ตอนที่ 2

 

 

 

 

 

แกรก

เสียงประตูไม้บานใหญ่เปิดออก องค์จักรพรรดินีเดินเข้าไปยังทางลับที่ตนลอบทำไว้ก่อนจะนำสนมเข้ามายังวังมรกตแห่งนี้ ใครจะไปคิดว่ามันจะมีทางลับอยู่หลังรูปเช่นนี้เหล่า แต่ดูเหมือนจะมีคนล่วงรู้ความลับนี้ของเธอแล้วอาร์เธอร์ หนึ่งในสนมของเธอที่ล่วงรู้ความลับนี้เข้าเสียแล้ว แต่คนอย่างอาร์เธอร์คงจะไม่มีทางที่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้เป็นแน่ถ้าไม่มีใครเป่าหูมา อย่างเช่นเอเดนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านเอิร์ลเฟลิกซ์ขุนนางผู้ทะเยอทะยานถึงขนาดยอมส่งลูกชายคนเดียวมาเป็นสนมใต้อาณัติเธอเช่นนี้หรอก วันรุ่งคงจะมีเรื่องให้พวกเขาได้คุยกันมากโขเชียวล่ะ

ก๊อก ก๊อก

เคาะประตูอยู่สองครั้ง เปิดประตูที่อยู่ลึกสุดทางเดินเข้าไปเพื่อพบเจอใครอีกคน ผู้เป็นเจ้าของดวงใจองค์จักรพรรดินีผู้นี้ ภายในห้องถูกประดับด้วยเครื่องเรือนสีน้ำเงินตามที่เจ้าของห้องชอบ แม้ว่าจะเป็นห้องหลับแต่ก็มีกระจกเพราะมันไม่ได้อยู่ใต้ดิน จริงๆแล้วมันก็แค่เป็นอาคารต่อเติมขึ้นเท่านั้นและเธอก็ซ้อนมันไว้กับคนส่วนใหญ่เท่านั้น

“ทำอะไรอยู่หรือ” องค์จักรพรรดินีเดินเข้าไปสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลัง จูบกระหม่อมเจ้าหล่อนอย่างรักใคร่

“อ่านหนังสือค่ะ” ว่าจบหญิงสาวก็โชว์หนังสือที่อยู่ในมือให้องค์จักรพรรดินีได้เชยชม 

“หืม เล่มนี้ข้าไม่เคยเห็นเลย” 

“แน่นอนสิ เล่มนี้ข้าออกไปซื้อกับเมย์” องค์จักรพรรดินีเดินไปนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว 

“โดยไม่บอกข้าหรือ” หญิงสาวทำหน้าหงอยลงเล็กน้อย

“ก็ท่านไม่ยอมว่างเลยนี่ แถมใช่ว่าข้าไปคนเดียวเสียหน่อย” หญิงสาวทักท้วง องค์จักรพรรดินีถอนหายใจออกมาเบาๆ ลูบหัวคนตรงหน้าอย่างรักใคร่

“ข้าขอโทษ คราวหน้าหากอยากได้ใหม่ก็บอกข้าเดี๋ยวข้าจะพยายามทำตัวให้ว่างแล้วพาเจ้าไปเอง” องค์จักรพรรดินีเอ่ย “ข้าเป็นห่วงเจ้าเจ้าก็รู้ ข้าไม่อยากให้เจ้าออกไปไหนโดยที่ไม่มีข้า” หญิงสาวทำหน้างอเล็กน้อย

“เข้าใจแล้ว คราหน้าหากข้าอยากไปที่ใดข้าจะบอกท่านก็แล้วกัน” จักรพรรดินีพยักหน้ารับ 

“มาเถอะ” องค์จักรพรรดินีหยิบหนังสือออกจากมือหญิงสาว อุ้มหล่อนมายังเตียงนอน วางหล่อนอย่างเบามือ พระองค์เดินไปหยิบถังที่บรรจุน้ำไว้จำนวนหนึ่งมาวางลงตรงหน้าหญิงสาว

พระองค์ค่อยๆใช้น้ำนั้นล้างเท้าหญิงสาวอย่างเบามือราวกับกลัวว่ามันจะแลกสลายหายไป เท้าแสนนุ่มที่ถูกดูแลอย่างดีของหญิงสาวโดยตัวของเธอเอง บรรจงเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนู ลากถังนั้นเข้าไปใต้เตียง ลูบหัวหญิงสาวอย่างรักใคร่

“นอนกันเถอะ” องค์จักรพรรดินียกยิ้มบาง 

“จะเฝ้าเหมือนอย่างเคยใช่ไหมคะ”

“แน่นอนสิ เคยมีครั้งไหนที่ข้าไม่เฝ้าเจ้าด้วยอย่างนั้นรึ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ หญิงสาวจับแขนเสื้อองค์จักรพรรดินี เจ้าตัวเลิกคิ้วด้วยความสงสัยใคร่รู้

“แต่วันนี้ข้าไม่อยากนอน” หญิงสาวชันตัวเองลุกขึ้นนั่ง สวมกอดคนรักของตน ซบหน้าลงที่ไหล่กว้างนั้น “อยากทำอย่างอื่นมากกว่า คืนนี้ได้โปรดอยู่กับข้าเถอะนะคะ” อ่า นางกำลังอ้อนตนอยู่เช่นนั้นหรือ ช่างน่ารักเสียจริง 

“หากเจ้าต้องการ”

องค์จักรพรรดินีคล้ายอ้อมกอดจากหญิงสาว พวกเธอมองหน้ากันสักพัก องค์จักรพรรดินีเคลื่อนใบหน้าของตนเข้าไปจุมพิตยังริมฝีปากของคนตรงหน้า ริมฝีปากคนตรงหน้านั้นช่างนุ่มนักแม้เราจะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกันอยู่บ่อนครั้งแต่ก็ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่พระนางอดที่จะเฉยชมเรือนร่างของคนตรงหน้าได้

เรือนร่างของหล่อนมันช่างงดงามราวกับศิลปะ รูปปั้นต่างๆก็หาที่ใดเปรียบกับหญิงผู้นี้ พระนางรู้สึกขอบคุณตัวเองเสมอมาที่ได้พบหล่อนในวันนั้น 

พระนางคางริมฝีปากอยู่นานก่อนจะเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า การมีความสัมพันธ์กับนางนั้นราวกับสารเสพติดที่พระนางอยากเสพต่อไปเรื่อยๆและไม่คิดที่จะหยุดมัน จูบอย่างเชื่องช้าแต่ก็หนักแน่ พระนางเริ่มดันลิ้นของตนให้หญิงสาวเปิดปากให้พระนางได้เข้าไปสำรวจ พวกเราจูบกันอยู่นานก่อนจะคล้ายออกไปสำรวจยังจุดอื่น ก้มลงไปจูบที่ซอกคอของหญิงสาว กลิ่นดอกไม้อ่อนๆจากตัวหญิงสาวทำให้พระนางรู้สึกโหยหาเสียยิ่งกว่าเดิม พระนางใช้ลิ้นเลียตรงซอกคอนั้นอย่างยอกล้อ 

“อือ” หญิงสาวหลุดเสียงคราหวานหูออกมา ทำเอาพระนางชอบใจอยู่ไม่น้อย พระนางเลิกชุดนอนของหญิงสาวขึ้นก่อนจะค่อยๆจูบไปยังจุดต่างๆสลับกับใช้ลิ้นเลีย ทั้งไหล่ ไหปลาร้าง ราวนม หน้าท้องที่กระเพือมไปตามลมหายใจของเจ้าหล่อน หล่อนหายใจแรกขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้ถึงจุดอ่อนไหวของตน

“เจ้ารู้สึกดีหรือไม่” นางไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงพยักหน้าเป็นคำตอบก็เท่านั้น

มือสองข้างของพระนางจับขาของคนเบื้องล่างให้แยกออกจากกัน พระนางก้มลงไปเฉยชมดอกกุหลาบแรกแย้มที่มีน้ำใสๆไหลออกมา พระนางเลือนมือของตนออกจากเข่าของหญิงสาวมาเป็นยึดกับสะโพกไม่ให้เจ้าหล่อนได้หนีไปไหนไว้แทน

“แม้จะเห็นอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ยังคงงดงามเช่นเดิมเลยนะ เจ้าน่ะ” หญิงสาวหน้าเห่อแดง แม้จะถูกชมอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยชินเอาเสียเลย 

พระนางจูบลงบนกุหลาบนั้นอย่างแผ่วเบาแต่ก็เรียกเสียงครางเจ้าของร่างได้ดีเชียว พระนางใช้ลิ้นของตนค่อยๆเชยชิมดอกกุหลาบนั้นจากด้านนอกก่อน เจ้าของร่างก็ยังคงส่งเสียงครางมาเป็นระยะเมื่อถูกจุดที่นางรู้สึกดีถึงแม้มันก็รู้สึกดีไม่เสียหมดก็ตาม

สิ้นจากข้างนอกแล้วนางก็ค่อยสอดลิ้นเข้าไปข้างในนั้น ขยับไปมาจนหญิงสาวแทบจะควบคุมตัวเองไม่ไหวอยู่หร่อมร่อและแล้วหล่อนก็อดทนไม่ไหว ร่างกายของหล่อนกระตุกเกร็ง ปล่อยน้ำหวานออกมาให้เจ้าผึ้งขี้สงสัยได้เชยชิม 

“เจ้าต้องการให้ข้าสอดนิ้วเข้าไปหรือไม่” องค์จักรพรรดินีเอ่ยถามหญิงสาว แต่ดูจากสภาพที่เหนื่อยหอบขนาดนี้คงจะไม่ไหวแล้วกระมัง คนตรงหน้านั้นสุขภาพไม่ดีนัก เหนื่อยง่ายทำให้การมีความสัมพันธ์กันนั้นส่วนใหญ่จะทำได้เพียงรอบเดียวแต่พระนางก็ไม่ได้อะไรนัก การเชยชมศิลปะที่งดงามนั้นก็ควรจะค่อยๆชมไปล่ะนะ

“ดูท่าเจ้าคงจะไม่ไหวแล้วล่ะ” องค์จักรพรรดินีนอนลงข้างหญิงสาว พวกเรานอนมองหน้ากันเช่นนั้นอยู่พักใหญ่เชียว

“แต่ข้ายังไหวนะคะ” องค์จักรพรรดินีหัวเราะในลำคออย่างนึงเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้า ลูบเรื่อนผมของนางอย่างรักใคร่ ยกมันขึ้นมาดอมดมสูบกลิ่นหอมที่มีกลิ่นดอกไม้จางๆนั้น 

“ไว้คราวหลังเถอะ วันนี้เจ้าเหนื่อยแล้วนอนเถอะนะ” หญิงสาวไม่ได้ทักทวงอะไร ทำเพียงขยับกายเข้าสู่อ้อมอกขององค์จักรพรรดินีด้วยความโหยหา แม้พระนางจะมาหาหล่อนอยู่ทุกวัน กล่อมหล่อนเข้านอนแต่ก็ไม่เคยนอนด้วยกันเลยสักครั้งแม้ว่าเราจะมีความสัมพันธ์กันก็ตามเพราะคนตรงหน้าน่ะ มักจะยุ่งอยู่ตลอดนั่นแหละ

“วันนี้ท่านคงจะไปหลังข้าหลับอีกเช่นเคยสินะคะ” หญิงสาวซุกหน้าเข้าอกของคนตรงหน้า

“ข้าขอโทษแต่มันคงต้องเป็นเช่นนั้น” องค์จักรพรรดินีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ครั้งหน้าข้าจะพยายามนอนกับเจ้าให้ได้ทั้งคืนนะ ดวงใจของข้า” 

“ท่านมักจะพูดเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง” น้ำเสียงเง้างอนของหญิงสาวทำเอาองค์ตักรพรรดินีใจอ่อนยวบ แม้จะแฝงไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ช่างน่ารักนัก

“ข้าจะพยายามให้คำพูดนั้นเป็นจริง เชื่อใจข้าเถอะนะ” 

“แล้วแต่ท่านเถิด” หญิงสาวกล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป โดยอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นเจ้าของหัวใจนางเช่นกัน

ความสัมพันธ์ลับๆของเราสองคนนั้นเริ่มตั้งแต่พระนางยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีเลยด้วยซ้ำ ในคราแรกที่พวกเราพบกันนั้นองค์จักรพรรดินีมาเยือนยังหมู่บ้านของเธอเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์แทนผู้เป็นบิดา และนางก็ถูกส่งให้ไปดูแลองค์รัชทายาทและนั้นก็เป้นจุดเริ่มต้นของการที่ทำให้เราเป็นเจ้าของดวงใจของกันและกัน

พวกเราลอดมีความสัมพันธ์กันลับๆอยู่บ่อยครั้งแต่ด้วยความที่หล่อนสุขภาพไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้หลายครั้งที่หล่อนหายหน้าหายตาเพราะล้มป่วยจนทำเอาองค์รัชทายาทในยามนั้นอดเป็นห่วงไม่ได้

ด้วยความที่ไม่อยากจากกันและอยากจะดูแลเธอให้ดีนั้นทำให้พระนางนำตัวหล่อนกับมายังพระราชวังด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ โชคดีที่หล่อนไม่มีพ่อแม่ทำให้เรื่องพามายังราชวังนั้นง่ายดายนัก 

พระนางพาหล่อนมาอยู่ยังห้องลับที่ต่อเดิมขึ้นมาใหม่แห่งนี้ ห้องลับนี้ก็เหมือนวังเล็กๆอีกที่ เพราะที่นี่มีทั้งสวนและห้องต่างๆเช่นกัน และมีประตูเชื่อมอยู่หลายทิศ ง่ายต่อการให้องค์จักรพรรดินีมาหาหล่อนอยู่ไม่น้อย

แต่ยามที่นางไม่มานั้นหล่อนก็เหงาอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน หลายครั้งที่หล่อนนึกอยากไปหาพระนางได้อย่างใจนึกเหมือนกับเหล่าสนมชายของพระนางที่อยู่อีกฝ้ากของกำแพงแต่ก็ทำไม่ได้

ความสัมพันธ์ของเรานั้นให้ใครล่วงรู้ไม่ได้เพราะมันจะทำให้องค์จักรพรรดินีเดือนร้อนและตัวหล่อนเองก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นเช่นนั้น หล่อนจึงยอมอยู่ที่ อยู่เงียบๆยังพื้นที่ที่คนอื่นไม่รู้ว่ามีอยู่ แม้จะเงียบเหงาแต่ก็ไม่ได้ทำให้หล่อนอยากไปจากที่นี่เลยสักครั้ง เพราะองค์จักรพรรดินีผู้เป็นเจ้าของตัวใจของตนอยู่ที่นี่อย่างไร