3 ตอน 3 หิวโหย
โดย Tulle
เสียงจากโทรศัพท์ปลุกแวมไพร์ที่กำลังหลับใหลในห้องมืดให้ตื่นขึ้น
"สวัสดีค่ะ" มิดไนท์กดรับสาย เสียงจากปลายสายฟังดูดุดัน
"เป็นไงบ้าง"
"ยังไม่เจอค่ะ" มิดไนท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"คุณท่านต้องการแล้ว ถ้าเธอหาไม่ได้ก็อดได้เงินนะ" คำพูดจากปลายสายทำให้มิดไนท์ถอนหายใจ
"นี่เธอถอนหายใจใส่ฉันเหรอ?" เสียงที่จากเดิมดุอยู่แล้วทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อได้รับปฏิกิริยาแบบนั้น
"ฉันจะพยายามหานะคะ ฝากไปเรียนนายท่านด้วยค่ะ คุณพรเทพ" กล่าวจบก็วางสายไปโดนไม่รอให้อีกฝั่งหนึ่งได้เอ่ยอะไรต่อ
มิดไนท์วางโทรศัพท์มือถือลงกับเตียงนอนอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทำไมถึงเร่งกันนักหนา คิดแล้วก็พาลให้หงุดหงิดและว้าวุ่นใจไปพร้อม ๆ กัน
ถ้าพวกนั้นเจอคนอื่นก่อนก็แล้วไป แต่อย่ามาเจอคนเดียวกับเธอก็แล้วกัน
เสียงแจ้งเตือนจากมือถือเรียกความสนใจจากครูสอนดนตรีสาวให้หยิบขึ้นมาดู ทันทีที่เห็นว่าเป็นข้อความจากใครก็มีอันต้องยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้า
K.มิดไนท์
เนื้อหาในการสนทนาออนไลน์ของทั้งสองมักจะเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบในชีวิตประจำวัน มีบางครั้งที่อีกฝ่ายถามถึงกลุ่มผู้ชายอันธพาลที่เคยเผชิญหน้า ณ ร้านเหล้าเมื่อคืนนั้น
"ได้เจอคนแปลกๆไหมคะ"
นั่นคือสิ่งที่มิดไนท์พิมพ์ถามมา
"ไม่มีค่ะ"
แพรวตอบกลับไป
"ถ้าเจอให้รีบบอกนะคะ"
แพรวเห็นดังนั้นจึงส่งสติกเกอร์รูปตัวการ์ตูนหน้าตาน่ารักที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นตัวโอกับตัวเคอยู่ข้าง ๆ ไปให้
รถยนต์สีดำมันเงาติดฟิล์มมืดมาจอดที่หน้าสถาบันสอนดนตรีตรงเวลาตามที่ได้นัดหมายไว้เหมือนอย่างเคย
"สวัสดีค่ะ" แพรวเอ่ยทักทายขณะเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับออก วันนี้คุณมิดไนท์ก็แต่งตัวมิดชิดเช่นเคย
"สวัสดีค่ะ" มิดไนท์ตอบกลับ
"วันนี้มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษไหมคะ?" คนขับถาม
"ยังไม่มีเลยค่ะ" แพรวตอบ
"คุณส่งฉันที่คอนโดฯเลยก็ได้ค่ะ"
มิดไนท์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้า ก่อนจะเร่งความเร็วรถมากขึ้น
"ฉันเคยพยายามฝึกเล่นดนตรีค่ะ แต่มันไม่เข้าหัวเลย" มิดไนท์เกริ่นขึ้นมา
"ลองเริ่มจากอะไรง่าย ๆ ดูก่อนไหมล่ะคะ?" แพรวถามออกไป
"ฉันลองมาหลายอย่างมากค่ะ ทั้งไทยทั้งเทศ แต่ไม่เวิร์กซักอย่าง" เสียงหวานใสหัวเราะ
"ลองร้องเพลงไหมคะ? เสียงพูดคุณเพราะมากเลย" แพรวเสนอ
"งั้นเราไปร้องเกะกันไหมล่ะคะ?" มิดไนท์ได้ทีจึงรีบเสนอไอเดีย
"คุณว่างหรือเปล่า?"
"ว่างค่ะ" แพรวตอบอย่างไม่ลังเล แวมไพร์ยิ้ม มนุษย์คนนี้ช่างว่าง่าย
ว่าง่ายเสียจนน่าเป็นห่วง
เสียงร้องเพลงของคุณมิดไนท์นั้นไพเราะดังที่แพรวคิด เสียงใสกังวานเข้ากับบทเพลงทุกแนว แต่ที่ดูจะเหมาะที่สุดก็คงจะเป็นเพลงลูกกรุง
"คุณแพรวลองมาร้องบ้างสิคะ" มิดไนท์ยื่นไมโครโฟนมาตรงหน้าแพรว หญิงสาวส่ายศีรษะ
"ฉันชอบฟังคนอื่นร้องมากกว่าค่ะ" เธอยิ้ม
"คุณชอบเสียงฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ?" มิดไนท์ถาม ขณะที่กำลังเลือกเพลงถัดไป
"ไปเป็นนักร้องได้เลยล่ะค่ะ" แพรวยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างขึ้นให้
ยิ่งอยู่ในห้องแบบปิดสองต่อสองแบบนี้กลิ่นยิ่งอบอวล ตั้งแต่บนรถแล้วที่เธอจำต้องสะกดกลั้นความกระหายเลือดเอาไว้ มาถึงตรงนี้เธอยังต้องคอยจิบน้ำผสมเลือดสัตว์จากขวดน้ำที่เธอพกติดตัวเอาไว้ตลอด เพื่อไม่ให้ความหิวโหยเข้าครอบงำจนควบคุมตนเองไม่ได้
"ยังหาไม่เจอเหรอ?" เสียงเย็นของ 'นายท่าน' จากการพบกันครั้งล่าสุดดังก้องสะท้อนในโสตประสาท ไหนจะเสียงพรเทพที่กดดันเธออีก
เธอควรรีบกินแม่นี่เสียเพื่อไม่ให้ตนอื่นเอาไปเสียก่อน
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ วันนี้สนุกมากเลย" แพรวโบกมือให้มิดไนท์
"ว่าแต่ คุณหิวยังคะ วันนี้มีตลาดนัดอยู่แถวนี้พอดี" แพรวถามหญิงใจดี เมื่อเธอปฏิเสธไม่กินอะไรมาตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ห้างสรรพสินค้า
"ไม่หิวจริง ๆ เหรอคะ?" แพรวถามหญิงร่างเล็กขณะที่เดินมองบรรดาร้านอาหารในห้าง
"ถ้าคุณหิวก็แวะกินได้เลยนะคะ ฉันรอคุณกินได้" มิดไนท์ตอบ
"ฉันยังไม่หิวหรอกค่ะ" แพรวก็เออออไปเช่นเดียวกัน
"งั้นเรากลับกันเลยไหมคะ?" มิดไนท์ถาม
"โอเคค่ะ"
กลับมาที่ปัจจุบัน มิดไนท์ลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง
"ฉันเริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ"
ทุกอย่างเป็นไปดังที่คิด แพรวพาเธอไปยังตลาดนัดใกล้ที่พักเพื่อหาซื้ออาหารมารับประทานเป็นมื้อเย็น
"คุณแพรวจะทำกินเองหรือซื้อเอาคะ?" มิดไนท์อดถามไม่ได้
"ฉันทำอาหารใช้ไม่ค่อยได้เท่าไรค่ะ ซื้อเอาดีกว่า" แพรวตอบอย่างอาย ๆ
"ไม่เป็นไรนะคะ ฉันก็ไม่ถนัดงานครัวเหมือนกัน" มิดไนท์ปลอบ
"คุณมีอะไรอยากกินเป็นพิเศษไหมคะ?" แพรวที่กำลังยืนลังเลหน้ารถเข็นขายอาหารถาม
"ฉันเอาต้มเลือดหมูแล้วกันค่ะ" มิดไนท์ตอบพลางกลั้วหัวเราะ จริง ๆ เธอมีเลือดอื่นที่อยากกินมากกว่าเลือดหมูเสียอีก
โชคดีเหลือเกินที่กลิ่นอาหารที่ลอยฟุ้งในอากาศพอกลบกลิ่นกายหญิงสาวที่แรงขึ้นยามเหงื่อออกได้บ้าง ไม่อย่างนั้นเธอคงขย้ำแม่สาวคนนี้ต่อหน้าธารกำนัลแน่นอน
ผู้ล่าเดินตามเหยื่อมาถึงห้องพัก ปากกล้ำกลืนน้ำลายและสะกดกลั้นไม่ให้เขี้ยวยาวงอกออกมายามอยู่ในลิฟต์โดยสารสองต่อสอง
หิวเหลือเกิน
ห้องของแพรวอวลไปด้วยกลิ่นหอม ทว่าไม่มีกลิ่นใดจะหอมหวานสู้กลิ่นโลหิตของหล่อนอีกแล้ว
"หอมจังเลยค่ะ" มิดไนท์อดที่จะเอ่ยปากชมไม่ได้
"ขอบคุณนะคะ ฉันเจอวิธีทำให้ห้องหอมในเน็ตมาน่ะค่ะ" แพรวยิ้ม เชื้อเชิญมิดไนท์ไปตรงส่วนที่เป็นครัว
"ตามสบายเลยนะคะ" เจ้าของห้องหยิบจานชามมาบริการ
"ขอบคุณค่ะ" มิดไนท์ตอบพลางรินน้ำเย็นจากขวดพลาสติกที่แพรวเพิ่งส่งให้ใส่แก้วใส
"เดี๋ยวฉันล้างเองก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ตรงอ่างก็ได้" แพรวบอกเมื่อเห็นว่าไม่มีข้าวเหลือในจานของมิดไนท์แล้ว
"โอเคค่ะ" มิดไนท์ที่ไม่รู้สึกอิ่มเท่าไรยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"เอาตรง ๆ นะคะ ฉันอยากรู้จักคุณมากกว่านี้จังเลยค่ะ" แพรวที่ก็เสร็จกิจกับมื้อเย็นแล้วเช่นกันเท้าคางกับโต๊ะอาหาร
"อยากรู้เรื่องอะไรเหรอคะ?" มิดไนท์แกล้งถามไปทั้งที่พอจะคาดเดาคำตอบได้อยู่แล้ว
"คุณมิดไนท์สะดวกบอกอายุของคุณไหมคะ?" มาถึงตรงนี้น้ำเสียงของอีกฝ่ายมีแววกังวล
"อ้อ ไม่มีปัญหาเลยค่ะ" มิดไนท์บอกให้แพรวคลายความวิตกลง
"คนมักจะไม่เชื่อเรื่องอายุจริงฉันกันเท่าไร" เธอบอก
"จริง ๆ แล้วฉันอายุ…" ยังไม่ทันที่แวมไพร์จะได้เอ่ยอะไรต่อ เสียงเรียกเข้าจากมือถือที่อยู่ในกระเป๋าถือก็ดังขึ้นมา
"เชิญเลยค่ะ" แพรวลุกออกจากเก้าอี้ เดินออกไปจากครัวเพื่อให้คุณมิดไนท์คุยธุระได้สะดวก
ฝ่ายมิดไนท์เมื่อแพรวลับสายตาไปแล้ว ก็จิ๊ปากออกมาอย่างอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้เมื่อเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอ
นาย
"สวัสดีค่ะ" มิดไนท์พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
"พรเทพบอกเธอยังหาไม่เจอเหรอ?" เสียงเข้มที่ปลายสายฟังดูผิดหวัง
"เธอไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา"
"เธอเก่งกว่าใครทั้งหมด"
"ค่ะ" มิดไนท์ตอบด้วยเสียงเรียบเฉย
"หาให้เจอล่ะ"
"ค่ะ"
ปลายสายวางสายไปแล้ว มิดไนท์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่หัวใจจะเต้นระรัวหนักกว่าเดิมเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่
เราจะเห็นแก่ตัวแบบนี้จริง ๆ เหรอ?
"เสร็จแล้วค่ะ" มิดไนท์เดินออกจากครัวมาเจอแพรวก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา
"อ่านอะไรอยู่เหรอคะ?" คนถามอดสงสัยไม่ได้ ขณะที่สายตาไล่มองสันหนังสือหลากสีบนชั้นสูง ซึ่งส่วนมากเป็นนวนิยาย
"นิยายน่ะค่ะ" แพรวเงยหน้ามาตอบ
"ปกติชอบอ่านแนวไหนคะ?" มิดไนท์เริ่มสนใจมนุษย์คนนี้มากขึ้น
"โรแมนซ์ค่ะ" มาถึงตรงนี้ใบหูคนตอบเป็นสีแดงอ่อน
"ฉันก็ชอบแนวนี้เหมือนกันค่ะ บางครั้งก็เอามาฝันว่าอยากมีแบบในนิยายบ้าง" มิดไนท์หัวเราะ
"จริงเหรอคะ?" แพรวสอดที่คั่นเข้ากับหนังสือ วางนิยายเล่มหนาลงบนโต๊ะรับแขก หันมาสบดวงตาสีน้ำตาลทอง
เมื่อนั้นเอง มิดไนท์จึงได้รู้ว่าแพรวก็ใช่ว่าจะไร้เดียงสา
แวมไพร์ยิ้มกว้าง ยากที่จะสะกดกลั้นไม่ให้เขี้ยวขาวยาวงอกออกมา อีกใจอยากจะกระโจนเข้าไปหาเหมือนเสือยามล่าเหยื่อแล้วดูดดื่มเลือดนั้นให้สมใจอยาก แต่อีกใจก็อยากจะถนอมร่างกายอันอุดมสมบูรณ์นี้ไว้เพื่อที่จะได้มีเลือดแสนอร่อยให้กลืนกินอยู่เรื่อย ๆ
ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อน ฟันขาวของแวมไพร์ขบริมฝีปากสีสวยนั้นจนของเหลวสีแดงซึมออกมา ลิ้นตวัดเลียอาหารเลิศรสเข้าปากตน มันหวานฉ่ำยิ่งกว่าน้ำหวานใด ๆ ที่เคยลิ้มรสมา และโดยไม่ทันตั้งตัวนั่นเอง แวมไพร์ผมแดงก็ถูกมนุษย์สาวจู่โจมด้วยการกระทำแบบเดียวกัน กลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก หาได้หอมหวานเยี่ยงโลหิตของหญิงสาวไม่ มือของแพรวไล้ตามเสื้อนอกสีมืดของมิดไนท์ก่อนจะปลดมันออก สองมือบีบอกอิ่มพอดีมืออย่างออกรส
"ไม่คิดว่าคุณจะเก่งขนาดนี้" มิดไนท์ที่ถอนปากจากการจูบออกมาเอ่ยชม
"คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณอายุเท่าไร" แพรวที่ยังไม่หยุดคลึงหน้าอกอีกคนทวง
สายตาของมิดไนท์จ้องค้างยังรอยแผลที่ตนทำไว้บนริมฝีปากสีชมพูเข้ม กลิ่นเลือดส่งกลิ่นหอมจนรบกวนประสาทสัมผัส ในใจคิดแต่อยากจะเข้าไปลิ้มรสหวานเยิ้มนั้นอีก
"สามสิบค่ะ" เธอโกหกไป
"โห มากกว่าหนูแค่ปีเดียวเอง…พี่วันใหม่" คนอายุน้อยกว่าเอ่ยคำเรียกที่ทำเอาหน้าซีดเซียวของผีดูดเลือดกลายเป็นสีมะเขือเทศสุก
Comments (0)