Chapter 13 คนจะหวานดันมามีมารมากวน

 

นักธุรกิจสาวสูงโปร่งขับรถพาคุณแฟนมาส่งยังคอนโดของเจ้าตัว ถึงแม้จะไม่อยากพามาส่งเท่าไหร่แต่ก็ไม่กล้าร้องขออะไรมาก กลัวเจ้าตัวจะตื่นตกใจหนีไปก่อน เจ้าแก้มกลมคว้ากระเป๋าเตรียมตัวจะเปิดประตูรถลง

“เดี๋ยวก่อนสิคะ” มือบางคว้าต้นแขนยึดเอาไว้ เมเปิลหันมอง “พี่ยังไม่ได้รับจูบลาจากคุณแฟนเลยนะคะ”

“หื้ม...” ความออดอ้อนจากคนพี่เมเปิลเองหน้าเขินอายจนหน้าแดง คันยุบยิบในใจ ความรักมันหอมหวานอันแสนจะหลงใหล

โฟร์โน้มใบหน้าร้องขอด้วยแหบพร่า “พี่ขอจูบนะคะ”

เมเปิลยกแขนคล้องจูบปลายคาง ตามเชิดหน้าขึ้นหลับตาพริ้มรอรับจูบ หญิงสาวรั้งเอวบางเข้ามาหา และมืออีกข้างตึงท้ายทอยและปากทั้งสองแนบสนิท เมื่อได้ลิ้มลองยากจะหักห้ามใจ แค่คิดว่าเพียงแค่สัมผัสเบาบางจนกลายเป็นความหิวกระหาย เธอสอดเรียวลิ้นไล่สำรวจเกี่ยวตวัดรัดลิ้นเล็ก ไล่สำรวจจ้วงชิมกลืนกินริมฝีปากน้อย ในหัวบอกว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอ แรงทุบอกบอกจากคนน้องจากการหายใจไม่ออก จนผละออกอย่างเสียดาย

“แฮก ๆ” เมเปิลหอบหายใจกอบโกยอากาศเข้าปอดด้วยใบหน้าแดงปลั่ง

“บวมหมดแล้ว เจ็บไหมคะ” มือลูบไล้ริมฝีปากบวมแดงจากผลงานตัวเอง

เมเปิลส่ายหน้า “...เมลไปก่อนนะคะ”

โฟร์รั้งคนรักเธออีกครั้ง “พี่ส่งข้างบนห้องไม่ได้เหรอคะ”

เมเปิลส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ค่ะ เพราะเมลไม่แน่ใจตัวเองว่าจะบังคับตัวเองปล่อยให้พี่ลงมาได้ไหม”

โฟร์หลุดขำในความตรงของแฟนสาว “หื้ม...แบบนี้ก็ดีสิคะ พี่ชอบ”

“พี่โฟร์!! ก็เราสองยังคบกันยังไม่ถึงวันเลยนะ เรื่องแบบนี้...มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะ” ร่างบางดุคนไหลตามเธอ

“หนูคิดไปถึงไหนคะ พี่แค่คิดว่านอนจับมือ ร้องเพลงกล่อมนอนเฉย ๆ” โฟร์กลั้วยิ้มแกล้งว่าหยอก

เมเปิลไม่พอใจที่คนพี่พยายามเฉไฉและโยนความลามกมาให้เธอเพียงคนเดียว ทั้งที่เมื่อตอนจูบกัน ตัวเองลูบไล้ลากไปถึงสะโพกแล้ว “สาบานเถอะ!! ว่าพี่ไม่คิดแม้สักนิด” ปั้นหน้ายักษ์ใส่ตามมาด้วยสะบัดหนี

โฟร์ถึงหัวเราะ ใช้มือจับปลายคางคนแสนงอนให้หันมามอง “ทำไมจะไม่คิดล่ะค่ะ พี่น่ะอยากครอบครองเราที่สุด ในเมื่อตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา พี่รอได้ค่ะ ยังมีเวลาอีกทั้งชีวิตให้ทำเรื่องอย่างว่า…” พูดจบโฟร์แลบลิ้นปาก

เมเปิลเขินอายฟาดมือลงไล่พี่ โฟร์ถึงกับหน้าเบ้ในความเจ็บแสบ เดาว่าภายในเสื้อคงแดงเถือก ตั้งธงไว้ในใจแล้วว่า โปรดระวังฝ่ามือที่รัก “เมลไปจริงแล้วนะคะ ถ้ายังยื้อต่อไปคงได้นอนกันบนรถแน่” หญิงสาวหอมกระเป๋าก้าวพรวดเปิดประตูรถวิ่งหนีไป

โฟร์ลดกระจกยกมือป้องปากตะโกนไล่หลัง “ฝันดีค่ะ ที่รัก” จ้องมองคนรักยกมือปิดหูวิ่งดุ๊กดิ๊ก พอไปถึงทางเข้าหันมาโบกมือลากอีกครั้งก่อนจะหายเข้าไปทางด้านใน

หลังจากปล่อยคนน้องจากอกไป ยังมีบางอย่างต้องสะสาง ขับรถตรงไปยังโกดังร้าง พื้นกำจัดสิ่งไร้สาระในชีวิต คนเฝ้าประตูเปิดให้เธอขับรถเข้าไปยังด้านใน

กลุ่มชายวัยกลางคนนั่งกองรวมกันยังพื้น เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นจนดังก้องกังวาน เป้เดินมาด้านข้างยื่นถุงมือหนังสีดำและผ้าสำหรับพันข้อมือให้แก่เธอ และหยุดตรงหน้ากลุ่มคนดังกล่าว

“พวกมึงกล้ามากที่มาพูดจาหมา ๆ ใส่คนรักของกู” น้ำเสียงแสนนุ่มนวลบอกแก่คนตรงหน้า “และคนอย่างกูให้ไม่เอาเปรียบใคร โอกาสเดียวของพวกมึงคือชกกูให้โดน” โฟร์ยกมือตบแก้มตัวเองอย่างท้าทาย “แล้วกูจะปล่อยไป ถ้าไม่งั้นพวกมึงจะไม่เหลือไอ้สิ่งที่พวกมึงภูมิใจหนักหนา”

หนึ่งในนั้นชันเข่ายกมือไหว้ “ปล่อยผมไปเถอะ ผมปากเสียเอง” พร้อมตบหน้าตัวเอง ปากพร่ำบอกไม่หยุด

“ลุกขี้นมา!!! ลูกผู้ชายหรือเปล่าวะ เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย”

สิบนาทีต่อมาพบชายวัยกลางคนกองอยู่กับพื้นใบหน้าแตกยับ สภาพเละเทะ หญิงสาวแกะผ้าสีขาวย้อมเป็นเลือดสีแดงโยนทิ้ง ตามด้วยถุงมือหนัง “เสือกมาทำวันดี ๆ ของกูเกือบพัง ลากพวกมันไปซ้อมให้ยับกว่านี้ เป้ไปขับรถให้กูดิ”

บอดี้การ์ดหนุ่มคู่ใจโค้งตัวรับคำสั่ง กวักมือเรียกลูกน้องอีกคนมารับงานจะจัดการที่เหลือต่อจากเขา เป้ปรายตาดูแล้วคงไม่กล้าปากดีว่าใครอีกแน่นอน ก่อนจะเดินตามเจ้านายไปยังรถยนต์

 

เช้าวันรุ่งขึ้นคุณแฟนสาวมาทำหน้าที่คู่รักข้าวใหม่ปลามัน ขับรถมารับหญิงสาวไปทำงาน พอเมเปิลก้าวขึ้น โฟร์คว้าตัวเข้ามาจูบหนัก ๆ ให้หายคิดถึงไปอีกหนึ่งที

“คิดถึงค่ะ”

เมเปิลยังรู้สึกถึงความอุ่นริมฝีปากพี่ เม้มปากกลบความเขินอายทั้งที่ใบหน้ายังเห่อร้อน “คิดถึงเหมือนกันค่ะ” กดหอมแก้มคนพี่หนึ่งฟอด

โฟร์รู้สึกการมีเป็นแฟนกับเมเปิลทำให้การชีวิตของเธอยากลำบาก นับตั้งแต่การแยกจากกันเมื่อคืน ระหว่างขับรถกลับคอนโดตัวเองอยากจะวนรถกลับมา ลักพาตัวไปกกกอดหลายรอบมาก ๆ พอมาเจอการอ้อนในตอนเช้าอีก จะหิ้วไปทำงานด้วยก็ไม่ได้ ต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ ...ความรักในวัยทำงานมันช่างลำบากจริง...

“เฮ้ย...ไปทำงานกันค่ะ ตอนเย็นไปทานข้าวด้วยกันนะคะ” โน้มหัวมาหอมผม

“ได้ค่ะ งั้นเมลขับรถไปเองนะคะ พรุ่งนี้เช้าเมลต้องขับรถไปดูงานค่ะ”

 

โฟร์ขับรถมาส่งหน้าบริษัทของร่างบาง สายตาพนักงานที่กำลังเข้างาน มองบอสเล็กก้าวลงจากรถ มีความหวังจะได้เห็นเจ้าของรถสักแวบ

เลขาหน้าห้องของหญิงสาวโดนผลักดันจากพนักงานคนอื่นให้มาเป็นหน่วยกล้าตาย “คุณเมเปิลขา...ใครมาส่งเหรอคะ เจ้าของวลี ‘ทานให้อร่อยนะคะ จากคนที่แอบชอบคุณ’ หรือเปล่าคะ”

“คิดว่าไงล่ะ” เมเปิลยกยิ้มไหวไหลเดินหนีไป เสียงหวีดว้ายจากลูกน้องยิ่งทำให้เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุขมากขึ้นอีก

 

ครั้นขึ้นไปห้องทำงาน ยังไม่ผลักประตูเข้าไป มีเสียงเรียกชื่ออย่างอบอุ่นจากบิดา “เมเปิลลูก”

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณพ่อ” เธอเปิดประตูกว้างเดินนำบิดาเข้าไปในห้องทำงาน

“แม่เขาสั่งให้พ่อหิ้วข้าวเช้ามาฝากลูก” กล่องข้าวต้มวางบนลงโต๊ะ “แต่ว่าเมื่อเช้าใครมาส่งเหรอ...” บิดาหรี่ตาจ้องมาบุตรสาวตัวเอง ถึงแม้เขาจะหวงลูกมากแค่ไหน แต่ก็ยังรักษามาดให้ดูยังคงเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ “จะพามาให้พ่อกับแม่ลูกรู้จักไหม”

“โห...พ่อค่ะ!! เมลกับพี่เขาเพิ่งจะคบกันเองนะคะ” หญิงสาวอ้ำอึ้งอธิบายละลักละล่ำไม่คิดว่าพ่อตัวเองจะเข้าได้ตรงประเด็นไม่มีเลี้ยวโค้งเลย

“อะไร! เด็กสมัยนี้ จะมาจีบลูกสาวคนอื่นไม่รู้จักมาขออนุญาตพ่อกับแม่เขาเลย เข้าตามตรอกออกตามประตู” ท่าทางไม่พอใจไอ้เจ้าคนนั้นกล้ามาหยอดจีบ ยังไม่กล้ามาเจอเขา

“พ่อ!!!” เมเปิลแวดเสียงสูงใส่บิดา หน้างอง้ำไม่แน่ใจว่าเธอความเขินหรือโมโหที่พ่อเอาแต่ชวนพูดถึงคนพี่ อยากจะว่าจะให้มาสู่วันนี้วันพรุ่งนี้ “แม่คะยั้นคะยอให้เมลรีบมีแฟน พอเมลมีขึ้นมาจริงเร่งจะให้พามาเจอ ขอเวลาบ้างเถอะ ยังไม่หายตื่นเต้นเลย”

“เฮ้ย ๆ ๆ เขินเหรอเนี่ย หน้าแดงหมดแล้ว”

“พ่อ....”

“หรือว่าบ้านเราจะขอเขาแทน ลูกชายบ้านไหนเนี่ย” เสียงถามปนแซวอย่างมีความสุขของคนเป็นพ่อที่นานจะได้เห็นลูกตัวเองยิ้มหน้าบานและเขินอาย

“!!!!” เมเปิลยิ้มค้างในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนโดนสาดด้วยน้ำเย็นจัด กลืนคำพูดที่พูดต่อลงคอทันที ใจลึกก็กลัวว่าทางครอบครัวจะรับไม่ได้ในรสนิยมของเธอ

“พร้อมเมื่อไหร่ พามาบ้านนะ เรื่องนี้พ่อต้องโทรไปบอกแม่ให้เขาดีใจ จะได้ไม่ต้องวิ่งหาสามีให้ลูกแล้ว” บอสใหญ่ล้วงโทรศัพท์กดหาภรรยาตัวเอง และหันมาบอกลูกสาวตัวเอง “อย่าลืมกินข้าวของแม่เขาด้วยล่ะ” เมเปิลได้ยินเสียงการคุยกะหนุงกะหนิง ...น้ำลายวันนี้เหนียวข้นอีกแล้ว

 

ในช่วงเย็นเมเปิลขึ้นมานั่งบนรถของตัวเอง ถอนหายใจอย่างท้อ การคาดหวังของพ่อรวมถึงแม่ที่ส่งข้อความมาหาเกี่ยวกับแฟนของเธอสร้างความลำบากใจ จึงทำแค่เพียงตอบเลี่ยงออกไป ชั่งใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับคนพี่ดีไหม แต่เมื่อคนรักของเธอโทรมาบอกว่ารออยู่ที่ร้านแล้ว จึงเลือกจะตัดปัญหานี้ทิ้ง รอให้ความสัมพันธ์ของพวกเธอมั่นคงกว่านี้ค่อยกังวลดีกว่า

 

ร้านอาหารที่โฟร์เลือกมาทานเป็นร้านขนาดปานกลางแต่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยด้วยการบอกปากต่อมา แต่ด้วยเชฟอยู่ในคอมมูตี้เดียวกับพวกเธอและเป็นแขกประจำร้าน P.FOuR Share จึงทำให้เธอได้โต๊ะว่าง อาหารสั่งก็มาเสิร์ฟ เมนูพิเศษเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่นไทย-ยุโรป พิซซ่าหน้ากะเพราเบคอนกรอบ สปาเกตตีน้ำพริกอ่อง สปาเกตตีปลาหมึกผัดไข่เค็ม และยังมีอาหารไทย ส้มตำข้าวโพด ต้มยำกุ้งแม่น้ำ

“พอทานได้ไหม สั่งอะไรเพิ่มได้นะ” โฟร์ขยับจานของกินไปยังตรงหน้า

“พี่โฟร์จองโต๊ะได้ไงคะ เขาบอกว่าร้านนี้คิวข้ามปี ต่อให้มีเงินก็ซื้อคิวได้ด้วย” เมเปิลมองไปรอบ ๆ ร้านสำรวจการตกแต่งจนพอใจ และย้ายสายตามายังอาหารตรงหน้า “อาหารน่าทานมาก... เมลขอลงชิมพิซซ่าเลยนะ”

โฟร์อดยิ้มในความกินเก่ง เอื้อมมือยกสิ่งที่เจ้าตัวอยากกินไปวางลงบนจาน “พอดีพี่รู้จักการเชฟ เลยบอกว่าจะพาแฟนมากินข้าวมื้อพิเศษแลกกับค่าเหล้าที่ร้านปันปันสองปีเต็ม ๆ”

“ห๊ะ!!! แล้วพี่ปันปันจะไม่ว่าเหรอคะ แล้วเซฟ...” สีหน้าตกใจในเรื่องที่พูดคุยแต่ก็ไม่กระทบต่อการกินยังเคี้ยวจนแก้มป่อง โฟร์มองด้วยสายเอ็นดู

“พี่ซะอย่างมันกล่าวว่าได้เหรอ และคุณเซฟชอบไปหิ้วเด็กในร้านบ่อย ๆ ตอนแรกก็ไม่ยอมลูกเดียว บอกว่าไม่อยากแหกกฎของร้านที่ตั้งไว้ พอพี่บอกว่าเหล้าฟรีสองปีเท่านั้นแหละ โต๊ะเสริมมีทันที”

เมเปิลและโฟร์อมยิ้มก่อนจะหลุดขำออกมา และร่างบางสังเกตว่าพี่มีมุมที่แอบนินทาคนอื่นด้วย ถ้าไม่คบกันก็คงไม่มีท่าได้เห็น และรอยยิ้มพี่โฟร์สวยมาก เสียงหัวเราะน่าฟังสุด ๆ

“หัวเราะอะไรกันครับ!” เสียงชายหนุ่มดังขึ้น

“เชี่ยหนึ่ง!!” โฟร์หันมาตามเสียง และสบถใส่หน้าพี่ชายทันที

“วะ วี...” เมเปิลเองก็ตกใจเพื่อนสนิทกับแฟนหนุ่มโผล่มาในร้านเดียวกัน กว่าเธอจะหาเสียงเจอผ่านไปเกือบสิบวินาที “มะ มากินข้าวร้านนี้เหรอ”

“อื้ม...ทำไมเมเปิลมากินข้าวกับพี่โฟร์ได้ล่ะ” น้องน้อยวีถามด้วยเสียงสดใสและใสซื่อ

หนึ่งปรายตาน้องสาวอย่างชั่งใจและเดาว่าคนน้องกำลังคิดทำอะไรอยู่ มากับเพื่อนน้องรักทำไม โฟร์จิปากไม่พอใจ “มองเชี่ยไรหนึ่ง มึงกับเมียมึงไปที่ของมึงสิ ยืนทำเชี่ยไร”

“ยิ่งไล่กูยิ่งอยากนั่งด้วย น้องเมเปิลขา...พี่กับน้องวีของพี่นั่งด้วยได้ไหมคะ” พี่น้องบ้านนี้รักกันราวกับกาสะลองและซองปีบ* ลากเก้าอี้มาให้คนรักของตัวเองนั่ง โฟร์มองว่าหนึ่งมันคงไม่เลิกล้มความตั้งใจป่วนเธอแน่ จึงเลื่อนเก้าอี้ไปยังฝั่งคนของตัวเอง ให้ผัวเมียได้นั่งติดกันแทน

“ได้ค่ะ กินด้วยกันหลายคนสนุกดี วีนั่งข้างเมลเลย” โฟร์จำใจยอมตกลงให้สองคู่รักนี้

โฟร์โบกมือเรียกพนักงานให้เอาเมนูมาให้ สองคนนี้สั่งอาหารเพิ่ม ส่วนหนึ่งรับมาจัดการสั่งอาหารทันที พร้อมทั้งถือวิสาสะใช้มือหยิบจานของเธอส่งไปให้คนรักของตัวเองพร้อมหยิบพิซซ่าส่งให้ถึงที่

“เออ มึงยังไม่ตอบกูเลยว่าทำไมมากินข้าวกับน้อง ร้านนี้กูจองตั้งแต่ต้นปีถึงได้คิว อย่าบอกนะว่ามึงจองสำหรับกินกับเด็กที่เพิ่งเลิกไป แล้วกลัวเสียหน้าเลยลากน้องมากินแทน ทำไมต้องเป็นน้องเมเปิลด้วยวะ” หนึ่งร่ายยาวพร้อมกับมโนความคิดไปสารพัด

“มึงมโนไปถึงไหนไอ้หนึ่ง กูจะพาแฟนกูมากินข้าว” โฟร์ตอบเชิดหน้าใส่

หนึ่งเบะปากไม่เชื่อในโฟร์พูดแม้แต่นิด “แฟน? กล้าเน้อ...”

น้องวีผู้แสนไร้เดียงสา “เมเปิลเป็นแฟนพี่โฟร์เหรอ ไม่จริงง่า...หลายวันก่อนยังร้องไห้ฟูมฟายบอกอกหักอยู่เลย”

เมเปิลจุกอก หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “น้องวีลูก...ไม่ต้องย้ำนะคะ” ถลึงตาดุใส่เจ้าตัว “เอาจริงเพิ่งมาสนิทไปไหนมาด้วยกันก็ช่วงหลังเนี่ยค่ะ ก็เพื่อนแต่ละคนหนีไปมีสามี” เธอตวัดสายตามามองและแหวะเพื่อนตัวน้อง “ไปมีเมีย รวมถึงเพื่อนคนสำคัญยังหนีไปมีแฟนเลย” คำพูดนี้เสียดแทงคนพี่ของไนน์ทั้งสองคน

“...” โฟร์กับหนึ่งอยู่ในอาการเดียวกันคือกุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด

...ที่นี่ละเข้ากันอย่างดีพี่น้องบ้านนี้…

 

พนักงานก็เดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มและจัดการมาเพิ่มตามจำนวนแขก รอไม่นานอาหารที่สั่งไปเพิ่มก็มา กลิ่นอันหอมหวน บวกกับการหิ้วท้องถกเถียงเรื่องไร้สาระ ทั้งสี่คนลงมือกินด้วยกัน

“น้องวีขาป้อนพี่หน่อย” หนึ่งทำหน้าที่หันสเต๊กให้คนรัก

“พี่หนึ่งหันมาก่อน อ้าปากครับ” เจ้าตัวน้องม้วนเส้นสปาเกตตีป้อนคนรักตามคำขอ ตามด้วยผ้าซับมุมปากที่เลอะอีก

“น้องเมลขา ป้อนพี่มั่งค่ะ” ด้วยไฟอิจฉาลุกโชน โฟร์หันอ้อนแฟนตัวเองเอาแต่ก้มหน้ากินและพูดคุยกับเพื่อนสนิท ยื่นหน้าอ้าปากรอแบบลูกนก

“เอ่อ..” เมเปิลเลิ่กลั่กไม่คิดว่าคนพี่กล้าร้องขอ ใจเธอกลัวว่าพี่หนึ่งจะจับได้และเอาไปฟ้องไนน์ ส่วนน้องวีน่ะเหรอต่อให้เธอกับพี่โฟร์กอดกันต่อหน้า บอกว่ากอดกันแบบพี่น้อง เจ้าหนูคนนี้ก็เชื่อ

“น้องเมเปิลสงเคราะห์เป็นแฟนมันสักวัน ความรักกูกับน้องวีมันลึกซึ้งจนมึงอยากจะมีบ้างใช่ไหมล่ะ” โอ้อวดไม่พอ โน้มตัวไปหอมหัวคนรักอีก

“พี่หนึ่ง...” น้องวีส่งสายดุที่แสนน่ารัก ใบหน้าแดงแปร๊ด

โฟร์รอจังหวะให้พี่ชายมัวเมาโอ้อวดแฟนแสนน่ารัก จนให้เธอเล่นบนแฟนกับแฟนตัวจริง “มึงพูดแล้วนะ” เธอขยับเก้าอี้ไปหาร่างบางอีก เอียงหัวซบไหล่ “เมเปิลขา...ตกลงไหมคะ ยอมเล่นเป็นแฟนพี่สักวันน่ะ”

“คะ ค่ะ” เมเปิลอมยิ้มพยักหน้ารับในคำขอ ข้างในหัวใจเต้นระรัวตึกตักทั้งกลัวและตื่นเต้น “งั้นพี่โฟร์อ้าหน่อยค่ะ เดี๋ยวเมลป้อน”

“ขอบคุณค่ะ” สาวร่างโปร่งตายิ้มอ้าปากรับอาหารเข้าปาก

ในจังหวะเคี้ยวใช้สายตาปะทะกับพี่ชาย ยักคิ้วตอบ ส่วนหนึ่งเองลอบมอง พลางคิดอย่างสนุกในใจ ขอให้เมเปิลใช้ความน่ารักตกน้องสาวเขา จนมันตามจีบ ทีนี้เขาจะเรื่องนี้ไปฟ้องคนเก่งเอาหน้า ...ด้วยนิสัยคนเก่งหวงเพื่อนมึงจะตายโฟร์... หนึ่งทำเพียงยิ้มกว้างตอบ

การรับประทานอาหารมาถึงช่วงท้ายสองคนอายุน้อยกินคาวมาเยอะแล้วจึงจัดการสั่งของหวานทันที เมเปิลสั่งมาเป็นคาราเมลคัสตาร์ดอันแสนจะชุ่มฉ่ำด้วยสีน้ำตาลไหม้ และก้อนแป้งอันแสนเด้งดึ่งดั้ง ของหนูวีเป็นเค้กมะพร้าวฝอยทอง และสองพี่น้องสั่งกาแฟมาจิบล้างปากเช่นกัน

โฟร์มองขนมตรงหน้าคนรักของเธอ “พี่โฟร์จะกินเหรอคะ” เธอพยักหน้า คนน้องตักป้อนทันที ปรายตามองพี่ชายยักคิ้วกวนไปอีกหนึ่งที

หนึ่งปรายตามองแบบหมั่นไส้ หันกลับไปหาภรรยาตัวน้อย “น้องวีขา..ปากเลอะค่ะมาพี่เช็ดให้” หนึ่งเชยปลายคางคนรักโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะลิ้นตวัดเลียมุมปากแทนมือ

น้องหนูวีตกตะลึงหน้าเหว่อ ใบหน้าแดงลามไปยังใบหู เมเปิลยกมือปิดปากเขินอายร่วมไปเพื่อนเหลือบมองคนรักด้านข้างมีสีหน้าถมึงทึงกำหมัด หนึ่งเองดุ้นลิ้นยียวน

โฟร์โมโหการแสดงความรักอันหวานชื่น แต่ใจจริงเธออิจฉามากกว่า คว้ามือเมเปิลดีดตัวลุกขึ้น “เมเปิลเรากลับกันเถอะค่ะ” เอ่ยเสียงเขียวใส่พี่ชาย “ขืนอยู่นานกว่านี้พี่กลัวจะได้พังร้านแน่ ส่วนมึงจ่ายเงินด้วย”

“หา...ไปก่อนนะวี สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง” เธอโบกมือลาเพื่อนระหว่างตัวปลิวไปตามแรงกระชากคนพี่

 

โฟร์ยังไม่พาน้องไปยังที่รถ แค่มายืนในมุมสวนของร้าน หยิบบุหรี่ออกมาสูบระบายความหงุดหงิด ในใจก็ไม่พอใจคนด้านข้างเหมือนกัน ถ้าเมเปิลไม่ขอร้องว่าอย่าเพิ่งให้ไนน์รับรู้เรื่องของพวกเธอ และถ้าไม่ดวงซวยดันมากินข้าวตรงกับสองคนผัวเมียนั่นอีก คงได้สวีตหวานกับเจ้าแก้มกลม

“อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ” เมเปิลเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม โฟร์โยนสิ่งอยู่ในมือสูบไปแค่นิดเดียว ทิ้งหัวซบบ่า “พี่แค่อยากทำแบบไอ้หนึ่ง พี่ก็มีคนรักนะ”

เมเปิลเห็นพี่หนึ่งพาวีจากประตูกำลังจะมองมาทางนี้ โฟร์ยังไม่ทันอ้อนต่อ รับแรงพลักออกอย่างแรง ดียังมีกิ่งไม้ให้เธอคว้าไม่งั้นก้นคงจ้ำเบ้า โฟร์งุนงงเออไปเล็กน้อย ไม่เคยมีใครเคยทำกับเธอแบบนี้มาก่อน

“วีจะกลับแล้วเหรอ กอดลาหน่อย” เมเปิลเข้าไปสวมกอดเพื่อนตัวน้อยจนแน่น

“อื่อ...ถ้ามีเรื่องอะไรบอกวีได้เลยนะ ห้ามกินเหล้าเมาคนเดียวแบบนั้นอีกนะ” ความเป็นห่วงเป็นใยถ่ายทอดผ่านคำพูดและมือบางลูบแผ่นหลัง

หญิงสาวดันเจ้าตัวน้อยออก “ไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว” ฉีกยิ้มอย่างมีความสุขให้เจ้าตัวเห็น “ตอนนี้กลับไปได้แล้ว สามีวีจ้องเมลแทบทะลุแล้ว” พลิกเจ้าตัวน้อยหันหลังดันส่งคืนสามี

“โฟร์มึงไปส่งน้องกลับบ้านดี ๆ นะ ห้ามจีบน้องด้วย!! แล้วไปมึงทำอะไรกับต้นไม้ตรงนั้น” หนึ่งบอกน้องสาว และเพิ่งสังเกตว่าเจ้าตัวยืนแนบชิดกับต้นไม้จนแทบกลายเป็นนางไม้

“...” โฟร์ตวัดสายตาไปมอง ...เพราะมึงนั่นแหละ “เออ!! เชิญไปหวานกันไกล ๆ กูเลย”

“...” หนึ่งไหวไหล่อย่างไม่แยแสในคำพูด โอบเอวภรรยาพาไปยังรถตัวเอง

พอลับสายตาเมเปิลหันไปมองคนพี่แบบรู้สึกผิด “พี่โฟร์เป็นอะไรไหมคะ เมลขอโทษ...อื่อ...” ค่อยดึงตัวคนพี่ออกมากกต้นไม้ แต่คนพี่ยังมีความขุ่นเคืองอยู่ กระชากตัวคนรักกดตัวเข้ากับต้นไม้ ก่อนจะบดจูบเพื่อลงโทษ

TBC...

*กาสะลองและซองปีบ ตัวละครจากเรื่อง กลิ่นกาสะลอง ทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดแต่มีนิสัยเกลียดขี้หน้ากัน