12 ตอน Chapter 12 คำสารภาพรักของเราสองคน
โดย T.mines
Chapter 12 คำสารภาพรักของเราสองคน
“ถ้าก้าวขึ้นมานั่งบนรถคันนี้แล้ว พี่ไม่ให้ลงไปไหนแล้วนะ รวมถึงในใจพี่ด้วย ยังยินดีจะไปด้วยไหมคะ”
“ถ้าพี่โฟร์มั่นใจแล้วว่าเมลคือคนคนนั้นของพี่ เมลก็ยินดีร่วมทางไปกับพี่ค่ะ”
หลังจากพูดจบเมเปิลเขินอายก้มหน้าลง รู้สึกว่าคนพี่ไม่ยอมตอบอะไรมาบ้าง จึงช้อนใบหน้าเงยขึ้นไปมองกับคนพี่ เม้มปากบางเข้าหากัน ทั้งสองสบตาซึ่งกันต่างเข้าใจในคำถามที่แฝงคำตอบอย่างชัดเจนของกันและกัน สายตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความหวานและชื่นชอบที่ได้มีกันและกัน
โฟร์โน้มตัวไปเข้าไปหาคนน้อง เมเปิลเองกึ่งรับรู้ว่าคนพี่กำลังจะทำอะไรก็หลับตาพริ้มเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย คนพี่ถึงกับอมยิ้มเบี่ยงหน้าไปด้านข้างกดหอมแก้มไปหนึ่งฟอดและผละออกมาดีดหน้าผากเจ้าตัวแสบไปอีกหนึ่งที
“ถ้ายังทำแบบนี้อีกนะคะ เรื่องที่พูดอยากคุยกัน คงต้องได้ไปคุยบนเตียงแล้วล่ะค่ะ” คนขับรถถอยตัวมานั่งพิงเบาะ กดเสียงดุแบบไม่จริงจังแก่คนนั่งข้าง “นั่งเฉยๆ ไปเลยนะคะ ห้ามส่งสายตามาอ้อนพี่ และมองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ถ้ายังอยากให้พี่คนนี้เหลือความเป็นคนอยู่บ้าง ขอร้องเลยนะคะ”
“ส่งสายตาแบบนี้เหรอคะ” เมเปิลแนบใบหน้ากับคอลโซนหน้ารถ ส่งสายตา เผยอริมฝีปากยั่วยวน
โฟร์ใช้มือผลักหัวคนน้อง “พอเลยเจ้าตัวแสบ” ทั้งสองหัวเราะไปร่วมกัน “ไปกันเถอะค่ะ” โฟร์แบมือขอมืออีกคนคนน้องทาบสิ่งเดียวกัน นิ้วทั้งสิบสอดประสาน
โฟร์ขับรถพาเมเปิลไปยังร้าน P-FOuR Share เพราะเธอคือหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญ จอดรถไว้สำหรับพื้นที่ทางร้านจัดเอาไว้สำหรับแขกประจำของร้าน สองสาวจูงมือกันเดินข้ามถนน และได้ยินเสียงจิปากไม่พอใจอย่างพร้อมเพรียงกันจากชายวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนตรงหัวมุมทางเข้าร้าน มันทำให้ทั้งสองสะดุดเมื่อโดนขัดจังหวะไปชั่วครู่ และกำลังจะก้าวเดินต่อมีเสียงเข้ามากระทบ
“แม่ง!! ผู้ชายก็ไม่ได้หมดโลกไปแล้วเหรอวะ พวกผู้หญิงถึงหันมาคบกันเอง” ผู้ชายหนึ่งในกลุ่มเริ่มพูดคนแรก
เมื่อมีคนเปิดคนที่สองก็ตามมา “หน้าตาก็ดีทั้งสาวทั้งสวย แม่งโคตรเสียดายเลยวะ” หลังจากพูดจบทั้งกลุ่มย้ายสายตาไล่มองหญิงสาวอย่างเมเปิล
“...” หญิงสาวร่างบางมองตอบกลับเช่นกันด้วยนิสัยไม่ยอมใคร สูดลมหายใจข่มความไม่พอใจเอาไว้
“จูงมือกันเดินแบบนี้จะเข้าบาร์เลส เปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายแบบพวกพี่ยังทันนะจ๊ะน้อง” ตามด้วยฮิ้ว...
โฟร์ก้าวเดินออกมาแต่ไม่ทันฝีปากคนน้องที่ได้สกิลจากเพื่อนทั้งสองอย่างจัสมินและคิว “พวกคุณพูดหมายถึงเราทั้งสองคนใช่ไหมคะ ช่วยเคารพรสนิยมทางเพศของแต่ละบุคคลด้วย โลกมันเปิดกว้างมากเลยนะคะ หรือว่าเอาแต่หน้าหมุดหว่างขาเลยไม่รู้ว่าโลกมันไปถึงไหนแล้ว เอ่อ..มนุษย์เขาไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้วนะคะ หรือว่ามันเป็นข้อมูลใหม่ไป รู้หรือเปล่าคะว่าโลกมันกลม”
“พูดบ้าอะไรของแก ใครเขาจะไม่รู้ว่าโลกมันกลม แล้วเรื่องไปเหยียบดวงจันทร์อะไรนั่นเกี่ยวอะไรด้วย” หนึ่งในนั้นพูดสวนออกมา
“งั้นก็แสดงว่าไม่ได้หลงยุคมา หรือว่าแก่เกินที่จะแยกแยะอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาพูดแบบนี้กับใครอีกนะคะ มันหยาบคายมาก ๆ”
“ก็พวกพี่เสียดายไง สาว ๆ สวย ๆ มดลูกก็มี ถ้าเป็นแม่พันธุ์ลูกต้องออกมาหน้าตาดีแน่ ๆ”
“นิ้วเย็น ๆ จะสู้ดุ้นอุ่น ๆ ได้เหรอน้อง” ตามด้วยเสียงหัวเราะพร้อมทั้งกลุ่ม
โฟร์ตวัดสายตาเยือกเย็นไปยังกลุ่มคนดังกล่าว ตามด้วยน้ำเสียงกดต่ำ “อย่ามาพูดจากต่ำ ๆ กับคนของกู พวกมึงภูมิใจมากนักเหรอกับไอ้ดุ้นนั่นน่ะ ถ้าลองมันหายไปมึงยังจะภูมิใจกันไหม เหยียดนักเหรอคนรักร่วมเพศ เรารักกันไปนั่งบนหัวพวกมึงเหรอ” โฟร์แสยะยิ้มตามด้วยน้ำเสียงนึกสนุก “แต่จะว่าไปลองใช้การไม่ได้คงขาดใจตายแน่ ๆ” เธอใช้สายตากดต่ำมองไปยังเป้ากางเกงกลุ่มผู้ชายดังกล่าว และเหลือบไปมองไปยังบอดี้การ์ดประจำกายที่จัดการอยู่ห่าง ๆ ส่วนจะจัดการยังไงค่อยคุยกันอีกที ยกมือโอบไหล่คนน้องออกแรงดันให้เข้าไปยังข้างในร้าน “ไปค่ะ เรื่องของเรารออยู่นะ”
หลังจากประตูร้าน P.FOuR Share ปิดลง กลุ่มชายวัยกลางคนก็เดินออกเกาะกลุ่มกันออกมา ไม่นานรถตู้คันสีดำและชายฉกรรจ์ก็เข้าประกบลากขึ้นไปยังบนรถอย่างรวดเร็วและขับหายไป
โฟร์พาเมเปิลเดินขึ้นไปยังชั้นสามบนสุดของร้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนจำกัดไว้เฉพาะเธอเท่านั้น ร่างบางพบหญิงสาวคนที่บอกว่าเป็นแฟนสาวของคนพี่นั่งรออยู่ในนั้น เมื่อเห็นคนทั้งสองโบกมือทักทาย
“ไปข้างบนนะคะ พี่มีคนแนะนำให้เรารู้จัก พร้อมแก้ไขความเข้าใจผิดด้วยค่ะ” โฟร์คลายมือจากการกอบกุมเป็นโอบเอว
การแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคนพี่สร้างความมั่นใจให้แก่เธออย่างมาก “ค่ะ”
“เชิญค่ะ” ปันปันทำหน้าที่เจ้าบ้านต้อนรับแขกทั้งสอง ปรายตามองคุณเพื่อนสนิทแสดงอาการหวงคนในอ้อมแขนอย่างหนัก “นี่ใช่คนที่จะพามาแนะนำ คนที่คุณเพื่อนจะขอเป็นแฟนใช่ไหม” ปันปันยกยิ้มมุมปากอย่างหน้าทะเล้น
โฟร์ผละตัวจากคนน้อง หวังมาอุดปากหญิงสาวแต่ไม่ทันเปลี่ยนมาชี้หน้าแทน “มึงแม่ง!! ทำแผนกูเสียหมด”
ปันปันตบหน้าขาดังฉาดพร้อมเสียงหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า ว้าว...คุณโฟร์เสียอาการว่ะ อุ๋ย!! ลืมแนะนำตัวค่ะ พี่ชื่อปันปันเป็นเพื่อนสนิทนังนี่มัน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะและขอโทษเรื่องวันนั้นด้วยที่เสียมารยาทไป”
เมเปิลยื่นมือไปจับกับหญิงสาวตรงหน้า “หนูชื่อเมเปิล ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”
ปันปันส่งสายตาหวานเยิ้มมองใบหน้าสวยของคนอายุน้อยกว่า จนเมเปิลเองทำตัวไม่ถูกต้องลู่หลบสายตาอันนั้น โฟร์หันไปถลึงตาใส่เพื่อน คว้าตัวคนน้องมาซุกในอก
“มึงหยุดมองเมเปิลด้วยสายตาแบบนี้ ถ้ายังไม่อยากโดนกูควักมันออกมา” น้ำเสียงขู่อาฆาต
ปันปันปรบมือเรียกคนทั้งสองให้มาสนใจเธออีกครั้งตามด้วยน้ำเสียงพูดเป็นกันเอง “เอาล่ะไม่แกล้งแล้ว ไม่เล่นด้วย พี่เป็นเพื่อนสนิทของโฟร์ตั้งแต่มอต้น และยังเป็นไม้กันหมาให้มันตลอด ส่วนเรื่องที่เกิดวันนั้นพี่เข้าใจผิดว่าการศึกชิงนางขึ้นมา เลยเข้าไปขว้างจนลืมถามเจ้าตัวว่าคนไหนตัวจริง คนไหนตัวแจม พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ให้น้องเมเปิลเข้าใจผิด” หลังจากหญิงสาวปันปันจบพูดพยายามฉีกยิ้มกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง
“ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ” เมเปิลยิ้มตอบกลับ
“หมดธุระของมึงแล้ว กูจะได้ทำสิ่งที่กูอยากทำอยากคุยกับน้อง” โฟร์เริ่มชักสีหน้าไม่พอใจเพื่อนของเธอยังไม่คิดจะขยับตัวออกไปไหน อยากมีส่วนร่วมในเรื่องของชาวบ้าน
ปันปันยกมือปิดปาก ดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าตื่นตกใจ “มึงโอบน้องมาขนาดนี้ แยกเขี้ยวหวงตั้งแต่ปากซอย แต่ยังไม่ได้เป็นแฟน ชักช้ามาก... ไม่น่าเป็นเพื่อนคนอย่างกูได้เลย”
โฟร์ถึงกับไปไม่ถูก อ้ำอึ้งอยู่สักพันก่อนจะเค้นคำตอบออก “ก็ กูกับน้องใจตรงกันแล้ว แค่รอจังหวะและบรรยากาศเหมาะสมไงมึง จริงไหมคะหนู”
“อา...ค่ะ” คนน้องพยักหน้าตามคำคนพี่
“โอเค งั้นดิฉันให้เวลาคุณทั้งสองหนึ่งชั่วโมงในการจัดการตกลงเป็นแฟนกันซะ แล้วฉันจะเข้ามาเม้ามอย” ปันปันป้องปากบอกน้องน้อยในที่นี้ “พี่อยากรู้จักคนที่สามารถกุมหัวใจเพื่อนสนิทพี่ได้ ไปล่ะนะ เดี๋ยวจะพาสามีมาแนะนำให้รู้จักด้วยนะน้องเมเปิล โฟร์มึงรีบเลยนะ” ปันปันลุกขึ้นไปหลังจบในสิ่งที่ตัวเองพูด
โฟร์นวดขมับ คิดผิดไหมที่พามายังร้านนี้ เธอหันไปสบหากับคนน้องแล้วก็หัวเราะไปด้วยกัน ครั้นเสียงความขำขันหายไป เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองเริ่มประหม่าด้วยกัน โฟร์รวบรวมความกล้าเอ่ยถาม “เมเปิลค่ะ ยังจำคำพูดที่ก่อนตอนหนูขึ้นรถได้ไหมคะ”
เมเปิลพยักหน้ารับ “ขึ้นมานั่งบนรถคันนี้ พี่ไม่ให้ลงไปไหนแล้วนะรวมถึงในใจพี่”
โฟร์นิ่งเงียบจากนั้นเริ่มพูดต่อ “อย่างที่หนูรู้ครอบครัวพี่เป็นแบบไหน พวกพี่ถูกสอนให้รักษาพื้นที่รอบกายไว้เพียงแค่คนตัวเองไว้ใจเท่านั้น รถที่ไม่เคยขับให้ใครนั่ง พื้นที่ตรงนี้พี่ไม่เคยพาใครเข้ามา บ้านใหญ่หนูไปมาแล้ว และอีกที่คือคอนโดของพี่ พี่แค่อยากให้เมเปิลรับรู้ว่า เมเปิลคือคนพิเศษคนเดียวที่พี่อยากให้ก้าวเคียงข้างไปกับพี่ พี่ชอบน้องเมเปิลค่ะ และเป็นแฟนกับพี่ได้ไหม พี่อยากจะรักและดูแลเมลในฐานะคนรักไม่ใช่น้องสาวหรือเพื่อนสนิทน้องชายพี่ค่ะ” โฟร์คว้ามือของร่างบางมาวางทาบสัมผัสเสียงหัวใจของเธอ
เมเปิลเอาแต่เก็บความรู้สึกนี้มานานหลายปี ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองคนพี่อยู่ห่าง ๆ ต้องยับยั้งความรู้สึกกดข่มไว้แค่เพียงพี่สาวของเพื่อนเท่านั้น จนได้ยินคำบอกรักแบบไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยิน ขอบตาเริ่มร้อนเผ่า หยดน้ำใสกลิ้งหล่นจากหางตา มือของคนพี่อีกข้างย้ายไปวางทาบแก้มใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาอย่างปลอบโยน
ร่างบางสูดลมหายใจและอดกลั้นจะไม่ร้องไห้ “พี่โฟร์จำคำตอบที่เมลตอบตอนขึ้นรถ ถ้าพี่มั่นใจว่าเมลคือคนคนนั้นของพี่เมล เมลยินดีจะไปกับพี่ค่ะ เราเป็นแฟนกันนะคะ มันคุ้มค่าที่เมลรอแต่พี่มานาน เมลก็รักพี่โฟร์นะคะ”
โฟร์โน้มใบหน้าไปประทับริมฝีปากแนบสนิท ถอดถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ค่อยเคลื่อนไปประทับหน้าผาก จูบซับดวงตาทั้งสองข้าง ไล่ลงมาจมูก แก้มสองข้าง และดึงตัวน้องเขากอดแนบสนิท
“คนนั้นคือหนูมาตลอดค่ะ พี่ขอโทษนะคะที่ไม่มีความกล้าพอ พี่ขอโทษจริง ๆ” คนพี่กระซิบจูบซับขมับไล่กดหอมศีรษะ
“อื่อ...ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่รักเมล พอแล้ว แค่นี้พอแล้ว อื่อ...”
โฟร์เองเพิ่งได้รู้ว่ารับรู้น้องเองชอบเธอมานานแล้วเช่นกัน ถ้าเธอยอมชัดเจนให้เร็วกว่านี้น้องคงไม่ต้องเสียใจ มันยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด “ไม่ร้องนะคะ ฮึบ! ตอนนี้เรารักกันแล้วค่ะ จะเคียงข้างกันไปตลอดนะ พี่สัญญาจะไม่มีวันปล่อยมือจากเราไปไหนเด็ดขาด โอ๋ โอ๋..นะคนเก่ง ไม่ร้องแล้วน้า...”
“...” คนร้องไห้พละตัวจากอ้อมอก โฟร์ใช้นิ้วปาดคราบน้ำตา “หน้าตาเมลน่าเกลียดไหมคะ ยังสวยอยู่ไหมคะ” เมเปิลคว้าทิชชูมาซับคราบน้ำตา หลังจากร้องไห้มานานถึงได้เพิ่งจะมากังวลว่าเครื่องสำอางจะเลอะจนดูน่าเกลียด
“ไม่แม้แต่นิดเลยค่ะ หนูสวยในสายตาพี่ตลอด” โฟร์ก้มลงไปมองคนน้อง “หนูลืมไปเลยเหรอคะ ว่าสภาพหน้าของหนูพี่เห็นมาครบหมดแล้ว” มือเรียวบางลูบหัวอย่างเอ็นดู โฟร์ยังจำสภาพคนน้องในช่วงใกล้สอบแต่ละครั้งเป็นอย่างดี เพราะโดนเจ้าน้องชายและเจโอเพื่อนอีกคนติวหนังสือจนเพื่อนที่เหลือในกลุ่มอีกสี่คนแทบรากเลือดจนไม่เหลือสภาพเป็นผู้เป็นคนได้เลย
“...” เมเปิลอ้าพะงาบพูดไม่ออกมา ยู่ปากไม่พอใจ
ช่วงเวลาการปรับความเข้าใจ การสารภาพรักจบลง สองคนรักนั่งจ้องหน้ากันคนพี่ยกนิ้วไล้ไปตามพวงแก้ม ส่วนคนน้องเกลี่ยมืออีกข้างคนพี่เล่น
เจ้าของร้านหายไปจนครบชั่วโมงกลับมาพร้อมเสียงเคาะประตูกระจกและเครื่องดื่มรวมถึงอาหาร เมเปิลลุกขึ้นช่วยปันปันถือของเข้ามา
“รู้สึกในห้องนี้มันหอมหวานอบอวลไปด้วยความรักเต็มไปหมดเลย” ปันปันลงไปนั่งฝั่งตรงข้ามคู่รัก “ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมคะ”
“อื้ม”
“ยินดีด้วยนะเพื่อน ได้มีคนรักเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที น้องเมเปิลรู้ไหมมันน่ะไม่ยอมคบกับใครจริง และพี่ขอบอกไว้ตรงนี้เลย น้องเมเปิลเป็นคนเดียวที่โฟร์พามารู้รักพี่ ส่วนคนอื่นจะรู้จักพี่ในแบบหญิงชู้ แฟนเก่า คนควง แต่ไม่มีใครรู้จักพี่ในฐานะเพื่อนสนิทของคุณเธอสักคน” ปันปันพูดไปเอียงหน้า สังเกตใบหน้ารุ่นน้องคนนี้มีอะไรถึงทำให้เพื่อนเธอหลงใหล นับตั้งแต่เธอเข้ามามันแทบไม่เห็นหัวเธอเลย เอาแต่จ้องแฟนตัวเอง
“เมเปิลตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
“ปีนี้ 24 แล้วค่ะ”
“เฮ้ย..รุ่นเดียวกันน้องมึงเลยนิ เออมึง!! ต้องอธิบายเรื่องน้องชาย คนดีของมึงให้ แฟนสาวมึงเข้าใจให้แจ่มแจ้งเลยนะ ว่าคือใครและมีความสำคัญยังไง ป้องกันการเข้าใจผิดว่ามึงแอบเลี้ยงเด็กผู้ชายเอาไว้” ปันปันขี้หน้าเพื่อนตัวเอง
เมเปิลแอบขำในคำที่ว่า ไนน์เป็นเด็กเลี้ยงของพี่โฟร์ โฟร์เองส่ายหัวในความคิดของเพื่อนตัวเอง “น้องรู้ว่าไนน์คือใคร รู้จักอย่างดีเลย”
“อย่าบอกนะ ว่ามึงไปได้น้องมาแบบเดียวกับที่พี่มึงได้เมียมาเหมือนกัน”
โฟร์ส่ายหน้ากับเมเปิล “ปันปันมึงนี่น้า...อย่าเอากูไปเทียบไอ้หนึ่ง กูจีบคือจีบ ไม่ต้องเอาน้องรักมาเป็นของอ้าง แล้วกูจะบอกมึงด้วยว่า ว่าที่ภรรยาในอนาคตของกูคือเพื่อนสนิทของไนน์ เพื่อนกลุ่มเดียวกัน”
“...” คนโดนแอบอ้างว่าเป็นว่าที่ภรรยาเม้มปากกรีดร้องดีใจอยู่ในอก
“เชี่ย...แม่ง...บ้านมึงแดกเพื่อนน้องไปกี่คนแล้ว แฟนพี่มึงแล้วหนึ่ง แฟนมึงอีกหนึ่ง แล้วที่เหลือล่ะว่ะ”
เมปิลอมยิ้มตอบกลับไป “คงไม่มีเหลือแล้วค่ะ ที่เหลือมีคนรักกันหมดแล้ว คนสุดท้ายในกลุ่มคือหนู ขนาดไนน์เองมันยังมีแฟนเลย...” เมเปิลหยุดปากตัวเองทันจนพูดถึงน้องชายสุดที่รักของแฟนสาว
โฟร์กุมหัวอกคล้ายมีคนเอามีดมาแทง เอียงตัวซุกใบหน้าบ่าคนรักมาด ๆ “หนูขาพูดแบบนี้ พี่เจ็บปวดมากเลยนะคะ พี่หายใจไม่ออก นะ หนู ชะ ช่วย ผ ผายปอดพี่หน่อย” คนแกล้งเจ็บปวดยกหน้าจูบปลายคาง ช้อนตาเพิ่มเสียงอ้อนเข้ามาอีก “นะคะ ปลอบใจพี่หน่อย นะ นะคะ...”
จุ๊บ เมเปิลเอาริมฝีปากแตะปากคนพี่ยกทันที ใบหน้าแดงแปร๊ดแถมยังเห่อร้อนลามไปทั่วใบหน้า ก็ต้องทำต่อหน้าเพื่อนสนิทของคนพี่
“เฮ้ย...หวานเกินหน้าเกินตาไปแล้ว” หนุ่มอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเดรสสีดำสุดเซ็กซี่ได้เห็นจังหวะคู่รักใช้ปากแตะกัน ผลักประตูเข้ามาตามด้วยเสียงโวยวาย
“ฮันนี...จะเซ็กซี่ไปไหนคะ สวยเกินเมียไปแล้วค่ะ” ปันปันชี้นิ้วและใช้สายตามองจิกตั้งแต่หัวจรดเท้าของคุณสามีตัวเอง
“ที่รักก็ ไอจะไม่แต่งสวยมาไง วันนี้เพื่อนยูจะพาแฟนมาเปิดตัว ไอจะน้อยหน้าได้ยังไง” ชายหนุ่มแต่งหญิงย่างก้าวไปนั่งยกภรรยาขึ้นมานั่งบนตัว ก่อนจะจูบแลกลิ้นจนพอผละแยกออกจากกัน
“แฮ่ก ๆ นี่เมเปิลค่ะ นี่คริสสามีพี่เอง” ปันปันจีบปากจีบคอบอกกับหญิงสาวอ่อนวัยกว่า “นางเป็นชายแท้ชอบแต่งหญิง แบบว่ากลางวันครับกลางคืนค่ะ”
“มาแล้ว เจอแล้ว ออกไปได้แล้ว” โฟร์ออกไปปากส่งสองคนผัวเมียให้ออกจากพื้นที่ส่วนตัว เธอก็อยากหวานอยากอ้อนแฟนให้สมกับที่รอคอยมานานเหมือนพวกมัน
“นี่โฟร์ ยูจะไม่ให้ไอคุยกับน้องเขาบ้างหรือไง”
“ไม่!!!” โฟร์ยิ้มให้สองสามีภรรยาคู่นี้อีกครั้ง ก่อนเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้ม กัดฟันพูด “ไปดูแลร้านได้แล้ว กูต้องการอยู่กับน้องสองคน พวก มึง ออก ไป”
“ฮันนี เจ้าของร้านเขาไล่แล้วค่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนมานับสิบกว่าปี หุ้นส่วนอีกหลายปี ต้องยอมพ่ายแพ้ให้แก่ความรัก” ปันปันลุกขึ้นลากคุณสามีโบกมือลากคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
เรื่องที่ยังค้างคาใจของสองสาวคือ ชายหนุ่มชื่อไนน์ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและน้องรัก เมเปิลนึกถึงวันที่คุยกับเรื่องเกี่ยวกับการแอบชอบพี่ของเจ้าตัว ถึงกับขนลุกว่าเพื่อนคนนี้นั้นหวงเธอมากแค่ไหน ถ้าได้ถ้ารู้ว่าแอบอ่อย แอบชอบมาหลายปี และคนที่ทำให้เธอฟูมฟายเมื่อวานคือพี่สาวตัวเอง เสียวสันหลังแวบ ถึงเพื่อนคนนี้จะมีเหตุผล แต่ลองไม่อยากรับฟังอะไรขึ้นมา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์
“เมลค่ะ เรื่องของเราพร้อมจะบอกไนน์เมื่อไหร่ดีค่ะ” โฟร์เอ่ยถามพลางจิ้มไก่ทอดป้อนไปด้วย
หญิงสาวอ้างรับพร้อมป้องปากเคี้ยว “อือ..ขอบคุณค่ะ แต่เมลว่าเอาไว้ก่อน แล้วก็เรื่องมันแบบว่าเมื่อคืนอกหักคืนนี้มีแฟน และคนนั้นคือพี่สาวตัวเองด้วย”
“ไนน์ของพี่มีเหตุผลอยู่นะคะ คงไม่ยอมให้เพื่อนรักอย่างหนูต้องเสียใจ แต่ยังไงพี่ก็ตามใจเราเสมอ หนูบอกไปซ้ายพี่ไม่มีทางไปขวาแน่นอน”
“รอเวลาจังหวะที่เหมาะสมและค่อยหาโอกาสบอกแล้วกันค่ะ”
โฟร์พยักหน้ายอมรับในความคิดของคนน้อง เพราะรู้แล้วว่าถ้าเริ่มจากการไม่บอกความจริงตั้งแต่แรก และในเวลาต่อ ๆ ไปมันจะไม่มีโอกาสได้บอกอีกเลย แต่ในวันความจริงถูกเปิดเผยเธอเองพร้อมยืดออกรับความผิดนั้นเอง แต่ในความคาดหวังคือการได้อวดแฟนของเธอเองแก่บรรดาพวกนั้น โดยเฉพาะกับไอ้เชี่ยหนึ่ง
“เฮ้ย...พี่เสียใจอยู่อย่างเดียวคือการไม่ได้บอกใครว่าคนที่น่ารัก คนที่สวยมาก ๆ เจ้าแก้มกลมคนนี้คือแฟนพี่ค่ะ” โฟร์ตีหน้าเศร้าแสร้งเสียใจเอาใบหน้าซุกซอกคอกดจูบดูดฝากรอยจ้ำแดง “มันเขี้ยวค่ะ”
“อือ...คนฉวยโอกาส”
TBC...
ไม่ยอมให้ปล่าวประกาศ งั้นขอฝากร่องรอยความเป้นเจ้าของล่ะกัน ใครว่าคนบ้านนี้แสนดี แต่ละตัวร้ายจะตาย