3 ตอน chapter 03 Improvise
โดย swaggirlleb
"ในฐานะที่พวกมึงทุกคนก็มีหุ้นในบริษัท กูก็เลยเรียกพวกมึงมาช่วยตัดสินใจ" วาคีณผู้บริหารหนุ่ม ที่มีหุ้นมากที่สุดและเป็นผู้ก่อตั้งค่ายหนังผู้ใหญ่ฟลีกกี้เฟรนด์ เอ่ยมาจากหัวโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากที่เป็นคนมีใบหน้าดุอยู่แล้วตอนนี้วาคีณยิ่งดูน่ากลัวไปใหญ่ ราวกับมีรังสีอำมหิตแผ่ไปรอบตัว นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้กำกับหนังโป๊ก็จะนึกว่าเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่ไหน
"มึงหุ้นเยอะสุดตัดสินใจเลย" บุ๋นเอ่ยปัดทะเล้น พยายามจะพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นแต่มันไม่ช่วยเลย แถมยังโดนปากกาลูกลื่นสีแดงในมือของสุดที่รักปาใส่อีก
"มึงสองคนอย่าพึ่งกัดกันได้มั้ย แล้วถ้าเรายังจะขายหนังของเราล่ะ มันจะเป็นยังไง" แทนคุณเริ่มพาทุกคนกลับเข้าประเด็นสนทนา แทบจะทุกคนเลยที่ตอนนี้ได้แต่นั่งกุมขมับกัน เพราะคิดไม่ตกว่าจะหาทางแก้ปัญหาอย่างไร
"ก็จะกลายเป็นหนังเถื่อน ผิดกฎหมายไง โดนสภาภาพยนตร์เล่นอ่วมแน่ๆ" สุดที่รักปัดมือขึ้นกลางอากาศแล้วภาพโฮโลแกรมที่เป็นโปสเตอร์หนังผู้ใหญ่ที่เป็นประเด็นอยู่ก็หายไป กลายเป็นจอคำนวณความเสียหายแทน ตัวเลขมากมายรันขึ้นมาให้เห็นกลางอากาศ ขึ้นตัวสีแดงเถือกเป็นระนาว มูลค่าความเสียหายร้ายแรงมาก เมื่อประเมินออกมาแล้ว
"แล้วถ้าไม่ขาย ก็ต้องปล่อยหนังที่ถ่ายแล้วทิ้งไปเนี่ยนะ งั้นไอ้คีณมึงสั่งตัดต่อใหม่เลย เซนเซอร์ซะ" เนมพยายามหาหนทางที่จะสูญเสียน้อยที่สุด แต่ดูเหมือนสายตาของวาคีณที่ตวัดขึ้นมามองจะบ่งบอกว่าไม่เห็นด้วย
"เวลามึงดูหนังโป๊มึงหงุดหงิดมั้ย ที่มันเซนเซอร์" ทุกคนพยักหน้ารับ แน่นอนว่า มันหงุดหงิดและไม่ได้อารมณ์ที่สุด
"เออ แล้วจะเซนเซอร์ทำไม ในเมื่อก็รู้ว่ามันคืออะไร แล้วนี่มันก็หนังโป๊ ถ้าเซนเซอร์จะถ่ายไปทำเหี้ยอะไร อีกอย่าง กูเจรจากับสภาภาพยนตร์แล้วว่าขออันเซนเซอร์ เขาก็อนุมัติแล้วด้วย แล้วครั้งนี้มันอะไร กูไม่เข้าใจ เรื่องที่แล้วเรายังขายงานได้" วาคีณพูดด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะไม่พอใจ ถึงแม้น้ำเสียงจะใจเย็นแค่ไหนแต่เสียงดุๆของเขาก็ทำให้มันดูฉุนเฉียวขึ้นมาเป็นเท่าตัว
"เขาบอกว่ามีคนร้องเรียนไปว่าไม่เหมาะสม ที่จะอันเซนเซอร์ มันขัดต่อเมืองพุทธของเรา" สุดที่รักอธิบายสิ่งที่ตัวเองได้รับจดหมายร้องเรียนมา
"เมืองพุทธเขาเงี่ยนกันไม่เป็นเหรอวะ" บุ๋นเอ่ยพลางกลอกตาขึ้นลงอย่างเบื่อหน่ายเหลือเกินกับชาวพุทธจอมปลอม คลั่งศีลธรรม ทั้งๆที่อัตราคดีข่มขืนในประเทศมันสูงเสียดฟ้าไปแล้ว
"คือเราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากไม่ขายงาน ระงับงานทุกอย่าง เขาไม่รับผิดชอบความเสียหายของเราเลยใช่มั้ยสุดที่รัก" แทนคุณถามสุดที่รักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไม่เลย ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น กูพยายามเจรจาแล้ว เขาไม่ยอม" เสียงหวานพูดจบ วาคีณก็สวนขึ้นมาทันที เขาเริ่มจะไม่ใจเย็นแล้ว พอเริ่มนึกถึงความเสียหาย ค่ายหนังของเขามีคนสนับสนุนเยอะ ได้ทุนมาเยอะ ถ้าต้องคืนไปทั้งหมดตัวเลขมันเยอะเกินจะนับเลยล่ะ
"มันจะมายกเลิกสัญญาเราแบบนี้ได้ไง แล้วก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย เราเสียหายลงทุนไปเป็นล้าน เซ็นต์สัญญากับตัวแทนขายไปแล้วตั้งเยอะ นี่ถ้าเราต้องคืนเงินไป บริษัทเราจะเสียหายมาก มันล้มได้เลย" วาคีณลุกขึ้นหลังจากพูดจบ เขาพยายามใจเย็นอีกครั้งและหาหนทางที่จะดีต่อบริษัท เขาเหม่อมองออกไปนอกห้อง ผ่านกำแพงกระจกที่เหมือนกั้นโลกสองใบเอาไว้ รถและฝูงโดรนที่ลอยอยู่กลางอากาศมากมายเป็นวิวทัวทัศน์ตกแต่ง ให้ตึกสูงระฟ้าดูมีความไฮเทคมากขึ้นไปอีก วาคีณกำลังคิดไม่ตก ในขณะะที่เพื่อนๆก็กำลังหาทางออกอยู่เช่นกัน
"เราต้องยอมก่อนว่ะ แล้วกูจะไปคุยกับสภาอีกครั้ง ยังไงเราก็ต้องได้ถ่ายหนังแบบอันเซนเซอร์ กูจะไปสู้มาให้ได้เว้ย ส่วนเรื่องค่าเสียหาย กูจะพยายามไปคุยให้พวกเขารองานเราก่อน แต่เราต้องยอมเสียกับคนที่เจรจาไม่ได้นะเพราะเราทำอะไรไม่ได้จริงๆ แล้วก็กูว่า เรายังรับโฆษณาของบริษัทไซเบอร์ฮ็อตตี้ได้นะ ถ้าเราทำ เราจะได้เงินคืนมาแล้วสูญเสียไม่มาก ค่าใช้จ่ายการถ่ายทำทั้งหมด ทางนู้นเขาเป็นคนออก เราแค่คิดสตอรี่แล้วก็ถ่ายเอง นี่แหละทางเดียวที่กูว่าโอเค พวกมึงว่าไง" สุดที่รักเหมือนนางฟ้ามาโปรดพวกเขาก็ไม่ปาน สมกับเป็นมือขวาคู่ใจวาคีณที่รับมือกับทุกสถานการณ์ได้
"กูว่าดี แบบสุดที่รักว่ามันได้เลย แล้วหนังเราเรื่องนี้ก็เก็บไว้ก่อน ระงับยังไม่ขาย ยังไม่เอามาทำอะไรทั้งนั้น แต่ในอนาคตเราต้องได้ขายแน่มึง เราจะไม่ยอมให้งานเรามันสูญเปล่า ทุกคนจะต้องได้เห็นผลงานของเรา" เนมช่วยเสริมความมั่นใจให้วาคีณได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ในฐานะเจ้าของบริษัทวาคีณต้องเป็นคนตัดสินใจ และต้องเร็วด้วย
"ได้ เอาตามนั้น กูมีสตอรี่แล้ว สุดที่รัก นัดคุณแฮงก์เข้ามาคุยวันนี้ตอนบ่ายเลย แทนคุณมึงหาพระเอกมา เอาที่เหมาะกับฮารุกิ มึงจำฮารุกิได้ใช่มั้ย"
"จำได้ หุ่นยนต์ ตัวเล็ก น่ารัก เซ็กซี่ๆ"
"เออ นั่นแหละ กูขอผู้ชายตัวใหญ่ล่ำๆมีกล้ามมาเล่นคู่ เอาตัวท็อปนะ แล้วก็ขอที่ทั้งผู้หญิงผู้ชายจะชอบ นอกนั้นแล้วแต่มึงจะเลือกมาเลย เดี๋ยวกูเลือกเองอีกที"
"สุดที่รัก หนักหน่อยนะ แต่ต้องถ่ายให้เร็วที่สุด ยังไงทางนั้นคงตกลงกับเราแน่ๆฉันมั่นใจ เพราะงั้น ฉันขอให้เตรียมการถ่ายทำภายในสองอาทิตย์" วาคีณเริ่มกระจายงานให้เพื่อนๆทุกคน เมื่อปัญหาถูกคลี่คลาย แต่เดทไลน์ที่วาคีณเอ่ยมานั้น ก็ทำทุกคนอึ้งไปตามๆกัน แม้งานถ่ายโฆษณาจะใช้เวลาถ่ายทำไม่นาน หนึ่งวันก็เสร็จแต่การเตรียมทุกอย่างภายในสองอาทิตย์มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
"มึงขึ้นเงินเดือนให้แฟนกูด้วยนะ ใช้งานหนักฉิบหาย" แทนคุณเย้าแหย่ขึ้นมา ให้บรรยากาศผ่อนคลายลงไปอีก
"ใครแฟนมึง!" สุดที่รักหันไปแว้ดใส่หน้าแทนคุณ ทั้งๆที่กำลังจดจ่ออยู่กับการจดบันทึกงานอยู่
"แฟนเก่าๆ พูดผิดนิดหน่อยเอง" คนอื่นๆต่างยิ้มและส่ายหน้าให้กับทั้งสองคน อย่างน้อยภายในห้องก็ไม่ได้มีรังสีความเครียดฟุ้งกระจายอยู่เหมือนก่อนหน้านี้
สุดท้ายวาคีณก็ต้องทำงานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราวกับว่ามันถูกกำหนดไว้แล้วจากเบื้องบน และไม่น่าเชื่อที่ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น ทางบริษัทไซเบอร์ฮ็อตตี้ ตกลงให้ทางวาคีณทำโฆษณาให้เช่นเดิม และเซ็นต์สัญญากันภายในวันนั้นเลย และจะเริ่มถ่ายทำในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ซึ่งสุดที่รักก็ประสานงานทุกอย่างได้ดี แบบที่ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องไปเลยสักนิดเดียว เว้นแต่....
"คัท!!" วาคีณตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้ทุกอย่างหยุดลงกะทันหันตามคำสั่ง นักแสดงทั้งสองคนออกห่างจากกันทันทีและทีมงานก็เข้าไปดูแล พอๆกับที่สุดที่รัก รีบวิ่งออกจากบริเวณฉากไปหาวาคีณที่ทำหน้าเครียด บอกบุญไม่รับ
"นักแสดงใช่มั้ย เขาเกร็ง" เสียงเล็กเอ่ยอย่างรู้ใจ ว่าอะไรทำให้ผู้กำกับหัวเสีย นี่พึ่งจะซีนแรกแต่อารมณ์ผู้กำกับเริ่มจะบูดเสียแล้ว
"ไอ้ท็อปมันก็เล่นมาเป็นสิบเรื่องแล้ว มันเป็นอะไรของมัน" เสียงเข้มของวาคีณบอกกลับไป แทนคุณที่พอจะรู้ถึงความผิดพลาดก็เลยเดินมาหาทั้งคู่ที่หน้าจอมอนิเตอร์
"ท็อปมันเกร็งเพราะกลัวน้องฮารุ" เครื่องหมายคำถามเด้งติ๊งขึ้นมาในหัวของวาคีณ "น้องฮารุ?" แหมสนิทกันไวจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาตั้งคำถามกับอะไรแบบนั้น ตอนนี้วาคีณจะต้องเร่งงานให้เสร็จ เขาจึงสลัดความคิดนั้นออกไป
"กลัวอะไร มีอะไรน่ากลัว มึงไปคุยกับมันเลยนะ ถ้ามันทำไม่ได้ก็เปลี่ยนตัวเลย" การจะเป็นแอคติ้งโค้ชหรือผู้ดูแลนักแสดงแบบแทนคุณมันไม่ใช่ง่ายๆนะ อย่างน้อยก็ต้องมีวาทศิลป์แหละ ร่างสูงของแทนคุณเดินกลับเข้าไปในฉาก แล้วพูดคุยกับนักแสดงชายคนนั้นที่มีสีหน้าไม่ค่อยดี ดูท่าแล้วก็น่าจะกลัวฮารุกิจริงๆ วาคีณยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ว่า หุ่นยนต์ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มตรงนั้นมันน่ากลัวยังไง หน้าหวาน หุ่นแซ่บ เซ็กซี่ มีไรให้น่ากลัว
"เอาน่าคีณ เอาอยู่เว้ย นี่พึ่งเก้าโมง มึงมีใครอยู่ด้วยลืมไง๊ กูจัดการให้ได้เพื่อน ใจเย็น" มือเล็กตบไหล่เพื่อนชายดังปุๆแล้วเดินไปเช็กความเรียบร้อยกับทีมงาน และสุดท้ายก็เดินไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อที่จะทำให้งานไปต่อได้ไวขึ้น
"โอเคแล้วนะ สบายๆ จินตนาการว่าเขาคือคนรักของเรา เขาพึ่งกลับมาจากที่ทำงานและเรากำลังจะมีความสุขด้วยกัน เอานะ ปล่อยใจสบายๆเลย โอเคแล้วค่ะผู้กำกับ สเลทเข้าด้วยค่ะ ซาวด์โอเคมั้ยคะ"
"ซาวด์สปีดครับ" บุ๋นตะโกนขานรับสุดที่รัก เมื่อเริ่มบันทึกเสียงแล้ว
"กล้องล่ะคะ"
"กล้องสปีดครับ" เนมก็ขานรับกลับไปเช่นกัน
"ซีนหนึ่ง ช็อทห้า เทคหก" จากนั้นคนตีสเลทก็ขานฉากที่เล่นและจำนวนครั้งที่ทำการถ่ายทำไปแล้ว
"มาร์กครับ" สิ้นเสียงตากล้องที่โฟกัสจุดได้แล้ว เสียงตีสเลทก็ดังขึ้น พร้อมกับตัวบุคคลที่รีบวิ่งหายออกไป
"กล้องเซ็ทมั้ยคะ"
"เซ็ทครับ" เนมขานตอบมาจากหลังกล้อง สุดที่รักก็ส่งสัญญาณให้วาคีณ
"แอนด์ แอ็คชั่น!!" วาคีณตะโกนก้องแล้วทุกอย่างก็ดำเนินการ นักแสดงสองคนกำลังแสดงเป็นคู่รักที่หยอกล้อเล่นกันอยู่บนเตียง ทว่าทุกครั้งที่ฮารุกิจะเข้าหา นักแสดงชายอีกคนก็จะขืนตัวเองออกห่าง บ่งบอกว่าเขาทำการแสดงให้เป็นธรรมชาติไม่ได้ และวาคีณจะไม่ยอมเสียเวลาแล้ว เขาสั่งยุติทุกอย่างลงแล้วเดินไปหาตากล้องอย่างเนมและฝ่ายเสียงอย่างบุ๋น
"เอาตามนี้นะเนมถือถ่ายเลย ไอ้บุ๋นเอาไมค์บูม กูรีบ" ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันก่อนหน้านี้บ้าง แต่พอคุยจบ วาคีณก็เดินเข้าฉากพร้อมถอดเสื้อออกทิ้งไปส่งๆแล้วยกมือมัดผมไว้ครึ่งหัว เผยให้เห็นหุ่นล่ำบึ้กและลุคที่ดูฮ็อตอย่าบอกใคร ร่างสูงเข้าไปหาฮารุกิบนเตียงทันที พร้อมสวมบทบาท นาทีนั้นคนในกองตาค้างไปตามๆกัน นักแสดงชายคนนั้นอันตรธานหายไปโดยปริยาย ร่างสูงไม่รอช้าคร่อมร่างเล็กแล้วก้มลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่นที่ไม่รู้ว่ามันหอมได้ยังไงทันที เหมือนเสือผู้หิวโหยเนื้อกวางน้อยตรงหน้า
"ผมเหนื่อยจะแย่ที่รัก" วาคีณรับบทออดอ้อนคนบนเตียง พูดไปก็จูบซอกคอหอมไปอย่างรักใคร่หลงใหลในตัวอีกคน ตอนนี้ทีมงานทุกคนรู้แล้วว่าผู้กำกับจะลงมาเล่นเอง โดยสุดที่รักก็รับมือได้ทัน กลับไปนั่งดูจอความเรียบร้อยผ่านมอนิเตอร์แทนวาคีณ
"ให้ผมช่วยมั้ย คุณจะได้ผ่อนคลายขึ้น" เสียงหวานของฮารุกิเย้าวาคีณเล่น แล้วมือเรียวก็เลื้อยลงต่ำไปที่หัวเข็มขัด เขาถอดมันอย่างไม่รีบร้อน สายตาสองคู่ก็สบกันหวานเยิ้ม จนดูเหมือนว่าวาคีณจะเป็นฝ่ายแพ้ก่อน อดใจไม่ไหวเข้าไปบดจูบเร่าร้อนแก่คนตรงหน้า ลิ้นร้อนนัวเนียพัวพัน กระตุ้นให้อารมณ์ในกายร้อนวูบวาบ เสียงเฉอะแฉะดังฟังชัดเร้าอารมณ์ให้ทั้งคู่มากขึ้น เสียงหวานของฮารุกิครางแผ่วเบาในลำคอ ส่งผลให้วาคีณเริ่มทำตามใจตัวเอง มือหนาปลดกระดุมชุดนอนคนใต้ร่างอย่างรีบร้อน แรงอารมณ์พลุ่งพล่านทำพวกเขาใจร้อน มูมมามในรสชาติหวานฉ่ำ กระทั่งปากที่เปียกชุ่มหลุดออกจากกัน ก่อนที่ริมฝีปากบางของวาคีณจะจูบประทับลงหน้าอกบางที่กระเพื่อมไหว ราวกับหุ่นยนต์ตัวนี้กำลังหายใจติดขัด ขาดห้วง เพราะแรงปรารถนาที่ตีติ้นขึ้นมา
"อื้อ ที่รัก ให้ผมทำให้คุณดีกว่านะ" แววตาหยาดเยิ้มที่ปรือปรอยกลับกลายเป็นเย้ายวน ร่างเล็กพลิกร่างใหญ่โตกว่าลงกับเตียงแล้วขึ้นคร่อม ฮารุกิถดตัวลงเล็กน้อยแล้วลงลิ้นที่ยอดอกหนา ขบเม้ม ดูดดึง กระดกลิ้นระรัวเร็ว ให้คนถูกกกระทำต้องเชิดหน้าขึ้นระบายอารมณ์ คำรามในลำคออย่างชอบใจ
"คิกคิก ชอบใช่มั้ยครับ งั้นลงต่ำอีกน้า" ใบหน้าสวยฉายแววเจ้าเล่ห์ แล้วยิ้มน่ารักให้ ก่อนจะกระถดตัวลงไปอีกพร้อมกับลากลิ้นร้อนลงไปด้วย จนถึงท้องน้อยที่มีไรขนบางๆที่ดูเซ็กซี่อยู่
ทางด้านสุดที่รักเองที่ดูภาพตรงหน้าสลับกับสคริปส์และสตอรี่บอร์ดในมือก็ต้องเริ่มตัดสินใจ เพราะตรงนี้เธอต้องสั่งคัทเพื่อถ่ายฉากใหม่ ทว่าดูจากหน้างานแล้ว คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปแล้วค่อยมาเลือกตัดต่อใช้ทีหลัง สุดที่รักคิดว่าวาคีณน่าจะคิดเอาไว้แล้วแบบที่เธอคิดนี่แหละ และได้บอกตากล้องอย่างเนมและซาวด์อย่างบุ๋นแล้วเรียบร้อยแหงๆ ถ้าเป็นเรื่องงานวาคีณจะจริงจัง เขาจะไม่ทำอะไร ที่จะทำให้งานเสียหายหรือเสียเวลาเด็ดขาด เขาคงคิดดีแล้วที่ลงไปเล่นเองและเล่นนอกบทแบบนี้
"อ๊ะ ที่รัก คุณรู้สึกดีมั้ย อื้อ แบบนี้ดีมั้ย" เสียงหวานเอ่ยเคล้าเสียงครางกระเส่า ในขณะที่เอวเล็กก็ส่ายร่อนบดคลึงแท่งร้อนของวาคีณอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงเนื้อสะโพกอวบกระแทกกระทั้นลงกับหน้าขาของวาคีณลั่นสตูดิโอ ร่างสวยงามโค้งเว้าแอ่นกายเชิดหน้าอย่างสุดในอารมณ์ จนใครที่มองก็ร้อนวูบไหวไปหมด มันสะกดทุกสายตาจริงๆ
"อ่าา ดีมากที่รัก คุณทำได้ดียิ่งกว่ามนุษย์คนไหนเสียอีก ทำได้ดีไม่แพ้เลย อื้ม" มือใหญ่ช่วยส่งแรงกดสะโพกอิ่มลงให้จังหวะช้าลง ทว่าหนักแน่นกว่าเดิม ฮารุกิรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเทียนที่กำลังถูกไฟรนอยู่ก็ไม่ปาน เสียวซ่าน อ่อนระทวย ปั่นป่วนไปหมด ในตอนนั้นที่ฮารุกิกำลังโลดเร่า วาคีณก็หยัดกายขึ้นให้ระหว่างพวกเขาแนบแน่นลึกซึ้งกว่าเดิม
"อ๊ะ ลึก ลึกมาก ฮืออออ" เสียงหวานครางประท้วงก่อนจะขยุ้มกลุ่มผมดำยาวของวาคีณ แล้วกดให้ใบหน้าหล่อซบลงที่อกตัวเองแล้วแอ่นอกป้อนให้เต็มปาก ลิ้นร้อนจึงได้ทีซุกซนดูดกลืนเม็ดสีชมพูน่ารักจนเกิดเสียงดังมูมมาม ภาพบนเตียงเร่าร้อนเสียจนทีมงานร้อนวูบวาบกันไปเป็นแถบๆ ทว่ายังคงทำหน้าที่ของตัวเองกันต่อไป
"หวานไปหมด หอมไปหมด ไม่อยากเชื่อว่าคุณจะเป็นหุ่นยนต์" เสียงเข้มชมทั้งที่ยังมีบางอย่างคาปากอยู่ เขาแทบไม่อยากหยุดการกระทำเลย ทว่าต้องปิดจ๊อบแล้ว เขาต้องเร่งเพื่อทำงานต่อไป
"อื้อ ผมเป็นทุกอย่างให้คุณได้อยู่แล้ว ถ้าคุณต้องการ อ๊ะ" ฮารุกิร้องเสียงหลงในตอนที่วาคีณพลิกตัวเล็กลงที่เตียง แล้วขยับสะโพกใส่ไม่เบาแรง ขาเรียวสวยถูกแยกออกกว้างพาดขึ้นบ่า เสียงหวานครางร้องโหยหวนในความสุขสม เสียงครางคำรามก็ดังเคล้าคลึงกัน ทุกอย่างถูกเร้าจนถึงขีดสุด ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวลูกโปร่งที่ถูกเป่าให้ใบใหญ่ขึ้นและจากนั้นมันก็แตกกระจาย
"แฮ่ก แฮ่ก อื้อ ที่รักต่อเลยมั้ย" เสียงหวานเย้าพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักแผ่วเบา
"ไม่เหนื่อยเหรอ" หน้าหล่อยกยิ้มมุมปากพลางถอดถอนกายออกไป แล้วน้ำสีขาวขุ่นที่คลั่งค้างอยู่ก็ไหลย้อนตามออกมา
"ถ้าคุณอยากให้เหนื่อยผมก็เหนื่อย ถ้าไม่อยากให้เหนื่อยก็ไม่เหนื่อย ที่รักน่ะ เป็นเหมือนนายท่านของผม จะสั่งให้ผมทำอะไร เป็นอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น" น้ำเสียงเย้ายวนว่าแล้วขอกอดจากคนตัวโตกว่าให้ลงไปนอนด้วยกัน ซึ่งมันอยู่ในสคริปต์แต่ไม่ใช่ของซีนแรก ถือว่าเซนส์นักแสดงของฮารุกิใช้ได้เลยทีเดียว วาคีณนึกชม
"นายท่านเหรอ ฟังดูดี งั้นคืนนี้ทำให้นายท่านพอใจหน่อยสิ ดูสิว่าคุณจะทำได้มั้ย" รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้น ก่อนผ้าห่มจะถูกมือหนาตวัดขึ้นมาคลุมทั้งสองร่างไว้ แล้วเกิดเสียงหัวเราะคิกคักดังอยู่ใต้ผ้าห่มจากการหยอกล้อ ให้อารมณ์ของคู่รักที่เย้าหยอกกันอย่างมีความสุข
"คัท!! ดีมากค่ะทุกคน พักกองครึ่งชั่วโมงนะคะ" สุดที่รักเป็นงานสั่งรันทุกอย่างว่องไว ในขณะที่ผู้ดูแลนักแสดงก็รีบนำผ้าขนหนูมาคลุมร่างนักแสดงไว้ ดูแล ให้เกียรติอย่างดี แม้ฮารุกิจะเป็นหุ่นยนต์ก็ตาม ส่วนวาคีณก็รับผ้ามามัดเอวไว้ แต่ก่อนที่เขาจะไปชำระล้างร่างกายเขาก็ไม่วายเดินไปสั่งงานก่อน
"แทน มึงจัดการไอ้ท็อปเลยนะ งานนี้กูเอาตาย" เสียงเข้มบอกจริงจัง เพราะยังติดใจกับความไม่มืออาชีพของเด็กในค่าย
"ส่วนสุดที่รัก ช่วยดูให้หน่อยว่าซีนไหนโยกมาถ่ายได้หลังจากนี้ แต่ฉันว่าเอาซีนสามมาเลย แล้วตัดซีนสองออก ไม่ให้มีฉากเซ็กส์แล้วนะ ค่อยตัดใช้ซีนเมื่อกี้เอา สลับแค่นี้แหละแล้วแกก็กำกับเลยรันเลย เดี๋ยวฉันเดินมาดูอีกที วันนี้ฉันแสดงเอง"
"โอเคจัดไป ได้ กูเอาอยู่เพื่อน" เสียงเล็กบอกให้เพื่อนมั่นใจก่อนจะรีบไปจัดการงานตัวเอง
"เนมเดี๋ยวกูมาดู แต่กูว่าน่าจะโอเค เชื่อใจมุมกล้องมึง" เนมพยักหน้าพลางส่งกล้องให้ผู้ช่วยถือต่อเพราะมันหนักมาก เมื่อกี้ถือกล้องถ่ายตลอดทั้งซีน กล้องก็หนักเอาเรื่อง เมื่อยร่างไปหมด
"ส่วนบุ๋น เสียงชัดใช่มั้ย"
"ชัดแจ๋วมึง แต่แบบเมื่อกี้เอาลงเป็นหนังโป๊ยังได้ เสียของเอามาทำโฆษณาสั้นๆ ต้องมาตัดยำทิ้ง แล้วหุ่นยนต์อะไรงานดีขนาดนั้นวะ กูจะตายเอา" งานดีขนาดที่ว่าถือไมค์บูมหนักๆยังลืมหนักลืมเมื่อยเลย เสียงฮารุกินี่ได้ใจจริงๆบุ๋นคอนเฟิร์ม
"ทำงานไอ้เหี้ย กูไปอาบน้ำแล้ว" วาคีณด่าปัดๆแล้วเดินหนี
การทำงานในวันนี้ หลังจากนั้นก็ราบรื่น ไม่มีอะไรติดขัดเลยสักนิด ผู้กำกับลงไปเล่นเองกำกับเองขนาดนี้ จะเอาอะไรมาผิดพลาด งานคุณภาพอยู่แล้ว ถูกใจคุณแฮงก์คนของบริษัทไซเบอร์ฮ็อตตี้เป็นอย่างมากถึงขนาดที่ว่า เขาเจรจาอยากให้ทำเป็นหนังโปรโมทให้อีกเรื่อง
"ถามจริงมึง คุณแฮงก์เขาเป็นเจ้าของบริษัทจริงๆเหรอ" บุ๋นตกใจแทบจะทิ้งแก้วเหล้าในมือ เมื่อวาคีณเล่าให้ฟังจบ และที่เห็นมานั่งก๊งเหล้ากันอยู่นี่ ก็เพราะว่าพอหลังจากถ่ายทำเสร็จ พวกเขาก็เลยมาเลี้ยงเลิกกองกันนี่แหละ สังสรรค์เป็นธรรมดาของพวกเขา
"ยังหรอกเป็นลูกเจ้าของบริษัทกำลังจะรับช่วงต่อเร็วๆนี้ พ่อก็เลยให้มาทำงานเองคนเดียว" สุดที่รักกล่าวเรียบๆแทนด้วยท่าทีที่ไม่ได้ตกใจอะไร แล้วสาวกับแกล้มมากินเพราะหิวมาก วันนี้เธอทำงานหนักมาก ไม่ได้กินข้าวเลยทั้งวัน
"เดี๋ยวก็เมากับแกล้มอ้วกก่อนพอดี กินอะไรขนาดนั้น" แทนคุณเอ่ยตลกพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะส่งทิชชู่ไปเช็ดปากให้คนหิวโซ
"แล้วนี่ไปรู้ลึกได้ยังไงเนี่ย ซัมติงอะไรปะ" เนมสงสัย
"เขาจีบกู ไปเดตกันอยู่สองครั้ง เขาก็เล่าให้ฟังอะ" สาวสวยหนึ่งเดียวในกลุ่ม พูดจบก็เชิดหน้าด้วยท่านั่งบิดเอวเอสแล้วเผยอปากทำตลกตบท้าย เล่นเอาหนุ่มๆเพื่อนชายส่ายหัว เกือยจะสวยอยู่แล้ว ต้องมาติดตลกทุกที
"เสน่ห์แรงจังนะจ๊ะ เมียจ๋า"
"เดี๋ยวกูถีบเลยอีบุ๋น เอามือมึงออกไปด้วย เดี๋ยวกูจะตัดให้ขาดเลย ไม่ใช่มือมึงนะ จู๋มึงอะ" เล่นถือช้อนส้อมขู่ฟ่อๆแบบนี้ บุ๋นก็ต้องเอามือที่โอบไหล่อยู่ออกสิ ใครจะไปเสี่ยงชีวิต
"แล้วข้อเสนอเขา มึงว่าไงวะคีณ จะทำหนังให้เขามั้ย" พอถ่ายทำจบคุณแฮงก์ก็เข้ามาคุยรายละเอียดทันทีเลยว่าอยากจะให้ทำหนังให้ความยาวหนึ่งชั่วโมง งบไม่อั้น ให้เวลาเขียนบทสองเดือน เตรียมงานอีกสามเดือน ซึ่งเป็นอะไรที่วาคีณสนใจ เพราะเรื่องหนังโดนถอดยังเป็นปัญหาอยู่ ถ้าได้จากตรงนี้ก็จะเป็นผลดีต่อบริษัท ถึงตอนนั้นคงเคลียร์กับสภาภาพยนตร์ให้ฉายหนังของเขาได้แล้วแหละมั้ง ทีนี้ก็รับเละ ไม่ต้องพะวักพะวน ชักหน้าไม่ถึงหลังกับค่าใช้จ่ายในบริษัท
"คุณวาคีณตกลงมั้ยครับ อืม...งั้นเอาอย่างนี้ ผมจะให้ฮารุกิอยู่กับคุณจนกว่าคุณจะตัดสินใจได้ ถือว่าให้ฮารุกิเป็นตัวประกอบการตัดสินใจของคุณก็แล้วกันนะครับ แล้วถ้าคุณตกลง ฮารุกิก็ยังจะอยู่กับคุณเหมือนเดิมจนจบการถ่ายทำ เพราะเขาต้องเป็นนายเอกของเรื่อง คุณก็ใช้เวลานี้เทรนเขาไปเลย เอาแบบที่คุณอยากได้ ทำให้เขาสมบูนณ์แบบในแบบที่คุณต้องการ ผมรู้ว่าคุณซีเรียสเรื่องนักแสดงมาก เพราะงั้นผมให้สิทธิ์คุณเต็มที่กับการสอนเขาให้เป็นของคุณ"
"ของผม?" คิ้วหนาเลิ่กขึ้น
"ใช่ ของคุณ คุณจะทำอะไร จะสอนอะไรให้เขา เต็มที่ไปเลย ผมยกเขาให้คุณ"
พอนึกถึงข้อเสนอนี้แล้ว วาคีณก็ไม่คิดอะไรมากเลย
"วาคีณมึงตอบอะไรเขาไป มึงตกลงมั้ย" บุ๋นคะยั้นคะยอถาม ส่วนเพื่อนๆคนอื่นก็ตั้งตารอคำตอบไม่ต่าง สายตาพุ่งมาที่วาคีณเป็นจุดเดียว
"ตกลงสิวะ จะไปรออะไรล่ะ"
"น่านนนน มันต้องอย่างนั้นสิวะเพื่อน ชนกันหน่อยเว้ยยยย"
ก็ไม่รู้ว่าเพราะข้อเสนอนั้นหรือเปล่านะ ที่ทำให้วาคีณตอบตกลงไปอย่างไม่ลังเล แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร งานนี้มนุษย์จะตกหลุมรักหุ่นยนต์ไหม มันจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นหรือเปล่า แล้วหุ่นยนต์จะรู้สึกรักได้ไหมนะ เราก็ต้องมารอดูกัน
.
.
.
TBC…
#ณที่นี่เรารักกัน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆ เลยนะคะ รักๆ