3

 

Common Crisis

 

 

วันหยุดสุดสัปดาห์เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ซุ้งตื่นขึ้นมาช่วงบ่ายโมง ลากร่างตัวเองเข้าไปอาบน้ำก่อนที่จะเดินออกจากซอยที่พักมาโผล่ที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ

"เฮียวันนี้เอากะเพราหมูชิ้นไข่ตอกเผ็ดๆ เพิ่มหมู เพิ่มข้าว ไข่ดาวไม่สุก"

"ไปนั่งๆ ไม่ต้องส่งเมนูหรอก วันๆ กินอยู่ไม่กี่อย่าง"

เฮียไช้เจ้าของร้านตอบกลับซุ้งอย่างเป็นกันเอง ร้านเฮียไช้เป็นร้านอาหารตามสั่งที่เขากินประจำตั้งแต่มาอยู่ซอยนี้ แต่ละวันกินอยู่ไม่กี่เมนูจนเฮียแกจำได้หมดแล้ว

"ไอ้หมวยไปไหนอะเฮีย"

"หมวยมันไปทำเรื่องฝึกงานอะไรของมันอั๊วก็ไม่รู้ ออกไปรอรถเมล์แต่เช้าบอกจะแวะหาเพื่อนแล้วกลับดึกๆ"

หมวยที่พูดถึงคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเฮียไช้ เฮียแกอยากได้ลูกสาวมาก พอเมียท้องก็ตั้งชื่อไว้ก่อนตั้งแต่ยังไม่ทันรู้เพศ พอคลอดแกขี้เกียจคิดใหม่ไอ้ลูกชายคนเดียวของแกเลยได้ชื่อหมวยมาแบบงงๆ

"มันจะฝึกงานที่ไหนอะ"

"อั๊วก็ไม่รู้มัน มันเคยบอกแล้วแต่อั๊วลืม"

เฮียตอบกลับพร้อมเคาะตะหลิวลงผิวกระทะเสียงดังปั๊กๆ ตามสไตล์ของแก ซุ้งเลยไม่ได้ถามเซ้าซี้ต่อหันมานั่งไถมือถือไปเรื่อยจนจานอาหารวางตรงหน้า

"วันนี้หยุดงานเหรอ" ชายวัยห้าสิบปลายๆ นั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม อาจเพราะไม่มีลูกค้าเพิ่มเฮียไช้เลยว่างมานั่งคุยด้วย

"ใช่เฮีย ร่างแทบพัง"

"ลื้อช่วยอะไรอั๊วหน่อย" อยู่ๆ เฮียไช้ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดกังวลขึ้นมา

"ผมไม่มีเงินให้เฮียยืมหรอกนะ"

เพราะไปกวนเฮียแกไม่เลิกเพียงเสี้ยววินาทีมะเหงกลูกใหญ่เลยลงที่กลางหัวไอ้ซุ้ง ทำเอาต้องสูดปากเบาๆ เพราะมือเฮียแกโคตรจะหนัก

"ไม่ได้จะยืมเงินเว้ยไอ้นี่ ลื้อไปตามดูอาหมวยให้อั๊วหน่อย ค่ารถเดี๋ยวอั๊วออกให้ แถมข่าวฟรีสองวัน"

"ตามไอ้หมวยเนี้ยนะ มันหนีออกจากบ้านเหรอ ไหนเฮียบอกมันไปทำเรื่องฝึกงาน"

"ช่วงนี้อาหมวยมันทำลับๆ ล่อๆ วันก่อนมันเอาเงินมาให้ไปส่งหนี้ธนาคารตั้งสองหมื่น ไม่รู้มันหามาจากไหน"

"เฮียกลัวมันจะไปทำอะไรไม่ดีเหรอ"

"อาหมวยไม่ทำแบบนั้นหรอก อั๊วกลัวมันจะไปโดนใครเขาหลอกเข้า หมวยมันไม่ทันคน"

เฮียแกห่วงลูกชายอย่างกับมีลูกสาว แทนที่จะห่วงว่าจะมีคนมาหลอกควรห่วงว่ามันจะไปหลอกใครเข้าซะมากกว่า ตั้งแต่รู้จักกันมาหมวยมันธรรมดาซะที่ไหน ซุ้งทำปากมุบมิบไม่ให้เฮียไช้จับความหมายได้ ก่อนจะลั่นคำกวนประสาทออกมาให้คนตรงหน้ามีน้ำโห

"เงินดีขนาดนั้นมันวิ่งยาเปล่าเฮีย โอ้ย!! หัวจะแตก เฮียเลิกเขกหัวได้แล้วเดี๋ยวขี้เลื่อยจะร่วง"

"พูดไม่เขาหูนี่หว่า"

"แล้วหมวยมันบอกจะไปที่ไหนล่ะ"

"ไปหาเพื่อนที่xx"

 

 

 

และนั่นจึงทำให้ค่ำคืนวันเสาร์ของซุ้งเปลี่ยนไป

ร่างโปร่งก้าวเข้ามายังสถานที่เริงรมย์ตามพิกัดที่เฮียไช้ไหว้วาน ก่อนหน้านี้เขาเองเคยใช้ชีวิตแบบคืนวันศุกร์เมา เสาร์แฮงค์ อาทิตย์ดื่มแก้ วนลูปอยู่อย่างนั้นตั้งแต่สมัยมหาลัย สีสันชีวิตสุดๆ จะว่าไปก็ห่างหายจากชีวิตศรีวิไลแบบนั้นมานานมาก ตั้งแต่เริ่มมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูตัวเองซุ้งก็ไม่ค่อยได้มาตามสถานที่แบบนี้อีกเลย

สายตาสอดส่องไปทั่วร้านหวังจะเจออาหมวยของเฮียไช้นั่งอยู่สักโต๊ะ ที่นี่บรรยากาศดูดีมีราคาเลยทีเดียว เป็นสถานบันเทิงเริงรมย์ที่อยู่ในตัวโรงแรมหรู ลูกค้าแต่ละคนล้วนนุ่งห่มแบรนด์เนม ไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่รับปากไม่เอาเงินค่าน้ำใจจากเฮียไช้

"รับอะไรดีครับ"

บาร์เทนเดอร์เอ่ยถามเมื่อซุ้งเข้าไปนั่งที่หน้าบาร์ ร่างโปร่งก้มอ่านเมนูคร่าวๆ แล้วเลือกที่จะสั่งค็อกเทลราคาถูกที่สุดมาหนึ่งแก้ว ดื่มเดียวราคาสามสี่ร้อยแล้ว นั่นได้ค่าวินไปขึ้นรถไฟฟ้าตั้งหลายวัน

ซุ้งคร่ำครวญในใจพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า เขาทำตัวเป็นคนมีสตางค์เพื่อให้ดูกลมกลืนกับสถานที่ ทั้งที่ในใจบ่นเฮียไช้และไอ้หมวยไปแล้วกว่าล้านประโยค

ไม่นานเครื่องดื่มที่สั่งก็วางลงตรงหน้า ค่อยๆ ยกจิบเบาๆ กลัวจะหมดเร็ว รสขมของว็อดก้าช่วยปลุกความร้อนในตัวได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่สอดส่องหาน้องชายคนสนิท

"สวัสดีครับ ...มาคนเดียวเหรอ"

จนกระทั่งนั่งไปได้ไม่ถึงสิบนาที ชายรูปหล่อล่ำบึกก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมสายตาแพรวพราวพร้อมตะครุบเหยื่อมองที่ซุ้งอย่างโจ่งแจ้ง

ซุ้งไม่ใช่ผู้ชายร่างเล็กเอวบาง เขาเป็นชายหนุ่มร่างโปร่ง ผิวขาว สูงกว่า 178 เซนติเมตร และสิ่งที่ทำให้เขาสามารถดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างได้นั้นก็คงจะเป็นรสนิยมในการแต่งตัว ใบหน้าหวานคม อีกทั้งแรงดึงดูดทางเพศที่แผ่ออกมารอบตัวเมื่ออยู่ในสถานที่เริงรมย์นั้นสูงมากทีเดียว ซึ่งผิดกันลิบลับเมื่อเขาอยู่ในคราบของพนักงานออฟฟิศต๊อกต๋อย

"ดื่มเป็นเพื่อนผมสักแก้วนะครับ"

มือหนาวางแก้วค๊อกเทลสีฟ้าสดใสลงบนบาร์เพื่อบ่งบอกว่าชายหนุ่มเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อเข้าหา

โดยปกติซุ้งเองจะไม่ชอบรับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้าอยู่แล้ว เวลามาสถานที่แบบนี้สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องนี้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ แต่เขาก็ไม่ได้เสียมารยาทตอบปฏิเสธไปซะทีเดียว

"งั้นผมขอเลือกเมนูเองก็แล้วนะครับ" พูดจบก็หันไปสั่งเครื่องดื่มแก้วใหม่กับบาร์เทนเดอร์แทนแก้วที่ชายแปลกหน้านำมาให้

แววตาเจ้าเล่ห์เห็นท่าทีของซุ้งก็ไม่ติดใจอะไรกลับเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมา

หลังจากนั้นเสียงพูดคุยก็ดังแข่งกับเสียงเพลง แก้วค๊อกเทลถูกยกขึ้นดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า ความแรงของเครื่องดื่มชนิดนี้แม้จะไม่มากแต่หากโดนไปหลายแก้วก็เซได้เหมือนกัน

"คืนนี้คุณซุ้งมีธุระต่อมั้ยครับ"

มือหนาเริ่มเกี่ยวเข้าที่เอวสอบ ซุ้งรู้สึกถึงสัมผัสมือของอีกฝ่ายเริ่มสอดเข้ามาภายใต้เสื้อเชิ๊ตหลุดลุ่ยแล้วลูบไล้ผิวเนื้อของเขาเบาๆ ทั้งๆ ที่ควรปฏิเสธแต่สภาพร่างกายกลับไม่อำนวย อีกทั้งยังมีความคิดวนในหัวว่าเขาเองก็ห่างหายจากเรื่องอย่างว่ามานานแล้วเหมือนกัน

ชายตรงหน้าไม่ได้ตรงรสนิยมของซุ้งนักแต่ก็ไม่ได้แย่ พอคิดแบบนั้นตอนนี้ทั้งคู่จึงกำลังฟัดนัวกันอยู่ห้องน้ำที่ถูกตกแต่งอย่างสมราคา

เสียงหอบหายใจดังก้อง ริมฝีปากบดเบียดเข้าหากันอย่างหิวกระหาย ร่างโปร่งถูกยกขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ แขนสองข้างคล้องอยู่ที่ลำคอแกร่ง ส่วนชายร่างบึกบึนที่ซุ้งไม่รู้แม้แต่ชื่อกำลังยืนแทรกระหว่างขาทั้งสองข้างของเขาแล้วใช้แขนโอบรัดเอวเล็กๆ เอาไว้

ทั้งสองคนมัวเมาในอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นจึงไม่ทันได้สังเกตว่าภายในห้องน้ำชายที่แบ่งซอยห้องไว้อีกสองห้องนั้นมีหนึ่งห้องที่ประตูถูกปิดเอาไว้อยู่

"อื้ม..."

ซุ้งส่งเสียงครางเครือผ่านลำคอออกมาเพราะถูกอกถูกใจรสชาติที่ไม่ได้สัมผัสมานาน เรียวลิ้นผลัดกันเกี่ยวกระหวัดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

แกร็ก...

เรื่องราวกำลังจะเลยเถิดแต่ทุกการกระทำกลับต้องหยุดไว้เพียงเท่านั้นเมื่ออยู่ๆ ประตูห้องน้ำที่ถูกปิดเอาไว้ดันมีเสียงลั่นกลอน ทำเอาชายหนุ่มทั้งสองคนต้องเบนสายตาไปรวมไว้ยังจุดเดียวกันทันที

ปรากฏชายปริศนาก็เดินออกมา สายตาคมมองผ่านพวกเขาทั้งคู่ไป ก่อนที่จะเดินมายืนล้างมือใกล้ๆ ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซุ้งมองแวบแรกรู้สึกคุ้นหน้าชอบกล คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนสักที่แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังคงทำให้มึนงงเลยพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

"เอ่อคือ... เอ้ยเดี๋ยวดิ"

เขาพยายามพูดอะไรสักอย่างเพื่อให้บรรยากาศไม่กระอักกระอ่วนจนเกินไปแต่มือของคนตรงหน้าก็ซุกเข้ามาใต้เสื้อแล้วเอาแต่ลูบไล้ไม่หยุด

หันไปดูอีกคนก็ดูตั้งอกตั้งใจล้างมือซะเหลือเกิน ไม่สนสภาพแวดล้อมใดๆ

แต่ซุ้งไม่ได้หน้าทนขนาดนั้น เขาตัดสินใจผลักคนตรงหน้าออกห่างแล้วกระโดดลงมายืนจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง

"ไปคอนโดผมได้นะ" เสียงของชายหนุ่มล่ำบึกพูดขึ้น

ซุ้งสะบัดหน้าแสดงออกชัดเจนว่าตัวเขาหมดอารมณ์  มันหมดไปตั้งแต่ผู้ชายอนามัยจัดอีกคนเดินมาล้างมือยิกๆ ที่หน้ากระจก

ว่าแล้วเขาก็เพิ่งนึกได้ว่าควรหันไปขอโทษเสียหน่อย ถึงอย่างไรสถานที่ก็ไม่เหมาะไม่ควรจริงๆ

"ขอโท..."

แต่แล้วคำพูดทุกคำกลับถูกกลืนลงไปเมื่อซุ้งได้มองใบหน้าของชายร่างสูงผ่านกระจก จากตอนแรกเห็นแค่เพียงเสี้ยวหน้า ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาเห็นใบหน้าในแบบหน้าตรงชัดแจ๋ว

และที่ทำเอาใจหายวูบไปมากกว่านั้นคือชายตรงหน้าช่างคุ้นตาเหลือเกิน คุ้นราวกับเป็นคนเดียวกันที่เพิ่งจี้ให้เขาตอบคำถามในที่ประชุมเมื่อวันศุกร์นรกที่ผ่านมา

 

ใช่!

เจ้าของใบหน้าหล่อลืมตรงหน้าคือคุณคณิน! ท่านประธานหน้าตายคนนั้น!

"คุณคณิน..."

ซุ้งยืนตัวแข็งทื่อราวกับเด็กที่เพิ่งกระทำความผิดแล้วถูกจับได้ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็นอกเวลางาน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คงคล้ายเวลาโดนตำรวจจราจรมองจ้อง ความรู้สึกจะเกร็งๆ หน่อยแม้จะไม่ได้ทำความผิดก็ตาม

ด้วยบรรยากาศอันเงียบเชียบ ความประดักประเดิดจึงขมุกขมัวอยู่รอบตัว

"คุณคณิณมาเที่ยวเหรอครับ"

คณินเงยหน้าขึ้นมองซุ้งผ่านเงากระจกพยักหน้าให้เล็กน้อยหลังจากนั้นก็กลับไปให้ความสนใจกับการเช็ดมือให้แห้ง

ไอ้เรื่องอายมันก็อายอยู่หรอก! โชคดีที่เขายังไม่ได้แสดงหนังสดกันในนี้!!

ซุ้งกระวนกระวายในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย

ดูเหมือนทุกอย่างกำลังเข้าสู่สภาวะปกติ คณินเองก็ไม่ได้ดูสนใจอะไรเขาขนาดนั้น ซุ้งจึงตัดสินใจว่าต้องรีบชิ่งหนีออกไปให้ไวที่สุด และเลือกที่จะยุติกิจกรรมระเริงสุขทุกอย่างของค่ำคืนนี้ไว้

"อ่า... งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" 

เขาเรียงลำดับในหัวอย่างรวดเร็วว่าต้องออกไปตามหาหมวย หากไม่เจอก็จะกลับไปรายงานเฮียไช้ตามตรง ดีไม่ดีดึกขนาดนี้แล้วน้องชายคนสนิทของเขาอาจจะกลับบ้านไปนอนแล้วก็ได้

แต่สองเท้ายังไม่ทันได้ก้าวพ้นห้อง น้ำเสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

"พี่ซุ้งเหรอ"

"หมวย?"

ซุ้งหันกลับไปมอง พบว่าเจ้าของเสียงเรียกคือคนเดียวกันกับคนที่เขาได้รับหน้าที่มาตามหาในวันนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจมากกว่านั้นคือการที่หมวยเดินออกมาจากห้องน้ำห้องเดียวกันกับที่คณินเดินออกมาในตอนแรก

"พี่มาเที่ยวเหรอ" หนุ่มหน้าหวานเอ่ยถามซุ้ง

"ไม่ เฮียไช้ให้มาตาม  ...แล้วนี่รู้จักกันเหรอ" ประโยคสุดท้ายเขาหันไปพูดกับคณินแทน

"หมวยจะกลับพอดี พี่ซุ้งเรากลับกันเลยก็ได้ คุณคณินผมไม่รบกวนแล้วนะครับ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์จะไปส่ง"

มือเล็กกำรอบข้อมือของซุ้งเอาไว้ พยายามดึงให้เดินตามออกไป

ทั้งสองคนเดินลากถูกันออกมาได้สักพัก ซุ้งที่เดินตามหลังหมวยถึงเริ่มได้สติแล้วพิจารณา

"หมวย" ฝีเท้าของซุ้งหยุดลงทำให้อีกคนจำเป็นต้องหันกลับมามองตามเสียงเรียก

"..."

"หมวยรู้จักคุณคณินเหรอ แล้วนี่แต่งตัวอะไร อย่าบอกนะว่าแอบเฮียไช้มาทำงาน"

ซุ้งหัวร้อนกรุ่นๆ เมื่อเห็นหมวยอยู่ในชุดยูนิฟอร์มพนักงานที่มองแวบเดียวก็รู้ได้ว่าไม่ใช่เพียงเด็กเสิร์ฟธรรมดา

"แค่งานนั่งเป็นเพื่อนลูกค้า ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอก"

"แล้วในห้องน้ำจะอธิบายว่ายังไง"

"พี่ซุ้งอย่าทำตัวเป็นป๊าหมวยอีกคนจะได้มั้ย แล้วเรื่องวันนี้พี่ห้ามบอกป๊านะถือว่าหมวยขอ"

ซุ้งแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา ถึงแม้จะรู้ว่าหมวยมันเอาตัวรอดได้แต่งานแบบนี้มีแต่เสือสิงห์ทั้งนั้น! เขาเที่ยวมาเยอะ! ถึงอย่างไรก็อดห่วงไม่ได้

"เฮ้อ ถ้าเฮียไช้รู้แกตายแน่ไอ้หมวย เอาเป็นว่าอะไรมันมากไปก็อย่าฝืน โอเค?"

"อืม รู้แล้ว"

ซุ้งบ่นน้องชายคนสนิทไปสักพักระหว่างรอเรียกแท็กซี่กลับ มือไม้เริ่มควานหาสิ่งสำคัญอย่างโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ เขาจำได้ว่านำติดตัวมาด้วยแน่ๆ แต่ตอนนี้ของทั้งหมดดันไม่อยู่กับตัวจึงพยายามนึกย้อนเหตุการณ์กลับไปว่าเขานำไปวางไว้ที่ไหน

 

ชายหนุ่มสองคนเดินกอดเกี่ยวกันเข้ามาในห้องน้ำ ของที่ถือมาจากหน้าบาร์ทั้งโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ถูกเจ้าตัววางไว้ข้างอ่างล้างมือ หลังจากนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ผลัดกันรุกรับราวกับหิวกระหาย ลืมเลือนสิ่งรอบตัวเพราะมัวเมาอยู่กับอารมณ์

 

 

ซุ้งนึกขึ้นได้ทันทีว่าของของเขาอยู่ที่ไหนซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่แท็กซี่ขับมาจอดตรงหน้า

"พี่ลืมของว่ะหมวย หมวยนั่งรถกลับไปก่อนนะเดี๋ยวเฮียไช้แกรอ ถึงแล้วส่งข้อความมาบอกด้วยก็แล้วกัน"

หมวยยังไม่ทันได้เอ่ยตอบรับ ซุ้งว่าจบก็หันหลังวิ่งหน้าตั้งกลับเข้าไปในโรงแรม ในใจได้แต่ภาวนาขอให้ของสำคัญยังไม่หาย

ร่างโปร่งเร่งฝีเท้าไวขึ้นจนมาถึงที่หมายภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที เขาจำได้ว่าวางไว้บริเวณนี้ที่กำลังมองอยู่แต่ตอนนี้ของทุกอย่างกลับหายไป

หรืออาจจะต้องตามหาผู้ชายคนนั้นที่เข้าหาเขา ซุ้งคิดพลางเดินสับๆ ไปที่หน้าบาร์ เอ่ยถามบาร์เทนเดอร์ได้ความว่าชายคนนั้นไม่ได้วกกลับมาที่นี่

ในขณะที่กำลังสิ้นหวังอยู่นั้นสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นร่างสูงซึ่งคุ้นตานั่งหันหลังอยู่โต๊ะด้านในสุดอีกฝั่งของร้าน

เขาสาวเท้าเข้าไปนั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้ามทั้งที่ยังไม่ได้ขออนุญาต นับว่าเป็นการกระทำที่เสียมารยาทมาก แต่แล้วใครจะสน ซุ้งเหม็นหน้าหมอนี่ตั้งแต่เห็นว่าอยู่กับหมวย บวกกับอาการมึนเมาจึงลืมไปเสียสนิทว่าชายตรงหน้ามีสถานะเป็นถึงเจ้านาย

"คุณเห็นของของผมที่ลืมไว้ในห้องน้ำหรือเปล่า" 

"คุณกำลังเสียมารยาท" 

คณินเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้มาใหม่ ขณะเดียวกันเสียงทุ้มก็ตอบกลับพร้อมกับสายตาคมเฉียบมองจ้อง

"อ่า ไม่เห็นสินะครับ"

ซุ้งจะลุกหนีเมื่อดูท่าว่าคงไม่ได้รับคำตอบ แต่แล้วเขากลับเปลี่ยนใจนั่งลงที่เดิมแล้วยิงคำถามที่ต้องการรู้เพิ่ม

"คุณรู้จักน้องผมได้ยังไง ผมหมายถึงคนที่อยู่กับคุณก่อนหน้านี้"

"ผมไม่สนทนาเรื่องส่วนตัวกับคนแปลกหน้า"

ชายตรงหน้ากล่าวเอื่อยๆ พลางจิบบรั่นดีราคาแพงพร้อมยกขาขึ้นไขว่ห้างเอนหลังอิงโซฟา

"คุณแค่บอกผมก็ได้ว่าหมวยมันทำงานแบบไหน ให้ไปถามน้องมันคงไม่ตอบ"

"เขาเป็นคนรักของคุณเหรอ"

"เป็นน้อง ทีนี้ก็บอกผมมาตามตรง"

แทนที่คณินจะตอบคำถามแต่เขากลับหันไปสั่งเครื่องดื่มแบบเดียวกับของเขามาเพิ่มอีกหนึ่งที่

"..."

ทั้งคู่นั่งเงียบ จนกระทั่งบรั่นดีรสเลิศถูกพนักงานวางลงตรงหน้าซุ้ง เขาแสดงสีหน้าฉงนชั่วครู่ก่อนที่จะเข้าใจทุกอย่างเมื่อคณินผายมือมาที่แก้ว

"ดื่มสิ"

"...."

"ปลอดภัย"

ซุ้งลังเลอยู่สักพัก เขาผ่านเรื่องคนเข้าหามามากในสถานที่แบบนี้แต่กับคนคนนี้เขากลับมองไม่ออกว่าต้องการอะไร

หากไม่ชอบใจที่เสียมารยาทก็ควรไล่เขาไปไม่ใช่สั่งเครื่องดื่มมาให้แบบนี้

 

หากไม่ใช่ว่า...

 

"คุณสนใจผมเหรอ"

 

อยู่ๆ ความคิดที่อยู่ในหัวก็ดังก้องออกมาผ่านริมฝีปากของเขา เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปซุ้งจึงรีบยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นรับกลิ่นจากนั้นกระดกเข้าปากอึกใหญ่

กลิ่นและรสชาติร้อนแรงของแอลกอฮอล์ราคาแพงพวยพุ่งเข้าร่างกาย ยอมรับว่ารสชาติหลากหลายของค็อกเทลที่กินไปก่อนหน้านี้สู้บรั่นดีแก้วนี้ไม่ได้เลยสักนิด

ของแพงนี่มันดีอย่างนี้สินะ ซุ้งวนแก้วในมือแล้วยกจิบอีกรอบ

"คุณไม่ใช่สเปคผม และไม่ใกล้เคียง"

เมื่อได้ยินคำตอบมือที่ถือแก้วอยู่กลับชะงักไป ชายตรงหน้าเขาพูดปฏิเสธคนได้ใจดำมาก ใบหน้านิ่งเฉยที่ไม่แสดงอารมณ์นั่นอีก ซุ้งมองแล้วเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที

"แบบไหนกันล่ะที่เป็นสเปคคุณ สาวมินิเดรสสีแดงตรงนั้นหรือผู้ชายตัวเล็กเอวบางที่ยืนอยู่มุมโน้น" ซุ้งถามเพราะเริ่มอยากจะเอาชนะผู้ชายหน้านิ่งคนนี้บ้าง

"ผมเป็นเกย์"

"อ่อ ตรงดีนี่"

"ส่วนเรื่องน้องของคุณ คุณคงต้องไปถามเขาเอง แต่ดูท่าก่อนหน้านี้คุณคงจะยุ่งเกินกว่าจะสนใจเขา"

ซุ้งคิ้วกระตุกตอนได้ยินคำถากถางจากคณิน เรื่องที่ว่าเขายุ่งเกินกว่าจะสนใจน้องชายคงหมายถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำ

"เรื่องนั้นเหตุสุดวิสัยครับ"

ร่างโปร่งตอบกลับ ยกจิบบรั่นดีจากแก้วใบใหม่ที่พนักงานเพิ่งวางลงแก้เขิน แอลกอฮอล์เริ่มทำปฏิกิริยาต่อร่างกายหนักขึ้น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วตัว

"ผมเข้าใจว่าคุณมาเที่ยวเสียอีก ในห้องน้ำ... เกือบจะสดกันตรงนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ"

"นั่นสิ ถ้าคุณไม่มาขัดซะก่อนละก็นะ"

ซุ้งยกยิ้มที่มุมปากพลางใช้สายตาควานหาความต้องการจากนัยน์ตาของอีกคน สัญชาติญาณของเขาไม่เคยพลาด ถึงจะบอกชัดเจนว่าไม่ใช่สเปคแต่ซุ้งแน่ใจว่าชายคนนี้ต้องมีความสนใจในตัวเขาไม่มากก็น้อย เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เสียเวลาคุยกับเขานานสองนาน

"ทีหลังก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน"

"ทำไมครับ คุณกลัวว่าจะเป็นตากุ้งยิงเหรอ"

"ตากุ้งยิงไม่ได้เกิดการมองคนมีเพศสัมพันธ์กันหรอกนะ นั่นมันเพราะติดเชื้อแบคทีเรีย..."

"..."

"รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม..."

"..." 

 

ซุ้งหน้าสั่นเมื่อถูกอีกคนสั่งสอน!

ความจริงคือเขารู้อยู่แล้วเว้ยว่ามันเกิดจากอะไร!

แต่นั่นกูเล่นมุกเว้ยตาแก่!!! ซุ้งพร่ำในใจเพราะหงุดหงิด

 

และเมื่อความอยากเอาชนะเริ่มเพิ่มมากขึ้น ฤทธิ์เครื่องดื่มมึนเมาบวกกับอารมณ์ที่ยังคั่งค้างจึงถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางสายตารวมถึงท่าทาง

ซุ้งยกบรั่นดีซึ่งเหลือเพียงก้นแก้วลงคอรวดเดียวแล้วลุกเดินเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม

เขาคิดว่าถ้าไม่ใช่ก็แค่ถูกปฏิเสธ...

หรือถ้าพลาดจากคนนี้เขาเองก็คงไม่ยอมกลับห้องมือเปล่าแน่

 

เข่าขวาวางค้ำบนโซฟาเบียดกับต้นขาแกร่ง เท่านั้นไม่พอ ซุ้งยังถือวิสาสะวางทั้งสองมือไว้บนไหล่กว้าง ฝ่ายคณินยังคงนั่งนิ่งช้อนตาขึ้นมองคนที่กำลังยืนคร่อมเขาอยู่

"ปากจัดจังเลยนะครับท่านประธาน..."

"..." 

สายตาจากคนรอบข้างเริ่มหันมาให้ความสนใจพวกเขาทั้งคู่ เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังเสียดเข้าหู 

คนโตที่กว่าพร้อมด้วยหน้าตาทางสังคมอย่างคณินแม้จะไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์มากนัก แต่ในสถานการณ์นี้เขากลับไม่ค่อยชอบใจ เพราะร่างโปร่งตรงหน้าทำเหมือนกำลังต้อนเขาให้จนมุม

คณินลุกขึ้น มือแกร่งจับข้อมือของอีกคนไว้แน่นก่อนจะลากถูพาเดินออกมาจนถึงบริเวณหน้าลิฟต์

"ดะ..เดี๋ยวคุณ! ใจเย็น! คุณโกรธเหรอ ผมขอโทษๆ โอ้ยยย ท่านประธานที่เคารพผมเมาอะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ" 

ซุ้งพรรณนาออกมาอ้อแอ้ ความคิดแวบแรกคือตายแน่แล้วไอ้ซุ้ง!!! จะตกงานก็วันนี้!!! 

เพราะไอ้บรั่นดีนั่น!

 

"เดี๋ยวนะ คุณจะพาผมไปไหน"

 ผ่านไปสักพักถึงได้สติแล้วหันไปอ่านป้ายก่อนจะพบว่าเป็นลิฟต์โดยสารส่วนตัว ซุ้งยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อก็ถูกเหวี่ยงเข้าไปด้านใน สองเท้าโซเซจนเกือบยืนไม่อยู่

ลิฟต์ไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ชั้นบนสุด ร่างสูงเดินนำออกไปหลังจากประตูลิฟต์เปิดออก ส่วนประตูบานใหญ่อีกบานที่ดูเหมือนประตูบ้านก็เปิดออกอีกเช่นกันเมื่อชายผู้นั้นสแกนลายนิ้วมือเสร็จ

 

คณินเดินเข้าไปในห้องก่อนจะหันหลังกลับมาพูดกับคนที่กำลังยืนมึนงงอยู่

 

"ถ้าคุณไม่...กดลิฟต์ลงชั้นล่างไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือ แต่ถ้าคุณอยาก...ก็เดินเข้ามาหาผม"

"ผม..."

 

 

และแล้วประตูก็ปิดลง...

เสื้อผ้าถูกถอดโยนกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง...

ซุ้งถูกผลักลงเตียงนุ่มตามด้วยอีกคนขึ้นคร่อมโดยใช้หัวเข่ากดลงที่หน้าขาจนคนใต้ร่างถึงกลับนิ่วหน้า

แต่ความเจ็บที่ว่าก็น้อยกว่าอารมณ์กำหนัดที่กำลังพุ่งทะยาน

 

"คุณจะเอาผมเหรอคุณคณิน? มาตรฐานผมสูงนะ"

"หลังจากคืนนี้คุณคงได้เซ็ทมาตรฐานใหม่สูงขึ้นไปอีก"

"อื้อ!!"

 

 

 

 

to be continued

ตอนหน้า NC มาแล้วววว ไวไฟไม่ไหววว คู่นี้สมน้ำสมเนื้อค่ะ