และแล้วก็ถึงวันที่พวกเราจะเดินทางไปพักร้อนยาวๆ สองอาทิตย์ที่ดินแดนมนุษย์คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ไปด้วยท่านสองคนไม่ได้มีเวลาว่างยาวนานติดกันถึงสองอาทิตย์แบบพวกเด็กๆ การเดินทางครั้งนี้ก็เลยมีแต่ห้าคนนี้อีกแล้ว ของเยอะมากแต่ว่าเอารถไปสองคันและแน่นอนว่าฉันต้องนั่งกับพี่คาร์เวนแต่ก็ยังจะต้องมีเจเลนติดไปด้วยก็รถคันนั้นพี่คาเรียดไม่ต้อนรับบอกว่ารำคาญเจเลน ส่วนออร์ฟัสก็ตามติดพี่คาเรียดตลอดดีนะไม่มาติดพี่คาร์เวนเพราะพี่คาร์เวนเป็นของเฮเลนคนนี้นี่เอง พักร้อนนี้ฉันวางแผนที่จะใช้เวลาร่วมกันกับพี่คาร์เวนบ้างจะทำได้ไหมรอดูเลย

ระหว่างที่กำลังเดินทางเจเลนมองนอกหน้าต่างรถตลอดพร้อมทั้งพูดอะไรก็ไม่รู้คนเดียวเหมือนคนกำลังบ่นอะไรไปเรื่อย ถ้าเจเลนปกติดีนิสัยแบบพี่คาร์เวนคงจะดีกว่านี้หน้าตาขัดกับนิสัยเหลือเกินแต่ที่ขัดกว่าน่าจะขนาดตัวที่สูงเกินร้อยแปดสิบและก็อายุก็สิบหกปีแล้วนะแต่ทำตัวเหมือนเด็กตัวเล็กไม่กี่ขวบ แต่ถึงหล่อยังไงก็ไม่มีวันจะมาเป็นเมนเราได้เมนเราจะมีคนเดียวเท่านั้นจะต้องเป็นพี่คาร์เวนคนเดียวตลอดไป

เมื่อถึงที่พักที่ดินแดนมนุษย์ความใหญ่โตไม่แตกต่างจากบ้านตัวเองเลยแต่ว่าการตกแต่งนั้นต่างกันพอสมควร ที่ดินแดนมนุษย์ไม่ค่อยตกแต่งด้วยความอลังการมากนักความจริงก็เหมือนบ้านในโลกมนุษย์ชาติก่อนอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีการตกแต่งที่โบราณเหมือนสมัยยุคกลางแต่ก็ไม่หรูหราเท่ากับดินแดนแวมไพร์ ที่ดินแดนมนุษย์มีพื้นที่ติดทะเลเป็นส่วนมากทะเลที่ดินแดนมนุษย์ก็สวยงามมากด้วยสวยเหมือนพวกเวลาดูสารคดีทะเลสวยๆ น้ำใสใสเห็นปลาน่ารักๆ อะไรประมาณนี้ ระบบนิเวศของโลกนี้ต้องบอกว่า ดีทุกดินแดนเลยทีเดียวมีการรักษาอนุรักษ์ธรรมชาติเยอะมากโดย เฉพาะที่ดินแดนมนุษย์ จากที่เคยเรียนมาจากบ้านเด็กกำพร้าเรื่อง ราวเกี่ยวกับการจัดการดินแดนตั้งแต่การเมืองการปกครองไปจนถึง การดูแลดินแดนต่างๆ ต้องยอมรับเลยว่าจัดการดีมากจริงๆ บริหารอย่างเท่าเทียมชีวิตความเป็นอยู่ของทุกเผ่าพันธุ์จึงดีทั้งหมด เพราะ มีสถานที่ที่จัดการดูแลทุกเผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางคนที่ทำงานในนั้นก็มีคนจากทุกเผ่าพันธุ์การจัดงบประมาณดูแลก็ไม่มีการโกงกิน เนี่ยถ้าคนดีบริหารเก่งไม่โกงกินคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยก็จะดีแบบโลกนี้แน่นอนไม่เหมือนชาติที่ผ่านมาของฉัน ช่างมันจบไปแล้วที่ชาติก่อนชมความงามของดินแดนมนุษย์ที่นี่ต่อดีกว่า

ทุกคนแยกย้ายกันเก็บของเข้าห้องของตัวเองห้องในบ้านหลังนี้เยอะมากห้องของฉันอยู่ตรงกลางระหว่างห้องของพี่คาร์เวนและพี่คาเรียดที่ชั้นสอง ส่วนที่ชั้นสามออร์ฟัสและเจเลนอยู่ที่บ้านหลังนี้มีสามชั้นที่ชั้นหนึ่งไม่มีห้องนอนมีพวกห้องนั่งเล่นห้องครัวห้องอาหารประมาณนี้

หลังจากที่ทุกคนเก็บของเสร็จก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นและคุยกันเรื่องแผนการเที่ยวว่าใครอยากไปที่ไหนและทำอะไรบ้าง แน่นอนคนแรกที่พูดขึ้นมาคือเจเลน

"ผมเตรียมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปมาหมดแล้วครับจะไปตามนี้เลยก็ได้ พวกสถานที่ที่มีชื่อเสียงร้านอาหารแนะนำร้านค้าของฝากมีหมดเลยครับ"

"มีใครอยากไปไหนหรือมีอะไรที่ตัวเองอยากทำไหม?" พี่คาร์เวนถามต่อ

เงียบไม่มีใครตอบอะไรคือฉันยังไงก็ได้อยู่แล้วขอแค่มีพี่คาร์เวนก็พอส่วนพี่คาเรียดก็คงตามฉันอีกเหมือนเดิมออร์ฟัสก็คงจะตามพี่คาเรียดอีกที

"ถ้างั้นเราไปตามที่ที่เจเลนหามานะ" 

ทุกคนไม่มีใครพูดขัดก็เป็นอันว่าตกลงนั่นแหละ

เจเลนหาร้านอาหารมาเยอะเลยนะกำลังเอาใจพี่คาร์เวนอยู่หรือเปล่าเหมือนว่าฉันจะมีคู่แข่งแล้วตอนนี้เจเลนต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้ว ฉันคิดเองเออเองอยู่คนเดียวทั้งนั้น

"ตอนนี้ก็เป็นเวลาอาหารเย็นพอดีเราไปกินร้านอาหารแนะ นำสักที่และกัน" พี่คาร์เวนพูด

"ดีเลยค่ะเฮเซลเริ่มหิวแล้ว" ฉันรีบตอบพี่คาร์เวน

"เฮเซลอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมแต่อาจจะต้องขอร้านที่มีอาหารเมนูของแวมไพร์ด้วยนะ"

"เฮเซลไม่มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษค่ะกินได้ทุกอย่างเลยพี่คาร์เวนเป็นคนเลือกดีกว่า พี่คาร์เวนพาไปกินร้านไหนอร่อยทุกร้านด้วย" รับบทเอาใจพี่ชายรับไปเลยสิบคะแนน

"ถ้าอย่างนั้นไปร้านนี้และกันดูน่ากินดีอยู่ไม่ไกลจากที่พักด้วยเฮเซลคงจะหิวแล้วจะได้กินเร็วๆ " นึกถึงน้องอีกแล้วพี่คาร์เวนต้องหยุดแสนดีก่อนหัวใจของเฮเซลเกินจะรับไหว

"ใช่ๆ หิวแล้วพร้อมแล้วไปกันเถอะ"

เจเลนนายแย่งซีนเราทำไม

เมื่อถึงร้านอาหารทุกคนกินเมนูแวมไพร์พี่คาร์เวนสั่งอาหารมากมายมาให้ฉันกินเพราะฉันเป็นคนให้พี่คาร์เวนเลือกให้ แล้วกินคนเดียวจะกินยังไงหมดกินไม่หมดเดียวคะแนนติดลบอีกเราจะต้องทำคะแนนเพื่อการเป็นน้องสาวคนโปรดของพี่คาร์เวนนะ เป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาเองทั้งนั้นแต่พี่คาร์เวนคือสิ่งดีๆ ในชาตินี้จริงๆ นะ

หลังจากที่กินข้าวเสร็จและฉันก็อิ่มมากจนแทบจะเดินไม่ไหวเพราะกินทุกอย่างที่พี่คาร์เวนสั่งมาให้ทั้งหมด ตอนนี้ก็ดูจะล้มแล้วไม่มีแรงจะเดินแต่ยังต้องเดินกลับให้ถึงที่พักพี่คาเรียดเดินมาถามว่า "โอเคไหม? เธอกินอิ่มนานแล้วไม่เห็นจะต้องฝืนกินเลย" รู้ด้วยสมแล้วที่เป็นน้องสาวคนสนิทตอนกินอาหารก็ยังสนใจกันได้

"ก็มันอร่อย เฮเซลกินได้"

"เอาที่สบายใจอย่าอ้วกออกมาและกัน"

"คือกลัวน้องจะอ้วกเหรอเกือบจะดีแล้วเชียวก็ว่ามาแปลก"

สายตาคู่หนึ่งมองมาอีกแล้วคือออร์ฟัสนั่นเองและตอนนี้ออร์ฟัสก็เข้ามาคุยกับฉัน "ฉันว่าเราจะต้องช่วยเหลือกันแล้วเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปคุยด้วยที่ห้องเตรียมเปิดประตูให้ด้วย" พูดจบก็รีบเดิน ตามพี่คาเรียดไป ส่วนฉันตอนนี้ก็โดนทิ้งเดินอยู่หลังสุดเพราะเจเลนชวนพี่คาร์เวนคุยอีกและฉันก็เดินตามไม่ไหวเมื่อพี่คาเรียดกับออร์ฟัสเดินนำไปพี่คาร์เวนคงรู้แล้วว่าฉันเดินคนเดียวเลยหยุดรอฉัน รอจะได้เดินไปพร้อมกันแน่เลยเจเลนครั้งนี้เฮเซลชนะนะ

พี่คาร์เวนถาม "ทำไมเดินช้าลงปกติไม่เดินช้าแบบนี้เป็นอะ ไรหรือเปล่า"

จะบอกว่าเพราะกินเยอะเลยเดินไม่ไหวก็คงไม่ดีเจ็บขาแล้วกัน "เจ็บขานิดหน่อยค่ะ"

"แล้วเดินไหวไหม? ขึ้นขี่หลังพี่ไหม?" 

พี่คาร์เวนเฮเซลไม่ไหวแล้วกับความแสนดีของพี่ส่วนตัวพี่ก็คงจะไม่ไหวกับน้ำหนักของเฮเซลฉันเลยเงียบไปสักพัก

พี่คาร์เวนพูดขึ้นมาเหมือนรู้ใจ "กลัวพี่หนักเหรอ?"

ฉันพยักหน้าตอบรับ

พี่คาร์เวนหัวเราะออกมาเบาๆ "เฮเซลลืมเหรอพี่เป็นแวมไพร์ให้ทั้งห้าคนขี่หลังยังไม่หนักเลย"

ฉันลืมจริงๆ ด้วย "เฮเซลลืมไปเลยค่ะ"

"ถ้างั้นตอนนี้ก็ขี่หลังพี่ได้แล้วนะครับ" 

หลังจากที่ขี่หลังพี่คาร์เวนแผ่นหลังที่กว้างมันเป็นยังไงตอน นี้รู้แล้วมันดีจริงๆ ส่วนเจเลนก็ยังพูดไม่หยุดจนถึงที่พัก เมื่อถึงที่พักทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อนที่ห้องของตัวเองพี่คาร์เวนบอกพรุ่งนี้ใครตื่นตอนไหนก็ค่อยไปเที่ยวตอนนั้นแต่ถ้าใครอยากจะพักหรือจะแยกไปทำอะไรก็บอกได้เลย ฉันได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้จะแยกกันฉันอยากแยกแบบที่ได้อยู่กับพี่คาร์เวนสองคนบ้าง

"ก๊อกๆ" ฉันเดินไปเปิดประตูให้ออร์ฟัส 

"เธอต้องช่วยทำให้ฉันสนิทกับพี่คาเรียดมากกว่านี้ฉันรู้นะว่าเธออยากสนิทกับพี่คาร์เวนเรามาช่วยกันดีกว่า"

ฉันคิดในใจช่วยก็ช่วย "แล้วต้องทำยังไงบ้าง?"

"พรุ่งนี้ฉันจะขอพักอยู่ที่นี่เธอก็ขอพักอยู่ที่นี่ด้วยนะถ้าทำแบบนี้พี่คาเรียดก็น่าจะอยู่ด้วยเพราะพี่คาเรียดชอบตามเธอ หลัง จากนั้นเธอก็แกล้งทำเป็นอยู่ในห้องแต่แอบออกไปข้างนอกเธอจะไปไหนก็เรื่องของเธอทางที่ดีก็รีบไปหาพี่คาร์เวนถ้าพี่คาร์เวนไม่ได้ออกไปไหนก็ไปชวนพี่คาร์เวนออกไปข้างนอกนะเข้าใจไหม?” 

"พอจะเข้าใจได้"

"พรุ่งนี้ก็ตกลงตามนี้นะ"