บทที่2

 

“เรื่องย้ายของ เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” เสียงหญิงสาวดังจากมือถือ ดึงสติของเอเดรียนกลับมาจากนอกหน้าต่าง

“…ครับ เรียบร้อยแล้ว” เขาตอบปัดๆ ก่อนหันหน้ากลับไปที่หน้าต่างอีกครั้ง คราวนี้ภาพจากบ้านหลังข้างๆ ปรากฏร่างหญิงคนหนึ่งกำลังเตรียมตัวออกไปทำงาน ผมสีแดงของเธอช่างคล้ายกับตัวเขาเหลือเกิน ใบหน้าสวยคมแบบชาวเอเชีย เธอเดินอย่างรีบเร่งไปที่รถของตน ท่าทางการเดินดูคล่องตัว ก่อนรถสีดำขลับจะแล่นออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว 

 

เอเดรียนเห็นเช่นนั้น จึงพูดขอตัวก่อนจะกดวางมือถือ เขาเดินลงมาจากบ้านพร้อมกล่องขนมในมือ มันอาจจะไม่อร่อยเท่าที่โจนาธานทำ แต่เขาก็หวังว่าอีกฝ่ายจะชอบมัน ชายหนุ่มผมแดงกดกริ่งเรียกหนุ่มเพื่อนบ้าน โจนาธานเปิดประตูออกมาพร้อมสีหน้าเหนื่อยใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เขาก็รีบยิ้มเป็นมิตรขึ้นมาทันที 

“เอ่อ ผมคงไม่ได้มารบกวนคุณใช่ไหม?” เอเดรียนถามขึ้น เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้นมาแน่ๆ 

“ไม่หรอกครับ เชิญเข้ามาก่อน” โจนาธานผายมือเชื้อเชิญ 

“ผมกำลังจะทานมื้อเช้า ถ้าไม่รังเกียจมาทานด้วยกันไหมครับ” เอเดรียนพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ กวาดสายตามองอาหาร

“คุณทำเองทั้งหมดเลยเหรอ? น่าทานมากเลย” อาหารตรงหน้าน่ารับประทานมากจริงๆ ถึงแม้จะเป็นแค่อาหารเช้าง่ายๆ ไข่ดาวที่สุกพอดี เบคอนดูกรอบน่าทาน ไหนจะขนมปังโฮมเมดนั่นอีก 

“ครับ ผมทำสุดฝีมือเลย แต่เสียดายที่หลินไม่ได้ทานมัน” ประโยคท้ายถูกเอ่ยอย่างแผ่วเบา 

โจนาธานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เอเดรียนคงจะยังไม่เคยเจอหลิน จึงพูดแนะนำถึงภรรยาของตนขึ้นมา 

“เอ่อ ผมหมายถึงภรรยาของผมน่ะ คุณคงคลาดกับเธอไปเมื่อครู่” 

“อ้อ น่าเสียดายจังนะครับ” เอเดรียนตอบเรียบๆ โจนาธานไม่ทันรับรู้ถึงน้ำเสียงนั่นจึงพูดต่อ 

“หลินมักจะเป็นแบบนี้เสมอเลย ช่วงเช้าที่เร่งรีบแบบนี้ทำให้เธอลืมมื้อเช้าบ่อยๆ” โจนาธานยิ้มเจื่อนรับคำพูดตัวเอง 

ก่อนที่เอเดรียนจะตอบกลับอะไร เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขัดขึ้นก่อน 

 

“อ๊ะ พี่นางฟ้านี่นา” อเล็กซ์ที่เดินเข้ามายังห้องครัวทักขึ้นอย่างสดใส เรียกชายสองคนให้หันไปมอง ก่อนจะมานั่งเก้าอี้ข้างเอเดรียน

“นางฟ้าเหรอ?” เอเดรียนมองหน้าเด็กหญิงอย่างงุนงง 

“ค่ะ เพราะพี่ชายเหมือนนางฟ้าไงคะ” อเล็กซ์พูดพลางโบกมือไปมาคล้ายรูปปีกนก

“อเล็กซ์ ไม่กวนพี่เขาแบบนั้นสิ” โจนาธานเอ่ยปราม ก่อนยิ้มแห้งๆ ให้ชายผมแดง 

“ขอโทษด้วยนะครับ” 

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” เอเดรียนตอบทันควันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บรรยากาศในห้องดีขึ้นทันควัน ทั้งสามคนนั่งทานมื้อเช้าร่วมกัน เอเดรียนคอยคุยหยอกล้อกับอเล็กซ์ จนคุณพ่อของเด็กหญิงต้องเอ็ดเบาๆ ให้ลูกสาวทานอาหารให้หมด 

“หลังทานข้าวเสร็จ หนูพาอลิสไปเล่นข้างหลังบ้านได้ไหมคะ? กับพี่เอเดรียนด้วย” อเล็กซ์ขอร้องคุณพ่อ เธอวางแผนการไว้หมดแล้ว เมื่อพี่เอเดรียนเจอกับอลิส ตุ๊กตาตัวโปรด พวกเราก็จะได้เล่นสนุกด้วยกันทั้งวัน 

พี่เขาจะต้องชอบอลิสมากแน่ๆ

“เอาสิ แต่สัญญากับพ่อก่อนนะ ว่าจะไม่ทำสวนดอกไม้แม่พังอีก” 

อเล็กซ์เกี่ยวก้อยกับโจนาธานเป็นการสัญญา 

 

“เสร็จแล้วค่ะ พี่เอเดรียนผมยาว หนูเลยถักเปียให้ด้วย สวยไหมคะ” เด็กหญิงพูดเจื้อยแจ้ว พลางมัดยางหลากสีให้กับผมสีแดงนุ่มมือ 

“ครับ ชอบมากเลย” เอเดรียนยิ้มขบขันให้กับดวงตาเป็นประกายของอเล็กซ์ 

“สุดท้าย หนูขอแนะนำให้พี่พบกับอลิส น้องสาวตัวน้อยของหนูเอง” อเล็กซ์ชูตุ๊กตากระต่ายสีขาวขึ้นมา 

“หืม น้องสาว?” เอเดรียนทักขึ้น เด็กหญิงพยักหน้าแล้วแนะนำต่อ

“อลิสเป็นน้องสาวของหนูค่ะ ตุ๊กตานี่เป็นตัวแทนของเธอ จริงๆ แล้วอลิสอยู่ในท้องคุณแม่ล่ะ” เอเดรียนชะงักไปเล็กน้อย แววตาพลันว่างเปล่าเมื่อมองไปที่ตุ๊กตากระต่าย 

“…เป็นตุ๊กตาที่น่ารักมากๆ เลย ถ้าเป็นอลิสตัวจริงก็คงจะน่ารักแบบนี้สินะ” เอเดรียนพยายามปั้นหน้ายิ้ม ถึงแม้ในอกเขาจะรู้สึกหน่วงและอยากเขวี้ยงตุ๊กตานี่ไปให้พ้นหน้าก็ตาม 

“เอ่อ อเล็กซ์ ผมเพิ่งนึกได้ว่าต้องออกไปทำธุระ” เอเดรียนพูดตัดบท เด็กหญิงใบหน้ามุ่ยด้วยความเสียดาย เธอนึกว่าจะมีเพื่อนเล่นไปทั้งวันเสียอีก 

“ขอโทษด้วยนะ แต่ผมคงต้องลาแล้วล่ะ” ชายผมแดงดึงยางมัดผมหลากสีออกจากเส้นผมแล้วมัดรวบเป็นหางม้าต่ำอย่างเดิม เขาเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน เห็นโจนาธานที่เพิ่งล้างจานเสร็จเดินมาหา 

“อ้าว จะกลับแล้วเหรอครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะ” 

เอเดรียนนึกบางอย่างได้ จึงขอร้องให้อีกฝ่ายไปกับตน

“คือพอดีว่าผมเพิ่งย้ายมา ยังไม่ค่อยรู้จักเส้นทางเท่าไหร่ แล้วของที่ต้องซื้อเข้าบ้านก็เยอะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ช่วยไปห้างสรรพสินค้ากับผมได้หรือเปล่า?” 

โจนาธานทำท่าคิดอยู่ชั่วครู่ พาให้เอเดรียนใจแป้ว แต่สุดท้ายโจนาธานก็ตอบตกลงพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร พร้อมนัดหมายเวลากับอีกคน

 

“ว่าแต่คุณโจนาธานทำงานอะไรอยู่เหรอครับ ถ้าให้ผมเดาคงจะเป็นพ่อครัวแน่เลย” เอเดรียนถามขึ้นขณะขับรถ 

จะว่าไป เขายังแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโจนาธานเท่าไหร่เลย ทั้งอาชีพ งานอดิเรก ของที่ชอบ ของที่เกลียด…

“…จริงๆ แล้วผมเพิ่งตกงานมาน่ะครับ” โจนาธานถอนหายใจ 

“ปัจจุบันก็ยังหางานไม่ได้ จริงๆ ผมเพิ่งจะไปสมัครงานที่ร้านอาหาร แต่ก็ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย” ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งอนาถตัวเอง อีกฝ่ายคงจะมองเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ หรือผู้ชายกระจอกๆ อยู่บ้านให้เมียเลี้ยง 

 

“ผมคิดว่ามันอยู่ที่เวลานะครับ ทั้งๆ ที่ผมเพิ่งเจอคุณได้ไม่นาน แต่ผมก็คิดว่าคุณน่ะทั้งบุคลิกดี รักครอบครัว ขยัน แถมยังทำอาหารอร่อยอีก ผมว่าอีกไม่นานคุณต้องมีการงานมั่นคงแน่นอน เชื่อผมสิ” เอเดรียนหันมาขยิบตาให้ 

ให้ตาย ทำไมคนๆ นี้ถึงมีเสน่ห์ขนาดนี้ล่ะเนี่ย 

“ฮะๆ ขอบคุณครับ ถ้าผมเป็นผู้หญิงสักคน คงหลงคุณไปแล้ว” โจนาธานกลั้วหัวเราะ จนอีกฝ่ายพึมพัมกลับมาเบาๆ

“แล้วทำไมถึงต้องเป็นผู้หญิงล่ะครับ?” โจนาธานหยุดหัวเราะทันที เขาหันไปมองหน้าเอเดรียนอย่างปิดความสงสัยไม่มิด

“อะไรนะครับ?” เขาถามเพื่อความแน่ใจ

“ถ้าคุณไม่ใช่ผู้หญิง คุณจะไม่หลงผมเลยเหรอครับ?” 

เอเดรียนยกมือข้างหนึ่งเสยผมขึ้นอย่างหัวเสียเล็กๆ มีความเว้าวอนอยู่ในดวงตา 

 

“ช่างเถอะครับ ลงรถกันดีกว่า” โจนาธานเพิ่งรู้สึกตัวว่าถึงที่หมายแล้ว เขาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งคู่เดินเลือกซื้อของด้วยกันอยู่นานจนครบ ก่อนเอเดรียนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีของให้คู่เดทของตัวเอง จึงชวนอีกฝ่ายให้เดินมาทางร้านเสื้อผ้าชาย 

 

“นี่ จริงๆ นะ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อของขอบคุณผมก็ได้” โจนาธานย้ำอีกครั้ง แต่ก็โดนส่ายหน้าปฏิเสธ 

“ไม่ได้หรอกครับ ผมชวนคุณออกมาข้างนอกตั้งนาน ต้องตอบแทนสักหน่อย” เอเดรียนพูดพลางเดินเลือกนาฬิกาข้อมือ

อืม ต้องเป็นเรือนที่ดูเรียบหรูกับสายหนังสีเข้มๆ 

ทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่เคาท์เตอร์นาฬิกาข้อมือยี่ห้อหนึ่ง มันไม่ใช่ยี่ห้อที่โจนาธานคุ้นตา แต่ดูจากการตกแต่งร้านแล้วคงไม่ใช่ของราคาถูกๆ แน่

“นี่เป็นแบรนด์ที่ผมชอบน่ะครับ อืม คุณลองใส่เส้นนี้ดูก่อนสิ มันเข้ากับแจ็คเก็ตคุณดีนะ” 

เอาล่ะ นี่คงไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ชายผมแดงชอบหรอก เพราะในร้านมีรูปของเอเดรียนแปะหราอยู่ด้วย เป็นโปสเตอร์สีซีเปีย เผยภาพเอเดรียนนั่งเท้าคาง มือข้างหนึ่งสวมนาฬิกาหนังดูเข้ากัน โจนาธานบรรยายหน้าผู้ชายไม่เก่งนัก แต่รูปอีกฝ่ายดูดีมากจริงๆ

“คุณเอเดรียน รูปนั่น?” เอเดรียนมองตามมือที่ชี้ไป แล้วทำหน้าเข้าใจ

“อ้อใช่ ผมเป็นนายแบบน่ะครับ คงจะลืมบอกกับคุณไป แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้นหรอก” เอเดรียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนโจนาธานถึงจะพยักหน้า แต่ก็ยังรู้สึกทึ่งกับอีกฝ่ายอยู่ดี 

 

ตอนนี้ทั้งคู่ซื้อของเสร็จเรียบร้อย แต่โจนาธานกำลังรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ระหว่างที่เดินออกมา พวกเขาบังเอิญเจอร้านขายดอกไม้ตั้งอยู่ โจนาธานเลือกซื้อดอกไม้ช่อโตกลับมาด้วย 

“ผมหวังว่าหลินคงจะชอบมันนะ” เขาเพิ่งนึกออกว่าช่วงนี้ตนเองกับภรรยาแทบไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลย ความสัมพันธ์ของพวกเขาตอนนี้เริ่มแย่ลง โจนาธานหวังว่าดอกไม้นี้และมื้อค่ำดีๆ อาจจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

 

โจนาธานยิ้มกับตัวเอง 

และไม่ได้ทันสังเกตสีหน้าของเพื่อนบ้านตนเองเลยแม้แต่น้อย