4 ตอน CHAPTER 03 :: Just watch me burn your body [Re-write]
โดย โชวาเฮ (showahae)
03
Just watch me burn your body
แผ่นอกเปลือยเปล่าประดับด้วยรอยสักหลากสีดูดิบเถื่อนสะท้อนขึ้นลงรัวแรงตามหายใจเข้าออก ทั้งยังแรงขึ้นและถี่กระชั้นตามความตื่นกลัวที่มีต่อคนเบื้องหน้า
ซึ่งบัดนี้ได้คุกคามเขาอย่างไม่น่าให้อภัย ปลายมีดเย็นเฉียบไล้ไปมาแผ่วเบาบริเวณหน้าท้องขาว จนคนโดนกระทำถึงกับต้องเกร็งหน้าท้องด้วยความหวาดเสียว
เสียวว่าความคมของมีดจะสำแดงเดชกรีดผิวเนื้อจนได้เลือด
“อึก...”
ร่างที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นหนาถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับริมฝีปากพูดเสียด้วยซ้ำ ด้วยกลัวว่าหากขยับพลาดเพียงนิด ปลายมีดนั่นอาจจะบาดเขาจริงๆ ก็ได้
เลียมยังคงใส่แจ็กเก็ตหนังสีดำอยู่เช่นเดิม ทว่าเสื้อกล้ามถูกกรีดขาดจนหลุดออกไปแล้ว จึงไม่ต่างอะไรกับร่างเปลือยเลยสักนิด
“จะ จะทำอะไร...” ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ปากเจ้ากรรมก็ยังถามออกไปเหมือนคนโง่งม
มือใหญ่ปลดซิปกางเกงยีนที่เลียมใส่มาอย่างใจเย็น สีหน้าราบเรียบดูไม่เหมือนกำลังจะลงมือปลุกปล้ำคนเลยสักนิด เลียมเงยหน้ามองคนบนร่าง ก่อนจะต้องหวั่นใจเมื่อเห็นสีหน้าโรคจิตซึ่งค่อยๆ เผยออกมาทีละนิดของเจย์เดน
เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองอย่างหื่นกระหาย หากคนอื่นมองคงคิดว่าเจย์เดนเป็นคนเซ็กซี่ ทว่าสิ่งที่เลียมเห็นและได้รับรู้ในวันนี้ทำให้เขากลัวอีกฝ่ายจนแทบบ้า ทว่าก็ต้องข่มอาการนั้นไว้ภายใน
แผล่บ
“เฮ้ย! โอ๊ย...”
เรียวลิ้นชื้นตวัดเลียลงบนแผงอกที่มีรอยสักรูปจิ้งจอกจนคนใต้ร่างผวาเฮือก เสือกไสดิ้นหนีอย่างลืมไปแล้วว่ามีมีดจ่ออยู่ตรงหน้าท้อง และแค่ขยับเพียงนิดความคมของมันก็เฉือนเนื้อเขาจนได้เลือด
“ไม่ต้องรีบฉันก็กรีดเธออยู่แล้ว”
“แม่ง! โรคจิตใช่ไหมวะ!?”
ทั้งความเจ็บและความแสบทำให้เลียมเผลอลืมตัวตะคอกใส่หน้าคนกระทำการอุกอาจ แต่เจย์เดนทำเพียงแค่ล่าถอยออกไปนั่งปลายเตียง สายตาคมกริบยังทอดมองเรือยกายของเด็กหนุ่มอย่างไม่ยอมลดละ แม้ตัวเขาจะถอยห่างออกมามากแล้วก็ตาม
“ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง บอกมา”
“บอกอะไร!”
“รู้อะไรบ้าง”
เลียมหลบสายตา นั่นทำให้ร่างสูงที่นั่งไขว่ห้างมองอยู่นึกสงสัยเข้าไปอีก หารู้ไม่ว่าที่อีกฝ่ายหลบตามันเป็นเพราะกลัวเขาต่างหาก
“ไม่รู้...”
“ฉันไม่อยากขยี้เธอเลยรู้ไหมเลียม”
“...”
“ฉันเป็นคนที่มีความอดทนสูง ไม่ว่าจะอยากขย้ำเธอแค่ไหน แต่หากยังไม่ถึงเวลา ฉันก็ทนได้เสมอ”
“...”
“แล้วรู้อะไรไหม...” เจย์เดนเว้นจังหวะให้อีกฝ่ายลุ้นระทึก และยังใช้สายตาร้อนเร่ามองร่างเกือบเปลือยของเลียมราวกับจะแผดเผามันให้ไฟลุก “มันจะกลายเป็นเธอนั่นแหละที่ทรมาน”
เลียมยอมจำนนทั้งๆ ที่ไม่อยาก ยอมอ่อนข้อทั้งๆ ที่เจ็บใจ ซึ่งดูเหมือนว่าเจย์เดนจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด หลังจากล่าถอยออกไปและพูดอะไรบ้าๆ อยู่คนเดียว เลียมก็คิดว่าอีกฝ่ายจะเลิกเล่นเสียที แต่แววตาที่เปลี่ยนไปทำให้เขานึกกลัวขึ้นมาจับใจ กลัวว่าเจย์เดนจะเอาจริง
แววตาฉายความรุ่มร้อนและปรารถนา ขัดกับใบหน้าเรียบนิ่งอย่างถึงที่สุด
“ผมไม่รู้จริงๆ !”
คนจนมุมย้ำหนักแน่น ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นมีความลับอะไรที่ต้องรักษามันไว้ถึงขนาดนี้
หรือจะเป็นเรื่องที่ลงมือฆ่าคน?
ทว่าเรื่องนี้เจย์เดนก็รู้อยู่แล้วว่าเลียมรู้ เด็กหนุ่มจึงคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องอื่นแน่ หรือจะเกี่ยวกับคำว่าอาร์มันโด้บนมีดสั้น...
“เธอรู้ใช่ไหม ว่าการจะทำให้เธอหายไปจากโลกนี้มันไม่ยากเลย”
“...!”
“เพียงแต่ฉันดันถูกใจร่างกายเธอเข้า ถึงได้ใช้วิธีนี้”
คนฟังลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เลียมอยากเกรียนใส่อีกฝ่ายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพียงแต่ตอนนี้เจย์เดนดูน่ากลัวกว่าทุกที และมันทำให้เขาเกรียนไม่ออก แผลตรงหน้าท้องซึ่งโดนมีดบาดเมื่อครู่ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาเรื่อยๆ ดีที่มันเฉือนแค่ผิวๆ ไม่ลึกเท่าไร แต่ก็แสบไม่น้อย
เลียมแทบผงะเมื่อจู่ๆ คนที่นั่งอยู่ปลายเตียงก็โถมใบหน้าเข้าหาหน้าท้องเขา ลมหายใจร้อนเป่ารดมันอยู่นานสองนานจนเลียมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
“อะ...”
ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียซึมซาบรสคาวกลิ่นเหล็กเข้าปากทุกหยาดหยด เลียมกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องแปลกประหลาดไม่ให้เล็ดรอดออกไปได้ มันแสบ...แต่ก็รู้สึกวูบวาบไปทั่วท้องน้อย
เลียมไม่ใช่คนอ่อนต่อโลกที่จะไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร
ต่างกันตรงที่ว่าตอนนี้เขากำลังเป็นฝ่ายโดนกระทำ!
แขนและขาถูกพันธนาการไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ ขาถูกเชือกดึงรั้งให้อ้าออกกว้างจนอยู่ในท่วงท่าลามก ดูอย่างไรก็เหมือนเป็นการเชิญชวน แต่มันไม่ใช่
“เธอรู้อะไร”
“รู้ว่าคุณตอแหลไง” เด็กดื้อตอบโดยใช้น้ำเสียงเนิบๆ เพื่อเก็บอาการ ถึงจะกลัวแต่ก็อดแซะไม่ได้
ทำไมเขาเป็นคนแบบนี้ จะตายแล้วยังไม่เจียมตัวอีก!
“เฮ้ย เอาจริงดิ!?”
เลียมสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือใหญ่แหกซิปที่ถูกปลดให้แยกออกจนเห็นชั้นในสีขาว รวมถึงของสงวนที่กำลังหลับใหลอยู่อย่างสงบ
เจย์เดนไม่พูดอะไรอีก เขาใช้มีดอันเดิมกรีดลากเป้ากางเกงยาวลงมาถึงช่วงก้น แล้วกระชากมันให้ขาดออกจากกัน สภาพของเลียมในตอนนี้จึงเหมือนเขากำลังใส่ถุงน่องเนื้อยีนสีกรมท่าจนถึงต้นขาอ่อน เพียงแต่มันไม่ใช่ถุงน่อง มันเป็นเศษซากของกางเกงที่ยังหลงเหลืออยู่ต่างหาก!
มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในหนังเอวีเลยให้ตายเถอะ
“มีความโรคจิต!”
ดวงตาขึงขังตวัดมองด้วยสายตาจิกกัด ตอนนี้เลียมทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากนอนรอให้ฝ่ายนั้นลงมือปู้ยี่ปู้ยำ
“ฉันรู้ว่าถ้าไม่ใช้ตัวช่วยคนอย่างเธอคงไม่หยุดพยศ”
“อะไร”
จู่ๆ แววตาเฉยชาคู่นั้นก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ หลังจากลงมือจัดการกับส่วนล่างของเหยื่อตัวน้อยจนเหลือเพียงชั้นในบางเบากับขากางเกงที่เสมือนถุงน่องติดกาย เจย์เดนก็หายออกไปข้างนอกพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเม็ดยาในมือ ร่างใหญ่ขึ้นทาบทับเรือนกายกึ่งเปลือยพลางใช้ฝ่ามือบีบสันกรามให้เผยอปากออกแล้วสอดเม็ดยาเข้าไป
“กลืน”
เลียมขัดขืน เจย์เดนจึงปิดปากเขาไว้แน่นแล้วบีบจมูกปิดรูหายใจ จนคนบนเตียงหน้าดำหน้าแดงเพราะขาดอากาศ ในที่สุดก็ต้องยอมฝืนกลืนเม็ดยา
“อึ้ก แค่กๆๆ !”
“โอ๊ย” เจย์เดนตวัดปลายมีดกรีดลงบนรอยสักรูปจิ้งจอกจนได้เลือด เสร็จแล้วจึงโยนมีดทิ้งลงข้างเตียง
“ในที่สุดฉันก็ได้ชิมเลือดเธอตรงนี้สักที”
“อ๊า!”
เลียมเสียววูบไปทั่วท้องน้อยเมื่อปลายลิ้นร้อนไล้เลียลงบนรอยแผลสดใหม่ ออกแรงดูดดึงจนเขาทั้งเจ็บทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน ริมฝีปากอุ่นเคลื่อนไปเรื่อยๆ ทุกพื้นที่ของเนื้อผิวไม่มีส่วนไหนถูกปล่อยให้ว่างเว้น ยิ่งตรงไหนมีรอยสัก เจย์เดนยิ่งให้ความสนใจกับตรงนั้นเป็นพิเศษ
ลมหายใจร้อนหยุดลงที่ตุ่มไตข้างหนึ่ง ก่อนที่ความอุ่นชื้นจะเข้าครอบครองมันไว้ ทั้งดูดดุนและใช้ฟันคมขบกัดจนคนโดนกระทำเผลอหยัดแผ่นอกขึ้นสู้ เขาผละออกมาให้ความสนใจกับยอดอกอีกข้างราวกับจะไม่ให้น้อยหน้ากัน ใช้เรียวลิ้นตวัดหยอกล้อจนส่วนกลางลำตัวของเลียมผงาดตื่นเต็มที่
ร้อน...ร่างกายเขาร้อนประหนึ่งโดนไฟแผดเผา ร้อนจนแทบจะขาดใจ มัน ทรมานมากจริงๆ ส่วนอ่อนไหวปริ่มน้ำเรียกร้องหาการปลดปล่อย
ยานรกนั่น มันต้องเป็นเพราะยานั่นแน่ๆ
มือหยาบกระด้างลูบไล้ไปตามสีข้าง ทั้งบีบเค้นหนักหน่วงและผ่อนปรนสลับกันไปมา ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าใกล้ ก่อนจะมอบรสจูบอันแสนเร่าร้อนให้จนเลียมแทบลืมไปแล้วว่าคนตรงหน้าอันตรายและร้ายกาจแค่ไหน เผลอเผยอปากอ้ารับเรียวลิ้นชื้นเข้ามาภายใน ดูดดุนซึมซับซึ่งกันและกัน
เจย์เดนมากประสบการณ์ เลียมก็มากซึ่งความช่ำชอง พวกเขาแบ่งรับแบ่งสู้กันได้อย่างถึงใจ
“ฮ้า..”
น้ำใสๆ ไหลออกมาตามมุมปากยามเขาผละออก ทว่าเจย์เดนตามมาดูดซับทุกหยาดหยดไม่ให้เหลือ ยิ่งนานเข้าเลียมก็ยิ่งทรมาน เหมือนตรงส่วนกลางลำตัวมันจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
“เธอต้องการสินะ”
“อึก...” เลียมกัดริมฝีปากจนช้ำ คำพูดเย้ยหยันดึงสติของเขาให้กลับมาได้เล็กน้อย
“แต่จะทำยังไงดีล่ะ เพราะฉันไม่ต้องการ”
เกลียด...เลียมเกลียดคนๆ นี้ รอยยิ้มเสแสร้งที่ดูเหมือนคนขยับปากให้ฉีกออกกว้างมันทำให้เขานึกสยอง เป็นยิ้มที่ดูก็รู้ว่ากำลังเยาะเย้ย แต่เขาทรมานมากเกินไปจนแทบทนไม่ไหว
“หยุดตอแหลแล้วทำๆ ผมสักที! ลีลาอยู่ได้”
เจย์เดนมองอีกฝ่ายด้วยความคาดไม่ถึงเล็กน้อย มุมปากหยักยกขึ้นด้วยความพอใจ เขาทรมานเลียมมากขึ้นโดยการก้มลงไปใช้ปากงับตรงส่วนกลางลำตัวร้อนผ่าวผ่านเนื้อผ้า พลางเหลือบตามองสีหน้าทุรนทุรายไปด้วย
สีหน้าของเลียมทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์
ทว่ามันก็เท่านั้น เขาไม่มีวันตบะแตก ความอดทนเจย์เดนเป็นเลิศเพราะผ่านการฝึกเคี่ยวกรำมาอย่างยากลำบาก ซึ่งนั่นทำให้เขากลายมาเป็นเขาเช่นทุกวันนี้
เจย์เดนจะทรมานเหยื่อจนกว่ามันจะเปิดปากบอกความจริง สายตาและท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เขาแน่ใจว่าเลียมต้องรู้อะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่เขาจะต้องได้ยินจากปากนั่น
“บอกความจริงมาแล้วฉันจะช่วย”
ปลายนิ้วร้อนไล้เกลี่ยความแข็งขืนใต้เนื้อผ้าจนเลียมสะดุ้งเฮือก สีหน้าทุกข์ทรมานยิ่งทำให้เขาได้ใจ เกี่ยวขอบชั้นในลงจนส่วนอ่อนไหวดีดผึงออกมาสัมผัสอากาศภายนอก
“ไม่รู้...แฮ่ก ไม่รู้โว้ย!”
คิ้วเข้มกระตุกด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำท่าทีหยาบกระด้างใส่ เขาจึงลงโทษด้วยการกอบกุมส่วนนั้นเอาไว้ แล้วออกแรงบีบจนเจ้าของของมันต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“ปากแข็ง” เจย์เดนบีบสันกรามได้รูปอย่างแรงเมื่อคนดื้อดึงไม่ยอมคายความจริงออกมาเสียที
ถ้าเช่นนั้นก็เลิกเล่นกันเพียงเท่านี้
เจย์เดนก้มลงไปหยิบมีดที่หล่นอยู่ข้างเตียงขึ้นมาถือในมือ ตั้งท่าพร้อมที่จะจ้วงแทง อีกทั้งยังสบสายตาสั่นระริกของคนใต้ร่างอย่างไม่ลดละ แล้วเลียมจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนใจดี ร่างเล็กกว่ากำลังกระสับกระส่ายไปมาด้วยความทรมานจากฤทธิ์ยา เหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผากจนดูน่าสงสาร
แต่เขาไม่มีความรู้สึกพรรค์นั้นหรอก
“ไม่พูดก็ไม่พูด”
“...”
“เพราะยังไงซะศพมันก็พูดไม่ได้”
“...!”
ริมฝีปากสีเรื่อฉีกออกจากกันให้ดูเหมือนคนคลี่ยิ้ม เลียมตื่นกลัวจนหน้าถอดสี ยิ่งกลัวเขาก็ยิ่งชอบ ยิ่งพยายามซ่อนความกลัวและทำเป็นเก่งแค่ไหน เจย์เดนก็ยิ่งอยากจะให้เลียมเผยมันออกมามากเท่านั้น
เลียมเป็นแค่เด็กมหา’ ลัยธรรมดาๆ ทั่วไป มันก็ไม่แปลกที่เขาจะกลัวเรื่องความเป็นความตาย แต่การที่เขาแสร้งทำทีเป็นเก่งและไม่กลัวเกรงมันยิ่งทำให้คนเลือดเย็นอย่างเจย์เดนรู้สึกอยากเอาชนะ
“กลัวรึไง”
ชายหนุ่มเลียคราบเลือดที่ติดอยู่บนปลายมีดช้าๆ การกระทำเหมือนฆาตกรโรคจิตยังผลให้เลียมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ไม่ยอมร้อง เขากัดปากตัวเองแน่นราวกับจะข่มกลั้นความกลัวเอาไว้ภายใน ซึ่งนั่นทำให้เจย์เดนชื่นชมในตัวเด็กหนุ่มไม่น้อย เป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งแต่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ไม่แหกปากร้องของชีวิตก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว
ทว่าเจย์เดนเสียเวลากับเรื่องไร้สาระมามากเกินพอ
“อะ อาร์มันโด้..”
คำหนึ่งที่ออกมาจากกลีบปากสั่นเทาทำให้ชายหนุ่มยั้งมือ ปลายมีดซึ่งกำลังจรดกดอยู่บนแผ่นอกตรงกับตำแหน่งหัวใจอย่างเตรียมจะทะลวงลงไปทุกเมื่อถูกหยุดชะงักเพราะคำๆ นั้น
“และคุณเป็นคนฆ่าเอเนล...ผม ผมรู้เท่านี้ แฮ่ก..”
“แล้วรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร” เจย์เดนพูดลองเชิง สายตาก็จ้องจับพิรุธของอีกฝ่ายไปด้วย
อาร์มันโด้...ทำไมเลียมถึงรู้จักคำนี้?
“มะ ไม่รู้ ปล่อยผมไป แล้วผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีกเลย อื้อ...และคุณก็ต้องเลิกกับเพื่อนผมด้วย”
ปากพูดต่อรอง ทว่าร่างกายกลับบิดเร้าใต้ร่างใหญ่ไปมา ทำให้เขารู้ว่าเลียมกำลังไม่ไหว ส่วนฉ่ำน้ำบวมพองจนน่ากลัวว่ามันจะระเบิด วงหน้าคมโน้มลงงับใบหูแดงเรื่อพร้อมกระซิบเสียงแผ่ว
“ฉันช่วยเอาไหม”
“อื้อ ชะ ช่วยที...”
เจย์เดนพอใจกับความกล้าและตรงไปตรงมาของเลียม ไม่เสแสร้งแกล้งเหนียมอายอย่างที่ใครหลายคนเป็น ต้องการก็บอกว่าต้องการ และในกรณีของตัวเขานั้นไม่เรียกว่าตอแหล แต่เรียกว่า ‘ตบตา’
ชายหนุ่มใช้ฝ่ามือนวดคลึงความน่ารักของเลียม อีกทั้งยังรูดรั้งหนักหน่วงตามความต้องการของอีกฝ่าย ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ส่วนปลายจนสะโพกแน่นอยู่ไม่ติดเตียง ผวาเข้าหามืออุ่นอย่างไม่ยอมห่าง ยามใดที่ใกล้จะถึงฝั่งฝัน มันจะถูกลดระดับความเร็วลงมาเป็นเนิบนาบ ขยับช้าสลับเร็วจนน้ำใสไหลปริ่มหางตาเลียมด้วยความทรมาน เขาจึงปล่อยให้คนทรมานได้อย่างที่ต้องการ
“แฮ่ก...ฮื่อ ไม่ ไม่พอ...อยากอีกแล้ว”
รอยแดงที่ข้อมือและต้นขาเพราะถูกเชือกรูดรั้งช่างน่ามอง แผ่นอกและหน้าท้องแบนราบพอมีกล้ามเนื้อเต็มไปด้วยรอยจ้ำและคราบเลือดซึ่งไหลออกมาจากปากแผลที่ถูกกรีดไว้ มันดูอีโรติกและเรียกอารมณ์ให้โหมกระพือได้ไม่น้อย
“แน่นอน ฉันจะช่วยเธอมากกว่านี้”
“อื้อ...”
“แต่ก็จำไว้ด้วย ว่าเธอเป็นคนร้องขอเอง”
เจย์เดนแหวกชั้นในตัวบางจนเผยให้เห็นรอยจีบสีกุหลาบซึ่งกำลังปิดสนิท เลียมเป็นคนผิวขาว ทว่าเขาเป็นคนลุยๆ ไม่ห่วงผิวพรรณยามเจอแดด ทำให้กลายเป็นคนผิวสองสี หากแต่พื้นที่ใต้ร่มผ้ามันกลับขาวอมชมพูน่ามอง ตัดกับผิวคล้ำแดดนอกร่มผ้าจนดูน่าขย้ำ
“เฮือก!” ปลายนิ้วโป้งแตะลงบนรอยจีบเบาๆ ก่อนจะบดคลึงหมุนวนเป็นวงกลมจนคนบนเตียงสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ตรงนี้จะทำให้เธออิ่ม”
นิ้วร้อนผลุบหายเข้าไปในความอ่อนนุ่มจนสุดความยาว ก่อนจะขยับเข้าออกเนิบนาบเพราะความฝืดเคือง แม้จะมีน้ำรักที่เลียมปล่อยมาก่อนหน้านี้ช่วยอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้ต่างจากการที่ไม่ได้ใช้ตัวช่วยมากนัก นาทีที้ดูเหมือนว่าร่างกายจะอยู่เหนือการควบคุม เอวไม่หนาไม่บางของเลียมขยับสู้นิ้วมือเขาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมันบิดคว้านไปทั่ว
“ฝืดก็ไม่เจ็บรึไง”
“สะ เสียว”
กึด
เจย์เดนกัดฟันแน่นจนได้ยินเสียงมันเสียดสีกันและกัน คนห่ามห้าวอย่างเลียมกำลังบอกกับเขาว่าเสียวด้วยสีหน้าสุดแสนจะยั่วยวน ทำเอาเขาปวดหนึบที่กลางกายขึ้นมา และความใหญ่โตก็โป่งพองจนคับกางเกง บ่งบอกถึงความทรมานอันมากล้น
ไอ้เด็กเวรนี่มันเอ็กซ์กว่าที่คิด
“อ๊ะ อะ ตะ ตรงนั้น...หยุดสัด หยุด!”
ปลายนิ้วยาวไปกระทบบางจุดภายในเข้าอย่างจัง เลียมแสดงสีหน้าเสียดเสียวเกินจะรับไหวพลางกระถดสะโพกหนีเรียวนิ้วเท่าที่จะทำได้ ทว่าเจย์เดนไม่ยอมง่ายๆ เลียมทำให้เขาทรมานได้ เขาก็ทำให้เลียมทรมานได้เช่นกัน
เด็กหนุ่มร้องครางออกมาด้วยความตกใจและกระสันซ่าน พยายามปฏิเสธเมื่อเรียวนิ้วกำลังบุกรุกเข้าหาความชุ่มฉ่ำมากขึ้นเรื่อยๆ เย้าแหย่ลึกซึ้งให้ร่างเล็กเสียวซ่านแทบขาดใจ ได้แต่นอนทุรนทุรายอย่างทำอะไรไม่ได้เนื่องจากร่างกายถูกพันธนาการไว้แน่นหนา หน้าท้องขาวหดเกร็ง ปากร้องครางเสียงหลงเพราะความทรมานที่ถูกคนตรงหน้ามอบให้
เลียมนอนหอบครางและหอบหายใจรวยรินให้เจย์เดนได้แทรกปลายนิ้วได้ลึกๆ ตามใจชอบ ฝ่ามืออีกข้างก็ไม่ให้ว่างเว้น จัดการกอบกุมส่วนอ่อนไหวชูชันเอาไว้แล้วขยับรูดรั้งปรนเปรอคนที่อารมณ์กำลังพุ่งทะยานขึ้นสูงเรื่อยๆ
น้ำรักอันน้อยนิดถูกปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สองจนเปรอะฝ่ามือใหญ่ ตัวเกร็งกระตุกรุนแรง ขนตายาวเปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำตาจนดูน่าสงสาร คนโรคจิตแลบปลายลิ้นเลียชิมรสชาติของเลียมต่อหน้าต่อหน้าเขา ก่อนจะปลดซิปกางเกงตัวเองอย่างใจเย็น
“คราวนี้จะช่วยมากกว่าเดิม”
อ๊อด! อ๊อด!
ทว่ายังไม่ทันจะได้ลงมือทำอะไร เสียงกริ่งหน้าห้องกลับดังขัดขึ้นเสียก่อน เจย์เดนรู้ดีว่าใครมาหาเขา มีคนในวงการบันเทิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ เพราะหากเป็น ‘เหล่าลูกน้อง’ ย่อมไม่กล้าบุกรุกมากะทันหัน แต่ต้องโทรมาแจ้งล่วงหน้า
ซึ่งนี่ไม่ใช่ที่อยู่จริงๆ ของเขา มันเป็นเพียงห้องเก็บอาวุธและใช้ทำลายหลักฐานก็เท่านั้น
ชายหนุ่มคว้ามีดมาตัดเชือกที่ผูกแขนและขาของเลียมออกอย่างว่องไว ตามด้วยเข็มฉีดยาซึ่งบรรจุยานอนหลับเอาไว้ เขาทิ่มมันลงไปยังข้อพับแขนตรงกับเส้นเลือดด้วยความชำนาญ เจย์เดนซ่อนมันไว้ที่ลิ้นชักข้างหัวเตียงเผื่อยามฉุกเฉิน และคราวนี้เขาก็ได้ใช้มันแล้ว โดยไม่ลืมเขียนโพสอิทแปะทิ้งไว้ให้เลียมได้อ่านยามฟื้นคืนสติ
เมื่อจัดการทุกอย่างด้วยความรวดเร็วฉับไว จึงรีบลุกไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน
“คุณกลับแล้วทำไมไม่บอกผมเลย”
น่ารำคาญ...ทว่าตอนนี้เขาต้องอดทนเอาไว้เพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่แท้จริง
และเป้าหมายจริงๆ ของเจย์เดนไม่ใช่เลียมมาตั้งแต่แรก
“คืนนี้ไปบ้านคุณได้ไหม เอซ”
_____________________
เอาล่ะฮะท่านผู้ชมฮะ ปมลึกลับมันมาละฮะเป้าหมายพี่เจย์ไม่ใช่ไอน้อนว่าซั่นน แต่มาเล่นน้องเค้าซะยับเลยอิพ่อ!
TBC.
PS.รีไรท์เรียบร้อยแล้วนะคะ
Comments (0)