07

Your words cut deeper than a knife

 

 

เลียมยืนตัวแข็งค้างด้วยความช็อกถึงขีดสุด หยดเลือดสาดกระเซ็นเปื้อนใบหน้าและลำคอทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ กลัวจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดอันน่าสยดสยอง เจย์เดนมองปฏิกิริยาเหล่านั้นด้วยความพอใจ ก่อนจะเรียกสาวใช้มาจัดการศพให้เรียบร้อย

“ทีนี้จะคุยกันดีๆ ได้รึยัง”

คนตัวใหญ่ว่าพลางเดินไปล้างมือสบายใจเฉิบ ยามฆ่าคนสีหน้าเขาไม่เปลี่ยนแม้เพียงนิด ทำเอาเลียมขนลุกไปทั่วร่าง ถึงจะรู้ว่าเจย์เดนเป็นคนที่เล่นด้วยไม่ได้ แต่กระนั้นเลียมก็อดทนอดกลั้นให้อีกฝ่ายพูดจาดูถูกเขาและเพื่อนไม่ได้จริงๆ จึงเผลอทำกิริยาไม่ดีที่ก่อให้เกิดภัยต่อตัวเองอย่างควบคุมไม่อยู่

เจย์เดนเดินนำเขาขึ้นบันไดวนเพื่อกลับสู่โลกด้านบน เลียมพยายามอย่างมากที่จะก้าวขาแข็งๆ ตามไป ทว่าภาพที่เห็นทำให้เขาชะงักงันไปอีกชั่วขณะ สาวใช้ในชุดยูนิฟอร์มสวยงามกำลังตั้งหน้าตั้งตายัดร่างไร้วิญญาณของลิซ่าลงถุงดำเหมือนไม่รู้สึกอะไร และยังลงมือเช็ดถูแอ่งเลือดบนพื้นอย่างขะมักเขม้น โดยไม่มีทีท่าหวาดผวาแม้แต่น้อย

“เร็ว” น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเอ่ยเร่งเร้า จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแผ่นหลังกว้างขึ้นไป

น่ากลัว...บ้านนี้มีแต่คนน่ากลัว!

“ไปล้างหน้า”

เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นเจย์เดนก็เอ่ยสั่ง และไม่ต้องรอให้เขาพูดซ้ำ เลียมรีบเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองโดยพลัน

ขณะวักน้ำล้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ภาพดวงหน้าไร้วิญญาณกลับตามเข้ามาหลอกหลอน แม้จะหลับตาหลีกหนีทว่าแววตาเบิกค้างคู่นั้นยังตราตรึง เลียมหอบหายใจ กำมือสั่นเทาจนเล็บจิกเข้าเนื้อ พยายามตั้งสติข่มกลั้นความกลัวที่พรั่งพรูออกมาจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึก

เขากลัวเจย์เดนมากจริงๆ ...

เดินออกมาอีกทีก็เห็นเจย์เดนนั่งไขว่รออยู่บนโซฟา เลียมจึงเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามอย่างกล้าๆ กลัวๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บงำความสั่นกลัวเอาไว้ภายใน เขากลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อสายตาว่างเปล่าตวัดมองมา

“มอเตอร์ไซค์เธอจอดอยู่หน้าบ้านฉัน”

ร่างที่ก้มหน้าหลบตาในทีแรกหันกลับไปมองคนพูดจนคอแทบเคล็ด เมื่อรับรู้ว่าบิ๊กไบค์สุดที่รักของเขาอยู่ที่นี่ด้วย เลียมจึงนั่งนิ่งอย่างตั้งใจฟังว่าเจย์เดนจะพูดอะไรต่อ

เขาอยากกลับบ้าน อยากไปจากที่นี่แล้ว!

“ถ้าเธอขับมันกลับบ้าน ฉันจะถือว่าเธอตกลงตามข้อเสนอ”

“ข้อเสนออะไร”

“มาที่นี่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์”

เลียมกัดริมฝีปากแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์ มาที่นี่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร!

“ฉันชอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ ปิดเรื่องนี้กับเพื่อนเธอให้ดีแล้วกัน”

แม้ใบหน้าจะไร้ซึ่งรอยยิ้ม แต่แววตากลับฉายชัดว่าเจย์เดนพอใจไม่น้อยที่เห็นเลียมไร้ซึ่งการต่อต้าน

นายแบบหนุ่มนั่งกำหมัดแน่นด้วยความโมโหและความโกรธเกลียดคนตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมเจย์เดนจะต้องจ้องมาจองล้างจองผลาญเขาขนาดนี้ ขอโทษก็ทแล้ว อ้อนวอนทั้งน้ำตาก็แล้ว แต่เจย์เดนไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แล้วนี่ยังจะใช้เขาเป็นเครื่องมือเล่นสนุกกับเพื่อนรักของเขาเองอีก

เลวเกินไปแล้ว!

“แล้วผมจะได้อะไร” ทว่าความคิดกระแสหนึ่งกลับแล่นเข้าหัว

ถึงจะยอมตกปากรับคำไป แต่หากเจย์เดนเบื่อเขาขึ้นมาก็คงไม่แคล้วฆ่าทิ้ง เพราะอย่างนั้นเขาต้องเล่นบทเสือห่มหนังแกะ เล่นตามน้ำให้อีกฝ่ายตายใจ

หากได้ข้อมูลหลักฐานว่าเจย์เดนเป็นฆาตกรเมื่อไร หลังจากนั้นเขาจะเป็นอิสระ เขาจะต่อต้านและพยศจนถึงที่สุด มันไม่ใช่เพื่อการดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่มันจะเป็นการพยศเพื่อเอาคืนทุกสิ่งที่เจย์เดนเคยทำกับเขาไว้!

“หึ เข้าใจต่อรอง”

“ผมจะได้อะไร” เลียมถามย้ำ ภาพลิซ่าถูกเจย์เดนฆ่าเขายังจำได้ติดตา เขาจะต้องเข้มแข็งและหนักแน่น ต้องกลับมายืนหยัดต่อสู้กับอีกฝ่ายให้จงได้

ครั้งต่อไปเขาจะต้องไม่มีความกลัวให้คนตรงหน้าอีก!

“ฉันรับประกันความปลอดภัยของเอซ บ้าน รถ เสื้อผ้า หรืออะไรก็ตามที่เธออยากได้”

บัตรเครดิตสีดำไม่จำกัดวงเงินถูกโยนลงบนโต๊ะกระจกใสแจ๋ว พร้อมกันกับกุญแจบิ๊กไบค์สุดที่รักที่เลียมจำมันได้ดี เจย์เดนให้มันกับเขา

“ดีล”

เลียมเอื้อมไปคว้ามันไว้อย่างไม่ลังเล เขาเดินหาทางออกจากบ้านนี้โดยเร็ว ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้สักวินาทีเดียว ถึงต่อหน้าเจย์เดนเขาจะทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่หัวใจกลับเต้นรัวเร็วจนแทบระเบิดด้วยความกลัว

เด็กหนุ่มเดินตามทางมาเรื่อยๆ จนเจอประตูกระจก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทางออก เท่าที่สังเกตดูเหมือนว่าบ้านของเจย์เดนจะทำจากกระจกแทบทั้งหลัง แต่ก็ไม่หยุดคิดอะไรให้มากความ รีบเปิดประตูเพื่อออกไปหาอิสรภาพอันหอมหวาน วันนี้เขาเจอเรื่องเลวร้ายมามากเกินพอแล้ว

!!!

เลียมตะลึงงัน ลานกว้างปูด้วยหญ้าญี่ปุ่นกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเกินกว่าจะเป็นบริเวณบ้านคน มันเป็นเหมือนสนามกอล์ฟขนาดใหญ่มากกว่า ประตูรั้วอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านมากนัก และก่อนจะเดินเข้าไปในสนามกอล์ฟก็ต้องผ่านอุโมงค์ทางเข้าของป่ารกชัฏน่าพรั่นพรึงนั้นเสียก่อน

“กูไม่อยู่ละ”

เลียมส่ายหัวก่อนจะวิ่งตรงดิ่งไปคร่อมบิ๊กไบค์คู่ใจ แม้เสื้อผ้าไซซ์ใหญ่เกินตัวที่สวมใส่อยู่นั้นจะให้ความรู้สึกรุ่มร่ามก็ตาม ตอนนี้ขอเพียงแค่ได้ไปจากที่นี่ก็พอ!

สายตาคมจับจ้องมอเตอร์ไซค์คันสวยที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วสูง มันไม่บ่งบอกถึงอารมณ์หรือความนึกคิดใด ทว่ามุมปากสีซีดกลับยกยิ้มร้าย

เจย์เดนสนุกที่ได้เล่นกับความกลัวของเลียม แม้เจ้าตัวจะพยายามปกปิดแทบตาย แต่มันก็มิอาจรอดพ้นสายตาเขาไปได้

และนี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...

 

 

 

หลายวันมานี้เลียมแทบไม่มีสมาธิกับการเรียน ในหัวคิดหาวิธีรับมือกับคนอย่างเจย์เดนอยู่ตลอด อย่างน้อยๆ เขาก็ต้องป้องกันตัวให้ได้บ้าง เลียมจึงตัดสินใจลงเรียนยูโด เพราะเจย์เดนดูจะเก่งทุกอย่าง ทั้งการสู้แบบประชิดตัวด้วยมือเปล่าหรือใช้อาวุธ เลียมคิดว่าฆาตกรโรคจิตอย่างเจย์เดนคงมีประสบการณ์มากมาย

ส่วนเอซ เลียมติดต่ออีกฝ่ายได้แค่ทางโทรศัพท์ คงเพราะช่วงนี้งานรัดตัว จึงยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ถึงความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนรักกับเจย์เดน

วิธีรับมือต่อความกลัวที่มีต่อเจย์เดนนั้น เลียมหาทางแก้ได้เพียงดูหนังแนวฆาตกรรมสยองขวัญชำแหละศพให้ชินตา หากต้องเจอเรื่องราวแบบนี้ต่อหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะซ่อนความกลัวไว้ได้หรือเปล่า

วันนั้นเลียมโกรธจนฟิวส์ขาด เกรียนและด่าใส่อีกฝ่าย เจย์เดนยังจับหัวเขากระแทกผนังจนเลือดอาบ หากจะให้เลิกกลัวไปเลยคงเป็นไปได้ยาก แต่เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ แน่

เขาจะไม่ทำตัวน่าสมเพชร้องไห้อ้อนวอนมันอีกเด็ดขาด!

สายเรียกเข้าดังขึ้นขัดจังหวะความคิด เมื่อหยิบมือถือมาดูเลียมก็ถอนหายใจ ไม่ระบุเบอร์ผู้โทรแบบนี้...มันก็ไม่พ้นเป็นเจย์เดนอีกนั่นแหละ!

“ว่า” เขากรอกเสียงใส่ปลายสายด้วยความเซ็ง

[คืนนี้ขอเชิญคุณไปร่วมงานปาร์ตี้หน้ากากแฟนตาซีที่โรงแรมแซนเทิล]

“กี่ทุ่ม” ปลายสายใช้เสียงผ่านเครื่องดัดเหมือนครั้งก่อน

[สี่ทุ่มตรง]

เลียมวางสายทันทีที่ได้รับคำตอบ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น

“เข้ามาเลยครับ”

“มีพัสดุส่งมาถึงลูกแน่ะเลียม”

‘อลิซาเบธ มาตินเนส’ สาววัยกลางคนซึ่งเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเลียมเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในมือถือกล่องกระดาษใบใหญ่ซึ่งถูกผูกโบว์ไว้ราวกล่องของขวัญ

แต่มันจะดีกว่านี้หากมันไม่ใช่สีดำ...ซึ่งมันชวนหวาดผวา!

“ขอบคุณครับแม่” เลียมเอ่ยเสียงแผ่ว รสนิยมแบบนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้น

“มีการ์ดเสียบไว้ด้วยนะลูก อย่าลืมเปิดอ่านล่ะ ลูกแม่นี่ฮอตใหญ่แล้ว”

อลิซาเบธพูดติดตลกก่อนจะออกไปจากห้องเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกชายในการเปิดกล่องของขวัญ เลียมกลั้นใจเปิดการ์ดสีดำซึ่งถูกเสียบอยู่ตรงริบบิ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

‘ถ้าฉันไม่เห็นของพวกนี้อยู่บนตัวเธอ เตรียมรอรับศพเพื่อนได้เลย’

J

เลียมโยนการ์ดทิ้งลงถังขยะทันทีที่อ่านจบ เขาลงมือเปิดกล่องของขวัญตรงหน้า เหมือนอีกฝ่ายรู้ไต๋ว่าหากขู่ฆ่ากันเขาคงไม่กลัว แต่หากขู่จะฆ่าเพื่อนคนสำคัญเขาคงต้องยอมอย่างว่าง่าย ร้ายฉิบ

อ่า ตลกแล้ว เจย์เดนจะให้เขาใส่ชุดนี้ไปจริงดิ!?

 

 

 

Santle Hotel

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปสอบถามพนักงานถึงชั้นและสถานที่จัดปาร์ตี้หน้ากากแฟนตาซี รวมทั้งยื่นการ์ดเชิญไปให้ด้วย พนักงานจึงยอมพาเขาเข้าไป แม้สายตาคู่นั้นจะฟ้องชัดว่าสภาพการแต่งตัวของเลียมในตอนนี้ไม่เข้ากับธีมงานอย่างแรง

รอกูเข้าไปก่อนเถอะ...ถอดเสื้อนอกออกเมื่อไรช็อกกันแน่!

เลียมใช้เวลาทำใจอยู่นานมากกว่าจะใส่ชุดบ้าๆ นั่นได้ เขาใส่มันไว้ด้านในแล้วสวมเสื้อผ้าปกติคลุมทับ ขืนใส่ชุดแบบนั้นออกจากบ้านคงถูกมองว่าเป็นพวกโรคจิตสติไม่เต็มเต็งเป็นแน่

ทันทีที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก เสียงเพลงดังกระหึ่มก็ลอยเข้าหู เลียมส่ายหัวด้วยความเซ็ง เขาคงสนุกกว่านี้หากไม่ได้โดนบังคับให้มาและโดนขู่ให้แต่งตัวแบบนี้

เลียมเดินหาห้องน้ำเพื่อเข้าไปเปลี่ยนองค์ทรงเครื่องในนั้น ขืนไม่รีบถอดชุดนอกออกแล้วเจย์เดนเห็นเขาในสภาพนี้ เอซได้ตายจริงแน่

หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเลียมก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ มือจับชุดซ้ายทีขวาทีด้วยความกระดากอายและไม่มั่นใจ เกิดมาเพิ่งจะเคยทำอะไรขายหน้าสุดโต่งก็คราวนี้!

เขาหยิบหน้ากากแฟนตาซีสีดำลายเสือดาวที่มีเพชรเม็ดเล็กๆ ติดล้อมรอบกรอบ ซึ่งเป็นเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายมาสวมปิดครึ่งหน้า จากช่วงตาถึงจมูก อย่างน้อยงานปาร์ตี้นี้ก็มีข้อดีอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือทุกคนต้องสวมหน้ากากตามธีมงาน นั่นจึงพอจะช่วยปิดบังหน้าตาและตัวตนเขาได้อยู่บ้าง

“เฮ้อ”

เลียมยืนถอนหายใจมองร่างตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ เขาสวมชุดหนังสีดำรัดรูปทั้งตัว และมันเป็นเสื้อแขนกุดโชว์หัวไหล่กับช่วงแขนยาว เนื้อผ้ารัดแผ่นอก ต้นขา กลางกลาย และบั้นท้ายกลมกลึงจน หนำซ้ำยังมีก้อนจุกกลมๆ เป็นหางกระต่ายประดับอยู่อีก

อนิจจังอนิจจา...อะไรทำให้เจย์เดนโรคจิตวิปริตได้ขนาดนี้นะ!

ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ดูบัดสีบัดเถลิงสิ้นดี

แล้วเขาก็ไม่ได้มีรสนิยมชมชอบการแต่งชุดโรลเพลย์เสียด้วยสิ!

ไหนยังผ้าคลุมหลังที่ละม้ายคล้ายกับเสื้อคลุมของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ ซึ่งมันก็เกือบจะดี หากไม่ติดว่ามันเป็นผ้าซีทรูเนื้อบางเบา คลุมก็เหมือนไม่ได้คลุม สัดส่วนร่างกายถูกเผยให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านเนื้อผ้าสีดำรัดรูป

“เอาวะ แค่ให้มันเห็นแล้วก็รีบชิ่งกลับ” เลียมปลอบใจตัวเองก่อนจะแอบกระเป๋าเป้ไว้ใต้อ่างล้างมือในห้องน้ำ

ส่วนรองเท้า...เขาก็ใส่รองเท้าผ้าใบที่โคตรจะไม่เข้ากันกับชุดไปนี่แหละ

เจย์เดนไม่ได้ส่งรองเท้ามาให้เขานี่!

ขณะกำลังจะเปิดประตูออกไปก็ต้องชะงัก สายตาปะทะเขากับร่างคุ้นเคยที่จำได้แม้จะเห็นเพียงด้านหลังด้วยสีผมอันโดดเด่น แต่นั่นไม่ทำให้เขาตกใจได้เท่ากับชายที่ยืนอยู่ข้างกันกับร่างสูงที่ว่า แม้จะใส่หน้ากากปิดหน้าไปถึงครึ่ง แต่ด้วยความคุ้นเคยที่คลุกคลีกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกทำให้เลียมจำได้แม่นยำ...เอซ!

ไหนบอกกับเขาว่าช่วงนี้งานยุ่ง? แล้วก็ไม่คิดจะชวนเขาเลยงั้นสิ?

ขณะคิดหลายตลบตบตีกับตัวเองด้วยความน้อยใจต่อเพื่อนรักเลียมก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกันกับเพื่อนเขาหันมามองสบตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนั่นทำให้แฟนหนุ่มข้างกายเขานิ่งไป พลางทำท่าจะหันมองมายังทิศทางเดียวกับสายตาของเจย์เดน เลียมจึงรีบถอยกลับเข้ามาตั้งหลักในห้องน้ำอย่างลนลานด้วยความกลัว

กลัวว่าเอซจะจับได้และต้องเสียใจ ว่าตอนนี้เขากำลังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเจย์เดน!

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น เลียมสะดุ้งด้วยความผวา เขารีบวิ่งเข้าไปยังห้องน้ำด้านในสุดด้วยกลัวว่าคนที่เข้ามาจะเป็นเอซ

แต่ก็ไม่ทันการ ในจังหวะที่เขากำลังจะปิดประตูลงกลอน กลับมีมือปริศนาคู่หนึ่งจับประตูห้องน้ำไว้ไม่ให้เลียมได้ปิดดังใจนึก พลันแทรกร่างกายใหญ่โตเข้ามาด้านในแล้วจัดการล็อกประตูด้วยเสร็จสรรพ ห้องน้ำที่ว่าแคบตอนนี้กลับแคบยิ่งกว่าเมื่อมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำเข้ามายืนเบียดด้วยกันกับเขา

ดวงตาพยศรั้นเบิกกว้างเมื่อเห็นชัดๆ ว่าคนตรงหน้าคือใคร

“เข้ามาทำอะไรในนี้วะ!”

เลียมถามเสียงขุ่นขณะก้มมองสภาพเจย์เดน เมื่อครู่เขาแอบดูแค่แวบเดียวจึงไม่ได้สังเกตมากนัก ตอนนี้ได้เห็นชัดแจ่มแจ้งว่าอีกฝ่ายแต่งตัวเป็นเจ้าชายอาละดิน ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเจย์เดนจะทำอะไรแบบนี้ได้ คิดแล้วมันก็น่าขำ

“มาดูผลงาน”

แม้สีหน้าจะราบเรียบ แต่แววตากลับมีประกายความพึงพอใจวาบผ่าน สิ่งที่เขาส่งไปให้เลียม ทุกชิ้นถูกประดับอยู่บนร่างกายโดยไม่มีชิ้นไหนตกหล่น และตอนนี้พวกเขาก็อยู่ใกล้กันจนน่าหวาดเสียว ด้วยความสูงที่มากกว่าทำให้ดูเหมือนว่าเจย์เดนกำลังยืนค้ำหัวคนตัวเล็กลีบ ซึ่งกำลังพยายามหดตัวให้มากเท่าที่จะมากได้เพื่อเว้นระยะห่างกับคนร้ายกาจ

ปลายนิ้วร้อนลากไล้ไปตามหัวไหล่มน เลียมใจเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความพรั่นพรึง ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจย์เดนกำลังคิดอะไรอยู่

“เจย์ครับ คุณอยู่ในนี้รึเปล่า”

เลียมตาเหลือกเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักดังเข้ามาใกล้ ถึงกระนั้นชายตรงหน้าก็ยังไม่สะทกสะท้าน กลับกัน เจย์เดนแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเอซจะเดินมาเจอพวกเขาเข้าหรือเปล่า ถึงแม้จะปิดประตูและลงกลอนอย่างแน่นหนา แต่เลียมก็อดกลัวไม่ได้จริงๆ

กลัวว่าจะกลายเป็นตัวเขาเองที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนรักต้องเสียใจ

“อยู่ครับ” พลันเจย์เดนทำให้สิ่งที่เลียมไม่ทันได้คาดคิด เสียงทุ้มตอบกลับคำเรียกหาพร้อมยกยิ้มมุมปาก ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เลียมขนลุก

เพราะมันไม่มีความรู้สึกอยู่ในรอยยิ้มนั้นเลย

จู่ๆ เจย์เดนก็อุ้มเด็กดื้อจนตัวลอยแล้วทิ้งตัวนั่งบนชักโครก ตัวเลียมลอยหวือก่อนมาจบลงที่ตักแกร่ง ถูกบังคับให้แยกขาออกกว้าง กางคร่อมทับหน้าขาแข็งเอาไว้ในท่วงท่าที่หันหน้าเข้าหากัน เลียมได้แต่กอดคอคนตรงหน้าไว้แน่นเพราะกลัวตก อีกทั้งยังต้องกัดปากอดทนไม่ให้เผลอโวยวายเสียงดังออกไป

ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย และเจย์เดนคิดจะใช้ข้อได้เปรียบนี้มากลั่นแกล้งเขา!

เลียมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเกาะติดเจย์เดนเป็นตังเมราวกับลูกลิงก็มิปาน หากเขาลงไปยืนด้วยสองขาของตัวเอง เอซจะรู้ได้ทันทีว่าเจย์เดนไม่ได้อยู่ในนี้คนเดียว

“งั้นผมรอตรงนี้นะครับ” เอซเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี เลียมมองตามเงาของเพื่อนสนิทที่ลอดผ่านช่องว่างใต้ประตู

“อะ”

เลียมหลุดเสียงออกมาเล็กน้อยด้วยความตกใจ จู่ๆ ก็มีบางสิ่งที่ทั้งอุ่นทั้งชื้นสัมผัสบริเวณลำคอ เมื่อหันกลับมามองก็พบว่าคนใต้ร่างกำลังเลียเขาอยู่

เจย์เดนกำลังซุกไซ้ซอกคอเขาทั้งๆ ที่เอซกำลังยืนอยู่ข้างนอก...บัดซบ!

“หยุด”

เลียมกระซิบสั่ง พยายามดึงศีรษะอีกฝ่ายให้ออกห่างจากลำคอของตัวเองไปด้วย แต่เท่านั้นยังไม่พอ เจย์เดนยังตะโบมฝ่ามือลากไล้ไปตามลำตัวและสะโพกนิ่มของคนบนตักอย่างจาบจ้วง ริมฝีปากร้อนดูดดึงขบเม้มไปตามผิวเนื้อรุนแรง

“โวยวายสิ แล้วฉันจะหยุด”

เจย์เดนเงยหน้าสบตากับเลียมราวกับจะท้าทายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะลงมือรุกหนักกว่าเดิม โพรงปากอุ่นร้อนก้มลงครอบครองยอดอกนิ่มผ่านเนื้อผ้า คนโดนกระทำสะท้านเฮือก เผลอใช้มือจิกกระชากเรือนผมสีเงินของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากอกอย่างลืมตัว และดูเหมือนว่านั่นจะเป็นการหาเหาใส่หัวโดยแท้ สายตาคมตวัดมองเขาด้วยความไม่ชอบใจ

“อึก!”

เลียมเจ็บจี๊ดจนแทบกลั้นเสียงร้องไม่ไหว ยอดอกถูกประทุษร้ายโดยฟันคม ราวกับต้องการจะสั่งสอนว่าไม่ควรไปทำร้ายร่างกายเขาตามใจชอบ แม้แต่เส้นผมสักเส้นก็ตาม

ทว่าเสียงที่เล็ดรอดออกไปกลับดังกว่าที่คิด

“เจย์ครับ คุณอยู่ในนั้นกับใคร?”

เงาของเอซก้าวเข้ามาเรื่อยๆ จนชิดประตูห้องน้ำ หัวใจเลียมเต้นไม่เป็นส่ำเฉกเช่นคนมีชนักติดหลัง เจย์เดนหยุดการกระทำทุกอย่างลงพลางตวัดสายตามองไปทางเงาของเอซเช่นเดียวกัน และแววตาคู่นั้นฉายชัดถึงความหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ

ให้ตายสิ...ถ้าอีกฝ่ายฉุนจัดจนยอมรับว่าอยู่กับเขาขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร!!!

 

 

_____________________

...ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาอธิบาย... ได้แต่กัดผ้าเช็ดหน้าทั้งน้ามตา แล้วตะโกนบอกพิเจย์ว่าอย่านะ! อย่าให้ถึงวันที่หลงน้องเชียว! โกร๊ธ

TBC.

PS.รีไรท์ตอนนี้เรียบร้อยแล้วนะคะheart