5 ตอน ตอนที่ 4 : Nice to meet you?
โดย สลีป
ตอนที่ 4
“Nice to meet you?”
08.00 น.
เช้าวันใหม่ วันนี้เป็นวันที่นักเรียนชั้นปีที่ 1 ในหน่วยภาคีสืบสวน จะต้องเข้าทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ซึ่งเซนก็ไม่ได้เตรียมตัวเป็นพิเศษแต่อย่างใด เพราะการทดสอบสมรรถภาพก็แค่การบันทึกผลพละกำลังทางร่างกายของนักเรียนแต่ละคนเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลในระเบียนสะสมเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ตอนนี้เซนกำลังนั่งยืดแขนยืดขาของตน เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อ ป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจจะได้รับจากการทดสอบ โดยสถานที่ที่พวกเขากำลังจะเริ่มต้นทำการทดสอบมันก็คือ สนามหน้าตึกอาคารเรียนของพวกเขานี้เอง
“ต่อไปให้นักเรียนจับคู่ สลับกันยืดกล้ามเนื้อให้คู่ของตัวเองนะครับ”
อาจารย์ฟาร์โก อาจารย์ผู้รับผิดชอบเรื่องการทดสอบสมรรถภาพที่ติดภารกิจจนต้องเลื่อนวันในการทดสอบสมรรถภาพ มาเป็นวันนี้แทน ตะโกนออกคำสั่งกับนักเรียนภาคีสืบสวนทุกคนอย่างหนักแน่น ทำให้ทุกคนต้องรีบหาคู่ทันที เซนได้ยินคำสั่งดังนั้นก็มองไปรอบ ๆ เพื่อหาคู่ของตนเองเช่นกัน เมื่อเขามองไปทางซ้ายก็พบเจอกับสมาชิกในภาคีคนนึง ที่ตัวเล็กพอ ๆ กับเขา คน ๆ นั้นกำลังยืนใช้นิ้วชี้ของตนทั้งสองข้างจิ้มกันไปมา ก้มหน้าก้มตา มองที่นิ้วของตนเอง เซนมองเขาคนนั้นด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าของตน เดินออกไปหาเขาคนนั้น
“นี้มีคู่หรือยัง?”
คนตรงหน้าสะดุ้งตัวเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเซนด้วยตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อย
“ย…ยังเลยครับ”
คนตรงหน้าตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ และตะกุกตะกัก
“งั้นคู่กันเถอะ นั่งลงสิ”
เซนกล่าวสรุปอย่างรวดเร็ว กดไหล่คนตรงหน้าให้นั่งลง จากนั้นก็ค่อย ๆ ดันหลังของคนตรงหน้าลงไปเพื่อยืดกล้ามเนื้อตามที่อาจารย์ได้สั่งไว้ เมื่อคนตรงหน้าเห็นเซนทำดังนั้น จึงรีบอ้าขาของตนออก แล้วยืดแขนออกไปด้านหน้าให้แตะกับพื้นอย่างอัตโนมัติทันที
“ค คุณชื่ออะไรเหรอครับ”
“เซน”
“ผมชื่อ พารัมนะครับ ขอบคุณที่มาจับคู่กับผมนะครับ คุณเซน…”
“อืม”
พารัมพูดด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้ง เซนไม่รู้หรอกว่าอะไรที่ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกซาบซึ้งกับแค่เพียงการที่เขามาขอคู่ด้วย แต่เซนก็ไม่ได้สนใจ หรือใคร่อยากจะรู้ถึงเหตุผลเหล่านั้น จึงแค่ดันหลังพารัมอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
"..."
“เดี๋ยวผมช่วยคุณบ้างครับ”
พารัมเอ่ยขึ้น พร้อมกับหันหน้ามาทางเซน เซนจึงหันไปอีกฝั่ง ก่อนที่พารัมจะค่อยดันๆ หลังของเซนไปข้างหน้าเช่นเดียวกัน
“คุณตัวอ่อนนะครับเนี่ย”
พารัมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป จากน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงที่เจื้อยแจ้วมากขึ้น
“ผมน่ะกลัวทดสอบสมรรถภาพมาก ๆ เลยครับ ผมไม่ค่อยมีแรง สมัยก่อนเลยโดนแกล้งประจำเลยครับ”
“นายมีพลังอะไร”
“ผ ผมเหรอครับ?”
“…”
“พ พลังของผมมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยครับ”
“ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ”
“ผมมีเวทมนต์ควบคุมลมครับ!”
...อะไรกันก็ดูเป็นพลังที่มีประโยชน์มาก ๆ เลยไม่ใช่หรือไง เมื่อเซนได้ยินคนตรงหน้าพูดถึงพลังของตนออกมาก็ชักรู้สึกไม่สบอารมณ์แบบแปลก ๆ
“…”
“ดูเป็นพลังที่ดีใช่ไหมครับ แต่ผมน่ะ...แบบว่าไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่น่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็เพราะว่าผมอยากได้พลังอย่างอื่นมากกว่าน่ะครับ ผมว่าพลังลมมันดูไร้ประโยชน์ยังไงก็ไม่รู้ มันแทบจะโจมตีอะไรก็ไม่ได้ อย่างมากก็แค่สร้างพายุ ให้พัดไปมาเองนี้ครับ ไม่เห็นจะทำอะไรได้เลยนี้ครับ”
“พอได้แล้ว”
เมื่อเซนฟังพารัมพูด เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบที่คนตรงหน้ากล่าวว่าสิ่งที่ตนมีนั้นไร้ประโยชน์ ถ้ามันไร้ประโยชน์จริง ไม่มีทางที่พารัมจะได้มายืนอยู่ในสถาบันแห่งนี้อย่างแน่นอน แต่มาอยู่ภาคีสืบสวนได้ก็ต้องมีสมองระดับนึง... เจ้าหมอนี้มันบ้าอะไรของมันเนี่ย เซนลุกขึ้นพร้อมกับปัดเศษฝุ่น และดินต่าง ๆ ที่เลอะตอนที่เขานั่งเมื่อกี้ออกจากตัวไปให้หมด แล้วจึงออกเดินเพื่อไปยังจุดรวมตัว
“พอแล้วเหรอครับ”
“อืม”
“มาสนิทกันไว้เถอะนะครับ คุณเซน!”
“…”
เซนไม่ได้ตอบกลับอะไรกลับไป และไม่ได้ห้ามไม่ให้พารัมตามมาใด ๆ เขาก็ไม่ได้อยากจะตัดสินใครสักคนด้วยเพียงแค่ประโยคไม่กี่ประโยค พวกเขาทั้งคู่จึงเดินกลับมายังจุดรวมตัว รอเวลาที่จะเริ่มทดสอบสักที
.
.
.
“เข้าที่…ไป!”
เมื่ออาจารย์ฟาร์โกสั่งให้ออกวิ่ง เซนก็วิ่งด้วยพละกำลังทั้งหมดที่เขามี ขาเรียวก้าววิ่งสลับข้างกันไปมาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงค่อย ๆ วิ่งแซงเขากันไปเรื่อย ๆ ทีละคน ทีละคน...ทำไมถึงวิ่งเก่งกันนักนะ ไม่หรอก.. เขาอาจจะแค่วิ่งไม่เก่ง แต่อย่างอื่นเขาต้องทำได้ดีอย่างแน่นอน
“1 2 3 4….5…6..7..8…9…10…11…..12….13..!!”
เสียงอาจารย์ฟาร์โกนับจำนวนครั้งในการวิดพื้นของเขาด้วยเสียงดังก้องไปทั่ว จนมั่นใจว่าคนที่อยู่บริเวณนี้ต้องได้ยินอย่างแน่นอน แต่เมื่อนับได้เพียง 13 ครั้ง เซนก็หมดแรงปล่อยตัวนอนราบไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง แขนสั่นไหวเหมือนกับตอนที่ลองซ้อมวิดพื้นในห้องไม่มีผิด ได้ยินเสียงหัวเราะเล็ก ๆ จากรอบข้าง แต่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะได้มากกว่าตอนที่ซ้อมในห้องตั้ง 2 ครั้ง
“20…21..22…23..24….30..31 31 ครั้งนะครับ..."
เสียงอาจารย์ฟาร์โก ดังขึ้นนับจำนวนการซิทอัพของเขาที่ได้ตั้ง 31 ครั้งใน 2 นาที หึ! อันนี้ทำได้ดีนะ
“ต่อไปคุณพารัมเชิญ!”
“40..41..42…52 ครั้งนะครับ เชิญคนต่อไป”
“…”
เซนจ้องมองไปที่พารัมที่กำลังซิทอัพ และฟังเสียงอาจารย์กำลังนับจำนวนครั้งในการซิทอัพ ที่แซงเขาไปเรียบร้อยแล้ว ไหนว่าไม่ค่อยมีแรงไง เป็นพวกถ่อมตนเหรอ? แล้วการทดสอบสมรรถภาพก็ดำเนินไปต่อไปเรื่อย ๆ
.
.
.
“อืม…คุณเซนผลการทดสอบสมรรถภาพขอบคุณมันค่อนข้างต่ำเกือบทุกอันเลยนะครับ มีแค่ความอ่อนตัวที่ดีมาก…”
อาจารย์ฟาร์โกเอ่ยพร้อมกับมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา แต่เซนแค่มองหน้าอาจารย์กลับไป โดยไม่ได้มีท่าทีจะตอบโต้ใด ๆ
"..."
“ผมเจอคนแบบคุณมาเยอะนะ คุณคงคิดว่าอยู่ภาคีสืบสวนคงไม่จำเป็นต้องใช้พลังกายภาพสินะครับ…แต่มันก็มีมาตรฐานของมันอยู่นี้น่ะสิ อีก 1 เดือนช่วยไปพัฒนากล้ามเนื้อของตัวเองให้อยู่ในระดับปกติมาด้วยนะครับ เชิญครับ คนต่อไป!”
.
.
.
12:14 น.
“คุณเซนไม่เป็นไรหรอกนะครับ”
พารัมกล่าวปลอบเซนพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะตรงข้ามเขา หลังจากที่พวกเขาทดสอบสมรรถภาพเสร็จก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี พารัมจึงชวนเขามากินข้าวเที่ยงด้วยกัน
“แล้วคุณเซนจะทำยังไงครับ เรื่องซ่อมการทดสอบสมรรถภาพน่ะครับ”
“ไม่รู้สิ ขอคิดก่อน”
เซนตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิด ๆ ถ้าเขารู้จะมีการซ่อม เขาคงตั้งใจฝึกฝนมาตั้งแต่แรก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งซ่อมทีหลังให้เสียเวลา คิดแล้วก็หงุดหงิด เซนตักข้าวตรงหน้าเข้าปาก พร้อมกับเคี้ยวอย่างรุนแรงกว่าปกติ จากนั้นพารัมก็ชวนคุยเรื่องราวต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเขาเองก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง
“เซน!”
เสียงคุ้นหูของอาร์กัสดังขึ้นจากด้านหลัง เซนจึงหันไปมองตามเสียงเรียก
“อืม”
“เป็นไงบ้างทดสอบสมรรถภาพ”
“ซ่อม”
“ห้ะ? มีซ่อมด้วยเหรอไม่ยักรู้เลยแฮะ ผลต้องออกมาแย่แค่ไหนเนี่ย”
“พอเถอะ”
“โอ๊ะ! นายมีเพื่อนมากินข้าวด้วยแล้วนี้ สวัสดี ฉันชื่ออาร์กัส อยู่ชั้นปีที่ 1 ภาคีสนับสนุน นายล่ะ?”
อาร์กัสหันไปมองยังพารัมที่นั่งตรงข้ามกับเซน แล้วยิ้มทักทาย อย่างเป็นกันเอง
“อ่า ส สวัสดีครับ พารัมครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
พารัมแนะนำตัวเองอย่างเขินอาย และมองไปยังคนตัวสูงที่พึ่งแนะนำตนเองว่า อาร์กัส
“อ๋อ ต้องไปก่อนละนะ พอดีเพื่อนในภาคีรออยู่น่ะ โชคดีนะ”
อาร์กัสยิ้มให้พารัม แล้วหันไปบอกลาเซน อาร์กัสเอื้อมไปแตะที่หัวเซนเบา ๆ ก่อนที่จะเดินออกไปยังกลุ่มเพื่อน ๆ ภาคีสนับสนุนของอาร์กัสดังเดิม
“…”
เซนไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ แต่กลับหันมากินข้าวเหมือนเดิม
.
.
.
16.45 น.
สระน้ำหลังตึกเรียน
“แล้วนายจะเอายังไงเซน? อาจารย์เขาให้เวลาเท่าไหร่”
“หนึ่งเดือน”
ตอนนี้เซนกับอาร์กัสนั่งกันอยู่ริมสระน้ำหลังตึกเรียน
“ก็ไม่ได้น้อยนะ ฉันว่านายลองออกกำลังกายไหม? อย่างนายถ้าจริงจังก็ทำได้อยู่แล้วนี้”
“พรุ่งนี้เช้าฉันไปวิ่งด้วยนะ”
เซนเอ่ยด้วยท่าทีเรียบนิ่ง บ่งบอกถึงความคิดที่ตนไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว
“ฮ่าฮ่า! ได้สิ...ถ้าฉันตื่นอะนะ”
“หมายความว่าไง?”
“นายก็รู้…ฉันไม่ชอบตื่นเช้าสุด ๆ เลยนี่ ฉันไปวิ่งเฉพาะแค่วันที่ฉันตื่นเท่านั้นแหละ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ตื่นแหละ”
“…”
“แต่ถ้านายอยากให้ฉันไปด้วย ฉันก็จะตื่นไปวิ่งกับนายเอง!”
อาร์กัสพูดอย่างมุ่งมั่น พร้อมกับหันหน้ามายิ้มอ่อนโยนให้กับเซน
“เหอะ! ไม่ต้องฝืนตัวเองหรอก แล้วนายทำยังไง ถ้าไม่ได้วิ่งตอนเช้า?”
“ตอนกลางคืนไง”
“ห้ะ?”
“ไปวิ่งตอนกลางคืนไง แล้วฉันก็ไปฝึกอาวุธที่สนามฝึกด้วย”
“ที่บอกว่าไปวิ่ง คือตอนกลางคืนเหรอ”
ใช่ ฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจนายนะ เวลาพูดว่าไปวิ่ง ใคร ๆ ก็คิดว่าไปวิ่งตอนเช้าทั้งนั้นแหละ”
“อา”
“แล้วสรุป จะเอายังไงล่ะ”
“นายไปวิ่งตอนกลางคืนเถอะ ฉันจะไปวิ่งตอนเช้า ฉันจะอ่านหนังสือตอนกลางคืน”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปเป็นเพื่อนก่อนนะ เผื่อมีอะไร เดี๋ยวฉันแนะนำเอง”
“โอเค”
“งั้นกลับกันเถอะ”
“อือ”
เมื่อตกลงกันได้เขากับอาร์กัสก็พากันเดินกลับไปยังหอพักภาคี
.
.
.
05.00 น.
“ฮืออ เช้ามาก ๆ เลยอะ ตาจะปิดอยู่แล้ว”
อาร์กัสครวญครางพร้อมกับเกาะที่ไหล่เซนแล้วถ่ายน้ำหนักลงไปยังร่างเล็ก จนเซนแทบจะล้ม
“ไปนอนต่อก็ได้นะอาร์กัส ฉันวิ่งคนเดียวได้”
เซนกล่าวเสียงเรียบ สงสารเพื่อนของตนเองที่ไม่ชอบตื่นเช้ามาก ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ออกมาวิ่งเป็นเพื่อน
“ห้าวว ไม่เป็นไรหรอก งั้นเราเริ่มจากตรงนี้ วิ่งไปทางสนามฝึก แล้ววนรอบหอคอยกลางนะ”
“อืม”
“สัก 5 รอบก่อน แล้วเดี๋ยวมาฝึกวิดพื้นกันสักหน่อยด้วย โอเคไหม?”
“อืม”
“งั้นเราควรเริ่มจากยืดกล้ามเนื้อก่อน ไม่งั้นวันนี้นายจะปวดตัวมาก ๆ แน่”
“อืม”
เขากับอาร์กัสก็ยืดกล้ามเนื้อไปประมาณเกือบ 10 นาทีถึงได้เริ่มออกวิ่งกันจริง ๆ จัง ๆ พวกเขาวิ่งเหยาะ ๆ ไปตามเส้นทาง ท้องฟ้าในตอนนี้ยังไม่มีแสงใด ๆ แต่ในทุกระยะ 10 เมตรก็มีเสาไฟอยู่ตลอด และจากที่วิ่งมาได้มา 10 นาที ก็มีคนอื่น ๆ วิ่งผ่านเขาไปมาอยู่ตลอดทำให้บรรยากาศไม่ได้เงียบเหงาสักนิด
06.00 น.
ในตอนนี้แสงแดดจากดวงอาทิตย์ค่อย ๆ วิ่งซุกซนออกมาจากชายขอบฟ้า จนมองเห็นสีของท้องฟ้าเป็นริ้ว ๆ ไล่ระบายไปทั่ว ก้อนเมฆจากที่เห็นเป็นสีเข้ม เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวสดใส เสียงนกร้อง จิ๊บ ๆ ดังไปทั่ว เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างแท้จริง
ตอนนี้เขากับอาร์กัสกำลังเปลี่ยนเป็นการเดินเร็ว เนื่องจากเป็นวันแรกทำให้เซนจึงเหนื่อยอย่างรวดเร็ว ต้องขอให้อาร์กัสเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินก่อน เมื่อวิ่งรอบหอคอยกลางไปได้เพียงแค่ 2 รอบ เพราะไม่งั้นเขาคิดว่าตนจะต้องเป็นลมไปอย่างแน่นอน
“เริ่มวิ่งเถอะเซน วันนี้อีกรอบเดียวก็พอ”
“โอ...เค”
เซน และอาร์กัสจึงออกวิ่งอีกครั้งเพื่อให้ได้ครบรอบที่กำหนดไว้ แม้จะลดลงเหลือเพียง 3 รอบ จาก 5 รอบก็เถอะ
เมื่อวิ่งต่ออีกประมาณ 15 นาที จึงครบรอบตามที่ตั้งเป้าหมายกันไว้ พวกเขาจึงมาหยุดพัก ณ สนามหญ้าสนามลานฝึก พักหายใจเตรียมที่จะเริ่มโปรแกรมฝึกฝนกล้ามเนื้อขั้นถัดไป
“แฮ่ก ๆ”
เซนหอบหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เอามือของตนค้ำยันไว้กับต้นไม้เพื่อหาที่พักพิง
“เซน มายืดกล้ามเนื้อก่อน”
อาร์กัสกล่าวเรียกเซน ในขณะที่กำลังยืดขาของตนเอง เซนจึงนั่งลงแล้วฉีกขาออกไป แล้วดันตัวของตนออกไปด้านหน้า
ผลั่ก!
“อ๊ะ!”
เซนร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่กดมาที่หลังของเขา
“ว่าไงเจ้าหนู มาออกกำลังกายตอนเช้าด้วยเหรอ มา! เดี๋ยวฉันช่วยยืดหลังให้”
เสียงสดใสของรุ่นพี่แจซอง และไอเย็น ๆ ที่คอยหลอกหลอนเขาจนจำได้ขึ้นใจ เอ่ยขึ้นข้าง ๆ ใบหูแหลมเล็กของตน
“ปล่อยนะ! อื้อ!”
เซนกล่าวห้ามคนด้านหลัง พร้อมกับพยายามขืนตัวของตนเองขึ้น เพื่อให้หลุดจากพันธนาการของด้านหลัง แต่เมื่อเขาทำแบบนั้น คนด้านหลังก็เพิ่มแรงกดลงมา จนใบหน้าของเซนแทบจะติดพื้นในอีกไม่กี่เซนติเมตร เขาเชื่อเลยว่าถ้าไม่ใช่คนที่ตัวอ่อนระดับเขา ป่านนี้คงมีเสียงร้องครวญครางออกมาแล้ว
“รุ่นพี่ครับช่วยปล่อยเขาด้วย ทำแบบนี้อันตรายนะครับ”
เสียงอาร์กัสดังขึ้น พร้อมกับแรงกดที่ดันหลังของเขาก่อนหน้านี้ ได้หยุดลง เซนจึงหันหลังกลับไปเพื่อมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นว่าอาร์กัสมายืนตรงหน้า และกำลังมองหน้าของรุ่นพี่แจซองอย่างเรียบนิ่ง
“เพื่อนของน้องเซน? จะไม่แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยเหรอ?”
แจซองเลิกคิ้วถาม สายตามองไปที่อาร์กัสสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่บนใบหน้านั้นยังคงรอยยิ้มไว้อย่างเป็นเป็นมิตร หรือเปล่า?
“ทะ…”
“สวัสดีครับรุ่นพี่แจซอง ผมชื่ออาร์กัสครับ ชั้นปีที่ 1 ภาคีสนับสนุน”
“อ๋า รู้จักฉันด้วยเหรอ”
“ดะ…”
“ไม่มีใครไม่รู้จักรุ่นพี่หรอกครับ”
“อ๋าา ยินดีที่ได้รู้จักละกันนะ”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
“อะ…”
“สนิทกับน้องเซนเหรอ ฉันพึ่งรู้จักกับเซนได้ไม่นานน่ะ แต่ก็อยากจะทำความรู้จักให้มากขึ้น ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
แจซองกล่าวอย่างเป็นมิตร พร้อมกับเดินเอาแขนมาวางลงเหนือไหล่ของเซน ราวกับคนที่สนิทกันมานาน
“นะ…!”
“งั้นเหรอครับ แต่ขอโทษทีนะครับ ผมกับเซนมีธุระต้องรีบไปจัดการต่อ ขออนุญาตไปก่อนนะครับ”
ยังไม่ทันที่เซนจะได้พูดอะไรเลย อาร์กัสก็ค่อยแกะแขนของรุ่นพี่ตรงหน้าออกจากไหล่ของเซนอย่างดูมีมารยาท พร้อมกับดึงตัวเซนให้เข้ามาหาตน
“ตรงนี้มันหนาว ๆ นะนายว่าไหม…ไปที่อื่นกันเถอะ ขอตัวครับรุ่นพี่”
อาร์กัสหันมาพูดเซน พร้อมกับเอามือปัด ๆ ที่ไหล่บางของเซน แล้วหันไปก้มตัวเล็ก ๆ ให้รุ่นพี่ตรงหน้า แล้วดึงข้อมือของเซนให้เดินตามออกมาจากสถานที่แห่งนั้น
“…”
เซนไม่ได้พูด หรือแสดงท่าทีอะไรออกมา เพราะเขาพยายามที่จะพูดหลายรอบแล้ว แต่ไม่มีใครฟังเขาเลย จึงเดินตามอาร์กัสออกมาเงียบ ๆ
“ฮ่ะ เหอะ!”
แจซองพ่นเสียงหัวเราะสั้น ๆ ออกมา มองไปที่รุ่นน้องสองคนที่พากันจูงมือเดินออกไป เหอะ! เด็กเวรเอ้ย แจซองมองไปยังด้านหน้าพร้อมกับที่สมองกำลังประมวลผลอะไรบางอย่างในหัว และไม่นานก็เดินจากไปเช่นกัน…
ติดตามตอนต่อไป...