4 ตอน บทที่ 1 แพ้ความน่ารัก (ต่อ)
โดย ภิภิญ
หลังจากที่น้องได้สร้างซีนน่ารักที่ทำเอาเทียร์นิ่งค้างไปอีกอึดใจ เจ้าตัวก็ได้เสนอร้านอาหารแสนอร่อยแถวนี้ และเสนอว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ อิ๋งที่เกรงใจเลยไม่กล้าปฏิเสธ อีกทั้งยอมรับว่าเธอหิวจริงจัง ขืนถ้ามีเสียงท้องดังอีกระลอกจะน่าอายกว่านี้อย่างแน่นอน
“ไว้คราวหลังอิ๋งขอเลี้ยงคุณเทียร์บ้างนะคะ”
อิ๋งเอ่ยอย่างเกรงใจขณะมองบิลค่าอาหารที่เทียร์จ่ายตาละห้อย ยอมรับว่าร้านที่เทียร์พามาเลี้ยง อร่อยทุกเมนูเลย แต่ค่าอาหารที่เห็นแล้วทำเอาคอตีบตันขึ้นมาทันตั้งแต่ยังไม่ทันมาเสิร์ฟ
เทียร์เสนอว่าจะเลี้ยงต้อนรับเธอแล้วด้วย จะปฏิเสธตอนนี้ก็เสียน้ำใจ
“หนูพูดแล้วนะ วันเสาร์นี้มั้ย พี่ไม่มีคิวถ่ายพอดีเลย”
เจ้าตัวเอ่ยพร้อมกับนัดวันเสร็จสรรพ กลัวว่าน้องจะเปลี่ยนใจ อุตส่าห์ได้โอกาสมาทั้งทีเรื่องอะไรจะปล่อยให้หลุดมือ ก่อนที่เจ้าตัวจะแบมือแล้วยื่นไปตรงหน้าของอิ๋งหลังจากพูดจบ อิ๋งมองอย่างแปลกใจ จะบอกว่าเช็กแฮนด์ก็ไม่ใช่ด้วย
“เซ็นสัญญาไง”
“เซ็น...บนฝ่ามือเหรอคะ”
อิ๋งเอ่ยถามต่อ ขณะเดียวกันดวงตาเป็นประกายยิ้มๆ คุณเทียร์มีมุมแบบนี้กับเค้าด้วยเหรอ
“เดี๋ยวเกิดหนูเปลี่ยนใจขึ้นมา พี่จะได้มีหนังสือสัญญาเอาไว้ฟ้องร้อง”
คนฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอ่ยหน้านิ่ง แต่ดวงตายิ้มได้ เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าตัวจริงของเทียร์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเคยได้ยินมาก่อนเลย ขณะที่คนซึ่งอยากได้รอยยิ้มจากน้องก็ถือว่าประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้ว เธอยังนึกกลัวเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสได้รอยยิ้มจากอิ๋งอย่างทีมงานคนอื่นบ้างหรือเปล่า และในที่สุดเธอก็ได้มาครอบครอง
พร้อมกับปลายนิ้วที่จิ้มลงบนฝ่ามือ ลากไล้เป็นลายเซ็นบนฝ่ามือชวนจั๊กจี้ เมื่อเสร็จแล้วจึงผละออก เทียร์ดึงมือตัวเองกลับไปตามเดิมแล้วจึงเอ่ยต่อ
“จริงสิ พี่ยังไม่ได้โอกาสขอโทษเลย...ที่แขน เจ็บมากใช่มั้ย”
“อ๋อ ไม่หรอกค่ะ อิ๋งแค่ยังไม่ทันตั้งตัวเลยตกใจนิดหน่อย...คุณเทียร์ไม่คิดว่าเป็นอิ๋งด้วย”
อิ๋งเอ่ยอย่างไม่ถือโทษ เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็ตกใจกับท่าทางดุครั้งนั้นของเทียร์ ซึ่งคิดไว้แล้วว่าอาจจะมีเรื่องทะเลาะกับลิต้า และมันก็คงเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอไม่ต้องรู้ว่าเรื่องอะไร
ส่วนเทียร์ก็คลี่ยิ้มให้กับอีกฝ่ายอย่างดีใจ ต้องขอบคุณกระเพาะอาหารของน้องที่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น (อย่างน้อยก็นิดหน่อย)
หลังจากมื้ออาหารผ่านไปด้วยการผ่อนคลาย อิ๋งดูคลายจากอาการเกร็งกว่าเธอมากนัก แต่ก็ดูเกรงใจเธอมากเหมือนกัน ขากลับน้องเลยเลี้ยงกาแฟเย็นเธอแก้วหนึ่งเป็นการตอบแทนสำหรับมื้ออาหารของวันนี้ และยังยืนยันว่าไม่ได้รวมกับที่เซ็นสัญญาเอาไว้ก่อนหน้า เพียงแต่ว่าอดเกรงใจเรื่องค่าอาหารวันนี้ไม่ได้
เมื่ออิ๋งยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเสาร์หน้าเลยยินยอม เพราะกลัวจะเสียโอกาสมาทานข้าวกับน้องอีกรอบ
รถยุโรปขับเคลื่อนไปที่หอพักของอิ๋งหลังจากที่บรรยากาศระหว่างเธอกับอิ๋งดูดีขึ้น จนกระทั่งในที่สุดก็มาถึงหน้าหอพักของอิ๋งจนได้ เป็นหอพักที่คล้ายกับบ้านเช่า ข้างหน้าเขียนว่าหอพักหญิง อิ๋งชี้ให้เทียร์จอดที่ทางซ้ายเนื่องจากถนนหน้าหอพักเล็กเกินไปแถมยังเป็นซอยตัน กลัวว่ารถยุโรปคันใหญ่จะกลับรถลำบาก
“ขอบคุณคุณเทียร์มากเลยนะคะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ลำบาก เอ่อ ต้องหาทางกลับรถยากเลย”
อิ๋งเอ่ยอย่างเกรงใจ จนเทียร์เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าให้อิ๋งเกร็งเหมือนเดิม หรือเกรงใจแบบนี้ดีกว่ากัน เมื่อกี้อิ๋งอยากให้เธอจอดที่หน้าปากซอยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าโชคดีที่เธอไม่จอด เพราะต้องเดินเข้ามาหลายร้อยเมตรทีเดียว
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ลำบากเลย”
“งั้น...อิ๋งเข้าหอก่อนนะคะ เจอกันที่กองพรุ่งนี้ค่ะคุณเทียร์”
อิ๋งยกมือไหว้เทียร์อย่างนอบน้อม ส่วนเทียร์ก็รับไหว้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองอย่างไงอย่างงั้นเลย ก่อนที่อิ๋งจะปลดเข็มขัดนิรภัย แต่ทว่าเหมือนเข็มขัดเจ้ากรรมจะรู้ว่าเจ้าของยังไม่อยากให้อิ๋งลงจากรถ มันเลยไม่ให้ความร่วมมือในการปลดล็อกสักเท่าไหร่
“เอ่อ คุณเทียร์คะ อิ๋ง...ทำไม่ได้”
“เดี๋ยวพี่ช่วย”
ถึงจะไม่อยากให้อิ๋งลงจากรถแต่ก็ต้องช่วย เธอปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองก่อนจะโน้มตัวไปช่วยปลด ขณะนั้นเธอก็ต้องชะงักกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากยาสระผม หรือสบู่ หรือน้ำหอม หรืออะไรสักอย่างที่ทำเอาเธอนิ่งงันไปอึดใจอีกแล้ว แม้แต่ตัวเองยังแปลกใจ ตั้งแต่เจออิ๋งวันนี้ เธอรู้สึกช็อตแบบนับครั้งไม่ถ้วนเลย
จากที่จะช่วยปลดก็เหมือนจะลืมไปแล้ว ดวงตาคู่สวยเลื่อนมองดวงตากลมโตที่มีแววประหม่าของคนตรงหน้า ยิ่งดูน่ารักไปกันใหญ่ จมูกเล็กน่ารัก ปากแดงจิ้มลิ้ม
ปี๊นน!
เสียงแตรทำเอาสะดุ้งกันทั้งสองฝ่ายจนเทียร์กระเด้งตัวกลับทันที แต่แล้วศอกของเธอก็ดันไปโดนกับแก้วกาแฟที่วางไว้ในรถเข้าเต็มๆ จนมันหกใส่ชุดกระโปรงจนเปียกเป็นรอยคราบวงใหญ่ โชคดีที่เป็นกาแฟเย็น ไม่งั้นไม่อยากนึกสภาพเลยว่าจะสยองแค่ไหน
“คุณเทียร์ เปียกหมดเลย ขอโทษนะคะ อิ๋งขอโทษค่ะ”
แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไรแต่ก็ขอโทษ อย่างน้อยก็ขอโทษที่เสนอเรื่องซื้อกาแฟ เทียร์ได้กินไม่กี่อึก ที่เหลือก็หกรดเทียร์ทั้งหมด แถมเห็นหน้าช็อกๆ ของเทียร์แล้วรู้สึกผิด คราบกาแฟที่เลอะชุดกระโปรงก็เอาเรื่องเหมือนกัน
“คุณเทียร์ขึ้นไปล้างก่อนมั้ยคะ ถ้าปล่อยไว้มันจะเป็นคราบค่ะ”
แถมชุดก็ดูแพงด้วย เธอพอจะรู้อยู่หรอกว่าปกติแล้วเสื้อผ้าแนวนี้ราคาขั้นต่ำหลักพันแน่นอน
“ใช่ พี่ก็คิดงั้น เป็นคราบแน่ๆ พี่คิดว่าต้องไปล้างก่อน งั้นก็...พี่ต้องช่วยปลดก่อนเนอะ”
เทียร์เอ่ยพร้อมกับช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยอีกครั้ง มันเหมือนจะฝืดหรืออะไรสักอย่าง ปกติไม่มีคนนั่งฝั่งข้างคนขับเลยไม่รู้ว่ามีปัญหา แถมไม่ใช่แค่นั้น ไม่เคยมีใครเคยขึ้นรถของเทียร์มาก่อนด้วย
แต่ถึงชุดตัวเก่งจะเลอะก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้เทียร์ได้ลงจากรถตามอิ๋งเข้าไปในหอพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดินขึ้นไปสายตาก็สำรวจไปด้วยความสนอกสนใจ ลักษณะไม่ต่างจากบ้านเลยสักนิด และแยกให้เช่าเป็นห้อง จะเรียกว่าหอพักก็ไม่เชิง เรียกว่าบ้านพักก็ไม่ใช่
และแล้วก็มาถึงห้องของอิ๋ง เป็นห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องที่ไม่ได้รก แต่ก็ไม่ได้จัดเก็บอย่างเรียบร้อย เพราะเจ้าของห้องอยู่คนเดียว
“เอ่อ คุณเทียร์ดูไม่เข้ากับห้องนี้เลยนะคะ”
คนที่กำลังสนใจมองไปรอบห้องหันกลับไปที่คนพูดทันทีพร้อมกับเลิกคิ้วเล็กน้อย เจ้าของห้องเลยรีบอธิบายเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด
“อิ๋งหมายถึงคุณเป็นนางเอกดังมาก แล้วห้องก็...เอ่อ รกมากด้วย แล้วคนในหอคงแตกตื่นถ้ารู้ว่าคุณอยู่ในหอพักค่าเช่าหักพันต้นๆ แบบนี้”
“หนูก็นางเอกดังนะ หนูเล่นคู่กับพี่”
“แต่อิ๋งเป็นสแตนด์อินนะคะ”
อิ๋งเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นเกาแก้มแก้เก้อ จะยกให้เธอเทียบชั้นกับลิต้าได้ยังไง คนนั้นต่างหากที่ได้เล่นคู่กับเทียร์ ในขณะที่เทียร์ส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“หนูเล่นคู่กับพี่ มีฉากเล่นด้วยกันเยอะกว่าตัวจริงอีก”
“ก็จริงค่ะ แถมยัง...เอ่อ”
เจ้าตัวชะงักไปเมื่อตัวเองจะพูดถึงเรื่องที่แพมมาบอกในวันนี้ เรื่องจูบ เธอต้องเข้าฉากจูบแทนลิต้าด้วย จูบกับนางเอกคนนี้ เธอเล่นคู่กับเทียร์แบบถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าที่ลิต้าเล่นเสียอีก ก่อนจะรีบยื่นชุดให้กับเทียร์กลบเกลื่อนสีหน้าของตัวเอง เห็นหน้าแดงๆ ของอิ๋งแล้วก็รู้สึกเหมือนโดนความน่ารักโจมตีอีกระลอก แม้จะยังไม่รู้ว่าน้องหน้าแดงเพราะอะไร
โดนโจมตีเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน นี่ขนาดวันแรกนะเนี่ย
“เดี๋ยวอิ๋งช่วยซักให้ดีกว่าค่ะ ยังไงอิ๋งเป็นคนซื้อกาแฟ”
“แต่พี่เป็นคนทำหก พี่ไม่ระวัง เดี๋ยวพี่ซักเองดีกว่า...หนูคอยเป็นกำลังใจให้พี่ก็พอ”
อิ๋งยอมอย่างว่าง่าย เธอไม่กล้าขัดใจอะไรเทียร์อยู่แล้ว ก่อนที่เทียร์จะเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของอิ๋งเพื่อจะได้ซักคราบกาแฟได้อย่างสะดวก และเธอก็ได้คำตอบก่อนหน้านี้ กลิ่นหอมที่เธอสงสัยเมื่อกี้ ที่แท้ก็เป็นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่อยู่บนเสื้อผ้าของอิ๋งนี่เอง
“จริงสิ เมื่อกี้หนูจะพูดอะไร”
“คะ?”
ขณะที่เทียร์กำลังลงมือจัดการชุดตัวเก่งที่เลอะคราบกาแฟ เจ้าตัวก็หันมาเอ่ยถามอิ๋งอย่างแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยย้ำอีกรอบเมื่ออิ๋งลืมที่ตัวเองพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว
“ที่พี่บอกว่าหนูเล่นคู่กับพี่ มีฉากเล่นด้วยกันเยอะกว่าตัวจริงอีก แล้วหนูเห็นด้วย แต่ก็พูดไม่จบ...”
แถมยังหน้าแดงอีก เธออดอยากรู้ไม่ได้
“ไม่มีอะไรค่ะคุณเทียร์ แหะ”
อิ๋งเอ่ยอย่างเก้อเขิน ปกติแล้วเธออยากรู้ว่าคนที่เล่นเข้าคู่กันจะรู้สึกประหม่าเหมือนกันหรือเปล่า หรือเธอเป็นแค่เด็กใหม่เพิ่งจะเริ่มเข้าวงการ ในขณะที่เทียร์เป็นมืออาชีพ คงไม่ได้ประหม่าเหมือนกับเธอ ตอนที่ตอบรับแพมก็พอจะดูออก เป็นมืออาชีพมากๆ เลยทีเดียว