14 ตอน ตอนที่ 13 การถ่ายทำครั้งสุดท้าย
โดย อัญมณีสีน้ำเงิน
ตอนที่ 13 การถ่ายทำครั้งสุดท้าย
การถ่ายทำในวันสุดท้ายมาถึง วันนี้ผมมีถ่ายทั้งหมดสามคิว ซึ่งผมก็ได้ถ่ายไปแล้วสองคิว เหลือคิวสุดท้ายที่กำลังจะถ่าย ซึ่งก็ถือเป็นซีนจบของหนังเรื่องนี้เลย
ซีนนี้เป็นซีนในห้องทำงานของท่านประธาน ที่บีมกลับมาที่บริษัทนี้ใหม่ แต่ไม่ใช่ในลุคของเด็กฝึกงาน แต่เป็นเลขาหนุ่ม แฟนของท่านประธาน แล้วทั้งคู่ก็บอกรักกันหวาน พร้อมกับมีเซ็กซ์กันอย่างร้อนแรง แถมในครั้งนี้ บีมจะเป็นคนขึ้นให้ท่านประธานด้วย
ในเรื่องของการขึ้นให้ ผมก็ได้มีลองทำกับพี่ปลื้มมาบ้างแล้ว ไม่ได้ทำในเชิงของการฝึกหรอก แต่พี่ปลื้มบอกว่าอยากเห็น เลยให้ผมลองทำ ดังนั้นผมก็น่าจะมีประสบการณ์ในการทำบ้าง มันก็คงไม่ได้ยากอะไร
“ไจ๋ปลื้ม พร้อมนะ”
“พร้อมครับ”
พี่โด้ถามเช็กความพร้อม หลังจากนั้นการถ่ายทำในซีนสุดท้ายก็เริ่มต้นขึ้น
ผมในบทของบีม เดินเข้ามาในห้องของท่านประธานด้วยลุคใหม่ เพราะปกติผมจะใส่แต่ชุดนักศึกษา แต่ตอนนี้ผมเรียนจบ และได้ทำงานเต็มตัวแล้ว
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา ท่านประธานของผมก็ตกใจนิดหน่อย เพราะนี่ก็เย็นแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามา แถมไม่ยอมเคาะประตูอีก แต่พอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร ก็ถึงกับกลืนคำตำหนิลงคอเลยทีเดียว
“ขยันจังเลยนะครับ เย็นป่านนี้แล้วยังไม่เลิกงานอีก”
ผมกล่าว แล้วเดินเข้าไปคลอเคลียกับท่านประธาน จากที่กำลังทำงานอยู่ ท่านประธานก็หันมาสนใจผม
เราสองคนจูบทักทายกัน จากนั้นก็พูดคุยกันต่าง ๆ นานา บทสนทนาออกไปในเชิงที่เหมือนจะเป็นการสรุปเรื่องทั้งหมด เพราะนี่ก็เป็นซีนสุดท้ายแล้ว
“ไม่คิดเลยนะครับ ว่าจู่ ๆ ผมจะได้มาเป็นแฟนท่านประธานแบบคุณ เป็นการฝึกงานที่คุ้มแฮะ ถึงจะแลกมากับการโดนคนเมาท์ซะเยอะก็เถอะ”
“ฉันก็ไม่คิดว่าไอ้เด็กซุ่มซ่ามที่เดินชนฉันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน จะได้มาเป็นแฟนฉันเหมือนกัน”
“ขอโทษที่ผมดันเป็นเด็กซุ่มซ่ามที่มีเสน่ห์จนคุณหลงรัก”
“ไม่ใช่ว่าเธอหลงรักฉันก่อนเหรอ”
“เอ๊ะ”
เราสองคนหยอกล้อกันตามบท คุยกันไปคุยกันมาก็นึกย้อนไปถึงคืนนั้น คืนที่ทำให้เรื่องของเราสองคนเริ่มต้นขึ้น แล้วท่านประธานของผมก็ชวนผมรำลึกความหลังในวันนั้น
พี่ปลื้มในบทท่านประธานดันตัวผมให้นอนราบไปกับโต๊ะ ก่อนจะเข้ามาประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผม เราจูบกันอย่างร้อนแรง ทันทีที่การจูบเริ่มต้นขึ้น ผมก็ถอดวิญญาณของบีมกับท่านประธานออก เหลือแค่ผมกับพี่ปลื้มเท่านั้น
“เธอชอบใช่ไหมในห้องทำงาน”
“คุณเอาอะไรมาพูด”
“ก็ทุกครั้งที่ทำให้นี้ เธอจะตอดฉันแรงกว่าปกติ”
“อ๊ะ”
พี่ปลื้มเลื่อนใบหน้าลงไปดูดยอดอกสีหวานของผม เขาเลียที่ส่วนหัวของมันซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเสียวจนดีดดิ้น ปากแดง ๆ ปล่อยเสียงครางออกมาเรื่อย ๆ ก่อนจะถูกปิดปากด้วยการโดนอุ้มลงไปนั่งที่พื้น แล้วโดนกดหัวลงหาส่วนล่างของท่านประธาน
ภาพที่ออกไปตอนนี้คือพี่ปลื้มกำลังกดหัวผมลงกับเป้า แล้วซี้ดปากเสียวเหมือนผมกำลังอมให้จริง ๆ แต่ในความจริงผมไม่ได้ต้องทำขนาดนั้น แต่ด้วยความเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็นึกซน เมื่อเห็นว่าตรงนี้มันเป็นใต้โต๊ะ กล้องไม่น่าจะจับเห็น ผมเลยแอบใช้ลิ้นเลียของพี่ปลื้มเบา ๆ
“ซี้ดด”
พี่ปลื้มมองหน้าผมแล้วซี้ดปาก ดวงตาคมเผลอแสดงอาการตกใจ จึงต้องทำเป็นเนียนด้วยการโยกหัวผมแรงขึ้น เห็นแบบนั้นผมเลยแกล้งเลียมันอีกครั้ง
ผมแกล้งพี่ปลื้มอยู่หลายที จนโดนพี่ปลื้มทำโทษด้วยการดึงตัวขึ้นไปจูบ แล้วกำลังจะดันผมลงที่โต๊ะ แต่ผมก็ยังมีสติ นึกขึ้นได้ว่ารอบนี้ผมต้องขึ้นให้ ผมจึงดันพี่ปลื้มให้นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วจึงตามขึ้นไปนั่งคร่อมด้านบน
“วันนี้ผมจะทำให้”
“ได้สิ แต่ถ้าไม่ถึงใจ ฉันจะจัดการเอง”
พูดจบผมก็ปลดเสื้อเชิ้ตของตนเองมาคาไว้ที่ข้อพับ เพราะต้องใช้มันบังส่วนล่างของตนเอง ตอนโยกคนดูจะได้เห็นเหมือนว่าเราโยกกันจริง ๆ ถึงเราจะไม่ได้ทำจริงก็ตาม
ผมเล่นตามบท เล้าโลมพี่ปลื้มสุดความสามารถ มันเป็นสิ่งที่ถ้าเป็นผมจริง ๆ คงจะไม่กล้าทำ แต่ถ้าถามว่าอยากทำไหม ก็คงตอบว่าอยาก เลยจะใช้โอกาสในการเป็นบีมลองทำดู
เราสองคนนัวเนียกันจนอารมณ์มันได้ ผมกำลังทำท่าว่าขึ้นให้พี่ปลื้ม แต่พี่ปลื้มก็พูดนอกบทเสริมขึ้นมาก่อน
“ตัวแสบ อื้ม พี่รักเรานะ” พี่ปลื้มกล่าว ผมเข้าใจว่าพี่ปลื้มกำลังเป็นท่านประธาน และบอกกับบีม แต่พอมาพูดในสถานการณ์แบบนี้ แล้วมองตาผมหวานซึ้งอย่างนี้ ผมก็อดจะเคลิ้มไม่ได้
“ผม อึก ก็รักพี่”
ผมเล่นสดไปตามสถานการณ์ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแค่เล่นตามสถานการณ์อย่างเดียว หรือแอบพูดเรื่องจริงไปด้วย แต่ในเมื่อมันมาขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องไปต่อให้สุด
หลังจากผมบอกรักกลับไป พี่ปลื้มก็ยิ้มแล้วดึงผมไปจูบอีกครั้ง ผมรู้สึกเลยว่าจูบครั้งนี้มันคือผมกับพี่ปลื้มล้วน ๆ มันไม่ใช่แค่จูบตามบท แต่ผมกำลังรู้สึกกับมันจริง ๆ
ผมกับพี่ปลื้มจูบกันอย่างดูดดื่มก่อนจะผละออก คราวนี้ก็ถึงตอนที่ผมจะต้องแสดงว่ากำลังขึ้นให้พี่ปลื้ม ใช่ ผมควรแสดง แต่พอถึงเวลาจริง ผมกลับตัดสินใจทำอะไรบ้า ๆ ด้วยการยกก้นขึ้น แล้วจับแก่นกายของพี่ปลื้มไว้ ก่อนจะนั่งทับลงจริง ๆ
“อ๊า”
“อื้ม”
แก่นกายของพี่ปลื้มเข้ามาในตัวผมแบบทีเดียวมิดด้าม ผมไม่รู้ว่าพี่ปลื้มตกใจแค่ไหนที่ผมขึ้นจริงแบบนี้ แต่เขาเก็บอาการได้ค่อนข้างดี พยายามไปต่อไม่ให้หลุดคาแรกเตอร์ ผมเองเมื่อใส่มันเข้าไปแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ ด้วยการทำให้มันเสร็จ และต้องทำไม่ให้เสีย
ผมเริ่มโยกเอวจากช้า ๆ มันลำบากกว่าที่ซ้อมมามาก ๆ เพราะตอนซ้อมมันไม่ได้เสียบจริง จะแสดงว่าควบเก่งแค่ไหนก็ได้ แต่ของจริงคือผมยังไม่เก่ง ตอนเริ่มผมจึงทำได้แค่ช้า ๆ ซึ่งพี่ปลื้มก็รู้ เขาจึงช่วยผมด้วยการประคองเอวผมไว้ แล้วเลียยอดอกกระตุ้นอารมณ์ผมไปด้วย
“อ๊ะ อ๊า มัน อื้อ”
“รัดแน่นจัง”
“มันเสียว”
“ถ้าเสียวขนาดนี้ก็ขย่มเลยสิ”
สิ้นสุดคำพูดของพี่ปลื้ม ผมก็เหมือนได้รับพลังมหาศาล ผมขย่มตัวขึ้นลงบนแก่นกายใหญ่โตของพี่ปลื้ม จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้คนอื่นจะรู้รึยังว่าเราทำกันจริง ๆ ผมรู้อย่างเดียวคือผมหยุดไม่ได้แล้ว
“พี่ อ๊ะ ผมเสียวมากเลย อื้อ มันใกล้แล้ว”
“งั้นก็ขย่มแรง ๆ เลย ขย่มพี่แรง ๆ”
คำพูดของพี่ปลื้มมันกระตุ้นอารมณ์เพิ่มอีกเป็นเท่าตัว ผมขย่มรัว ๆ ในโค้งสุดท้าย แถมยังตอดรัดแก่นกายของพี่ปลื้มซ้ำ ๆ จนในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของพี่ปลื้ม เช่นเดียวกับพี่ปลื้มที่ปลดปล่อยเข้ามาในตัวของผม
“อ๊า”
“อื้ม”
ผมทิ้งตัวหมดแรงบนตักพี่ปลื้ม ซึ่งตามบทแล้วเดี๋ยวเราจะคุยกันอีกนิดนึงแล้วก็จบ แต่พี่ปลื้มดันไม่รอคุย เขาเอื้อมมือไปหยิบทิชชูแล้วทำท่าเช็ดน้ำออก ซึ่งก็เช็ดจริง ๆ จากนั้นเขาก็จับผมยืนหันหน้าเข้าหาโต๊ะ แล้วกดผมลงกับโต๊ะ ก่อนจะเสียบแก่นกายเข้ามาใหม่ แบบเสียบจริง ๆ เสียบแบบลึกสุดใจ
“อ๊า พี่”
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ”
พี่ปลื้มกล่าว ก่อนจะเสียบกายเข้ามารัว ๆ แต่ระหว่างเสียบก็ไม่ลืมที่จะเอาเสื้อผมมาบัง ๆ ไว้ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันบังได้จริงไหม เพราะพี่ปลื้มขยับแรงเหลือเกิน แล้วของพี่ปลื้มมันก็ใหญ่มาก
พี่ปลื้มนอกบทไปไกล แต่ที่แปลกคือพี่โด้ดันไม่สั่งคัต เขายังปล่อยให้เราสองคนแสดงต่อไป ซึ่งการแสดงที่ว่าก็คือการทำกันแบบไม่ยั้ง
พี่ปลื้มเปลี่ยนท่า เขาจับขาผมยกขึ้นข้างนึง แล้วซอยเอวเข้ามาแบบลึกมาก ๆ ทำเอาผมแทบทรงตัวไม่อยู่ ต้องเกาะขอบโต๊ะแน่น ระหว่างที่กระแทกไป มือก็บีบก้นผม แล้วก็ฟาดลงมาเหมือนมันเขี้ยวมาก ๆ
“อ๊ะ อ๊า เบา”
“อื้ม เบาไม่ไหวหรอก ยั่วขนาดนี้”
พี่ปลื้มกล่าว ก่อนจะดันตัวเข้ามาแรง ๆ ให้รู้ว่าไม่เบาจริง ๆ นะ นาทีนี้ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเกาะโต๊ะแล้วร้องครางลั่น น้ำหูน้ำตาไหลเพราะความเสียว ตาเบิกกว้างจนแทบจะเหลือกอยู่แล้ว ส่วนเสียงครางยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันดังลั่นพอ ๆ กับเสียงกระแทกเลย
ผมกับพี่ปลื้มทำกันอยู่สักพักจนใกล้ถึงฝั่งฝัน พี่ปลื้มเร่งเอวในช่วงสุดท้าย ก่อนที่เราทั้งสองคนจะปลดปล่อยออกมา หลังจากเสร็จพี่ปลื้มก็จูบไปตามไหล่ของผม ก่อนจะเลื่อนมากระซิบข้างหูผมอีกครั้ง
“พี่รักเรานะ”
“อื้อ”
“ผ่าน ดีมาก อิมโพรไวส์ได้ดีมาก รอบสองที่เบิลเพิ่มมาโคตรดี บทบอกรักก็โคตรดี เรียกแทนว่าพี่ที่ดีไซน์ใหม่ก็โคตรดี แล้วเล่นโคตรสมจริง ดูเสียวจริงกันมาก ๆ ผ่านเลย เบสต์ซีนเลย ดีมาก ๆ ทุกคนต้องชอบ”
พี่โด้ชมไม่หยุด หน้าตาพี่แกดูปลื้มปริ่มมาก ๆ คงจะดีใจที่งานออกมาดี ส่วนทางผมกับพี่ปลื้มน่ะเหรอ ต้องรีบเช็ดน้ำที่เลอะออกให้หมด แต่จะเช็ดแบบโต้ง ๆ เลยก็ไม่ได้ ต้องทำเนียน ๆ กลัวคนอื่นจะรู้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเนียนจริงไหม
หลังจากถ่ายซีนสุดท้ายเสร็จ ก็เป็นอันว่างานของผมจบแล้ว ถ้าไม่โดนเรียกมาถ่ายซ่อมอะไรน่ะนะ
“เมื่อกี้ ทำไมเล่นจริงล่ะ”
ระหว่างที่ผมกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน พี่ปลื้มก็เดินเข้ามาหาผม เขาไม่อ้อมค้อม ถามถึงสิ่งที่ผมทำไปเมื่อกี้แบบตรง ๆ แล้วในเมื่อพี่ปลื้มถามตรง ๆ และครั้งนี้มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ผมก็จะบอกพี่ปลื้มตรง ๆ เหมือนกัน
“ไม่รู้สิครับ ก็แค่ ทำตามความรู้สึกมั้ง”
ผมบอกแบบนั้น ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้พี่ปลื้มยืนอึ้งอยู่คนเดียว ไม่นานพี่ปลื้มก็วิ่งตามผมออกมา แต่เขาก็ไม่เจอ เพราะผมแอบอยู่ วันนี้ผมไม่อยากกลับกับพี่ปลื้มแล้ว เพราะผมตั้งใจมาแล้วว่าหลังจากวันนี้มันจะจบ ซึ่งถ้ามันจะจบ ผมก็อยากให้มันจบตั้งแต่ตอนนี้เลย
ส่วนเรื่องที่ผ่านมา ผมจะเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีในชีวิต ว่าครั้งนึงผมเคยได้เป็นนายเอกหนัง แล้วได้เล่นคู่กับผู้กำกับที่เก่งมาก ๆ คนนึง คนที่สอนให้ผมได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง
โดยเฉพาะความรู้สึกรัก
---------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ
#ไหนว่าจะไม่เสียบ
Comments (0)