MOUNTAINS IN BLUE WINTER III

 

 

            เมื่อพร้อมมาถึงที่นั่งก็ถูกจับจองด้วยร่างสูงชะลูดหลายคนแล้ว บนโต๊ะมีชามข้าวต้มวางอยู่หน้าแต่ละคน ตรงกลางเป็นถาดเครื่องปรุง ไข่ลวก และอาหารหนักๆเพิ่มเติมสำหรับคุณแฟนบางคนที่กินจุ ข้าวต้มของโปรดทำให้ดวงตาพร้อมเป็นประกายระยับ เดินล่องลอยตามกลิ่นหอมๆไปเกาะที่เคาน์เตอร์ครัว 

 

            “ว้าว วันนี้พี่เร็นลงครัวหรอครับ”

 

            เร็นหันหลังมาวางข้าวต้มอีกถ้วยพอดี พยักหน้าตอบรับนิ่งๆ ดวงตาทอแววอ่อนโยน

 

            “อรุณสวัสดิ์ตัวเล็ก”

 

            “อรุณสวัสดิ์ครับพี่เร็น ข้าวต้มหอมมากกก ได้กลิ่นแล้วพร้อมหิวเลย”

 

            เร็นฟังน้องเจื้อยแจ้วนิ่งๆ ดวงตาลุ่มลึกหลุบมองร่องรอยที่พ้นปกเสื้อมาวับแวบ เขาใช้นิ้วเกลี่ย มุมปากติดรอยยิ้มที่พร้อมเห็นแล้วใจสั่น

 

            ที่สุดเร็นก็ละมือออก แตะขอบชามดันส่งมาให้

 

            “พิเศษกุ้งเลยนะ”

 

            “พี่เร็นรู้ใจพร้อมที่สุดเลย ขอบคุณนะครับ”

 

            พร้อมค่อยๆประคองชามข้าวต้มไปวางบนโต๊ะอย่างร่าเริง คุณแฟนมองแล้วพากันขำขันระคนเอ็นดู คุณแฟนตัวน้อยของพวกเขากระตือรือร้นกับอาหารเสมอ ชอบกินและกินได้หมดทุกอย่าง ตอนจีบบางคนก็ใช้ของกินนี่แหละหลอกล่อ--- แค่ก พิชิตใจมา

 

            ก่อนเริ่มมื้ออาหารพร้อมทำอย่างทุกที เขาไล่หอมแก้มคุณแฟนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ ซึ่งบางคนก็เอียงแก้มให้ดีๆ บางคนยักแย่ยักยันกว่าจะยอมให้ ในขณะที่บางคนก็หาเรื่องแกล้งจนกว่าพร้อมจะยกกำปั้นถึงยิ้มพราย มอบแก้มให้แต่โดยดี

 

            “อรุณสวัสดิ์นะครับพี่ๆ”

 

            “นายลืมฉัน”

 

            มีแขนหนักๆวางลงบนบ่า พร้อมเอียงมอง “ไม่ได้ลืมสักหน่อย พร้อมรู้หรอกว่าพี่เรียวจะแวบไปอาบน้ำ อรุณสวัสดิ์ครับบบ”

 

            พร้อมกำลังจะหอม แต่คนตัวโตเป็นฝ่ายหันมาแล้วขโมยจูบจนพร้อมผงะ ดวงตาเบิ่งมองคนที่ถอยไปทั้งหน้านิ่งๆอย่างนึกอึ้ง วันนี้พี่เรียวเป็นฝ่ายจู่โจมเขาก่อน! พร้อมรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก แล้วก็เปลี่ยนเป็นขำขันเมื่อมองเห็นหูที่ขึ้นสีแดงจัดเหมือนอย่างเคย

 

            ในขณะที่มีสองคนสร้างบรรยากาศหวานๆ ยังมีอีกหลายคนที่เหลือกตาใส่ไอ้คุณเพื่อนอย่างเหลืออด

 

            “อาบน้ำแล้ว? เร็วแฮะ ออกจากฟิตเนสมาพร้อมกันแต่ฉันยังไม่ได้ทำไรเลย หิวโคตร”

 

            ลาร์ซฉีกน่องไก่มาถือ ว่าไปพลางเคี้ยวน่องไก่ไปพลาง

 

            “เรียกอาบได้ด้วยหรอ ดูยังไง...”

 

            อเมทิสต์ที่ส่องประกายยียวนเหลือบจากบนจรดล่าง แย้มยิ้มพราย

 

            “ก็ยังสกปรกเหมือนเดิม”

 

            เรียวคิ้วกระตุก ดวงตาสองสีของสองหนุ่มปะทะและฟาดฟันกันในอากาศ แต่โชคดีได้เปลวเพลิงที่ถือตะกร้าผลไม้มาเป็นคนกลางห้ามทัพ รุนหลังน้องไปนั่งหัวโต๊ะฝั่งหนึ่งแล้วจึงเริ่มมื้อเช้าควบมื้อเที่ยงของพวกเขา

 

            ตักเข้าปากได้หนึ่งคำพร้อมก็ยิ้มจนตาหยี ยกนิ้วโป้งชมพี่เร็นซึ่งเป็นเชฟมือหนึ่งของมื้อนี้ ฝั่งนั้นยิ้มบางรับ บอกด้วยเสียงอ่อนโยนว่าอร่อยก็กินเยอะๆ มือเอื้อมหยิบไข่ลวกที่อยู่ไกลออกไปใส่ถ้วยเล็กๆมาให้ด้วย

 

            พร้อมยิ้มรับและขอบคุณคนที่รู้ใจกันเสมอ ขณะตอกไข่ใส่ถ้วยเล็กก็คิดไปด้วยว่าวันนี้เขายิ้มไปกี่ครั้งกันนะ คงจะหลายครั้งมากๆเพราะรู้สึกว่าแก้มเริ่มปวดนิดๆ 

 

            แต่ก็เพราะว่าพร้อมมีความสุขมาก~

 

            โอกาสที่เขาจะได้อยู่กับพี่ๆอย่างพร้อมหน้าพร้อมตามีไม่มากนักเพราะแต่ละคนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบหนักเบาแตกต่างกันไป อย่างพี่ดีแลนทำงานหลักๆอยู่ที่ต่างประเทศ การเดินทางสะดวกสบายขึ้นมากก็จริงแต่ก็มักจะหายหน้าหายตาไปจัดการงานเป็นสัปดาห์ๆ มากที่สุดคือหายไปเสียหลายเดือน กลับมาอีกทีผิวขาวๆคล้ำขึ้นโขจนพร้อมต้องขยี้ตามอง หรืออย่างพี่จอมที่เป็นนักแสดง นอกจากเดินทางไปทั่วทุกที่ตารางงานยังแน่นจนไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย

 

            โอ๊ะ  ได้ไข่ออนเซ็นสวยเชียว

 

            มองไข่แดงลูกกลมบ๊องเหมือนดวงอาทิตย์กับไข่ขาวนุ่มๆเหลวๆแล้วพร้อมก็เงยหน้ามองไปหัวโต๊ะอีกฝั่ง พอดีเลย พี่คาร์ลยังไม่มีไข่ลวก

 

            พร้อมเลยวานพี่เพลิงที่นั่งอยู่ข้างๆส่งต่อไข่ออนเซ็นของโปรดไปให้อีกฝ่ายหน่อย ซึ่งกว่าจะไปถึงให้พี่คาร์ลส่งยิ้มมาให้ก็ผ่านการส่งต่อจากทั้งพี่เพลิง พี่ลาร์ซ และพี่เรียวเป็นทอดๆ ส่วนเปลือกไข่เขาทิ้งลงโรบอร์ตถังขยะที่แล่นหวือมารับ

 

            “อะ พร้อมลองกินปีกไก่น้ำแดง ลาร์ซรีเควสต์เจ้าเร็นให้ทำเป็นพิเศษเลยนะ อร่อยสุดยอด”

 

            “โห อร่อยจริงด้วย พร้อมได้ของโปรดอีกอย่างแล้วว”

 

            มองน้องกินจนแก้มตุ่ยแล้วลาร์ซก็ยิ้มร่า รู้สึกว่าอิ่มเกินครึ่งท้องมาแล้วด้วยเลยหาเรื่องชวนคุย

 

            “จะว่าไปวันนี้มีแพลนอะไรบ้างวะเพลิง?”

 

            ถ้าเป็นเรื่องการวางแผนอะไรล่ะก็ต้องยกให้สองคุณชายนักธุรกิจอย่างเปลวเพลิงและคาร์ลอส ส่วนลาร์ซพร้อมอัปเปหิตัวเองไปเป็นผู้ใช้แรงงานด้วยความยินดียิ่ง เขาเป็นพวกใช้ร่างกายไม่ถนัดใช้สมองขบคิดเท่าไหร่น่ะ ฮ่าๆ

 

            “ที่คิดๆกับคาร์ลไว้คือวันนี้จะไปเริ่มด้วยไถลห่วง ต่อด้วยเล่นสกียาวๆ น้องเพิ่งเคยเล่นครั้งแรกด้วยอาจต้องให้เวลาฝึกเยอะหน่อย ส่วนตอนเย็นไปเทศกาลหิมะ แวะหาอะไรกินแล้วกลับเข้ามาแช่ออนเซ็นคลายหนาวกัน”

 

            “แล้ว ATV?” 

 

            คำถามจากเรียวผู้ชื่นชอบความเร็ว

 

            “พรุ่งนี้”

            

            คาร์ลอสตอบทั้งรอยยิ้มมุมปาก ท่าทางเหมือนคนมีเรื่องสนุกในใจแต่เก็บงำไว้ทำให้เพื่อนๆชักสนใจไปด้วย

 

            “ท่าทางวันพรุ่งนี้จะมีอะไรสนุกๆนะ” ดีแลนว่ายิ้มๆ

 

            ช้อนคันสวยกดลงผ่าไข่แดงลูกกลมออกเป็นสองซีก ดวงตาสีมืดของคาร์ลอสหลุบลงมอง รอยยิ้มมุมปากยิ่งกดลึกขึ้นกว่าเคย 

 

            “วันเกิดฉันทั้งที”

 

            เปลวเพลิงทางหนึ่งฟังที่เพื่อนคุยกัน ทางหนึ่งมองผ่านบานกระจกออกไปข้างนอกที่หิมะยังคงตกหนักจนสีขาวยิ่งขาวโพลน 

 

            “แต่วันนี้หิมะตกหนักกว่าที่พยากรณ์ว่าไว้แถมดูจะเป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน แพลนดูท่าจะล่มซะแล้วล่ะ”

 

            ลาร์ซไม่ยี่หระ “ยังมีเวลาอีกหลายวันนี่”

 

            ดีแลนยิ้มเกียจคร้าน “ก็ดี วันหิมะตกแบบนี้ทำให้รู้สึกเฉื่อยชะมัด”

 

            ส่วนเจ้าจอมมองน้องที่หูฟังอยู่ตลอดแต่มัวเอ็นจอยอีทติ้งอยู่เลยไม่ได้เข้าร่วมบทสนทนา ยิ้มหวาน “พอดีเลย บ่ายนี้จะได้กอดคนดีให้เต็มที่ทดแทนที่เมื่อคืนไม่ได้ไปกอด”

 

            พร้อมหัวเราะน้อยๆ คีบปลากะพงเนื้อขาวนวลส่งให้อีกฝ่าย ระหว่างนั้นก็พูดไปด้วย

 

            “พี่ๆนี่แข็งแรงกันจัง ไม่เจ็ตแล็กกันบ้างหรอครับ เพิ่งมาถึงเมื่อวานเหมือนกันแท้ๆแต่ดูพลังล้นเหลือมากกก พร้อมยังเพลียๆอยู่เลย”

 

            ถึงถามไปแต่พร้อมก็แอบมีคำตอบในใจอยู่แล้ว คงมาจากความเคยชินเพราะคุณแฟนของพร้อมเดินทางกันน้อยๆเสียที่ไหน 

 

            ดีแลนยิ้มพราย

 

            “ แข็งแรงรึเปล่าเบ๊บก็พิสูจน์อยู่ทุกคืนนี่ ..ว่าทั้งแข็ง ทั้ง แรง” 

 

            พร้อมสำลัก โชคดีที่ปิดปากทันน้ำส้มเลยเลอะแค่ที่มือ ได้เร็นที่นั่งอยู่ข้างๆคว้ามือนั้นไปใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดให้ ส่วนเขาเขินจนจมูกบานเลยทำตาเหลือกใส่คนพี่แก้เขิน หนุ่มๆคนอื่นสนุกกับปฏิกิริยา ยังดีมีเปลวเพลิงที่ทั้งเอ็นดูทั้งสงสารเลยช่วยกางปีกปกป้อง

 

            “นายก็เก็บปากเก็บคำซะมั่ง”

 

            ดีแลนยิ้มเรื่อย “ไม่ใช่แนวแฮะ”

 

            ลาร์ซกุมท้องขำ มองภาพสองเพื่อนที่นั่งประกบน้องคนละฝั่ง รายหนึ่งตั้งอกตั้งใจเช็ดมือให้น้องจนสะอาดสะอ้านส่วนอีกรายก็ช่วยออกปากให้อย่างเคย

 

            สมฉายาสองผู้พิทักษ์ หรือที่พวกเขาเรียกกันเล่นๆว่า แด๊ดดี้กับ หม่ามี๊ของน้องพร้อมเสียจริง

 

            เพลิงเลือกจะเมินซะ “เจ้าจอมกับลาร์ซ พวกนายแพ้เกมไพ่เมื่อคืนต้องทำความสะอาดจานชามมื้อนี้ด้วยนะ ห้ามลืม”

 

            “ได้”

 

            ลาร์ซรับคำง่ายๆ แต่เจ้าจอมคิ้วขมวด

 

            “ฉัน? เฮ้ๆ ฉันชนะนะ”

 

            เรียวยักคิ้วใส่ “ชนะแต่ถูกจับได้ว่าโกงไม่นับ”

 

            พร้อมฟังแล้วอดไม่ได้หัวเราะน้อยๆ “ที่แท้เมื่อคืนพี่จอมหายไปเล่นเกมมานี่เอง ..ถ้ายังไงเดี๋ยวพร้อมช่วยทำความสะอาดอีกแรงนะครับ”

 

            “ไม่เป็นไรครับ ทานเสร็จแล้วพร้อมก็ไปอาบน้ำเถอะ” เปลวเพลิงปฏิเสธด้วยรอยยิ้มละมุน

 

            “ใช่ครับ คนดีไปอาบน้ำแล้วเอาตัวหอมๆมาให้พี่จอมกอดดีกว่า”

 

            พร้อมยิ้มขำ ขยันหยอด หยอดเก่งเป็นที่หนึ่งเลยคนนี้นี่ 

 

            “แบบนั้นก็ได้ครับบ”

 

            คนตัวเล็กทานข้าวต้มที่เหลือก้นชามต่อจนหมดเกลี้ยง ขณะมองตามแผ่นหลังกว้างของพี่คาร์ลที่ปลีกออกไปรับโทรศัพท์ก็นึกขึ้นมาได้

 

            จริงสิ เขายังไม่ได้โทรไปรายงานตัวกับป๊ะป๋าเลยว่ามาถึงที่พักแล้ว เมื่อวานมาถึงดึกเขาเพลียไปหน่อยนั่งเล่นได้แป๊บเดียวก็ผล็อยหลับเสียแล้ว

 

            อาบน้ำเสร็จแล้ววิดีโอคอลไปหาป๊ะป๋าดีกว่า~ 

 

 

 

 

 

            TBC.

 

 

            พระเอกของน้องออกมาครบทุกคนแล้ววว