2 ตอน บทที่ 2 เข้ามาทำไม
โดย Aeolus.s
เอมเม้มปากแน่นแววตาที่สดใสกลายเป็นนัยน์ตาขุ่นมัวเธอตวัดสายตาไปยังร่างสูงที่เดินขึ้นชั้นสองทันที หญิงสาวนั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองได้สักพัก พลันเหลือบไปเห็นห้องครัวสองขาเรียวเดินไปยังห้องนั้นเพื่อหาวัตถุดิบมาทำอาหารมือเล็กหยิบเนื้อหมูที่แช่ที่เธอตั้งใจว่าจะทำต้มจืดเตรียมหั่น มืออีกข้างหยิบมีดคมปลายแหมเฉือนเป็นชิ้นพอดีคำ
สายตาเหม่อลอย ในหัวมีความคิดยุ่งวุ่นวายตีกันไปหมด
ยังไงภายในวันนี้เธอก็ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง…
เอาหน่า สู้สักครั้งเธอไม่อยากไปเป็นเมียน้อยพ่อเลี้ยงหื่นนั่นหรอกนะ!
แค่คิดก็สะอิดสะเอียนหากมือหยาบนั่นแตะต้องลงบนผิวตัวเธอ สายตาแทะโลมเหมือนมองทะลุปุโปร่ง ลุกล้ำเข้ามาในกายเธอ ขนที่แขนลุกพรึบกับความคิดที่ว่า
หากวันนึงเธอทำพลาด
เธอไม่สามารถเอาข้อมูลไปให้เขาได้
หากเรื่องทั้งหมดมันเลวร้ายเกินกว่าที่เธอจะรับไหว
ชีวิตเธอต้องพังลงเพราะตาแก่มักมาก
เป็นนางบำเรอ โดนเขาจองจำไปตลอดชีวิต
“อะ โอ้ย ซุ่มซ่ามชะมัดยัยเอม” เธอสบถเมื่อมีดปลายแหลมคม บาดลึกเข้านิ้วเรียวขาวหยาดเลือดสีแดงเข้มไหลออกมากลิ่นสนิมลอยคลุ้งไปในอากาศ ดวงตากลมโตจ้องมองบาดแผล เธอมองหากล่องยาเดินหารอบบ้านจนแล้วจนรอดก็ไม่เจอ
หากว่าเธอขึ้นไปหาด้านบน เขาจะว่าอะไรไหมนะ ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเอม ทว่ามนุษย์กลับมีความย้อนแย้งในตัวเองเสมอ ความใคร่อยากรู้ของคนเราไม่เข้าใครออกใคร ใน หัวคิดอีกอย่าง ในใจคิดอีกอย่าง เพราะความอยากรู้มันมีมากกว่า จึงทำให้เธอไม่สนใจความถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น
สองขาเรียวก้าวเดินขึ้นบันไดนี้ไปจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย สายตาซุกซนมองไปยังชั้นสอง เมื่อเดินพบกับบานประตูสองบาน ฝั่งขวาเป็นประตูสีดำและฝั่งซ้ายประตูสีขาวที่แง้มประตูอยู่ ไม่รู้อะไรมาดลใจให้เธอมาหยุดอยู่ที่ประตูสีขาวสวย หน้าบานประตูฉลุรูปดาวสีทอง มือเล็กผลักประตูเข้าไป หลงลืมไปเสียหมดว่าตัวเธอขึ้นมาทำอะไร ความใคร่รู้บดบังความถูกต้อง
ห้องนี้ประดับประดาไปเฟอร์นิเจอร์สีครีมสะอาด ตกแต่งด้วยของมากมายล้วนแล้วแต่เป็นของผู้หญิง เพดานมีแชนเดอเลียร์สีส้มห้อยเลียงตัวสวยราคาของมันเธอไม่อาจประเมินได้ว่าเท่าไหร่ แต่เธอคงไม่มีเงินซื้อเองแน่ๆ ดวงตากลมโตไล่มองภาพของสองหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังจุมพิตอ่อนหวาน บางภาพผู้หญิงในรูปก็แกล้งชายหนุ่มด้วยท่าทีน่ารัก ภาพทุกภาพในห้องนี้ล้วนแล้วแต่เป็นภาพของผู้เป็นเจ้าของบ้าน ที่ไล่เธออย่างกับว่าเธอเป็นหมูเป็นหมา
สองขาเดินมาเรื่อยๆ พลันชะงักกึกเมื่อเห็นโกศสีขาววาววับที่เหมือนถูกดูแล ถูกทำความสะอาดอย่างดี วางอยู่บนเตียงสีครีมนวลที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาว อีกทั้งไฟยังสว่างโล่งเหมือนมีคนอยู่ในห้องนี้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่ตั้งวางอยู่ข้างเตียง เพราะผ้าคลุมสีขาวปิดภาพไว้ แขนเรียวจึงยื่นไปหวังจะดึงผ้าออกเพื่อให้เห็นรูปชัดๆ แต่แล้วก็ต้องชะงักมือเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม
“เข้ามาทำอะไรในนี้”
ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นมายังชั้นสองหลังจากไล่คนแปลกหน้าออกจากบ้านตัวเอง พีเดินมาเอนตัวลงที่เตียงหนานุ่มสีทึบ ที่บอกถึงความเป็นตัวเองชัดเจน บรรยากาศถายในห้องเย็นเฉียบตัดกับอุณหภูมิข้างนอกที่แสนอบอ้าว ยังไม่ทันที่เขาจะได้หลับตา พลันหูได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นติดกันหลายสาย มือหนาหยิบมือถือขึ้นมา พร้อมกดรับสายและกรอกเสียงลงไปในทันที
“ว่าไง ครับแม่”
“โถ่พี กลับมาหาแม่บ้างสิลูก ใจคอจะคิดถึงแต่คนที่จากไปอย่างเดียวเลยหรือไง” เสียงนั้นดูเหนื่อยใจกับลูกชายเพียงเดียวของเธอ
“ได้ครับแม่ เดี๋ยวผมจะไปหานะครับ..ถ้าว่าง”
“จริงนะลูก! จริงสิแม่ให้หมอมารักษาลูกนะ ป่านนี้น้องน่าจะถึงที่บ้านของพีแล้ว ต้อนรับเธอดีๆ ล่ะลูก แม่ไปก่อน”
“เดี๋ยวครับ”
ปลายสายตัดไปทั้งทีพียังพูดไม่จบสายตัดอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าลูกของเธอจะปฏิเสธ
“จะทนไปได้สักกี่น้ำ หึ” มุมปากเหยียดยิ้มเย็นขึ้นมา ขณะนั้นในใจพลันนึกถึงบุคคลที่ตัวเขาเองเคยทำร้าย พอนึกถึงวันวานที่ไม่อาจหวนคืนมาได้ นัยน์ตาคมก็หม่นแสงลง สองขาแกร่งเดินไปยังห้องที่เขากักขังใครบางคน
ให้อยู่กับเขาไปตลอดการ ห้องนี้เปรียบเสมือนห้องที่พันธะนาการชายหนุ่มเอาไว้
ตรงข้ามร่างหนาหยุดกึก มองใครบางคนที่เขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ในห้องนี้ ดวงตาที่หม่นแสงกลายเป็นวาวโรจน์ขึ้นมาที่พร้อมจะเผาอีกฝ่ายให้มอดไม้ เพราะนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครได้เข้ามาในนี้!
ร่างสูงเดินเข้าไปประชิดตัวเธอลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดใบหูขาว อกแกร่งทาบทับแผ่นหลังบางกันเธอหนี
“ตอบสิ ทำไมไม่ตอบ เข้ามาทำไม” เขายังคงถามซ้ำอยู่อย่างนั้น น้ำเสียงเย็นเยือกทำให้ร่างบางรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
--------------------------------------
น้องไม่น่าเข้ามาเลยยยย
เป็นยังไงกันบ้างคะะ ตอนที่2
สามารถติชมได้เลยนะคะ!
Comments (0)