02

All men naturally desire to know

 

 

หลายวันแล้วที่เลียมไม่ได้เจอเอซและเจย์เดนอีก เขาก็ทำงานพาร์ตไทม์เรียนเล่นไปตามปกติ ทว่าช่วงนี้เขาได้คุยกับเพื่อนรักน้อยลงจนน่ากังวล โทรไปหาทีไรฝ่ายนั้นมักจะบอกว่าไม่ว่างอยู่ตลอด ได้คุยกันแค่ชั่วครู่แล้วก็วางสาย นัดเจอไม่เคยได้เจอ

และที่ทำให้เลียมเป็นห่วงมากที่สุด เห็นทีจะเป็นรูปคู่ของเจย์เดนกับเอซ ซึ่งคนร้ายกาจเป็นฝ่ายอัปเดตลงอินสตากรัม!

แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตและแฟนคลับบางส่วนที่ชื่นชอบเจย์เดนฮือฮากันยกใหญ่เมื่อเห็นเจ้าตัวเปิดตัวแฟนหนุ่มคนใหม่ จากที่เคยเป็นคนทำงานอยู่เบื้องหลังไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตน บัดนี้กลับมีสายตาหลายคู่จับจ้องเอซขึ้นมาบ้างแล้ว เลียมกลัวว่าเรื่องพวกนี้มันจะกระทบถึงความเป็นอยู่ของเอซจึงอดห่วงไม่ได้

รูปที่เจย์เดนโพสต์ลงนั้นมักจะเป็นรูปที่ทั้งคู่ดูกระหนุงกระหนิงใกล้ชิดกัน อยู่ตามร้านอาหารบ้าง ร้านกาแฟบ้าง โรงหนังบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นทำให้เลียมคิดว่าเอซกำลังอินเลิฟไปกับความรักจอมปลอมที่เจย์เดนมอบให้ ทั้งๆ ที่เขาชวนไปไหนก็มักบอกปัดว่างานยุ่ง แต่กลับมีเวลาไปเดตกับแฟนได้ ทว่าคิดไปได้ไม่เท่าไรก็มีเสียงเรียกเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

‘No number’

ไม่แสดงหมายเลขงั้นหรือ?

“เลียมครับ”

เด็กหนุ่มรีบกดรับสายทันทีด้วยความสงสัย หมู่นี้เขารู้สึกเหมือนโดนใครจับตาดูอยู่ตลอดแต่ก็ไม่แน่ใจนัก เพราะไม่รู้ว่าเครียดเรื่องเจย์เดนจนเก็บไปคิดมากเองหรือเปล่า

ทุกครั้งที่เลียมรู้สึกเหมือนมีคนตาม แต่พอหันไปอีกทีก็พบเพียงความว่างเปล่า

[เสาร์นี้ที่ผับฟ็อกซี่มีปาร์ตี้ ขอเชิญคุณมาร่วมงาน]

“ปาร์ตี้? เชิญร่วมงานทางโทรศัพท์เนี่ยนะ”

เลียมทวนถามด้วยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ต้องมีใครกำลังเล่นตลกกับเขาแน่ๆ อีกทั้งเสียงของปลายสายยังฟังดูไม่รู้ว่าเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชาย ราวกับถูกพูดใส่เครื่องแปลงเสียงให้มันออกมาตลกอย่างไรอย่างนั้น

[ถ้าคุณไม่ไป ศีรษะของคุณเอซจะถูกส่งไปให้ในเวลาเที่ยงคืน]

!!!

ขณะที่เลียมกำลังอึ้งกับคำขู่อันแสนน่ากลัว พลันมีข้อความฉบับหนึ่งส่งเข้ามา มันคือรูปถ่ายของเพื่อนรักเขา ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของใครสักคน ผนังห้องในรูปเป็นสีดำ ซึ่งผนังห้องของเอซที่เลียมจำได้มันเป็นสีขาว!

“จะเล่นตลกอะไร!?” เลียมกัดฟันดังกรอดด้วยความเครียด เจย์เดนงั้นสิ

ถ้าเอาเอซมาขู่ มันต้องเป็นเขาแน่ๆ !

[ขอแค่คำตอบ ไม่ หรือตกลง]

คนโดนข่มขู่กัดปากแน่น เดินวนรอบห้องเหมือนหนูติดจั่นอย่างอยู่ไม่สุข

[รับทราบ คืนนี้เวลาเที่ยงคืนตรง เตรียมตัวรับ...]

“ฉันจะไป!”

เลียมบอกเพียงแค่นั้น เมื่อฝ่ายนั้นได้รับคำตอบที่ต้องการสายก็ถูกตัดไป เขากุมมือเข้าหากันแน่นด้วยความกลัวผสมปนเปกับความเครียดเกร็ง ทว่าจะพูดว่ากลัวก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่จะบอกว่าไม่กลัวมันก็ไม่ใช่ มันเป็นเพียงความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ จนกว่าจะได้พบเจอกับความน่ากลัวของเจย์เดนจริงๆ นั่นล่ะ เขาถึงจะรู้ได้

เจย์เดนคิดจะทำอะไร เลียมเดาทางไม่ได้เลย

 

 

Foxy Pub

เลียมเดินแทรกผู้คนมากมายเข้าไปท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่ม หนุ่มสาวทั้งหลายต่างพากันโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ยามแอลกอฮอล์เข้าปากก็ลืมสิ้นซึ่งสติสัมปชัญญะ ต่างเมามายปล่อยตัวปล่อยใจให้ไหลไปตามเสียงเพลง

ทว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มแก่นเซี้ยวกลับไม่ได้มีความสนุกสนานเฉกเช่นทุกคนในผับแห่งนี้เลย มันฉายแววกังวลและความเครียดออกมาให้เห็นชัดเจนจนเจ้าตัวยังรู้สึกได้ สายตาสอดส่องหาตัวบุคคลที่เขาคิดว่าน่าจะอยู่ในงานนี้

ซึ่งก็คือเจย์เดน...เป้าหมายของเขา

เพราะคนที่ทำเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้แน่

แต่แล้วสายตากลับเลื่อนไปพบคนที่ไม่คิดว่าจะอยู่ในงานนี้ด้วยอย่างบังเอิญ เลียมชาวาบไปทั้งตัวเมื่อเห็นเอซนั่งดื่มอยู่กับเพื่อนร่วมงาน และข้างๆ กันนั้นคือเจย์เดน ปีศาจในร่างมนุษย์ที่เขาแสนจะชังน้ำหน้า

ทำไมเอซต้องมา ฝ่ายนั้นคิดจะใช้เพื่อนรักของเขาข่มขู่กันจริงๆ ใช่ไหม?

หน้ากากลวงโลกที่เจย์เดนสวมใส่อยู่ทำให้เลียมแทบจะอ้วกทุกครั้งที่เห็น อีกฝ่ายทำทีเป็นยิ้มแย้มราวกับเป็นคนอัธยาศัยดี อีกทั้งยังคอยเอาอกเอาใจเอซในแบบที่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะรู้ว่านั่นเป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำ

คนโดนนินทาอยู่ในใจหันมาสบตากับเขาอย่างบังเอิญ ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบบางอย่างกับหนุ่มแว่นก่อนจะเดินมาหาเขา เจย์เดนคงเป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ แต่เลียมไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องทำให้เรื่องมันลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ด้วย ทั้งเบอร์ที่ไม่แสดงหมายเลข ทั้งเสียงดัดที่ไม่ใช่เสียงจริง

เจย์เดนทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เดินมาหาเรื่องเขาตรงๆ ยังจะดีเสียกว่า

เลียมคิดว่าเป้าหมายของชายอันตรายคนนี้คือเขา ไม่ใช่เอซ และดูเหมือนว่าเขาจะไปกระตุกหนวดเสือเข้าจริงๆ เสียแล้ว อีกฝ่ายตามราวีอย่างไม่ยอมเลิกรา เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเจย์เดนถึงได้ตามจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้

เพียงแค่เรื่องของเอเนลงั้นหรือ?

“ถ้าไม่ตามฉันมาดีๆ ศพต่อไปอาจเป็นเพื่อนรักของเธอ”

เด็กหนุ่มเหงื่อตกเมื่อได้พบกับความร้ายกาจของคนตรงหน้า แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงสีและมีผู้คนมากมายรายล้อมรอบตัวพวกเขาทั้งคู่อยู่ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ความกลัวลดน้อยลงเลย

ปากเขายิ้ม หากแต่ดวงตากลับมีแววดุดันที่บอกได้ว่าเขาทำจริง

และหากเลียมยังดื้อดึงต่อไป เอซอาจจะต้องเป็นอันตราย

“นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอปฏิเสธ”

เจย์เดนพูดกลั้วหัวเราะ ยกแก้วค็อกเทลชูให้คนอื่นที่มองมาด้วยความสนใจตามแบบฉบับเจ้าพ่อแฟชั่นขี้เล่น แต่ไม่ใช่กับเลียมที่กำลังยืนกำมือแน่นด้วยความกลัวและคับแค้นใจ

“หนึ่ง”

“...”

“สอง”

เลียมเหลือบตามองเอซที่กำลังนั่งดื่มกับเพื่อนร่วมงาน สีหน้าอีกฝ่ายดูมีความสุขจนเขาไม่อยากทำลายสีหน้าแบบนั้น แต่สักวันเขาจะต้องบอกความจริงเกี่ยวกับเจย์เดนให้ได้ สักวันที่มีหลักฐานมากพอ!

“สะ...”

“ผมตกลง!”

“หึ”

“แต่คุณต้องรับปากว่าจะไม่ทำอะไรเอซ” เลียมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าเข้มอย่างหนักแน่น

“ฉันรับปาก”

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าตัวเองต้องเผชิญกับอะไรก็ตามที

หลังจากตกลงกันเสร็จเจย์เดนก็สั่งให้เขาไปรอที่รถ ซึ่งรอมาได้ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าฝ่ายนั้นจะมาอย่างที่บอก เลียมอยากซิ่งบิ๊กไบค์ลูกรักกลับบ้านใจจะขาด แต่หากเขาทำแบบนั้นเอซคงแย่

โธ่เว้ย! ทำไมเขาถึงซวยขนาดนี้ รู้อย่างนี้ไม่น่าไปยั่วโมโหอีกฝ่ายเสียตั้งแต่แรก แต่เห็นกันโต้งๆ ว่าเจย์เดนตอแหลขนาดนั้น เลียมก็อดที่จะกระแนะกระแหนไม่ได้อยู่ดี เขาล่ะเกลียดนักไอ้พวกลวงโลก!

“รอนานไหม” คนตายยากส่งเสียงลอยนำมาก่อนตัว

“ยืนรอจนขาจะแข็งละ” เลียมอดประชดประชันไม่ได้ ไม่รู้เป็นอะไร แค่เห็นหน้าเจย์เดนเขาก็หงุดหงิดจะแย่แล้ว

เจย์เดนไม่พูดอะไรอีก เขาทำเพียงแค่โบกมือเป็นเชิงให้ขึ้นรถ ก่อนจะขับออกไปโดยที่เลียมไม่รู้จุดหมายปลายทาง และไม่คิดจะถามด้วย

ทว่าทันทีที่รถมาจอดยังลานจอดรถของคอนโดหรูทำให้เลียมเริ่มคิดหนัก ฝ่ายนั้นพาเขามาคอนโด เป็นไปได้ว่าอาจจะอยากมีอะไรกับเขา?

“มาที่นี่ทำไม” ปากไปไวกว่าความคิด

“เดี๋ยวก็รู้” เสียงเย็นชืดกับสีหน้านิ่งสนิทของเจย์เดนในตอนนี้ทำเอาเลียมขนลุก

“แม่ง”

คนเลือดร้อนสบถด้วยความหัวเสีย วันนี้เขาไม่มีอารมณ์จะแต่งหล่อ ชุดที่ใส่มาก็เป็นเพียงเสื้อกล้ามตัวบางทับด้วยแจ็กเก็ตหนังสีดำ กางเกงยีนรัดรูปกับรองเท้าผ้าใบแค่นั้น แล้วขนาดตัวของเลียมกับของเจย์เดนก็ต่างกันลิบลับ เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบเห็นๆ หากมีเรื่องกันขึ้นมามีหวังได้ตายคาฝ่าเท้าเจย์เดนแน่ๆ

หรือไม่ก็ตายคาเตียง...

ซึ่งอย่างหลังมันน่ากลัวกว่าเยอะ

เลียมเดินตามเจย์เดนมาเรื่อยๆ จนถึงห้องริมสุดของชั้นที่ยี่สิบ มันไม่ใช่ชั้นบนสุดแต่ก็แพงเอาเรื่อง สังเกตจากความโอ่อ่าตามโถงทางเดินทำให้เขารู้ว่าเจย์เดนมีอันจะกิน

“เข้าไป”

สองขาไม่ยอมก้าวตามคำสั่ง เลียมลังเลที่จะเข้าไปในห้องมืดสนิท เพราะไม่รู้เลยว่าข้างในนั้นมันมีอะไรรออยู่บ้าง

“เลียม”

เสียงเข้มกดต่ำ ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินเข้าไป ใจเต้นแรงด้วยความลุ้นระทึก ทันใดนั้นห้องก็สว่างโร่เพราะเจย์เดนเปิดไฟ

“ฉันอาบน้ำก่อน”

พูดจบแผ่นหลังกว้างก็หายลับเข้าห้องน้ำไป เลียมจึงได้ทีเดินสำรวจ อาจมีหลักฐานสักชิ้นก็ได้ที่บ่งบอกว่าเจย์เดนเป็นฆาตกร และดูจากสายตาท่าทาง เขาคิดว่าเจย์เดนน่าจะเคยฆ่าคน อย่างน้อยก็เอเนล

เลียมเดินดูรอบห้องแต่ก็ไม่พบอะไรเลย มันไม่เหมือนห้องที่มีคนอยู่เลยด้วยซ้ำ เขาเตะถังขยะแสตนเลสสีเงินที่เหมือนถูกขัดจนเงาวับให้มันล้มระเนระนาดเพื่อระบายความหงุดหงิด

เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ก็เหมือนคอนโดหรูทั่วๆ ไป ไม่หวือหวา ดูเรียบง่าย ไม่สมกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นรสนิยมดีเลยสักนิด เลียมเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนสายตาไปหยุดยังประตูบานหนึ่ง ซึ่งตัวบานประตูเป็นสีดำต่างจากบานอื่น ดูเหมือนห้องที่ถูกต่อเติมขึ้นเอง

เขาตัดสินใจหมุนลูกบิดเข้าไปในนั้นโดยระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงแล้วปิดมันลงทันที สายตาปรับไม่ทันความมืดจนต้องใช้มือคลำหาสวิตช์ไฟบริเวณผนังข้างประตู

พรึ่บ!

ทว่าสิ่งที่เห็นทั้งหมดภายในห้องนี้ทำเอาหัวใจเขาแทบหยุดเต้น

พระเจ้า...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!

ภาพที่เห็นคือฝาผนังสีดำถูกเจาะด้วยตะขอเหล็ก โดยมีด้ามมีดสีเงินแขวนเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ไล่ตามขนาดจากเล็กไปใหญ่ จากสั้นไปยาว รวมถึงปืนที่วางอยู่ในตู้กระจกบานใสตรงกลางห้อง ซึ่งมีทั้งปืนยาว ปืนสั้น หรือไรเฟิลแบบที่สไนเปอร์ซุ่มยิงในหนังบู๊แอ็คชั่นเลือกใช้ เชือกไนลอนเส้นใหญ่ม้วนขดแขวนอยู่เช่นเดียวกันกับมีดนานาขนาด

นี่เขาหลุดเข้ามาในหนังฆาตกรรมหรือเปล่า!?

ถุงมือสีดำนั่นก็ด้วย มันเหมือนห้องที่ใช้เป็นคลังอาวุธ แต่ที่ทำให้เลียมสยองเห็นทีจะเป็นกะละมังแสตนเลสใส่น้ำสีแดงฉาน กลิ่นคาวเหล็กฉุนตีขึ้นจมูก ซึ่งไม่บอกก็รู้ว่ามันคือน้ำผสมเลือด ดูเหมือนว่าเจย์เดนจะแช่มีดเปื้อนเลือดไว้ในนั้น

และเลือดนั่นก็คงเป็นของเอเนล เหยื่อรายล่าสุด

เจย์เดนเป็นฆาตกรจริงๆ ใช่ไหม!?

เลียมสืบเท้าเข้าไปใกล้มีดที่แขวนอยู่ พยายามใช้สายตาเพ่งดูตัวอักษรเล็กๆ ที่ถูกสลักอยู่ตรงด้าม หากไม่สังเกตให้ดีก็คงไม่เห็น มันถูกสลักเป็นตัวเอียงว่า ‘Armando’ ให้อารมณ์เหมือนโค้ดลับอะไรเทือกนั้น

ทว่านั่นไม่น่าตกใจเท่ากล่องไม้สี่เหลี่ยมที่วางอยู่ตรงมุมห้อง มันบรรจุผ้าเช็ดหน้าสีดำคุ้นตา เลียมไม่รอช้า รีบย่อตัวลงไปรื้อดู ก่อนจะพบว่ามันถูกพับซ้อนกันจนเต็มกล่อง

มันเป็นของเจย์เดนจริงๆ

อันตราย สัญชาติญาณของเขากำลังร้องบอกว่าเจย์เดนอันตรายมาก!

แอ๊ด...

ฉิบหาย! ไม่ต้องหันไปดูเลียมก็รู้ว่าเสียงอะไร

“กะว่าจะพาเข้ามาพอดี”

“พาเข้ามาทำไม”

เลียมหันไปถามด้วยความสงสัย อีกทั้งยังใช้สายตาแบบรู้เท่าทันมองอีกฝ่ายกลับไปจนเจย์เดนขมวดคิ้วแน่น ร่างกำยำมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันกายปกปิดช่วงล่างไว้ หยดน้ำแพรวพราวเกาะบนแผงอกล่ำ ผมเปียกสีเงินปรกหน้าจนแทบจะกลืนไปกับสีผิว ตัดกับดวงตาสีฟ้าเข้มจัด

เขาหล่อและมีเสน่ห์มาก แต่ไม่ใช่กับเลียมที่จะตกหลุมพรางแบบนี้แน่ๆ

“ทรมานมั้ง”

แววตาคมกริบพูดทีเล่นทีจริง เลียมแอบขนลุก ทว่าก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกกลัว ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงได้ใจ

“กลั๊วกลัวว่ะ” คนปากเก่งใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างกวนๆ ถึงจะกลัวแต่ก็ใช่ว่าจะยอม ขู่มาเขาเกรียนกลับล่ะคอยดู

เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่กระพริบตา ร่างใหญ่ซึ่งมีเพียงผ้าผืนเดียวติดกายพุ่งเข้าจู่โจมแบบไม่ให้เหยื่อได้ตั้งตัว แผ่นหลังเลียมกระแทกเข้ากับผนังสีดำสนิท มีดสั้นคมกริบที่อีกฝ่ายฉวยหยิบไปตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้ถูกจ่อชิดติดคอหอยเขาจนน่าหวาดเสียว เลียมรู้สึกแสบเล็กน้อย อาจเพราะความคมของมัน เพียงแค่จี้ก็บาดจนได้เลือด

เลียมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ สายตาเหลือบซ้ายแลขวาเพื่อหาทางรอด แต่มองไปทางไหนก็เห็นแต่มีดที่ถูกแขวนอยู่ใกล้หน้า เพราะเจย์เดนใช้มือใหญ่อีกข้างกดหน้าผากเขาให้แนบไปกับกำแพง

“พูดความจริงมา”

“ความจริงอะไร”

เลียมพยายามอย่างมากที่จะควบคุมเสียงให้เป็นปกติ หนีก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนร้ายกาจจะเบนเป้าไปที่เอซแทน ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

“รู้อะไร” เสียงเย็นกดต่ำจนน่ากลัว แต่เขาไม่รู้อะไรนี่

ทว่าหากให้อีกฝ่ายคิดว่าเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ดีไม่น้อย ไม่แน่ว่าอาจจะได้รู้ความลับที่เจย์เดนดูหวงแหนเข้าจริงๆ ก็ได้ เพราะหากไม่สำคัญคงไม่ตามราวีเขาขนาดนี้แน่

“ถึงตาย...ก็ไม่บอก!”

เลียมตะคอกกลับไปเหมือนไม่กลัวเกรง ทั้งที่จริงแล้วเขานึกหวั่นใจไม่น้อย กลัวว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป ดูจากรูปการณ์และของในห้องนี้ เจย์เดนฆ่าคนแน่ๆ !

“เฮ้ย จะทำอะไรวะ!? ปล่อยนะโว้ย!”

จู่ๆ คนตัวใหญ่กว่าก็จับเขาพาดบ่าจนหัวห้อยต่องแต่ง ทั้งๆ ที่ตัวเขาก็ไม่ได้เบา แต่อีกฝ่ายกลับจับเขายกได้อย่างง่ายดายราวยกหมอนสักใบ เลียมดีดดิ้นสะบัดตัวแรงๆ แกว่งขาตวัดเตะอัดร่างกายหนั่นแน่นสะเปะสะปะ แต่เจย์เดนใช้มือรวบตรึงร่างเขาไว้กับไหล่หนาทำให้ดิ้นไม่หลุด พละกำลังมหาศาลของอีกฝ่ายทำให้เลียมแปลกใจ ไหนจะวันนั้นที่ร้านกาแฟ

ที่เขาบีบแก้วเซรามิคอย่างหนานั่นแตกได้

เจย์เดนเป็นใครกันแน่ จะว่าเป็นฆาตกรธรรมดาก็ไม่น่าใช่

ชายหนุ่มคว้าเชือกไนลอนติดมือมาด้วย ก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกจากห้องนี้โดยไม่ลืมที่จะปิดประตู

“อุ้ก!”

เจย์เดนโยนร่างบนบ่าลงเตียงนุ่ม ทว่ามันก็แรงจนทำให้จุกได้เหมือนกัน อาศัยจังหวะที่เลียมขยับตัวไม่ได้ตรึงมือทั้งสองข้างไว้ด้วยเชือกไนลอนเส้นหยาบ ข้างซ้ายถูกผูกโยงเข้ากับเสาของเตียง ด้านขวาถูกผูกตรึงกับเสาอีกข้างเช่นกัน ซึ่งเชือกโดนตัดให้มีความยาวพอดีจนเป็นเสมือนโซ่ที่ใช้ผูกข้อมือเลียมไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้ นอกจากถูกตอกตรึงให้อยู่กับที่อย่างจำยอม

“ไอ้เหี้ย! ปล่อยสิสัด!!”

ข้อเท้าทั้งสองข้างก็ไม่ต่าง ไม่ว่าเขาจะถีบสะบัดเท่าไร ร่างใหญ่ที่ปลายเตียงก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

สภาพเลียมตอนนี้คือแขนอ้าเหยียด พอๆ กับขาที่ถูกเชือกดึงรั้งจนต้องอ้าออกกว้างอย่างน่าอาย แม้ตอนนี้จะมีอาภรณ์อยู่ครบชิ้น แต่เขารู้ดีว่าเจย์เดนทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร

“กลัวรึไง”

ร่างสูงขึ้นคร่อมทาบทับร่างที่ถูกพันธนาการไว้ทันที พลางโน้มหน้าลงกระซิบข้างหูขาว แล้วตามด้วยการขบกัดติ่งเนื้อจนคนโดนกระทำเจ็บจี๊ดขึ้นสมอง

“แม่งเอ๊ย! ไม่ได้กลัว แต่ไม่ชอบ!”

เลียมโต้ตอบพลางส่งสายตาที่แสดงออกถึงความรังเกียจไปให้ เจย์เดนกลับตอบสนองด้วยการยักไหล่ สีหน้านิ่งสนิทกับแววตายากจะหยั่งถึงไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอะไรเลยสักนิด

“เดี๋ยวก็ชอบ”

“...”

“ฉันจะทำจนกว่าเธอจะพูด”

“...”

“ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธออาจจะร้องครวญครางมากกว่าจะพูดให้เป็นภาษาก็ตาม”

“มึงมันเหี้ยไง! ตอแหลเก่งมากเลยรู้ตัวไหม”

“รู้”

เจย์เดนตอบด้วยสีหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นิ้วร้อนไล้ไปมาบนเสื้อกล้ามด้านในจนเลียมต้องกระถดตัวหนี

มือใหญ่คว้ามีดที่ถูกเขาหยิบติดมาด้วยลากไล้ขึ้นลงตรงหน้าท้องแข็ง เลียมหายใจไม่คล่องคอด้วยกลัวว่ามันจะบาดทะลุผ่านเนื้อผ้า

ฉึบ!

“รอยสักเธอ...มันน่ากรีดแล้วเลียชิมเลือดชะมัด”

!!!

ถ้อยคำโรคจิตถูกพ่นออกมาจากปากสวยได้รูป เสื้อกล้ามเนื้อดีสีดำถูกมีดกรีดให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นแผ่นอกขาวที่มีรอยสักรูปจิ้งจอกและหน้าท้องพอมีกล้ามเนื้อให้ปรากฏแก่สายตา ดูท่าว่าแจ็กเก็ตหนังสีดำที่เลียมสวมอยู่มันจะไม่เป็นปัญหาให้เจย์เดนรำคาญแม้เพียงนิด!

ผู้ชายตรงหน้าอันตรายเกินไปแล้ว...

 

 

_____________________

อะ ใครเค้าสอบสวนกันอย่างนี้อะคะคุณพี่ งงมาก งงไม่ไหวว อยากกินน้องแต่หาข้ออ้างเก่งจริ๊งง ​

TBC.

PS.รีไรท์ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยค่าheart