-๒-

?Enjoy Reading?

 

แม้ตอนนี้วินฟาเรียจักไม่อยากพบหน้าผู้ใดเท่าไรนัก แต่ฤกษ์งามยามดีก็ไม่ใช่ว่าจักมีได้ทุกวัน หลังจากเช็ดหน้าเช็ดตาสลัดคราบของคนอ่อนแอไว้เบื้องหลัง ก็ก้าวเท้าเดินออกมาในฐานะว่าที่จ่าฝูงคนต่อไปของบูรพาทิศ

สายตาเรียบเฉยไล่มองน้องชายน้องสาวที่นั่งขนาบข้างโต๊ะยาว เว้นเก่าอี้ข้างหัวโต๊ะเอาไว้ให้กับพี่ชายคนโต ท่าทีดูสงบนิ่งก้มหน้าก้มตาไม่ได้หันมายิ้มให้กันเหมือนอย่างเคย

"วินฟาเรีย" 

ใบหน้าพึงใจของผู้เป็นพ่อไม่ได้ทำให้หมาป่าน้อยคลายกังวลเลยสักนิด แม้รอยยิ้มของผู้เป็นแม่ที่ทุกทีเคยมองว่าอบอุ่นนักหนาแต่ครานี้กลับรู้สึกเหมือนว่าโดนทิ่มแทงด้วยเข็มนับพันเล่ม

"คืนที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เราประจักษ์แล้วว่าผู้เป็นใหญ่เหนือพนาคนต่อไปคือเจ้า วินฟาเรีย อีสเทิร์น" วินเซนต์บีบบ่าเล็กของลูกชายแผ่วเบา พลางชายตามองลูก ๆ คนอื่น" เมื่ออยู่ในสนามรบหันหน้าเข้าหากันคือศัตรู แต่เมื่ออยู่ที่บ้านพวกเจ้าคือพี่น้องหันหน้าคุยกันอย่าได้คับแค้นใจเพียงเพราะว่าพี่เจ้าเหนือกว่า"

ใช้เวลากว่าครึ่งวันในการจัดเตรียมงานสวม มงกุฎและป่าวประกาศให้รู้ทั่วกันว่าบัดนี้เหนือหัวคนต่อไปแห่งบูรพาทิศได้ถูกสวรรค์กำหนดไว้แล้ว

พิธีสวมมงกุฎนั้นถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์เป็นการป่าวประกาศให้ทั่วหล้าพนาไพรรู้ว่าผู้สืบทอดผืนป่าคนต่อไปคือผู้ใด เหล่าลูกฝูงจักประทับจุมพิตลงบนหลังมือและกล่าวคำอวยพร ปฏิญาณสัจภักดี แลเมื่อพระจันทร์ขึ้นเหนือหัวมงกุฎที่ทำจากกิ่งก้านของยอดสนต้นที่สูงที่สุดจักประดับลง ผูกชะตาหมาป่าตัวน้อยไว้กับลูกฝูงทั้งปวง

สอดสานทุกความจงรักภักดี ความเชื่อมั่น แลความเคารพเอาไว้ด้วยกัน เป็นหน้าที่ของผู้เป็นใหญ่ที่จักแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างของฝูงเอาไว้

 

"ซามูเอล ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้เจ้าคงรู้ว่าด้วยเหตุใด" 

วินเซนต์กับซามูเอลนั้นหากจะนับกันจริงๆแล้วก็ถือว่ามีศักดิ์เป็นลุงกับหลาน ซามูเอลเกิดจากมิคาเอลผู้เป็นน้องสาวของเขากับอัลฟ่าสายรองจากฝูงอุดรกรีเซล นอร์เธิร์น

ทว่าฝูงอุดรกับฝูงบูรพานั้นเป็นปฏิปักษ์กันมาช้านาน พวกถิ่นเหนือเขาเลยถีบหัวส่งกรีเซลออกมาจากฝูงตัดสิ้นเยื่อใยไม่เหลียวแล ปล่อยให้หมาป่าทั้งสองระหกระเหินมาพึ่งใบบุญราชาแดนรุ่งอรุณ

เขานั้นก็เห็นหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ซามูเอลใจเย็นดั่งธาราลึกทว่ากลับมีเล่ห์เหลี่ยมไม่น้อยเวลาพูดจา ใบหน้าหมดจดแย้มยิ้มตลอดเวลาทว่าที่เขาเห็นคงจักมีแค่ตอนอยู่กับพ่อแม่แลวินฟาเรียเท่านั้นที่หลานชายคนนี้จักมีรอยยิ้มที่มาจากใจจริง

"เจ้าเองก็เอ็นดูวินฟาเรียไม่น้อย สนิทสนมกลมเกลียวยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด หากข้าจักขอให้เจ้าอยู่ข้างกายลูกข้านับจากนี้ถึงตัวตาย จักทำได้หรือไม่" แม้นน้ำเสียงจักกดดันเพียงใดแต่หาได้มีการปล่อยจิตข่มใส่กัน เหมือนกับว่าวินเซนต์อยากจักให้ซามูเอลไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่ได้เร่งรัดหรือบังคับจนอึดอัดใจ

"ท่านลุง ข้ารักน้องเหนือสิ่งใดแม้นท่านไม่เอ่ยปากขอข้าก็จักทำเช่นนั้น" ซามูเอลคุกเข่าลงหนึ่งข้างใบหน้าแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนยามพูดถึงน้องชาย "หากท่านไม่เชื่อจักให้หลานกล่าวคำสัตย์ก็ย่อมได้"

"เรื่องเช่นนั้นเจ้าเก็บไว้พูดกับน้องเจ้าเถิด ราตรีนี้ดวงเดือนสว่างฟ้าน้องเจ้าจักเข้าพิธีสวมมงกุฎไว้กล่าวตอนนั้นก็นับว่ายังไม่สาย แลหวังว่าเจ้าจักดูแลลูกข้าได้ ในวันข้างหน้าจงยืนหยัดเพื่อน้องเจ้าไม่ว่าเบื้องหน้าคือสิ่งใด"

วินเซนต์กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ซามูเอลจะทำความเคารพอีกครั้งแล้วเดินออกมา

เขานั้นตั้งมั่นไว้ตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจักเกิดสิ่งใดเขาจักขอปกป้องน้องจนสุดใจ แม้นตัวตายหากน้องอยู่รอดปลอดภัยก็ไม่คิดเสียดาย

จักว่าไปเขาเองก็ยังไม่เห็นน้องตั้งแต่รุ่งสายไม่รู้ว่ามัวไปหลบอยู่ที่ใด เห็นน้องเอาแต่ร้องไห้แล้วกอดตนเองไว้ยิ่งทำให้ใจของผู้เป็นพี่แทบสลาย ไม่รู้ว่าพูดสิ่งใดถึงจักฉุดดึงน้องขึ้นมาจากความเศร้าได้

รู้ว่าวันข้างหน้าน้องต้องเจอเรื่องหนักหนากว่านี้อีกมากมายแต่ก็อดไม่ได้ที่จักสงสาร 

 

"ข้า ข้าขอโทษท่านพี่ข้ามันโง่ที่หวังในอำนาจจนลืมพี่ลืมน้อง สมควรแล้วหากพี่จักเกลียดกัน" วิลเลียมน้องชายคนเล็กจับมือผู้เป็นพี่ไว้แน่นน้ำเสียงขาดห้วงพร้อมด้วยใบหน้าที่แบกรับความรู้สึกผิดไว้มากมาย แทบจักทลายกำแพงหินของวินฟาเรียได้ในคราเดียว

"พี่ท่านยกโทษให้เราได้หรือไม่ จักให้ก้มกราบก็ยอม" ตามด้วยน้องชายคนอื่น ๆ ที่พุ่งเข้ามากอดแข้งกอดขาวินฟาเรียเอาไว้

แม้นใบหน้ายังคงเรียบเฉยทว่าหัวใจดวงน้อยกลับสั่นคลอนไม่เป็นท่า หยดน้ำตาแทบจักชะล้างให้ลืมสิ้นทุกความขุ่นเคือง

"ผิดถูกอย่างไรข้าก็ไม่อาจตัดสินแต่หากพวกเจ้าพลาดพลั้งทำไปโดยไม่นึกคิด ข้าจักโกรธลงได้อย่างไร" วินฟาเรียอ้าแขนรับน้องชายทั้งสี่เข้ามากอดไว้แน่น "เป็นพี่ก็มีหน้าที่ให้อภัยไม่ใช่หรือ"

สุดท้ายก็ยอมน้องเสียเช่นทุกครา

แม้น้องสาวเพียงคนเดียวจักไม่ยอมมาพบหน้า เพียงแค่น้องบอกผ่านคำว่าขอโทษมา พี่ก็ไม่คิดโกรธเคือง

 

ทินกรคล้อยลงต่ำย่ำภูวดลพนาใหญ่ถูกความมืดมิดครอบคุมได้ไม่นานรัตติกรสีนวลก็เปล่งแสงประกายฉาบนภาให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครา

หน้าปราสาทหินสูงมีการจัดตั้งบัลลังก์ทองแท้สลักลวดท้ายหมาป่าตัวใหญ่เห่าหอนอย่างสง่างามแลดวงจันทร์เต็มดวงจากแร่เงินแวววาว สมกับตำแหน่งของผู้ที่จักครอบครองในคืนนี้

"คืนนี้พี่จักเฝ้าดูเจ้า ทุกคนจักจ้องมองเจ้า แม้จันทราหรือมวลดาราก็ไม่อาจทำให้พวกเราละสายตาจากเจ้าได้" ซามูเอลส่งยิ้มให้น้องชายพลางยื่นมือไปหา เดินจูงมือน้องมาส่งถึงบัลลังก์ทอง

เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตาจ่าฝูงที่ยืนอยู่ข้างลูกชายจึงเอ่ยให้เหล่าลูกฝูงเข้ามาอวยพรอวยชัยให้กับวินฟาเรีย

"ขอจันทราแลทวยเทพเป็นพยานจงมอบความรักแลพลังให้แก่บุตรของข้า ขอจงเคียงข้างวินฟาเรีย อีสเทิร์นตราบจนสิ้นลม" วินเซนต์ประทับจูบลงบนหลังมือของลูกชายแผ่วเบา

และอีกหลายครั้งหลายคราที่หลังมือขาวถูกประทับจูบลงมาพร้อมทั้งคำอวยพรมากมาย วินฟาเรียรับรู้ได้ถึงทุกความหวัง ทุกความศรัทธา ทุกความเชื่อมั่น

หมาป่าน้อยแบกความกดดันไว้ด้วยสองบ่าเล็ก  ไม่อาจรู้ว่าจักรับได้อีกเท่าไรแต่ก็ไม่คิดผลักไสให้ไร้ที่พึ่ง

"จงเป็นในสิ่งที่เจ้าอยากเป็น จงทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำพี่จักคอยเคียงข้างไม่ห่างหาย เป็นตัวเจ้าในแบบที่เจ้าชอบที่สุดเถิดน้องพี่" 

รอยยิ้มของพี่ชายดูจะทำให้ว่าที่ราชาผ่อนคลายลงได้บ้าง ไม่ใช่คำขอใด ๆ หากแต่เพียงขอให้น้องมีความสุข

จนมาถึงคนสุดท้าย ชายในชุดคลุมสีดำยาว เขาคุกเข่าลงหนึ่งข้างเบื้องหน้าหมาป่าสีเงิน ใบหน้ากว่าครึ่งถูกคลุมด้วยฮูตใหญ่ เห็นเพียงผิวขาวซีดแลปากบางสีอ่อนที่แย้มยิ้มขึ้นเล็กน้อย

"ผู้เป็นปฏิปักษ์แห่งสวรรค์จงทำลายทุกสิ่งให้สิ้น" 

น้ำเสียงทุ้มต่ำกับถ้อยคำคล้ายสาปแช่งเหมือนว่าถูกสลักอยู่ในหัว พลันนิ้วเรียวถูกเกี่ยวดึงมาด้านหน้า ปากสีอ่อนประกบลงบนหลังมือเนียน ไล่พรมจูบจนถึงข้อนิ้ว ฟันแหลมขบกัดลงบนปลายนิ้วเบา ๆ พอให้อีกคนรู้สึกตัว

วินฟาเรียจับจ้องทุกการกระทำอย่างคนไร้สติในอกเกิดไอร้อนวูบเหมือนโดนไฟลน ร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ลมหายใจเริ่มหอบหนัก สายตาพร่าเลือนขึ้นทุกคราทว่ารอยยิ้มแลดวงตาสีรัตติกาลกลับกระจ่างชัด

เขาไม่ใช่คนเขลาเหตุใดจักไม่รู้ว่านี่คืออาการฮีตแรกของโอเมก้า หากแต่ว่าไม่คาดคิด ไม่คาดคิดมาก่อนเลย

ตึก  ตึก  ตึก  เสียงเดินเข็มนาฬิกาดังก้องในหัวพลันทุกอย่างก็หยุดนิ่งเว้นแต่ตัวเขาเองและชายคนนั้น

"ข้ารอเจ้ามานาน หวังว่าเจ้าจักสร้างความสนุกให้ข้าไม่น้อยกว่าเวลาที่เสียไป" รอยยิ้มสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติดังเดิม

"วินฟาเรีย!!"

ดวงตาสีอำพันพยายามเพ่งมองไปที่ครอบครัว เหตุใดท่านพ่อจึงทำหน้าเช่นนั้นเล่า ทำอย่างกับว่าข้าไม่ใช่ลูกท่านคนเดิมอีกต่อไป แล้วเหตุใดน้อง ๆ จึงยกยิ้มเยาะเย้ยพี่เช่นนั้น ทั้งที่พึ่งจักอวยพรให้พี่ไปไม่ใช่หรือ

ภาพเบื้องหน้าถูกกลืนกินโดยหยาดน้ำตา ได้ยินเพียงเสียงร้องเรียกและอ้อมแขนของพี่ชายก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป

 

เมื่อเห็นน้องล้มลงตรงหน้าทั้งยังส่งกลิ่นอายหอมหวานคละคลุ้งไปทั่วลานกว้าง หัวใจของผู้เป็นพี่เหมือนแตกสลายลงตอนนั้น ไหนจะอัลฟ่าที่ส่งเสียงคลุ้มคลั่งพยายามวิ่งเข้าหาร่างของน้อง

กรรรรรรรร!!!!

ซามูเอลจำต้องเปลี่ยนร่างตนเองเป็นหมาป่าสีดำตัวใหญ่กระโจนเข้าขวางร่างของน้องไว้ ส่งเสียงคำรามก้องไกลหวังไล่พวกเศษเดนไปให้พ้นยอดดวงใจ 

อัลฟ่าสามัญสามตัวพุ่งเข้าหาอย่างดุร้ายกระโชกขู่กันด้วยจิตข่มจนทำให้บรรยากาศโดยรอบอึมคลึม ลูกฝูงมากมายต่างถูกกดให้นอนลงแนบพื้น เหมือนกับว่าหมาป่าตัวใหญ่กำลังเหยียบหัวตนอยู่

กรรรร!!!!! ฟันซี่แหลมฝังคมลงบนตัวหมาป่าสีเทาแล้วกระชากโยนออกไปให้ไกล แต่ด้วยจำนวนมากกว่าคงสู้ไม่ไหว ซามูเอลถูกรุมกัดอย่างบ้าคลั่ง แม้กายจะเจ็บเจียนตายแต่ด้วยน้องชายยังอยู่ในอันตราย จำต้องรีบพาหนีไปให้ไวที่สุด ก่อนที่ตนจะไม่ไหวจริง ๆ

ร่างเด็กชายหายใจหืดหอบตัวร้อนเหมือนโดนไฟสุมถูกคาบอย่างระมัดระวัง เมื่อยกน้องขึ้นมาได้แล้วเท้าทั้งสี่ก็เริ่มออกวิ่งอย่างทุลักทุเล ถีบตัวเองไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว

เมื่อเข้ามาด้านในปีกซ้ายของปราสาทซามูเอลก็เปลี่ยนร่างเป็นคนดังเดิมแล้วอุ้มน้องเข้ามาในห้องนอนของตนเอง ที่นี่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เป็นส่วนหน้าของคุกใต้ดินอยู่ลึกพอที่จักทำให้กลิ่นอายของน้องไม่ฟุ้งออกไปด้านนอก

"น้องพี่ เจ้าทำดีที่สุดแล้วหนา" ซามูเอลมองน้องด้วยสายตาอ่อนโยนอยากจักกอดน้องเหลือเกินแต่กลัวว่าสัญชาตญาณบ้า ๆ ของตัวเองจะถูกปลุกเหมือนหมาพวกนั้น กลัวว่าเลือดสกปรกบนตัวจะทำให้น้องหมองหม่น จึงทำได้แค่ล็อกประตูให้แน่นหนาแล้วเฝ้าหน้าห้องไม่ให้ใครได้ผ่านเข้าไป

เมื่อสักครู่ซามูเอลหันไปมองผู้เป็นจ่าฝูงหลายครา ทว่าท่าทีของท่านทำเอาเขาใจหายไม่น้อย เหตุใดเห็นน้องเป็นเช่นนี้ยังทำนิ่งเฉยซ้ำยังเดินหนีไปเหมือนอับอายหนักหนา ทำเหมือนตรงหน้าเป็นเพียงภาพมายา

กลิ่นอายของน้องทำเอาแทบครองสติไม่อยู่ เคยได้ยินมาบ้างว่าฮีตแรกของโอเมก้านั้นอันตรายแลรุนแรงถึงเพียงไหน ได้แต่นั่งคิดว่าทำไม ทำไมถึงต้องเป็นคืนนี้ ทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้ ตอนที่น้องควรจักได้มีความสุขมากที่สุด

เหตุใดสวรรค์จึงคิดกลั่นแกล้งน้องเขารุนแรงเช่นนี้ 

ไม่รู้ว่าน้องตื่นขึ้นมาแล้วจักเป็นอย่างไร จักรับความเป็นจริงไหวหรือไม่

 

สามวันสามคืนที่ซามูเอลนั่งฟังเสียงกรีดร้องบ้าคลั่งของวินฟาเรีย หัวใจที่แตกร้าวเหมือนโดนเหยียบย่ำซ้ำ ๆ จนพังไม่เป็นท่า เสียงน้องทรมานมันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดอยากจะได้ยิน

ไม่รู้จักปลอบอย่างไร ไม่รู้ว่าควรพูดแบบไหนทำได้แค่นั่งเฝ้าน้องอยู่ตรงนี้ กอดน้องผ่านประตูบานใหญ่แลหวังให้น้องเลิกเจ็บปวดเสียที

หากว่าแลกได้เขาอยากจะขอเป็นคนที่รับความปวดร้าวทั้งหมดนั่นไว้ด้วยตนเอง ไม่อยากให้น้องต้องมารู้สึกถึงความเจ็บปวดขนาดนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ น้องก็เท่านั้น

"ซามูเอล ลูกไปพักเถิดเดี๋ยวแม่จักดูน้องให้ ลูกไม่ขยับไปไหนมาสามวันแล้วหนา" มิคาเอลผู้เป็นแม่เองก็ลำบากใจไม่น้อยเมื่อเห็นสภาพลูกชายเพียงคนเดียวของตนเองเป็นเช่นนี้

"น้องทรมานอยู่ทุกเสี้ยวนาที จักให้ลูกหลับลงได้อย่างไร" แม้รู้ดีว่าอยู่ตรงนี้ไปก็ช่วงน้องไม่ได้แต่หากหันหลังแล้วเดินหนีไปน้องจักเหลือใครให้พึ่งพิง

เมื่อเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จมิคาเอลก็วางจานอาหารไว้แล้วเดินออกไปไม่คิดเซ้าซี้ให้ลูกชายรำคาญใจ

ซามูเอลกับวินฟาเรียรักใคร่กันยิ่งกว่าสิ่งใดที่ไหนมีพี่ที่นั่นมีน้องเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ หลายครั้งหลายคราวที่มีเรื่องให้ทุกข์ใจทว่าความทุกข์ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เห็นที่คงไม่ได้ผ่านไปโดยง่าย

เสียงเล็บขูดผนังเงียบลงพร้อมกับกลิ่นอายประจำตัวที่เจือจางลงทุกทีทำให้ซามูเอลใจชื้นขึ้นมาบ้าง อยากจะรีบเข้าไปหาแต่กลัวว่าน้องจักอับอายจนหนีหน้า

นิ้วเรียวเคาะบานประตูไม้แผ่วเบาหวังให้น้องตอบกลับมาสักนิดก็ยังดี

"น้องพี่เจ้าเจ็บมากหรือไม่" คำถามเหมือนถูกดูดกลืนไปในความเงียบ หลายอึดใจที่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา 

"หากเจ้าต้องการพี่ เรียกหาพี่หน่อยได้หรือไม่พี่เป็นห่วงเจ้าแทบขาดใจ" หมาป่าหนุ่มฟุ่บลงข้างประตู

"ทุกอย่างที่ข้าทำมันจบสิ้นแล้ว ท่านพ่อเกลียดข้า ทุกคนเกลียดข้า ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว" น้ำเสียงแหบพร่าพึมพำเลื่อนลอยอย่างไร้สติ ทุกสีหน้าท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ยังคงฉายฉัดอยู่ในใจ

ไม่ว่าจักทำอย่างไร จักแข็งแกร่งขึ้นเพียงไหนเขาก็ไม่สามารถที่จักกลับไปยืนที่เดิมได้อีกแล้ว เพราะบัดนี้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกัน วินฟาเรีย อีสเทิร์น เป็นโอเมก้าชนชั้นบรรณาการไม่ใช่อัลฟ่าราชันผู้ยิ่งใหญ่อีกต่อไป

"ทุกคนจักมองข้ามทุกสิ่งที่ข้ามี เพียงเพราะฮึก ข้า ข้าไม่ใช่อัลฟ่า" เป็นความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงหากไม่ใช่อัลฟ่าจักมีความหมายอะไร 

วันนี้เหมือนแสงสุดท้ายในชีวิตดับลง ไม่ว่าจักมองไปทางไหนก็มืดมิดไปเสียหมด เหมือนพึ่งบินขึ้นสูงเหนือสวรรค์แล้วโดนผลักลงนรกโลกันตร์

"พี่ยังอยู่ข้างเจ้าเสมอ จักอยู่ข้างเจ้าตลอดไปไม่ว่าใครจักหันหลังให้ พี่ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าไปไหน" ซามูเอลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไร้ความลังเล 

"ข้าเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าที่จ่าฝูงคนต่อไปอัศวินข้างกายย่อมไม่จำเป็น" 

"ไม่ต้องเป็นอัศวินก็ได้ ขอเพียงได้เป็นพี่ชายอย่างที่เป็นเสมอมา"

"ท่านไปเถิดข้าอยากอยู่คนเดียว" รู้ดีว่าคำที่พูดไปนั้นจักทำพี่เจ็บไม่น้อย แต่หากไม่ปล่อยพี่ไป วันข้างหน้าพี่ท่านคงต้องเสียใจ

มีเพียงความเงียบตอบกลับมาทั้งฝีเท้าที่เดินห่างออกไปยิ่งพาให้หัวใจวินฟาเรียช้ำหนัก 

เวลากว่าเจ็ดราตรีที่วินฟาเรียหมกตัวอยู่ในห้องมืด คิดทบทวนถึงเรื่องต่าง ๆ ทั้งชายแปลกหน้าคนนั้นพี่น้องครอบครัวตำแหน่งแลเพศรองของตน

'ผู้เป็นปฏิปักษ์แห่งสวรรค์จงทำลายทุกสิ่งให้สิ้น'

ลองมานึกย้อนดูแล้ว ชายผู้นั้นไร้กลิ่นอายอัลฟ่าแต่กลับแข็งแกร่งเหมือนเป็นตัวตนที่เหนือกว่า แลเป็นคนที่ทำให้เขาฮีตเพียงแค่สบตาแลจุมพิตบนหลังมือ

น่าแปลกนักที่เขานั้นเกิดมามีทุกสิ่งเพียบพร้อมอย่างอัลฟ่า บางสิ่งก็เหนือกว่าด้วยซ้ำ ทั้งดวงตาสีอำพันโดยกำเนิด ไหนจักพละกำลัง มองอย่างไรก็เป็นอัลฟ่าไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงกลายเป็นชนชั้นบรรณาการไปได้

 

หลังจากตกตะกอนความคิดมากมายในหัวเช้าวันต่อมาวินฟาเรียก็ยอมก้าวขาออกมานอกห้อง มองซ้ายมองขวามีเพียงทางเดินทอดยาว ไร้ผู้คนจนน่าใจหาย 

ความรู้สึกโดดเดี่ยวในใจยิ่งต่อเติมเพิ่มขึ้นทวีคูณ เท้าเปลือยเปล่าเหยียบย่ำไปตามพื้นหินเรียบ เจ้าของร่างก้มหน้าก้มตาไร้ความสง่าผ่าเผยเช่นเมื่อก่อน

วินฟาเรียหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตรงหน้าตนมีพี่ชายยืนขวางอยู่ ซามูเอลค่อย ๆ โอบเสื้อคลุมสีเข้มไว้บนไหล่เล็ก 

"ไม่หนาวหรือ" น้ำเสียงที่ยังคงอ่อนโยนเช่นทุกทีทำเอาวินฟาเรียน้ำตาคลอหน่วย อยากจักกอดพี่เหลือเกิน

"เดี๋ยวจักไม่สบาย"

ยังพูดไม่ทันจบประโยคร่างกายก็ถูกอีกคนโถมเข้าใส่ ออกแรงกอดรัดไว้แน่นเหมือนกลัวว่าพี่ชายจักปลิวหายหากคลายอ้อมกอดลง

"ข้ามันโง่งมที่คิดว่าท่านจักทิ้งข้าไป" 

"เจ้ากลายเป็นคนใหม่แล้วแม้นามไม่เปลี่ยนไปแต่หลายสิ่งหลายอย่างอาจทำให้เจ้าต้องเจ็บหัวใจ แต่จงจำไว้มีพี่คนหนึ่งที่จักไม่ทิ้งเจ้าไปไหน"

 

มันเป็นอย่างเช่นที่พี่ท่านบอกจริง ๆ แม้ข้ายังคงเป็นวินฟาเรีย อีสเทิร์นแต่คนรอบกายข้ากลับไม่มองเช่นนั้น

"หึ ทำฝูงเราอับอายไปทั่วทั้งแปดทิศยังมีหน้ามาลอยชายอยู่อีกหรือ" สายตาหยามเหยียดแลคำพูดทิ่มแทงถูกพ้นออกมาจากปากน้องสาวไม่หยุด "หากเป็นข้าคงไม่อยู่เป็นเสี้ยนหนามทิ่มแทงใจท่านพ่อเช่นนี้ ชนชั้นบรรณาการบังอาจเข้ารับพิธีมอบมงกุฎ ฟ้าดินจักลงทัณฑ์ฝูงเรา"

"คนที่เคยเดินตามตูดข้าต้อย ๆ มีสิทธิ์พูดเช่นนี้หรือ" หากแต่เขายอมให้หนึ่งครั้งก็คงต้องยอมให้ตลอดไป "ไม่ใช่ข้าที่ต้องวิตกหากแต่เป็นเจ้าที่ต้องสำเหนียกตนเองว่าเกิดเป็นอัลฟ่ายังพ่ายแพ้ให้โอเมก้าเช่นข้าอยู่ร่ำไป"

วินฟาเรียละทิ้งความรู้สึกพวกนั้นหมดสิ้นแล้ว ตั้งแต่คืนที่ถูกหัวร่อแลพ้นคำทับถมสาปแช่งใส่ มันทำให้เขาได้รู้ พี่น้องมันเฮงซวยสิ้นดี คำสรรเสริญเยินยอก็ไม่ต่างกัน ปากบอกจักคอยหนุนหลังแต่พอละสายตากลับหันคมมีดเข้าหากัน 

แลคนที่ไว้ใจได้มีเพียงซามูเอลเท่านั้น

"ไอ้โสโครกชั้นต่ำ!"

ซามูเอลไม่ปล่อยให้ยูฟาเรียได้พ้นคำว่าร้ายใส่น้องชายอีกต่อไป จิตข่มเข้มข้นแผ่คลุมไปทั่ว ลำคอขอเด็กสาวเหมือนถูกมือใหญ่บีบไว้ไม่คลายแรง

แม้จักเป็นอัลฟ่าชั้นรองแต่อัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์ก็ยังคงเป็นอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์ ซ้ำยังโตเต็มวัยแล้วพวกหมาเด็กดีแต่เห่าหรือจักกล้าสู้

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นวินฟาเรียก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวที่ลานซ้อม บ่อยครั้งที่พี่ชายแวะเวียนมาหาแต่พักหลังมานี้เริ่มไม่มีเวลา เพราะว่าพี่ท่านโตแล้วจึงถูกจ่าฝูงเรียกใช้ไม่เว้นวัน เป็นทูตคอยส่งข่าวเชื่อมสัมพันธ์ให้ฝูงเรา 

เวลากว่าหกปีที่วินฟาเรียใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้น เฝ้าฝึกซ้อมทุกคืนวันแลตั้งปณิธานแรงกล้า 

ชีวิตไม่ควรกำหนดด้วยชนชั้น เหตุใดผู้ที่ไม่ใช่อัลฟ่าจึงต้องอยู่อย่างเจียมตัวไม่อาจออกความคิดความเห็น

หากข้าเลือกเกิดไม่ได้ ข้าจักเลือกเปลี่ยนแปลงแลล้มกระดานพวกเทพกำมะลอ 

จงจำไว้ชนชั้นบรรณาการอย่างข้าจักเหยียบหัวอัลฟ่าทุกตัวแม้ต้องตะเกียกตะกาย ข้าจักยืนเหนือพนาแลกระชากหัวพวกเทพบรรลัยมาไว้แนบตีน

กฎที่เอื้อกับพวกขยะข้าจักไม่ปล่อยให้มันทับถมผืนพนาแห่งนี้อีกต่อไป

 

___________

#โอเมก้าจ่าฝูง

 

โบกมือลาน้องวินฟาเรีย พี่วินฟ่าแกเดบิ้วต์มาเพื่อตบพวกอัลฟ่าปากแซ่บทุกตัว

พระเอกเรามายัง ว่าแต่ใครพระเอก5555

(มีfanart ลงในทวิตนะคะ)

อัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์=อัลฟ่าที่เกิดจาก พ่ออัลฟ่า-แม่โอเมก้าเท่านั้น

อัลฟ่าสายหลัก= อัลฟ่าที่เป็นลูกของจ่าฝูงเท่านั้น

อัลฟ่าสายรอง= อัลฟ่าที่เกิดจากพ่ออัลฟ่า-แม่โอเมก้า แต่ไม่ใช่ลูกจ่าฝูง

อัลฟ่าสามัญ=อัลฟ่าที่พ่อแม่ไม่ใช่อัลฟ่า-โอเมก้า อาจเกิดจากอัลฟ่า-เบต้า เบต้า-โอเมก้า หรือเบต้า-เบต้า ลูกที่ออกมามีสิทธิ์เป็นอัลฟ่าหรือโอเมก้าแต่น้อยมาก ๆ มักจะถูกเรียกว่าพวกนอกคอก แกะดำ พันธุ์ต่ำ