Trigger Waring : เนื้อหามีในบนนำมีความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเด็ก มีการกล่าวถึงรสนิยมใคร่เด็กเพื่อนำไปสู่เนื้อหาในเนื้อเรื่อง

Prologue

 

การปกครองของมณรัฐB ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสี่เขตการปกครองเขต B-0 เขตพื้นที่ของรัฐบาล B-1 เขตพื้นที่อาศัยของบุคคลชนชั้นหนึ่งประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและสำนักงานของนักธุรกิจชั้นนำ เขต B-2 เป็นเขตพื้นที่การจัดตั้งโรงงานและมีชุมชนคนแออัดอาศัยอยู่รอบนอก เขตสุดท้ายB-3 พื้นที่ไม่ได้รับการพัฒนา ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่การเกษตรบางส่วนมีทั้ง ทะเล ภูเขา

พื้นที่รกร้างห่างไกลกลางใจอย่างเขต B-3 แห่งหนึ่งมีเส้นทางการสัญจรเข้าออกกลับดีผิดหูผิดตาต่างจากเส้นทางอื่น ๆ บริเวณด้านในเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากกว่า เครื่องปั่นไฟฟ้า บ่อน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค มีคนอาศัยจำนวนเกือบร้อยคน ในบุคคลจำนวนนั้นแบ่งกันทำหน้าที่กันคนละอย่าง โดยมี คนที่คอยดูแลคือ วัชร แต่คนที่นี่จะเรียกเขาเพียง พี่ใหญ่

 

แต่ละส่วนประกอบด้วย พื้นที่สำหรับผลิตยาเสพติดซึ่งกินอาณาเขตไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นที่พักอาศัยคือตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกจัดตั้งวางเรียงกัน มีเพียงเฉพาะกลุ่มคนมีหน้าที่ดูแลและควบคุมถึงจะมีตู้แยกเป็นส่วนตัว ก็มีแค่สามหลังเท่านั้น

 

 

วันนี้เหมือนเดิมในทุก ๆ วัน แรงงานทั้งหมดจะถูกปลุกในเวลาตีห้าของ ให้มาเตรียมตัวทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย แต่วันนี้แตกต่างไปจากทุกวันคือ การที่มีรถตู้จำนวนหกคันขับเข้ามา ซึ่งรถทั้งหกคันจะไม่แวะเข้ามาในช่วงเช้า มักจะมาในช่วงบ่าย

 

“พี่ใหญ่!!นายมา!!นายมาพี่!” เสียงตะโกนร้องลั่นของหนึ่งในลูกน้องของวัชรวิ่งตาลีตาเหลือกมายังตู้คอนเทนเนอร์ของลูกพี่เขา

 

“ทำไมนายไม่แจ้งกูก่อนวะ แล้วตอนนี้นายอยู่ไหน อย่าบอกนะมึง” พอเขาหันไปยังลูกน้องคนสนิทก็พยักหน้าตอบ “แม่งเอ๊ย!!” เสียงสบถอย่างหัวเสีย เขารีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมและเร่งรีบฝีเท้าเดินไปยังตู้คอนเทนเนอร์โรงนอนของเด็ก ๆ

 

เด็ก ๆ ในตู้นี้มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบจนถึง 15 ปี โดยแยกตู้นอนชาย-หญิง และในทุกเดือนจะมี แมนนี่ หรือที่ทุกคนเรียกว่า พี่หญิง สาวประเภทสองที่ทำหน้าที่แม่เล้าคอยดูแลกิจการการขายบริการไม่ว่าจะหญิงหรือชาย พี่หญิงจะมาคัดเลือกด้วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นคนของพี่ใหญ่ก็จะรอดพ้นจากการนำถูกไปขายบริการ

 

 

โจนาส คอนเนลล์ หรือ ฟ้า เรียงนามตามที่คนอื่นเรียกขาน ในวัย 14 ปี คนที่พี่ใหญ่ดูแลหมายมั่นปั้นมือหวังเอามาแทนที่ในยามที่เขาต้องการวางมือและคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง หรือเรียกว่าเอาไว้รองมือรองเท้าซะมากกว่า เพราะใหญ่เองมั่นใจว่าเด็กชายคนนี้ไม่มีทางทรยศจากการที่ได้รับการช่วยเหลือจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน

 

เด็กชายทั้งหมดถูกปลุกมายืนเรียงหน้ากระดานเพื่อให้นายใหญ่เลือกคนที่ถูกใจ แมนนี่คัดและจับคนมีแววต้องตานาย ขึ้นมายืนอีกแถวด้านหน้า มีเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นคือ กันย์ เด็กชายตัวน้อยในวัยหกขวบ

 

ชายวัยกลางคนไล่สายตาสำรวจเด็กชายและเด็กหญิงตรงหน้า ก่อนจะลากตัวเด็กน้อยที่เขาหมายปองมานั่งบนตัก ยกมือลูบหัวอย่างเอ็นดูในจังหวะมองดูลูกน้องคนอื่นเดินมาต้อนรับ “มึงมาแล้วเหรอวะ มีเด็กน้อยน่ารักแบบนี้มึงไม่รายงานกูเลยนะมึง ต้องให้กูมาดูด้วยตัวเอง” เขาถามลูกน้องคนสนิทคนที่เขาไว้ใจด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลงในความภักดี

 

วัชรรีบโน้มตัวยอมรับในความผิดพร้อมทั้งหาข้อแก้ตัวที่เขาตระเตรียมการไว้นานแล้ว “นายครับ ผมผิดไปแล้ว แต่ไอ้เจ้าพวกเด็กนี้ไม่ค่อยรู้ประสีประสา ยิ่งไอ้เด็กคนนี้ตอนเพิ่งมาอยู่เอาแต่ร้องไห้จนคนอื่นแทบจะลากไปฆ่าทิ้ง ผมก็เลยอบรมสั่งสอนอยู่นาน กะไว้ว่าถ้ามันโตและรู้เรื่องมากกว่านี้จะเอาไปให้นายเชยชมอยู่ครับ” วัชรถูมือพร้อมขยับเดินเข้าไปใกล้นายเขา

 

“เออ ดีที่มึงยังรู้งานอยู่ เอาเป็นว่ากูฝาก...” เขาเชิดคางมามองใบหน้าสวยหวานของเด็กชาย ก่อนจะบรรจงหอมแก้มและจุ๊บลงบนริมฝีปากเล็ก ล้วงมือเข้าไปสัมผัสกายใต้ร่มผ้า “เด็กกูด้วย กูต้องบินไปเที่ยวกับครอบครัว อีกสักสองอาทิตย์กูจะมารับเอาไปเลี้ยงไว้ที่บ้าน” ชายวัยกลางคนประคองกันย์ลงจากตัก และดึงเข้ามากอดซุกใบหน้าสูดกลิ่นอันหอมหวานตามรสนิยมตัวเอง

 

เมื่อเด็กชายโดนปล่อยตัว ด้วยความตื่นกลัวเขาจึงรีบวิ่งไปหาพี่ชายที่เขาไว้ใจที่สุดอย่างพี่ฟ้า ผู้เป็นนายกำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก หันมามองเด็กชายวัยรุ่นที่กำลังจะเติบโตเป็นหนุ่มหล่อ

“ไอ้เด็กนี่หน้าตาดี ทำไมยังอยู่ที่นี่ ไม่เอาไปไว้ในซ่อง ดูแล้วคนคงต่อคิวซื้อไม่ใช่เหรอ” นายใหญ่ใช้สายตาสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าและไล่ย้อนกลับขึ้นมาในขณะที่พูดไปด้วย ก่อนจะตวัดสายตาส่งไปยังคนรับผิดชอบเด็กทั้งสองคน

 

ชายคนควบคุมที่นี่รีบตอบทันที “ผมก็ใช้หน้าตามันขายยาอยู่ด้วยนะครับนาย หน้าอย่างมันเรียกลูกค้าสาว ๆ กระเป๋าหนักได้เยอะ และผมอยากเลี้ยงมันไว้รองมือรองเท้าด้วยครับ มันทำงานเก่งครับ”

นายใหญ่หันไปมองหน้า คนที่มีหน้าที่ดูแลซ่องและรับผิดชอบจัดหาเด็กเข้าไปไว้ในนั้น เขาได้รับการเป็นพยักหน้าอย่างแรงเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของคนด้วยกันอย่างไอ้ใหญ่ ทำให้ชายวัยกลางคนค่อยๆ คลายความกังขาเคลือบแคลงในตัวลูกน้องทั้งสองลงไปบ้าง

 

นายใหญ่และบอดีการ์ดขึ้นรถยนต์ขับออกไป วัชรโบกมือไล่แต่ละคนให้

ไปทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ก่อนจะหันมาพยักหน้าเรียกคนสนิท แมนนี่ และไอ้ฟ้าไปยังห้องส่วนตัวของเขา

 

“กันย์ไปล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวก่อนนะเดี๋ยวพี่ตามไป” เด็กหนุ่มยกมือลูบเสร็จออกแรงดันหลังให้ไปทำตามที่เขาบอกกล่าว

“แล้วพี่ฟ้าจะตามมาใช่ไหม”

“อืมไปสิ แต่พี่ต้องไปหาพี่ใหญ่ก่อนนะ”

 

เด็กหนุ่มยืนมองดูเด็กชายวิ่งหายไปยังโรงอาบน้ำ ก่อนที่ตัวเองจะเดินผละออกไปยังห้องพักลูกพี่ของเขา เมื่อเข้าไปด้านในพร้อมปิดประตู บุคคลภายในห้องนิ่งเงียบสงัด วัชรมีสีหน้าเคร่งเครียดเต็มไปด้วยความกังวล ส่วนแม่เล้าอย่างแมนนี่นั่งจิบกาแฟแบบไม่ใส่ใจอะไรคล้ายยอมรับในสิ่งที่จะเกิดแล้ว ส่วนเขาเองก็มีสีหน้ากังวลไม่แพ้กับลูกพี่

 

เพราะคำว่า “ไปเลี้ยงที่บ้าน” นั้นหมายความว่า ชะตากรรมของเจ้าเด็กน้อยกันย์จะต้องเจออะไรบ้าง รสนิยมรักใคร่ในเด็กที่แสนวิปลาสของนายพวกเขาน่ากลัวแค่ไหน ถ้าหากใครทำดี ถูกใจจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ปรนเปรอด้วยเงิน เมื่อไหร่ที่หมดความใคร่แล้ว จุดจบคงไม่พ้นซ่องดังเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการทำอะไรไม่ถูกใจหรือขัดขืนนายขึ้นมา ชายคนนี้จะกลายร่างเป็นปีศาจแสนน่ากลัวที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถบรรยาย สภาพร่างกายที่ผ่านการกระทำชำเราด้วยสารพัดวิธีที่ไม่สามารถอธิบายได้หมด และเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลงการมีชีวิตรอดคือความทรมานอย่างมากสู้ตายไปยังจะดีเสียกว่าอีก

 

“พี่ทำไงได้มั่ง” เขาถามออกไปอย่างร้อนใจ

“ฟ้า เจ๊ว่าทำอะไรไม่ได้ เราซ่อนกันย์ได้แค่นี้ ยอมรับชะตากรรมซะ” พี่หญิงบอกแก่ชายหนุ่มอย่างเห็นใจ

“ฟ้า มึงเชื่ออีหญิงเถอะ ต่อให้กูกับมึงมีอีกสิบชีวิตก็ช่วยกันย์มันไม่ได้” วัชรพูดย้ำกับเจ้าตัวอีกครั้ง

“ผมต้องยอมรับมันใช่ไหม แล้วส่งน้องมันไปตายแบบนั้นเหรอพี่”

 

เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงกองกับพื้นอย่างคนหมดหวัง ทุกคนได้แต่มองดูสภาพ พวกเขาก็ไม่ชอบพฤติกรรมความใคร่ของนายสักเท่าไร เพราะพวกเขาต้องทนดูเด็ก ๆ ในวัยที่ควรจะต้องเติบโต แค่มาอยู่ในสภาพค้ายา ค้ากาม แต่มันก็ยังดีกว่าในสภาพดูบังคับขืนใจ เคยมีคนพยายามหนีหรือช่วยเหลือแล้ว แต่มันกลับมีสภาพตัวอย่างมาให้เห็นจนเขาไม่อยากเจอกับตัวเองอีก ใครก็รักตัวกลัวตายทั้งนั้น วัชรสบตากับฟ้าอย่างหมดหนทางพลางนึกถึงครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสามเจอกันเมื่อสองปีก่อน

“ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นหลานกูนะไอ้กันย์ กูฆ่ามึงทิ้งแล้ว” เขาชี้หน้าด่าเด็กชาย ก่อนจะปาขวดน้ำดื่มทิ้งลงข้าง ๆ เพราะเด็กคนนี้เอาแต่ร้องจนคนอื่นไม่ได้นอนเลยต้องลากมาไว้ในห้องนอนของเขา เขาเลยพลอยไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วย

“พี่ผมดูน้องให้ไหม”

“เออ มึงทำไงก็ได้ให้มันเงียบ กูรำคาญจะตายแล้ว”

เด็กชายวัยรุ่นเดินเข้าไปหายังเจ้าเด็กตัวน้อยที่ร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด มือของชายหนุ่มวางแมะบนหัวออกแรงลูบเบา ๆ ปลอบโยน ใบหน้าน้อยเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแถมยังปนด้วยคราบสีน้ำตาลจากฝุ่นยิ่งดูมอมแมมมากเข้าไปใหญ่ ปากอันน้อยนิดเบะหนักขึ้นเตรียมร้องไห้ดังขึ้นอีก

เขาคว้าร่างน้องน้อยเอามาโอบกอด วางหัวตัวเองบนหัว เด็กโยนตัวไปมา มือลูบแผ่นหลังปลอบประโลม เสียงร้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้น

“ไม่ร้องแล้วน้า...พี่อยู่นี่แล้ว ไม่กลัวนะครับคนเก่ง ชู่... คนเก่งไม่ร้องน้า...” น้ำเสียงอ่อนโยนบอกด้วยเสียงกระซิบอย่างเเผ่วเบาหวังปลอบประโลมคนในอ้อมกอด “หยุดร้องแล้วพี่จะให้กินลูกอม”

เด็กชายยังไม่หยุดสะอื้น ดันตัวออกมายกมือน้อย ๆ ปาดน้ำตาที่หยุดไหลแล้ว “พี่ อึก ให้ อึก กันย์ กะ กิน อึก แน่นะ”

“ครับ แต่ต้องหยุดร้องก่อนนะ ไม่งั้นโดนคนอื่นตีซ้ำเอานะ”

“อึก... อือ...” เด็กชายยังคงสะอึกสะอื้นเป็นระยะ หลังจากร้องไห้มานับวัน

“พี่ชื่อ ฟ้า แล้วเราล่ะชื่ออะไรครับ” เขายังโอบกอดเจ้าเด็กน้อยพร้อมชวนคุย

“ก กันย์ คะ ครับ อึก”

“...” เด็กชายวัยรุ่นหันไปมองลูกพี่ เลิกคิ้วเชิงถามว่า ชื่อมีแค่นี้เหรอ แล้วรู้อะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้บ้าง

“อย่ามาถามกู กูก็รู้เท่ามึงนั่นแหละ กูบังเอิญเจอน้องสาวตอนไปส่งยามา มันบอกว่าจะทิ้งมัน แล้วไปอยู่กับผัวใหม่ที่เขต B2 กูสงสารมันเลยเอามาเลี้ยงไว้ใช้งานดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ อย่างน้อยมันก็ขึ้นชื่อว่าหลานกู”

“พะ พี่ฟ้า จะไม่ทิ้งกันย์เหมือนแม่ใช่ไหม กันย์ไม่อยากอยู่คนเดียว กันย์กลัว กันย์หิว” เด็กชายบอกออกมาพร้อมน้ำตาไหลอาบสองแก้มไร้ซึ่งเสียงร้องไห้ บอกความต้องการของตัวเองจริง เพราะที่ร้องเสียงดังเขาแค่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้และมาสนใจ

“อือ แต่เราต้องไม่ร้อง พี่ไปไหนก็ไปกับพี่แล้วกัน พี่จะดูแลกันย์เองครับ” ระหว่างพูดเขาก็สบตากับวัชรรอการอนุญาต ภายในใจของเด็กหนุ่มเองก็รับรู้เพียงเเค่ว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างที่เขารู้สึกอยากดูแลอยากโอบกอดให้หายคลายความเศร้า

“มึงเอามันไปดูเลย สอนมันส่งยาไปเลยก็ได้ แต่ก็ช่วยซ่อนมันจากนายด้วยล่ะ หน้าตามันแม่งน่ารักอีก ถ้าหลานกูต้องไปอยู่สภาพนั้น คิดไม่ออกเลยวะ”

“โอเคนะ พี่ใหญ่อนุญาตแล้ว”

“อืม... รักพี่ฟ้านะครับ” แขนน้อยออกแรงกอดรัดเด็กหนุ่มที่ตัวเด็กน้อยเองก็ไม่รู้จักแต่กลับไว้ใจ ราวกับว่าคนนี้คือที่พึ่งพิงในชีวิต

หลังจากนั้นเจ้าหนูกันย์ก็เอาแต่เกาะติดกับพี่ชายสุดหล่อไปแทบจะทุกที่ นับตั้งแต่ตื่นนอนจนไปถึงการหลับใหลในทุกค่ำคืน เจ้าตัวน้อยนั่นจะเอาแต่กอดแอบอิง ในบางครั้งแอบปีนขึ้นมานอนบนตัว ฟ้ารู้สึกดีไปด้วยในยามอ้างว้างในโลกที่มันโหดร้าย การนอนกอดกันช่วยให้ผ่านค่ำคืนที่เลวร้ายไปได้บ้าง และเมื่อนานวันเข้าความรู้สึกที่เขามีแก่เด็กคนนี้มันมากกว่าคำว่าพี่น้อง

 

เช้าวันต่อมา เขามีหน้าที่ต้องออกไปส่งยา กันย์จะติดสอยห้อยตามไปกับเขาทุกที่ไม่ห่างกันแม้แต่น้อย ฟ้าคิดแผนการต่าง ๆ นานา ภายในหัวอย่างมากมาย แผนที่พอจะเป็นไปได้คือต้องรีบทำทันทีก่อนที่พี่ใหญ่จะไหวตัวทันว่าเขาคิดที่จะพากันย์หลบหนี แม้จะต้องไปตายเอาดาบหน้าก็ตาม เขาก็ไม่อยากให้กันย์ไปใกล้ชิดกับคนอื่นนอกจากเขาเท่านั้น

“เดี๋ยวกันย์!” เสียงร้องเรียกเด็กน้อยในระหว่างพวกเขาต้องไปขึ้นรถเพื่อออกไปส่งยาในแบบทุก ๆ วัน “เชือกรองเท้าหลุดน่ะ” เขานั่งลงคุกเข่ารวบสายรองเท้ามาผูกให้

“ขอบคุณฮะ พี่ฟ้าผูกให้กันย์ทุกครั้งเหมือนวันแรกที่ซื้อให้เลย” เด็กชายยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมทั้งยิ้มกว้าง

หลังจากผูกข้างที่หลุดไปแล้ว เขาก็แกะอีกข้างที่เหมือนจะหลุดมาผูกให้ใหม่อีกรอบ พร้อมทั้งบอกสิ่งสำคัญ “กันย์จำที่บอกทุกครั้งได้ไหม? ถ้าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพี่ให้วิ่งกันย์ก็ต้องวิ่ง บอกให้ซ่อนก็ต้องซ่อน บอกให้หนีก็ต้องหนี ถ้าต้องทิ้งพี่ก็ต้องทิ้งทันที ทำได้ไหม” เขาเงยหน้าจ้องมองเด็กชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจัง

“จำได้ฮะ ถ้าทำตามพี่ฟ้าจะให้กันย์กินลูกอมได้ใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว เก่งมาก” เขายกมือลูบหัว และลุกขึ้นจุงมือเดินไปขึ้นรถด้วยกัน

ก่อนก้าวขึ้นรถ โจนาสหันมามองสถานที่เขาอาศัยอยู่มาเป็นเวลาเจ็ดปี ตั้งแต่เขาเกิดมาในประเทศนี้พร้อมมารดาจนประสบอุบัติเหตุตายจากไป

“มองไรไอ้ฟ้า ชักช้านะมึง” ชายดูแลคนสนิทของวัชรอีกคนเร่งให้ขึ้นรถ และตามขึ้นไปนั่งด้านในก่อนจะปิดประตูรถกระบะที่ดัดแปลงเป็นที่นั่ง

“ไปกัน” วัชรเดินมาตบข้างรถให้ออกเดินทาง ส่วนเขาเป็นคนถือกระเป๋าด้านในมีซองยาเสพติดผ่านการแบ่งบรรจุสำหรับใช้ในการเสพต่อหนึ่งครั้ง

 

รถขับมายังรอยต่อระหว่างเขต B3 และเขต B2 แบ่งเด็กน้อยพร้อมกับผู้ใหญ่ตัวโตไว้คุมหนึ่งคนพร้อมทั้งส่งห่อยาให้ตามจำนวนในการขายของแต่ละคน ฟ้าและกันย์จะถูกปล่อยลงเป็นกลุ่มสุดท้ายในเขต B2 เพราะในเขตนี้จะมีกลุ่มเด็กลูกคนรวยจากเขต B1 ข้ามเขตมาหายาเสพติดไปเสพเพื่อความสนุกสนานบ้าง และชายหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีอย่างฟ้าจะขายได้เยอะพร้อมทิปหนัก ๆ จากสาว ๆ

“ไอ้ฟ้า วันนี้มึงขายให้หมดนะโว้ย ใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์” วัชรออกคำสั่ง “มึงช่วยแจกยิ้มด้วย เดี๋ยวลูกค้ากูหายหมด ส่วนเรื่องไอ้กันย์มึงถือว่ามันเป็นโชคชะตาของมันเถอะวะ” เขาโบกมือไล่ให้ไปทำงานตามที่สั่งหลังกล่าวจบ

“...” ใบหน้าหล่อเหลาขยับขึ้นลงขานรับคำสั่งและรับถุงซิปตามจำนวนโควตาของตัวเองมายัดใส่ลงในกางเกงพร้อมจูงมือกันย์ออกมา

“พี่ฟ้า ที่พี่ใหญ่พูดคืออะไรฮะ”

“ช่างมันเถอะ รีบไปขายกันดีกว่า แต่กันย์อย่าลืมที่พี่บอกนะ”

เด็กหนุ่มไปยืนประจำจุดส่งยา เขาจะต้องย้ายจุดทุก ๆ ชั่วโมงไม่ก็สองชั่วโมงที เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจจับสังเกต ถึงแม้นายจะมีเส้นสายอยู่ข้างใน แต่เมื่อโดนจับก็มีคนคอยกำจัดคนทิ้งทันที

เขาคุ้นเคยพื้นที่ในเขตนี้เป็นอย่างดี เพราเขาเคยวิ่งหนีและซุกซ่อนตัวจากสายตำรวจ เด็กหนุ่มตั้งใจว่าพอขายยาจนหมด เขาก็จะมีเงินและพากันย์หลบหนีเลี่ยงไปทางในฝั่งถิ่นคนค้ายาของอีกแก๊ง

วัชรเหมือนจะคาดเดาความคิดของเด็กหนุ่มออก เขาคอยตามดูอยู่ห่าง ๆ และสั่งให้ลูกน้องที่ควบคุมเด็กชุดนี้ช่วยดูอีกคน

“ทำไมพี่ปล่อยมันให้ออกมาขาย ทั้งที่ดูก็รู้ว่ามันจะพาเด็กนายหนี” ลูกน้องถามในขณะสูบบุหรี่ร่วมกับลูกพี่ที่หลบมุมจับตามองเด็กทั้งสองคน

“กูให้ทางเลือกมัน ว่าจะเลือกทางไหน ถ้ามันทรยศกูคงไม่ปล่อยให้มันรอดแน่”

วัชรปรายตามองชายหนุ่มที่เฝ้าฟูมฝักดูแลยิ่งกว่าลูกน้องคนอื่น กำลังจะหักหลังเขา เสียงกระซิบกระซาบลับหลังยิ่งทำให้เขาระแวงมากขึ้น เขารู้ว่าเจ้าตัวคงมีใจชื่นชอบหลานชายเขาตามประสาเด็กวัยรุ่น แต่ถ้ามันจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตัวเขาเอง เขาก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น แม้กระทั่งชีวิตของใครก็ตาม

จนเย็นใกล้เวลาจะได้กลับ สองคนนั้นค่อย ๆ เดินหลบมุมไปตามสถานที่ซอกหลืบห่างไกลจากผู้คน พอคิดว่าพ้นจากการจับตาดู เด็กทั้งสองก็ออกแรงวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

“พี่ใหญ่!!!ไอ้ฟ้ากับไอ้กันย์หนีไปแล้วพี่” เสียงลูกน้องที่เขาให้เฝ้าจับตาดูตะโกนรายงานมา

“ไอ้ฟ้า!!!” วัชรเข่นเขี้ยวอย่างไม่พอใจ โยนบุหรี่ทิ้งลงพื้นให้เท้าขยี้ด้วยความกรุ่นโกรธ และหันมาสั่งการลูกน้องคนที่เหลือ “พวกมึงต้อนเด็กส่งของกลับไปก่อน มึงกับมึงและมึงไปกับกู ไปลากไอ้สองตัวนั่นมา ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะเดือดร้อนเพราะเด็กนายหาย”

วัชรคือชายหนุ่มที่ไต่เต้าจากเด็กรองมือรองตีนนายใหญ่จนมาถึงคนคุมแทนอีกคน ที่นายยิงตายเพราะพูดจาไม่เข้าหู

“ไปล่ามันสองตัวมา ไอ้กันย์อย่าให้มีรอยขีดข่วน ส่วนไอ้ฟ้าอย่าให้มันตายเพราะกูจะฆ่ามันเอง”

กลุ่มชายฉกรรจ์ออกเท้าวิ่งไปยังแต่ละทิศทางที่คิดว่าทั้งสองคนจะหลบหนี ส่วนวัชรมุ่งตรงไปยังพื้นที่แบ่งพื้นที่ของแก๊งเขาและอีกแก๊ง นั่นคือทางรอดเดียวที่ไอ้ฟ้ามันจะต้องพากันย์หนีเข้าไปเพื่อให้รอดพ้น

“ไอ้ฟ้ามึงหนีกูไม่รอดหรอก!!” เขาตะโกนไล่แผ่นหลังอันคุ้นเคยที่หายเข้าไปในซอกหลืบซึ่งสามารถทะลุไปยังซอยอื่น ๆ ได้

 

ทั้งสองคนวิ่งลัดเลาะไปตามซอกซอยที่คับแคบมีเพียงแค่มอเตอร์ไซค์วิ่งและคนเท่านั้น หลังจากออกหนีได้ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงของพี่ใหญ่ตะโกนไล่หลังเขามาติด ๆ ตอนนี้เขาทราบเพียงว่าต้องหาที่หลบจนกว่าจะพลบค่ำค่อยเดินทางกันต่อ เขาพากันย์ย่างเท้าไปในแหล่งชุมชนเสื่อมโทรมและแออัดในบริเวณนั้น เขาเลือกมุมป่ารกทึบข้างที่ทิ้งขยะมันเต็มไปด้วยกองขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นมาก

“พี่ฟ้าเราไม่กลับกันเหรอ” เด็กชายถามด้วยใบหน้าที่ตื่นกลัวเป็นอย่างมาก เพราะเด็กชายไม่เคยได้อยู่ภายนอกในเวลาท้องฟ้ามืด “กันย์หิวแล้วด้วย” ใบหน้าแสนหวานของเด็กเริ่มบูดบึ้ง ปากเล็กเบะออกเตรียมร้องไห้

“ชู่…ไม่ร้องนะ เราสองคนจะไม่กลับไปที่นั่นแล้ว ถ้ากลับไปกันย์จะไม่ได้อยู่กับพี่ กันย์ต้องไปอยู่กับนายใหญ่ ยังอยากกลับไปไหม”

“มะ ไม่อาว กันย์อยากอยู่กับพี่ฟ้า นายใหญ่ชอบทำร้ายเด็ก กันย์กลัว กันย์ไม่ชอบโดนจุ๊บปากด้วย แล้วก็ชอบลูบตัวกันย์ด้วย” ใบหน้าน้อย ๆ เต็มไปด้วยความขยะแขยง “นายใหญ่น่ากลัว”

“ไม่ต้องร้องนะ อดทนอีกนิด”

ฟ้ายืดคอส่องมองไปยังข้างนอกและได้ยินเสียงของพี่ใหญ่ตะโกนสั่งลูกน้องลอยมาแต่ไกล “มันต้องหลบอยู่แถวนี้ พวกมึงรื้อหาไปเรื่อย ๆ กูให้ไอ้พลดักทางเข้าออกไว้แล้ว มึงหนีกูไม่รอดหรอกไอ้ฟ้า” เสียงกดต่ำอย่างเคียดแค้น

 

เขามองใบหน้าในอ้อมกอด หากเขาเอาตัวเองเป็นคนล่อยังพอมีโอกาสรอดและเบี่ยงเบนความสนใจจากกันย์ที่หลบซ่อนอยู่

“กันย์หลบอยู่นี่นะ” เขาสั่งกำลังจะผละตัวออกไป แต่มีแรงกระตุกที่ชายเสื้อยื้อรั้งไว้

“...” เด็กชายส่ายหน้าอย่างแรง ด้วยความกลัวจะโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว

เขาจับไหล่ทั้งสองออกแรงบีบ“หลบอยู่ตรงนี้นะ ไม่ว่ายังไงพี่จะตามหากันย์ เป็นหรือตายพี่คนนี้จะหากันย์จนเจอ ถ้าเป็นผีพี่จะคอยตามปกป้องกันไปตลอด”

เด็กชายรับรู้ว่าพี่ชายของเขากำลังจะจากไป น้ำตาค่อย ๆ หยดลงไหลรินลงมาข้างใบหน้าที่เลอะเทอะมอมแมม “คะ ครับ อึก” เขาพยายามกลั้นเสียงร้องยกมือปาดน้ำตา “กันย์จะรอพี่ฟ้าตรงนี้ ไม่ไปไหน ถ้ากันย์ตายเป็นผีก็จะรอพี่ฟ้าอยู่ตรงนี้นะครับ อื้อ... สัญญากันแล้วนะ พี่ต้องกลับมาหาผมนะ กันย์รักพี่ฟ้า”

ชายหนุ่มรวบตัวคนน้องมากอดอย่างแน่นราวกับว่านี่คือการกอดครั้งสุดท้าย และเขาผละตัวคลายกอดประคองใบหน้ามาแนบริมฝีปากจุมพิตลงบนหน้าผาก “พี่สัญญาพี่จะตามหากันย์ให้เจอ พี่รักกันย์นะ” จากนั้นก็หันหลังวิ่งไปยังอีกฝากฝั่งแล้วหันกลับมามองเด็กชายที่ยืนโบกมือให้กับเขา

ส่วนเด็กชายที่พึ่งจะมีชีวิตรอดในช่วงต้นฤดูหนาว เขาปีนลงไปในถังขยะทับถมตัวเองด้วยเศษกระดาษเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตัวเอง ภายในใจหวังว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาเจอในตอนเช้าจะเป็นพี่ชายที่เพิ่งจากไป....

 

----------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ทีมายค่ะ เรียก ที ก็ได้ ขอฝากนิยายดรามาเรื่องแรกด้วยน้่า... ผิดพลาดประการใดขอน้อมรับคำแนะนำและติชมเสมอ