่นอน”
โฟร์จิจ๊ะไม่พอใจ “หนูอย่าเรียกชื่อมัน เรียกมันว่าไอ้หมอนั่น ไม่ถูกโฉลกกับชื่อนี้เลย” ลูบหัวคนรักที่เข้าใจและปลอบโยนเธอ
“งั้นลุกไปอาบน้ำและมากินข้าวค่ะ เมลหิวแล้ว”
หลังจากกินข้าวเสร็จ สองคนรักมาคลอเคลีย จนเวลาล่วงมาถึงเวลานอน ด้วยเรื่องวันนี้ค่อนข้างเยอะมาก เมื่อได้รับความอบอุ่นจากการคนรักทั้งสองก็หลับสนิท
เพื่อนทั้งกลุ่มรับรู้ผ่านน้องวีเรื่องของเจ้าสัวชัชล้มป่วย พร้อมกับเรื่องที่คุณเพื่อนไนน์ตัดสินใจลาออกจากงานทันที พร้อมตั้งตัวเป็นรองประธานบริษัท
“ไนน์มึงเป็นไงมั่ง โอเคหรือยัง”
[อื้อ...พวกมันแม่งปิดบัง กูไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่างเลยเหรอวะ ทุกคนเลยทำแบบนี้ เห็นกูเป็นเด็กหรือไง] ไนน์ระบายความอัดอั้นให้เธอฟัง
“ถ้ากูเป็นมึงคงคิดเหมือนกัน แต่กูว่าพวกพี่มึงก็ไม่อยากให้มึงโกรธ แต่เรื่องที่ว่าเขาเห็นมึงเป็นเด็ก มึงเคยโตสำหรับพวกพี่มึงด้วยเหรอ”
[…] เมเปิลได้ยินเสียงสบถด่าเบา ๆ เพราะสิ่งที่เธอพูดไนน์เองก็รับรู้เรื่องนี้ดี
“กูว่ามึงลองคุยกับปู่มึงก่อนไหม หลัก ๆ เดาว่าปู่มึงสั่งไว้หรือเปล่าไม่ให้บอกเรื่องป่วยกลัวมึงเป็นห่วงไง และกูได้ยินข่าวว่าลาออกแล้ว ยินดีต้อนรับทายาทอันดับที่เก้าสู่อาณาจักร ศิริวัชรโชติกรุป”
[ทำไมกูรู้สึกแม่ง ๆ วะ เหมือนมึงสะใจ มึง...ควรจะปลอบใจกูไหม?]
“เอาน่า พี่มึงคนไหนรังแกมึง เดี๋ยวกูไปทุบหลังเรียงตัวให้”
[เออดี ฝ่ามือแบบมึงถึงจะพวกมันก็รู้สึกบ้างแหละ หนักเหี้ย ๆ]
เมเปิลหงายมือตัวเองมองมันอย่างงุนงง ปกติทำไมถึงมีใครชอบบ่นว่ามันแรง “เออมึงเสาร์นี้ ไอ้คิวมันบอกว่าจะเลี้ยงฉลองที่มึงลาออก พาแฟนมึงไปให้พวกกูรู้จักด้วย ไม่รับคำปฏิเสธ บาย”
ร้านบริเวณพื้นที่ส่วนตัว แก๊งกลุ่มเพื่อนวิศวกรรมยานยนต์กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ในเวลาปกติไม่มีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวพัน แต่ละคนควงแฟนมาอย่างครบถ้วน น้องวีมากับคุณสามีที่นั่งหน้าหงิกตาขวางมองแมวขโมยน้องชายอย่างไม่วางตา เจโอมากับภรรยาหนุ่มนักแสดงตัวท็อปของวงการ จัสมินมากับสามีคุณหมอประคองว่าที่คุณแม่ท้องอ่อนสามเดือนแล้ว คิวพาน้องชายบุญธรรมน้องคีย์ และเมเปิลหญิงสาวคนสุดท้ายของกลุ่มไร้คนข้างกาย เมื่อมาถึงกลอกตามองบนกัดฟันกรอด ๆ เสี้ยววินาทีอยากกดโทรศัพท์เรียกคุณแฟนมาเปิดตัวให้โชว์ตัวจบ ๆ เรื่องไปเลย
ทั้งกลุ่มทักทายและแนะนำตัวกัน โดยมีว่าที่คุณแม่และเพื่อนคู่กัดรับบทพิธีกรสัมภาษณ์
“ไม่ทราบว่าพี่ซันประทับใจในตัวเพื่อนของหนูค่ะ” จัสมินถาม
จบจากเพื่อนสาว คิวถามต่อทันทีกำมือเป็นไมค์ “ทริปสมุย ดื่มด่ำกันขนาดไหนครับ” ฮิ้ว... ตามด้วยเสียงร้องโห่แซวเข้าขาของคู่กัดแปรสภาพเป็นเพื่อนรักกันชั่วคราว
“ไนน์มีรอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มที่ชาตินี้พี่ไม่วันลืมแม้วินาที” ในระหว่างแฟนหนุ่มของเพื่อนตอบ สายตาทอดมองไปยังคนรักของเขาช่างหวานละมุนและแสนจะหลงใหล
“...” ไนน์รู้สึกใบหน้าร้อนผะผ่าว เกร็งแก้มบังคับไม่ให้มันยกยิ้มอย่างยากลำบาก
เสียงโห่แซวตามมาอีกระลอกจากทั้งกลุ่ม คิวตะโกน “แต่งเลย แต่งกันเลย” มีเพียงคนเดียวกัดฟันกรอด ๆ ยกมือรูปกากบาท ส่วนเจ้าน้องวีเอาแต่ปัดมือสามีตัวเองให้เอาลง หนึ่งเองถึงจะหวงน้องและไม่ชอบแฟนน้องชายมาก ยังมองว่าน้องตัวเองมีความสุข แต่ถ้าให้เลือกขัดขวางกับยอมรับ เขาก็เลือกขัดขวางอยู่ดี ...กว่าจะเลี้ยงได้โตและน่ารักขนาดนี้ปล่อยง่ายได้ไง...
เมเปิลออกไปเข้าห้องน้ำและออกมาเจอกับไนน์ จึงเดินเลี่ยงออกมาคุยกันสองคน "ปกติมึงจะรำคาญคนที่เข้ามาวุ่นวายด้วยทุกคน ยกเว้นพี่ซันที่ได้รับทั้งรอยยิ้มและยอมให้วุ่นวายเพิ่มอีกด้วย ยินดีด้วยกับความรักในครั้งนี้นะมึง”
“ไม่รู้ดิวะ พอเป็นพี่ซันทุกอย่างมันโอเคไม่หมดเลย” ไนน์ตอบไปด้วยยิ้มไปด้วย
เมเปิลยกยิ้มตามรอยยิ้มนั้น และดึงแก้มทั้งสองข้าง “ทำไมมันน่ารักแบบนี้ห๊ะ!!” ไนน์ลงโทษคนแอบดึงแก้มและชมเขาว่าน่ารักด้วยการทุบหัวหญิงสาว พาเดินออกมาพร้อมกัน
“คนดีของโฟร์...เมเปิลขา...” โฟร์เดินเข้ากลุ่มบรรดาพี่น้องอีกเจ็ดคน วิ่งปรี่มาแฟนสาวของเธอพร้อมแทรกกลางโอบเอวทั้งคู่
ไนน์ขมวดคิ้วทันที ถามด้วยเสียงไร้อารมณ์ “ไร มากันทำไม” ตวัดสายตาไปมองแขนโอบเอวเพื่อนสนิทของเขา “มือ โฟร์เอามือออกไป” พี่สาวลำดับที่สี่ของบ้าน ปล่อยจากเอวน้องชาย แต่ยังคงโอบเอวแฟนสาวอยู่ ไม่มีทีท่าจะปล่อย ไนน์จิปาก เหลือบตามองสายดุ ๆ โฟร์ย้ายตัวเองไปหลบเกาะหลังคนรัก
“น้องเมเปิลช่วยพี่ด้วย ไนน์ดุพี่ค่ะ”
“ห้ามดุพี่โฟร์นะ” เมเปิลส่งเสียงขู่เพื่อนหนุ่ม
บรรยากาศระหว่างสองคนนี้มันแปลก ไนน์หรี่ตาจับผิด “ช่วงนี้มึงไปไหนมาไหนกับโฟร์บ่อยนะ มันมาจีบมึงใช่ไหม”
เมเปิลยกยิ้มกวนให้แก่คนถาม “ถ้าจีบ มึงจะให้พี่มึงจีบไหมล่ะ ไม่เอา เปลี่ยนเป็นกูจีบพี่มึงแทนแล้วกัน ก็กูโสดไงมึง”
ไนน์ตะโกนเสียงดัง “ไม่ ห้ามเด็ดขาดเลยนะมึง เมเปิลเรื่องนี้เราคุยกันจบไปแล้ว กูไม่ยอม”
“...” เมเปิลถอนหายใจอยู่ข้างใน ...บัดเรื่องคุยง่ายมันก็ง่าย แต่เรื่องที่มันไม่ยอมค้านหัวชนฝา เพลีย...
“...” โฟร์คิดหนัก ตัวเองไม่เท่าไหร่ ส่วนเจ้าแก้มกลมของเธอเองก็แคร์น้องชายเธอไม่น้อยเหมือนกัน เหนื่อยใจ
เมเปิลตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชด “เออ!! กูโสดไง พี่มึงโสด พอบังเอิญเจอกันบ่อย ก็เลยสนิทกันไปไหนมาไหนตามประสาคนโสด บังเอิญบรรดาเพื่อนรักของกูชิงมีแฟนกันหมด จะให้กูไปเที่ยวนั่งชื่นชมคนรักกันเหรอ" เธอจิ้มหัวไนน์จนโยกไปหนึ่งที "มึงทิ้งกูแล้ว อย่ามาเรียกร้องถามอะไรกับกูอีก กูใช้ชีวิตโสดเกาะพี่มึงในระยะนี้แหละ”
“คนดีขา ยอมให้พี่จีบสิคะ สัญญาเลยจะดูแลอย่างดีประดุจเจ้าหญิง” โฟร์เกาะบ่าแฟนสาวยื่นหน้ามาพูดน้องชาย
“เอามือออกเลยนะ โฟร์ห้ามจีบเพื่อนไนน์” ชายหนุ่มหยุดพูดและคิดตามคำพูดของเพื่อนสาว “แค่ยอมให้ไปไหนมาไหนด้วยกันมากเกินพอแล้ว ไนน์จับตาดูตลอดนะ” เขายกนิ้วชี้ไปยังพี่สาวยังเกาะหลังเพื่อนสาว
โฟร์รวบตัวคนรักของเธอเข้ามากอดต่อหน้าน้องชาย ไนน์รีบแวดแหวกพี่สาวออกมาทัน โฟร์ผละออกและรีบไปรวบอกอดเอวน้องชายแทน “พี่ไม่นอกใจคนดีของพี่แน่นอน ในใจพี่ยังเป็นไนน์เสมอ” โฟร์ยื่นปากหมายจะจูบแก้ม คนมีขี้รำคาญอย่างไนน์ดันหน้าพี่สาวออกไปอย่างเร็ว
“อี๋ย...ปล่อยนะ....ปล่อยนะโว้ย!!!” ท่าทางรังเกียจอย่างมาก ดันหน้าพี่สาว เรียกเสียงหัวเราะคนทั้งกลุ่มได้อย่างสนุกสนาน ส่วนพี่ ๆ คนที่เหลือเตรียมตัวจะเข้ามาร่วมด้วย น้องชายสุดรักยกนิ้วชี้หน้าแต่ละคนห้ามเอาไว้
เมเปิลเป่าลมออกปาก เกือบโดนจับได้แล้ว พี่โฟร์เล่นอะไรเนี่ย ...กลับต้องดุซะแล้ว
TBC...
--------------------------------------------------------------------------
กระซิบว่าตอนหน้าไปเที่ยวกันนะ .... แบบว่าเที่ยว แบบ คนรักน่ะ