2

K-56-1

 

 

เจ็ดโมงเช้าลากตัวเองลงจากเตียงนอน กว่าจะถึงออฟฟิศก็เกือบจะเก้าโมงเข้าไปแล้ว

ซุ้ง ธนพัตพนักงานใหม่ของบริษัทนั่งสัปหงกโงนเงนอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ขณะกำลังเคลิ้มได้ที่ก็มีตัวปัญหาเข้ามาโยกเก้าอี้ของเขาเล่นเสียอย่างนั้น

"อ่า สวัสดีครับพี่เดี่ยว"

"ไงมึง เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือไง"

"อ่อ เปล่าครับ" ซุ้งโกหกคำโต

"ประชุมเช้านะมึง งานใหญ่ด้วยเห็นอีเมลยัง ส่งมาได้ไงตอนตีสอง ถ้าไม่ติดว่าเป็นหัวหน้ากูจะด่าให้"

"เมลเหรอพี่ตีสองเนี่ยนะ ผมยังไม่ได้เช็ก"

"เออ ประชุมสรุปเรื่องความคืบหน้าแผนการตลาดโครงการอารีน่าเรสสิเด้นนั่นแหละ!"

"โหพี่ ทำไมบอกกระชั้นชิดแบบนี้ล่ะ"

"มึงมาใหม่ไม่เดือดร้อนหรอก ส่วนกูนี่น่าจะหัวขาด"

พี่เดี่ยวยืนบ่นต่ออีกสักพักก็ปลีกไปเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม ซุ้งรีบเปิดอีเมลที่รุ่นพี่บอกแล้วถึงกลับกุมขมับ หัวหน้าส่งเมลมาแจ้งตอนตีสองจริง ได้ยินคนในแผนกบ่นกันว่าแผนกอื่นๆ ได้รับการแจ้งตั้งแต่สองวันที่แล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะหัวหน้าของเขาทำงานแย่ยิ่งกว่าอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นสายคงกอดตำแหน่งนี้ไว้ไม่ได้นานขนาดนี้แน่

ยิ่งใกล้เวลาประชุมทุกคนยิ่งเร่งเตรียมข้อมูล ส่วนเด็กใหม่อย่างซุ้งนั้นยังมึนงงกับหน้าที่ เพราะตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็ยังไม่มีใครเทรนงานให้แต่อย่างใด คนโน้นโยนให้ช่วยงานนี้บ้างงานนั้นบ้าง หนักสุดก็ใช้ให้ไปนวดไหล่จนเขาอดคิดไม่ได้ว่านี่สมัครตำแหน่งไหนกันแน่ระหว่างนักการตลาดหรือผู้ช่วยจิปาถะ

"แล้วทำไมคุณจูนถึงมาป่วยเอาวันนี้ได้! ผมแจ้งพวกคุณตั้งแต่ตีสอง! นี่มันจวนจะถึงเวลาประชุมเข้าไปแล้วข้อมูลยังไม่พร้อม! ห่วยแตก!"

ซุ้งนั่งก้มหน้าฟังหัวหน้ากลิ่นละมุดด่าทุกคนในแผนก ท่ามกลางอารมณ์คุกรุ่นกลิ่นเหล้าก็หึ่งตลบอบอวล ดูท่าเมื่อคืนเจ้าตัวคงดื่มหนักไม่เบา

"ใครเป็นคนดูแลข้อมูลเรื่องโซเชียลมีเดียกับคุณจูนบ้าง"

"คุณจูนดูแลเรื่องนี้คนเดียวค่ะ เอ่อ...หัวหน้าเป็นคนมอบหมายให้คุณ.."

"ห่วย! อย่าบอกผมนะว่าคนที่ยืนอยู่ที่นี่ไม่มีใครรู้รายละเอียดเรื่องนี้เลย"

ก็เออสิวะ ซุ้งตอบกลับในใจเกือบจะหลุดปากออกไป ปวดหัวเพราะนอนไม่หลับเมื่อคืนแล้วยังต้องมาเจอเรื่องวุ่นเช้านี้อีก

"ค่ะ" ใครสักคนเอ่ยตอบขึ้นมา หลังจากได้ยินหัวหน้าก็ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองทันที

ก็แน่สิ ถ้างานนี้พังขึ้นมาคนโดนสวดคนแรกก็ต้องหัวหน้าอยู่แล้ว ซุ้งอยากจะเสริมทัพด้วยว่าแจ้งข่าวตอนตีสองใครมันจะแหกตาตื่นมาเตรียมทันกัน

"นาย"

"..."

เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งเมื่อหัวหน้าชี้นิ้วไปที่พนักงานใหม่อย่างธนพัต

"ชื่ออะไรนะ ที่มาใหม่"

คนโดนถามจำได้ว่าเคยแนะนำตัวไปแล้วมากกว่าห้าครั้งแล้วแต่ก็ยังโดนถามอีก

"ซุ้งครับ  ธนพัต รักษาธรรมครับ"

"นามสกุลเชย"

"..." ในใจลุกเป็นไฟแต่ต้องเก็บไว้ เกรงว่าจะได้ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ ซุ้งจึงพยายามฉีกยิ้มแป้นให้กับบุคคลคนตรงหน้า

"คุณธนพัต คุณเอาไฟล์ของคุณจูนไปอ่านแล้วเตรียมสพรีเซ้นท์ส่วนคนที่เหลือก็รับผิดชอบหัวข้อของตัวเองไป อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่ห้องประชุมใหญ่ชั้นผู้บริหาร"

"..."

"มัวยืนนิ่งอะไรกันอยู่ครับ แยกย้าย!"

หลังได้ยินคำสั่งทุกคนก็รีบนั่งลงประจำโต๊ะของตัวเองแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานที่ได้รับมอบหมาย ต่างจากซุ้งที่ยังช็อกกับสิ่งที่ต้องทำ

เขาใช้เวลาตั้งสติสักพักแล้วเริ่มลงมืออ่านรายละเอียดจากไฟล์งานที่ได้รับมาสดๆ ร้อนๆ โดยมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการเตรียมตัว นี่ถือว่าเป็นงานใหญ่และเป็นงานแรกที่เขาได้รับมอบหมาย ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่ายังโชคดีมากที่คุณจูนรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้อย่างดีเขาจึงไม่ต้องคิดอะไรเพิ่ม มีหน้าที่เพียงแค่นำเสนอให้ดีที่สุดเท่านั้น

 

 

และแล้วก็ได้เวลาเข้าโรงเชือด...

คนในแผนกต่างทยอยกันจับจองที่นั่งสลับป้ายชื่อที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกันพัลวัน พื้นที่หลังห้องประชุมบริเวณโต๊ะทรงตัวยูยาวใหญ่ดีไซน์เก๋ถูกจับจองไปเสียหมด ส่วนซุ้งที่เดินเข้าห้องประชุมหลังจากคนอื่นๆ และไม่รู้วัฒนธรรมการเอาตัวรอดของคนในองค์กรจึงได้ที่นั่งใกล้หัวโต๊ะถัดจากหัวหน้าแผนกกลิ่นละมุดเพียงหนึ่งตำแหน่งเท่านั้น

เป็นความรู้สึกที่แย่มาก เขามองหาพี่เดี่ยวที่คิดว่าพอจะขอความช่วยเหลือแลกที่นั่งได้ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มแห้งๆ กลับมา นี่มันโซนอันตรายชัดๆ เขาได้แต่สบถในใจ

นั่งรอไม่ถึงห้านาทีประตูห้องประชุมก็เปิดออกอีกครั้งทำให้ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนอัตโนมัติโดยทันที

หลังจากนั้นชายร่างสูงในชุดสูทสีเทาเนี้ยบก็ก้าวเข้ามาภายในห้อง สายตาคมกวาดมองไปรอบๆ แล้วเดินไปนั่งยังตำแหน่งหัวโต๊ะที่มีป้ายชื่อวางเอาไว้ เขาผายมือให้ผู้เข้าร่วมประชุมนั่งลงจากนั้นยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากันทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมหนาวเหน็บขึ้นอีกเท่าตัว

"คนนี้แหละคุณคณิน คณพศสัภยา"

พี่สาวที่นั่งข้างกันหันมากระซิบบอกเด็กใหม่อย่างซุ้งแต่ถึงไม่บอกก็พอรู้อยู่แล้ว เขาไม่เคยเห็นตัวจริงของท่านประธานมาก่อนแต่พอได้เจอก็รู้สึกได้ว่าราศีจับเอาเรื่อง ดูแล้วอายุน่าจะอยู่ที่เลขสามกลางๆ ใบหน้าหล่อเหลาอย่างกับกดสูตรโกงมาเกิดนั่นน่าอิจฉาชะมัด บุคลิกเงียบขรึมซึ่งดูไม่เป็นมิตรต่อคนในที่ประชุมสักเท่าไหร่

ซุ้งคิดเอาไว้แล้วว่าต้องทำตัวให้เล็กที่สุดในห้องประชุมเพื่อเอาตัวรอดจากสายตาดุดันและรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา

"ไฮ! ขอโทษนะครับทุกคน พอดีรถติดนิดหน่อยเลทไปตั้ง 30 วินาทีแหนะ"

บุคคลปริศนาเปิดประตูเข้ามาอีกคน คำทักทายติดตลกทำให้บรรยากาศกดดันภายในห้องเบาบางลง ผู้ชายร่าเริงคนนั้นเดินไปนั่งยังตำแหน่งที่ว่างถัดออกมาจากที่นั่งประธานบริษัทหนึ่งที่

เขาคือรองประธาน คุณพีระ คณพศสัภยา

"ไงครับคุณคณิน สบายดีนะ"

ชายผู้มาใหม่เอ่ยทักบุคคลที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ

"เริ่มประชุม"

"เฮ้ออ จริงๆ เลยนะ...เอาละครับ เชิญเริ่มได้เลยคุณวิฑูรย์" เมื่อคู่สนทนาไม่ตอบสนองพีระจึงหันไปพูดกับหัวหน้าแผนกแทน

การประชุมเริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศอันตึงเครียด คนในแผนกต่างทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลในหัวข้อที่ตนเองได้รับมอบหมายพลางโดนยิงคำถามใส่รัวๆ ตอบได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็พยายามจนจบได้  และสุดท้ายก็มาถึงคิวเด็กใหม่อย่างธนพัต ไม่ใช่แค่เจ้าตัวที่กลัวจนเหงื่อซึมแต่คนทั้งแผนกก็รู้สึกไม่ต่างกัน ด้วยความที่รู้กันว่าที่ผ่านมาไม่ได้ใส่ใจเด็กใหม่สักเท่าไหร่

"สวัสดีครับ ผมธนพัต รักษาธรรม หัวข้อต่อไปที่จะพูดถึงคือเรื่องการโฆษณาผ่านสื่อ...."

ธนพัตนำเสนองานได้อย่างคล่องแคล่วตามข้อมูลที่เตรียมมา ทำเอาคนในแผนกถึงกับแสดงใบหน้าโล่งใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"ในส่วนของแบนเนอร์ในเว็บไซต์ทางเรากำลังดำเนินการและจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้งเมื่อแล้วเสร็จครับ..."

การนำเสนอข้อมูลที่เตรียมมาจบลง แต่ใครจะรู้ว่างานหนักสำหรับเด็กใหม่อย่างเขาคือหลังจากนี้ไปต่างหาก

"หมดแล้ว?"

ผู้มีตำแหน่งประธานบริษัทเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากธนพัตนำเสนอจบ

"ครับ"

"ผมไม่เห็นข้อมูลเกี่ยวกับการยิงโฆษณา"

"เอ่อ..."

ร่างโปร่งอึกอักเมื่อโดนยิงคำถามแรกใส่ เขาจะตอบยังไงในเมื่อข้อมูลที่ได้มาจากคุณจูนก็มีเท่าที่เห็น

"คุณวิฑรูย์"

ในเมื่อธนพัตตอบคำถามไม่ได้หวยเลยไปออกที่หัวหน้าแผนกกลิ่นละมุดอย่างวิฑูรย์

"ครับ ครับคุณคณิน"

"คุณคิดว่าการนำเสนอเมื่อสักครู่มีส่วนไหนที่ผิดพลาดบ้าง"

"เอ่อคือ..."

บรรยากาศตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมมากเมื่อหัวหน้าแผนกก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ เด็กใหม่อย่างธนพัตที่ยืนอยู่หน้าห้องยิ่งแล้วใหญ่ เขากลัวจนฉี่จะราดเพราะท่านประธานดูไม่สบอารมณ์เอามากๆ

"คุณมอบหมายงานให้คนที่ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงมายืนพูด ผมไม่ได้มาเล่นขายของคุณวิฑูรย์"

คณินพูดกับหัวหน้าแผนก แต่เสียงฟ้าผ่ากลับมาลงที่กลางหัวของธนพัต

ซุ้งคิดว่าตนเองนำเสนอได้ครอบคลุมรายละเอียดทุกอย่างที่มีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตบตาอีกคนได้

"อย่าคิดว่าผมจะเกรงใจ ถึงโปรเจคนี้จะไม่ใหญ่โตแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทีมคุณต้องลดมาตรฐานการทำงานลง"

 

 

สุดท้ายการประชุมก็จบลงแบบมึนตึงเพราะธนพัตทำพัง เขาตอบคำถามได้ดีแต่ไม่ทั้งหมด เพราะความไม่เชี่ยวชาญและงานที่ถูกโยนมาให้อย่างลวกๆ ทำให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า

หัวหน้าโดนท่านประธานผู้นิ่งขรึมสั่งสอนแบบเจ็บแสบอีกสองสามประโยค ปิดท้ายด้วยการไล่ให้กลับบ้านไปอาบน้ำเอากลิ่นละมุดออกจากตัวแล้วเตรียมรับจดหมายเตือนครั้งที่หนึ่งจากฝ่ายบุคคล ทำเอาคนในแผนกที่ควรสลดเลยได้นั่งยิ้มร่าหน้าบานกันสุดๆ ในตอนนี้

เพราะคิดเอาไว้ว่ายังไงเสียก็ไม่ใช่ความผิดของตัวเขาเองทั้งหมดเสียหน่อย ธนพัตจึงมั่นใจว่ายังไงก็คงจะรอดพ้นจากเหตุการณ์นี้แน่ๆ แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องประชุม เลขาของท่านประธานได้เอ่ยเชิญให้เขาไปพบที่ห้อง

 

 

"นั่งก่อนสิครับ มาๆ"

เป็นพีระที่พูดพร้อมกับผายมือไปที่โซฟารับรองแขกอีกตัว ถึงรองประธานอย่างพีระจะดูเป็นมิตรเข้าถึงง่ายแต่ซุ้งก็ยังคงรู้สึกเกร็งไม่หายเพราะมีสายตาคมหนึ่งคู่เอาแต่จ้องมาที่เขาไม่หยุด

"ขอบคุณครับท่าน" เขาพูดขอบคุณพลางนั่งลงที่โซฟา

"อะไรนะครับ ฮ่าๆ ท่านเทิ่นอะไรกัน เรียกผมว่าพีระเถอะครับ ผมยังไม่อยากดูแก่ขนาดนั้น"

"อ่า ครับ"

"คุณชื่อธนพัตสินะครับ ไม่ต้องตกใจนะ ที่ผมเรียกคุณมาคุยวันนี้ก็แค่อยากจะถามเรื่องการทำงานนิดหน่อย"

ซุ้งเริ่มจับทางได้ว่าผู้มีอำนาจกำลังจะพูดถึงอะไร คำถามที่โดนถามก็เป็นเรื่องราวในแผนก เช่น เขาเข้ามาทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ เข้ามาแล้วได้รับหน้าที่อะไรบ้าง มีการสอนงานในแผนกหรือไม่

ซุ้งตอบไปตามตรง ชั่งน้ำหนักเรื่องของอำนาจการตัดสินใจระหว่างหัวหน้าแผนกกับคนตรงหน้าดูแล้ว ยังไงตำแหน่งผู้บริหารก็ต้องมีอำนาจมากกว่า เขาเกรงว่าหากโกหกแล้วโดนจับได้ขึ้นมาคงจะแย่หรืออาจถึงขั้นโดนเด้ง

"ขอบคุณที่ตอบผมตามความจริงนะครับ ไม่ทราบว่าคุณธนพัตทราบหรือเปล่าว่าองค์กรเรามีกระบวนการที่สามารถรีพอร์ทการทำงานพนักงานได้ด้วยนะครับ รีพอร์ทไปที่ฝ่ายบุคคลได้ทุกเมื่อ ได้ทุกตำแหน่ง"

"ทุกตำแหน่งเลยหรอครับ"

"ครับ คุณธนพัตจะรีพอร์ทผมยังได้เลยนะ ถ้าตรวจสอบว่าทำงานผิดพลาดจริงก็เข้าสู่กระบวนการของบริษัทได้เช่นกัน"

"อ่า ผมไม่ทราบเลยครับ"

"แย่ชะมัด แวดล้อมการทำงานแย่ๆ แบบนี้ทำเอาผมรู้สึกผิดต่อคุณเลย ใช่มั้ยเฮีย"

คนที่นั่งเงียบอยู่นานเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารแล้วปรายตามองไปยังคนสองคนซึ่งกำลังนั่งสนทนากันอยู่ภายในห้องทำงานของเขา

"จัดการสอบสวนตามกระบวนการของบริษัท แล้วก็ออกไปคุยกันนอกห้องฉันได้แล้ว"

"ห้องผมเพิ่งทาสีใหม่ เหม็นจะตาย"

 

 

แม้เป็นพี่น้องกันแต่คณินบุคลิกต่างจากพีระลิบลับทำเอาซุ้งขนลุกซู่เวลาเผลอสบเข้ากับตาคมดุคู่นั้น

เหมือนโดนไล่กลายๆ ธนพัตเลยกลับมาที่โต๊ะทำงาน ไม่วายโดนคนทั้งแผนกรุมถามเกี่ยวกับเรื่องที่เขาโดนเรียกตัวไปที่ห้องท่านประธาน จากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าเบื้องบนจะลงดาบหัวหน้ายังไงแต่ตัวเขาก็คงไม่พ้นโดนเขม่นแน่ๆ ชีวิตที่ยากอยู่แล้วกำลังจะยากขึ้นกว่าเดิม แค่คิดก็อยากวิ่งไปยื่นเอกสารลาออกให้รู้แล้วรู้รอดแต่อีกใจก็คิดว่าสมควรแล้วที่ต้องโดนซะบ้าง

 

 

พีระเดินมาใกล้โต๊ะทำงานของพี่ชายอย่างคณินแล้วยิงคำถามใส่ทันทีหลังจากพนักงานใหม่เดินออกไป

"..."

"อย่าให้รู้"

"ว่างงานนักหรือไง"

"เปล่า ไปละ รอดูเรื่องสนุกๆ ต่อจากนี้ดีกว่า"

"..." อีกคนยกยิ้มที่มุมปากให้คนเป็นน้องชายไปหนึ่งทีแทนคำตอบ

 

หลังจากทำกิจวัตรประจำวันช่วงเย็นเรียบร้อย ร่างเล็กที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานทั้งวันก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมาเปิดพร้อมซดเข้าไปหลายอึกจนสะใจพลางคิดงานเขียนในหัวไปด้วย คืนนี้เขาต้องส่งงานที่เขียนค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวานให้กับผู้ว่าจ้าง แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ติดขัดไปหมดเพราะในหัวมีแต่ใบหน้าของประธานบริษัทผุดขึ้นมาไม่หยุด

เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องที่โดนว่าในที่ประชุม แต่เป็นความคิดที่ตีกันในหัวว่าคนคนนี้เขารู้สึกคุ้นหน้าเอามากๆ ต่างหาก อาจจะเคยเจอผ่านข่าวธุรกิจอะไรเทือกนั้น

ซุ้งนั่งจมอยู่กับความคิดได้ไม่นานแล็ปท็อปตรงหน้าก็แจ้งเตือนอีเมลฉบับใหม่เข้ามา ดวงตากลมโตกวาดอ่านดูรายชื่อผู้ส่ง 'K-56-1' เขาแน่ใจว่าไม่เคยติดต่อกับรายชื่อนี้มาก่อนอย่างแน่นอน อาจจะเป็นลูกค้าคนใหม่

เนื้อหาไม่มีอะไรมากนอกจากการติดต่อเรื่องงานเขียนโป๊พร้อมแนบช่องทางการติดต่อที่สะดวกกว่าเอาไว้ ปกติซุ้งไม่ค่อยได้ติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางอื่นนอกจากอีเมลนัก แต่ในเมื่อลูกค้าต้องการก็ไม่ได้ติดอะไรเขาจึงหยิบมือถือขึ้นมาก่อนที่จะจัดการเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อพร้อมกับพิมพ์ทักทายแนะนำตัวและถามบรีฟเพิ่มเติมไปอีกเล็กน้อย

 

'K-56-1' เขาใช้ชื่ออีเมลของลูกค้าในการบันทึกชื่อ

 

หลังจากนั้นซุ้งก็ได้ทำการตอบกลับอีเมลอย่างสุภาพ แนบด้วยรายละเอียดการจ้างงานและตัวอย่างผลงานพร้อมเรทราคา ไม่นานก็มีเมล์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

เขาสนใจแนว Dirty talk ซึ่งเป็นเรทราคาระดับกลางๆ แต่เป็นแนวที่เขาถนัดที่สุด นับว่าได้งานถนัดเข้ามือ

เมื่อกวาดตาอ่านบรีฟเรื่อยลงมา คิ้วเรียวกลับต้องขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม ลูกค้าส่งเมลทางการราวกับจดหมายธุรกิจ

 

'Best Regards'

'K-56-1'

 

 

 

ภายในห้องทำงานปรากฏร่างสูงกำลังนั่งจ้องหน้าจอแสดงผลจากแล็ปท็อป มือแกร่งควงปากกาเล่นไปเรื่อยเพื่อรออีเมลตอบกลับจากอีกคน

บนโต๊ะทำงานมีแฟ้มประวัติพนักงานวางอยู่ เขากวาดสายตาอ่านคร่าวๆ

 

ชื่อเล่น ซุ้ง

ชื่อจริงคือ ธนพัต รักษาธรรม

อายุ 25 ปี

ประสบการณ์ในการทำงาน N/A

ตำแหน่ง Copywriter

เบอร์ติดต่อ xxx-xxx-xxxx

งานอดิเรก: N/A

 

ไม่บอกไปล่ะว่ารับเขียนโป๊เป็นงานอดิเรก

คณินไม่ใช่คนไม่แยกแยะ งานที่บริษัทก็ส่วนงานที่บริษัท ส่วนเรื่องส่วนตัวของพนักงานนั้นตราบใดที่ไม่ส่งผลต่อบริษัทเขาก็ไม่ก้าวก่าย หรือในความเป็นจริงคือประธานอย่างเขาไม่ได้มีเวลามานั่งสำรวจงานอดิเรกของพนักงานใต้ปกครองเป็นพันๆ คน

แต่สำหรับคนนี้เขาสนใจ

ไม่นานแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสนทนาในมือถือก็เด้งเข้ามา ร่างสูงรีบเปิดอ่านก่อนจะพบว่าคุณนักเขียนสอบถามเรื่องบรีฟงาน

 

'สวัสดีครับ'

'ผมติดต่อจากงานเขียนโป๊นะครับ'

'คุณพอจะมีคอนเซ็ปต์ชุดในใจมั้ยครับ หรือให้ผมจินตนาการได้เต็มที่'

 

ร่างสูงอ่านข้อความแล้วถึงกลับต้องกลั้นยิ้มที่มุมปากไว้ คอนเซ็ปต์ชุดงั้นเหรอ แบบนี้ก็คงจะได้มั้ง

 

"ผมอยากได้แบบชุดกระต่าย ติดโบน่ารักๆ" และไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมา

[ได้เลยครับ... แล้วโลเคชั่นอยากได้ที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ]

สถานที่งั้นเหรอ เขาครุ่นคิดเล็กน้อย

จะเป็นห้องทำงาน...

เอ้าดอร์...

ห้องน้ำ...

เขาอยากได้ทั้งหมดเลยเอาเป็นว่า...

"ห้องผม" เขาพิมพ์กลับไปแบบนั้น

[ห้องคุณ?] อีกฝ่ายดูท่าจะงงนิดหน่อย

"แต่ถ้าคุณนึกภาพห้องผมไม่ออก ก็มานั่งเขียนงานที่ห้องผมเลยก็ได้"

และแล้วคู่สนทนาก็หายไป คณินไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายชะงักบทสนทนา ก็ดูตัวเขาสิ ทำตัวเหมือนพวกโรคจิต เมื่อได้แกล้งจนพอใจเขาจึงพิมพ์ข้อความตอบกลับไปทันที

"ล้อเล่น สถานที่เอาเป็นห้องนอนละกัน"

[รับทราบครับ ผมจะส่งดราฟให้คุณดูอีกครั้งภายในสองวันนะครับ ขอบคุณที่ใช้บริการ]

ไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบตกลงกลับมาอย่างสุภาพ หากแต่เบื้องหลังนั้นกลับไม่อ่อนช้อยเหมือนภาษาที่พิมพ์ตอบ

 

ไอ้เหี้ยลูกค้า! กวนส้นตีนกูแล้ว!

อย่าให้เจอ พ่อจะเสยหน้าให้!

หงุดหงิดโว้ย นี่มันวันอะไรก็ไอ้ซุ้งกันวะ!

.

.

.

 

to be continued

 

เฮียแกขี้แกล้งนะ แต่กล้ามขาน้องก็ใหญ่พอกันอะ อยากให้เฮียเบาหน่อยเดี๋ยวเจอดี

NC จะมาแล้ว ไวไปมั้ยยย

ฝากคอมเม้นติชมด้วยนะคะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากๆ ค่ะ