ตอนที่ 3

 

 

 

 

 

 

 

หลังเสร็จสิ้นราชกิจในวันนี้แล้ว องค์ราชินีก็กำลังเตรียมตัวที่จะไปยังวังมรกตเหมือนอย่างเคย วันนี้พระนางต้องไปหาเอเดน จากที่นางคาดการไว้เอเดนคงจะพูดเรื่องห้องลับนั้นเป็นแน่ องค์จักรพรรดินีเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่าง ความลับมันไม่มีในโลกล่ะนะ

เสียงประตูเปิดออกปรากฏร่างองค์จักรพรรดินีเข้ามายังห้องของเอเดน ชายหนุ่มเดินมาต้อนรับองค์จักรพรรดินีเป็นอย่างดี ชายหนุ่มจูบมือพระนางเป็นการทักทาย

“เชิญองค์จักรพรรดินีเสด็จพ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มผายมือไปยังโซฟา พระนางไปนั่งยังโซฟาตามคำกล่าวของชายหนุ่ม เอเดนเดินมานั่งยังข้างกายองค์จักรพรรดินี เอเดนรินไวน์ลงจอกก่อนจะยื่นมาให้องค์จักรพรรดินี

“เจ้ามีอะไรอยากถามเรารึ” ชายหนุ่เลิกคิ้วสูง “สายตาเจ้ามันบอกมาน่ะสิ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

“กระหม่อมอ่านออกง่ายเช่นนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“แน่นอนสิ เจ้าคิดว่าเราเป็นคนโง่หรืออย่างไรที่จะไม่รู้ว่าอาร์เธอร์ตามเรามาน่ะ” องค์จักรพรรดินีเท้าแขนกับพนังพิงโซฟาเพื่อให้มองชายหนุ่มได้ง่ายขึ้น สีหน้าเขาแทบไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด เช่นนั้นเจ้านี่ก็คงจะรู้อยู่แล้วสินะเรื่องนั้นน่ะ

“กระหม่อมก็คาดการไว้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงทราบ” ชายหนุ่มมองดูคนตรงหน้า หากพระนางไม่รู้ว่ามือสมัครอย่างอาร์เธอร์ตามพระนางไปพระนางคงขึ้นปกครองประเทศนี้ไม่ได้เป็นแน่

“เช่นนั้นเจ้าอยากรู้หรือไม่เล่าว่าในนั้นมีอะไร” ชายหนุ่มส่ายหน้า 

“กระหม่อมคิดว่ากระหม่อมเดาออก” ชายหนุ่มยกยิ้ม “กระหม่อมดูออกพ่ะย่ะค่ะ ความชอบของพระองค์” 

“เราก็ไม่ได้ต่างจากเจ้านักหรอก” องค์จักรพรรดินีหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ “ความชอบน่ะ” 

ชายหนุ่มอึ้งอยู่ไม่น้อยกับคำพูดของคนตรงหน้า ที่เขาว่าผีเห็นผีคงจะเป็นเรื่องจริงกระมัง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ

“เช่นนั้นท่านต้องการอะไรจากกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ใช่เราหรอกหรือที่เป็นฝ่ายถามเจ้าน่ะ” ชายหนุ่มเสยผมของตนขึ้นอย่างใช้ความคิด “เจ้าต้องการเป็นแกรนดยุกเคียงข้างบัลลังก์เราหรือ” 

“สิ่งนั้นกระหม่อมก็ต้องการพ่ะย่ะค่ะ”

“อ๋า เรารู้แล้ว” องค์จักรพรรดินีชี้ไปยังหน้าของชายหนุ่ม “เจ้าอยากให้ที่แห่งนี้อยู่ต่อสินะ”

“พระองค์ช่างสมกับเป็นประมุขของประเทศเสียจริง” องค์จักรพรรดินีหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

“เรารู้เพียงคนรักของเจ้าอยู่ที่แห่งนี้ แต่เราไม่รู้ว่าเจ้าชอบใครอยู่อย่างน้อยเราก็ล่วงรู้ความลับของกันและกันไปแล้ว เจ้าสามารถบอกเราได้หรือไม่กับเรื่องนี้”

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ทำเอาชายหนุ่มหน้าแดงอยู่ไม่น้อย ใช่แล้ว เขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันนั่นแหละ การที่ยอมมาอยู่ในวังมรกตเป็นสนมของจักรพรรดินีนั้นก็เป็นเพราะเขาอยากอยู่กับคนรักนั่นแหละ และเขาก็คิดถูกจริงๆว่าเลือกมาอยู่ที่แห่งนี้ เขาและคนรักของเขาได้ไปมาหาสู่กันง่ายขึ้นเหมือนกับเมื่อก่อน

“เรื่องนั้นพระองค์ก็ทรงลองเดาดูสิพ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างมีความสุข องค์จักรพรรดินีหัวเราะชอบใจอยู่ไม่น้อยกับคำตอบเช่นนี้

“เช่นนั้นช่างเถอะ” องค์จักรพรรดินีวางแก้วไวน์ลง เคลื่อนมือของพระนางไปสัมผัสใบหน้าของชายหนุ่ม “หากเจ้าขึ้นมาเคียงข้างบัลลังก์เรา เจ้าทำใจมีความสัมพันธ์กับเราได้หรือไม่เล่า” ชายหนุ่มจับมือขององค์จักรพรรดินีออกแรงดึงให้พระนางเข้ามาใกล้ตน

“แน่นอนว่ากระหม่อมทำได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแยกแยะหน้าที่ได้พ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มเอ่ย “อย่างน้อยเราก็ต้องมีลูกด้วยกันสักคน” 

“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วล่ะนะ” ชายหนุ่มปล่อยมือองค์จักรพรรดินีจากการกอบกุม องค์จักรพรรดินีลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เอาล่ะ ตกลงว่าเราเลือกเจ้า มาเคียงข้างบัลลังก์เรา” ชายหนุ่มคุกเข่าลง รับคำกล่าวของผู้เป็นเจ้าชีวิตของเขา

“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” 

หลังเสร็ตสิ้นการพูดคุยกับเอเดนและส่งเจ้าของดวงใจได้เข้านอนแล้ว ยามนี้ก็ถึงเวลาที่พระนางต้องกลับพระราชวัง รถม้าจอดรออยู่หน้าวังมรกตอย่างรู้งาน ชายวัยกลางคนผู้เป็นที่ปรึกษาประจำพระองค์โค้งคำนับองค์จักรพรรดินี เปิดประตูรถม้าออกเพื่อให้พระนางขึ้นนั่งและตามเข้าไป

“วันนี้ทรงเร็วกว่าทุกครั้งนะพ่ะย่ะค่ะ” ชายวัยกลางคนเอ่ยกับองค์จักรพรรดินีที่มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนอย่างเคย

“วันนี้เราคุยกับเอเดนเพลินไปหน่อย พอไปหาเธอคนนั้นก็หลับไปเสียแล้ว” องค์จักรพรรดินีตอบคำถามของคนตรงหน้า “อเล็กซ์”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” 

“เราจะให้เอเดนขึ้นเป็นแกรดดยุกเคียงข้างเรา ส่วนสนมชายที่เหลือมอบตำแหน่งมาควิสให้พวกเขา” นี่เป็นคำพูดที่ทำเอาชายวัยกลางคนน้ำตาคลอ ในที่สุดองค์จักรพรรดินีก็เลือกชายที่จะมาอยู่ข้างกายหน้าได้เสียที

“ถ้าเป็นเช่นนี้..”

“วังมรกตแห่งนี้จะยังคงอยู่เช่นเดิม เราแค่เพียงมอบตำแหน่งให้พวกเขาเท่านั้น เจ้าก็รู้ว่าในวังมรกตนั้นมีดวงใจของข้าอยู่” 

“กระหม่อมทราบพ่ะย่ะค่ะ”

“ในคราแรกเราก็คิดว่าวังมรกตแห่งนี้จะเป็นที่ที่ทำให้เราสบายใจเพียงคนเดียวแต่มันไม่ใช่”

อย่างน้อยพอมีเพื่อนที่จะมาอยู่เคียงข้างกันและดูเข้าใจกันในอนาคตเช่นนี้ก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย การที่พระนางแต่งตั้งคนเคียงข้างบัลลังก์คราวนี้ก็ทำให้เราสองคนได้ประโยชน์กันทั้งคู่ อยู่กับคนที่รู้ความลับและมีความชอบแบบเดียวกันก็ยังดีกว่าอยู่กับใครก็ไม่รู้ล่ะนะ แม้จะต้องฝืนใจกันทั้งสองฝ่ายในบางเรื่องก็ตาม