วันนี้พวกผมมีนัดฉลองกัน แต่ไม่นึกว่าพวกมันจะนัดกันมาแถวหน้ามหาวิทยาลัยที่พวกเราสอบได้ ผมไม่รู้ว่าพวกมันจะมากันไกลขนาดนี้ทำไมแต่พอเห็นแต่ละคนแต่งสวยเท่านั้นแหละก็พอจะดูออกทันที

"กูสวยหรือยังอิกร" ธนลภย์เอ่ยถามชวกรที่กำลังมุ่นคิ้วกับนมสดโอรีโอ้ที่ดูดไม่ขึ้นสักที

"เออสวย"

"ขนาดไม่ดูยังรู้เลยว่ากูสวย" ผมได้แต่ส่ายหน้าความหลงตัวเองของลภย์ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งข้างๆ อีกฝ่ายยกมือถือขึ้นไหว้ปะหลกๆ

"นิน ทำไรอ่ะ"

"แม่หมอบอกว่าวันนี้กูจะได้คู่" นัทธ์ธัญธนินเป็นคนที่เชื่อในเรื่องดวงมากแบบที่เขาเรียกกันว่าสายมู มูกันมาตั้งแต่รุ่นแม่ ก็ดูขนาดชื่อแม่ยังตั้งให้แปลว่าผูกพันกับความโชคดีและร่ำรวย ทั้งชื่อทั้งความหมายยาวฉิบหายเหมือนกัน

ผมหันไปมองหน้ากับนันท์ที่นั่งถัดไป เจ้าตัวยกยิ้มก่อนจะยกนิ้วให้เพื่อนสนิท

"ขอให้ได้ขอใหโดนเพื่อน"

"กรี๊ดดด! หล่อมาก!" จู่ๆไอ้ลภย์ก็กรี้ดเสียงดังเหมือนใครเหยียบหางมัน มันเขย่าแขนเจ้ปกที่นั่งอยู่ข้างๆจนอิเจ้ผมตัวโยกเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว

"อ่ะๆ กูจะตายเอาอิลภย์!" เจ้ทำตาดุใส่ทำเอาลภย์มันต้องยกมือไหว้ขอโทษยกใหญ่ เลี้ยงฉลองทั้งทีจะขาดเจ้ใหญ่ของวงได้ไง อีกอย่างที่นี่ก็ถิ่นเจ้ปกเขาด้วย

"เจ้ เขาหล่อมาก หนูตัวสั่นระริก"

"สั่นไม่ได้ค่ะอิหนู ของเจ้!"

"ห้ะ!"

พวกผมเบิกตาโตกันทั้งวง ก่อนจะหันพรึบไปมองผู้ชายตัวโตหน้าตาดีมากคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเจ้ปก เชี่ย… ผมพอจะรู้นะว่าเจ้มีแฟนแล้วแต่ไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้

"ปก ทำไมมากับเพื่อนไม่เห็นบอกพายเลยคะ โทรไปก็ไม่รับ เรานึกว่าปกโกรธอะไรกัน"

"อ้าว...เราปิดเสียงน่ะพาย แหะๆ" เจ้ปกยิ้มเจื่อน ก่อนจะกวักมือยิกๆเรียกแฟนตัวเองให้ไปยืนใกล้ๆจับมือมาวางคางลงไปออดอ้อน "ขอโทษค้าบ วงการปิดเสียงมันออกยากน่ะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราไปนั่งกับเพื่อนตรงนั้นนะ"

"อื้อ เดี๋ยวไว้เราโทรหานะ"

ผมมองแล้วก็นึกหมั่นไส้กับการอ้อนแฟนของเจ้ปก แต่ก็นึกยินดีไปกับเจ้ด้วย ได้ยินว่าใช้เวลาคุยๆกับพี่พระพายอยู่ตั้งนานกว่าจะตัดสินใจคบกัน ด้วยอยากมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาเล่นๆที่คบกันแล้วก็แปลว่าเขาทำให้เจ้ผมมั่นใจแล้ว

ผมเองก็อยากมีแบบเจ้บ้าง อยากมีโมเม้นต์โดนแฟนอ้อน

"มีอะไรเหรอสรณ์" นันท์เลิกคิ้วใส่ทำให้ผมได้สติหลุดจากความฝันที่ยังไม่ได้นอนแม่งก็ฝันเป็นตุเป็นตะ

"อ่า… เอ็นไก่ป่ะ มึงชอบ" ผมหยิบจานเอ็นไก่ไปวางตรงหน้านันท์ทำให้กรที่นั่งข้างผมฝั่งขวาพองลมแก้มใส่

"กูกำลังจะจิ้ม งือ"

"อ้าว เออๆเดี๋ยวกูเอาให้"

"ลูกงอแงแล้วอิสรณ์"

ผมส่ายหน้าเบาๆอดจะยิ้มเอ็นดูไอ้คนที่ทำตัวเหมือนน้องเล็กของกลุ่มไม่ได้ มันตัวเล็กสุดแต่จริงๆถ้านับเดือนก็แก่สุดเลยล่ะถ้าไม่นับเจ้ปก

"อ่ะๆอ้าปากนะคะลูก โตไวๆ" ผมหยิบเอ็นไก่ทอดมาป้อนกรก่อนจะลูบหัวมันไปสองสามที

"แข็ง ฟันน้ำนมหนูหักอ่ะแม่ขา"

"ฮ่าๆๆ อิดอก เดี๋ยวแม่ค้าก็เขวี้ยงตะหลิวมาทางนี้หรอก" ลภย์หัวเราะร่าเสียงหลงพาให้พวกผมหัวเราะตามไปกับเสียงของมัน "อุ๊ย อิสรณ์ ผู้คนนั้นเขามองมึงว่ะ"

"ห้ะ?" ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะหันไปมองตามสายตาลภย์ มันจะตาดีไปไหมเรื่องผู้เนี่ย

"เห้ย จะขายออกแล้วเหรอเนี่ย" เจ้ปกเออออไปกับลภย์ จงใจแกล้งผมชัดๆทั้งที่รู้ว่าผมน่ะชอบเพื่อนตัวเอง

"จริงๆแล้วเขาอาจจะมองกูก็ได้ แม่หมอคนนี้แม่นว่ะ"

"พอเลยนิน ดูยังไงก็มองสรณ์ค่ะ"

"นันท์อ่า ไม่เข้าข้างเราเลย" ผมมองคนตัวเล็กสองคนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า

"ไม่เอาอ่ะ"

"เห้ย ทำไมอ่ะสรณ์" นันท์ทำหน้าเสียดายแทนผมเสียเหลือเกิน

"เพื่อนพระพาย นิสัยดีอยู่นะดีกรีรองเดือนด้วยค่ะ" เจ้ปกพูดเสริม ไม่ช่วยแล้วยังยัดเยียดคนอื่นให้น้องอีก

"ไม่เอากูเอานะ"

"ใจเย็นดินันท์" นินรีบห้ามเพื่อน

"เขามาแล้วๆ" เสียงในกลุ่มเงียบไปทันทีที่ผู้ชายคนนั้นมาถึง แหม ดูไม่รู้เลยนะ ไม่เนียนกันสักคน

"เธอ เราชื่อสิบทิศนะเป็นเพื่อนของพระพาย"

"......" มางี้กูว่าต้องสืบมาคร่าวๆแล้วแหละ ผมนิ่งเงียบไม่ได้ตอบเพียงแค่พยักหน้า สีหน้าติดจะรำคาญด้วยซ้ำ

"เธอชื่ออะไรเหรอคะ" ก็น่าจะรู้แล้วมั้ง ผมจิ๊ปากอย่าางหงุดหงิด

"มีอะไรก็พูดมาตรงๆ" จะปฏิเสธไปเลยเดี๋ยวก็หาว่าหลงตัวเองอีก

"เราเห็นเธอน่ารักดีเลยอยากคุยด้วยน่ะ"

น่ารัก? ขนลุกทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้เลยแฮะ อย่างผมเนี่ยไม่น่าจะเรียกว่าน่ารักเลยนะ แต่ก็...ความชอบของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันจะไปว่าก็ไม่ได้

".....ไม่ชอบคุยกับคนไม่รู้จัก"

"เธอขา ถ้าไม่คุยกัน.."

"ไม่ชอบคนพูดคะขา"

"แต่เราชอบนะ" จู่ๆนันท์ก็โพลงขึ้นมาทำให้ผมหันขวับไปมองก็เห็นอีกฝ่ายเขินแก้มแดง

ลืมได้ไงว่าไอ้หมอนี่ตรงเสป็กของนันท์

"เหรอคะ งั้นเราคุยกับเธอก็ได้"

"เอามือถือมา" ผมรีบเอ่ยขัด ก็ใครจะยอมให้มันมาจีบนันท์วะ ผมเฝ้าทะนุถนอมของผมมาตั้งนาน

"...คะ?"

"จะเอาไหม ให้ได้แค่ไลน์นะ ห้ามคอล" ผมกระดิกมือยิกๆก่อนจะรับมือถือมากดแอดไลน์ตัวเองไป

"ไว้เราจะไลน์หานะคะ" ผมพยักหน้าอย่างขอไปทีอีกฝ่ายถึงยอมเดินจากไป

"แหมอิสรณ์ มีหวงด้วย" เจ้ปกเอ่ยแซวผม ไอ้พวกที่เหลือก็ส่งสายตาแซวโดยไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ผมหวงน่ะไม่ใช่ไอ้เพื่อนพี่พระพายนั่นแต่เป็นศาตนันท์เพื่อนพวกมันต่างหาก

"รำคาญว่ะ นันท์ มึงก็อย่าไปอ่อยใครมั่วซั่วดิ๊"

"ก็มึงเยอะอ่า ทำเป็นไม่สนใจเขาอยู่ได้กูก็นึกว่าไม่ชอบก็เลย… มึงก็รู้ว่าไทป์กูอ่ะ"

"ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี" เออ กูกันซีน แต่มันก็ไม่ผิดไหมที่ผมจะหวง เอ้ย! ห่วงเพื่อนจะเจอคนไม่ดีอ่ะ ผมจะไม่ขวางหรอกถ้าคนๆนั้นมันชอบนันท์แล้วนันท์ก็ชอบมันจริงๆ

 

"หวงไว้กินเองก็บอก ไม่ยักรู้ว่ามึงชอบแนวนี้ด้วย"

"ไม่ได้...อ่า ก็คุยๆก็ได้อยู่" ได้กับผีอ่ะดิ แล้วดูมันนั่งมองหน้ากู ขนจะลุกหัวจะปวด อิเจ้ก็มีหน้ามายิ้ม

"อยากจะแหม แหมๆๆๆ" นี่ก็ขยันชง

"ลภย์ มีผู้มองมึงนู่น"

"ไหน!" ลภย์รีบหันขวับก่อนจะต้องเบ้หน้าออกมาเมื่อพบว่าผู้ที่ว่าคือภิญญาสิปัณฑ์ที่ควงแขนแฟนหนุ่มหล่อมาด้วย "รำคาญ!"

"มาไม่รอกันเลย"

"น่าตบปากนะคะ คนเรา"

"เออ ติดหลัวแล้วยังมีหน้ามาโทษเพื่อน"

"จริง!"

คนโดนเพื่อนแซวแรงยิ้มขำ ก่อนจะนั่งลงที่ที่เหลือข้างๆเจ้ปก

"เธอ งั้นครามไปนั่งกับเพื่อนนะ"

"อื้มๆ ไปดีมาดีนะ"

"อิบ้า หลัวมึงไปแค่นี้ค่ะ ไม่ได้ลาไปทหารเนาะ"

"อิลภย์!"

ปัณดุใส่เพื่อนไปทีก่อนจะหันมาโบกมือให้ฟ้าครามซึ่งคนตัวโตก็ยิ้มขำ บีบแก้มนุ่มไปทีก่อนจะเดินไปยังกลุ่มของพี่พระพาย

"กลุ่มนั้นทำไมมีแต่คนหล่อๆอ่ะ เจ้ปก มีเหลือให้หนูไหม"

"ลภย์ มึงใจเย็นก่อน ไปหิวมาจากไหนลูก!"

"ก็แหม…น่าหิวอยู่ เนอะอิแฝดนรก"

"ช่าย!" แฝดนรกที่ว่าก็คือนินกับนันท์

ไอ้ตัวดีของผมกัดหลอดยิกๆ ส่วนนันท์ก็ยกมือไหว้อะไรของมันก็ไม่รู้

"ไหว้ไรอ่ะนิน แม่องค์ไหนของมึงอีก"

"นี่มึง บทสวดเรียกผัว"

"โอ๊ยๆ กูเอาด้วยๆ" เออ เอากันเข้าไป ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ

เพื่อนๆผมก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ที่ไม่มีใครเอาก็เพราะเป็นผีบ้ากันแบบนี้ไง

"เจ้ก็เอากับเขาด้วยเหรอ"

"เผื่อเลือกค่ะ"

"ฟ้องพี่พายดีไหม"

"อิสรณ์!" เจ้ปกมองผมนิ่ง ดวงตารีเฉี่ยวค่อยๆหรี่ลง "มึงฟ้องกูก็ฟ้องเป็นค่า คนละหมัดไหมล่ะ"

"หนูรักเจ้นะ" ผมยิ้มหวานจนตาหยี ยกมือไหว้ขอโทษด้วยรู้ดีว่าเรื่องที่อีกฝ่ายจะฟ้องคือเรื่องอะไร

ก็เรื่องที่ผมแอบชอบไอ้ตัวเล็กข้างๆนี่ไง

"ขนลุก!"

"อิสรณ์มีความลับอะไรด้วยเหรอเจ้ปก" ไอ้ลภย์ถามขึ้นด้วยแววตาอยากรู้เต็มที ผมเลยรีบหันไปหาตัวช่วยอย่างกร

“กร ได้ยินว่าลภย์มันจีบน้องมึงอยู่ป่ะ น้องอะไรนะ”

“น้องจา” จารุกรเป็นน้องที่รักยิ่งของชวกร “อะไรนะ มึงจีบน้องกูเหรอลภย์”

คนที่ยิ้มหวานตอนบอกชื่อน้องเมื่อกี้ดูจะพึ่งรู้ตัวถึงได้ถามออกมาเสียงเข้ม

“บะ บ้า! สรณ์มันล้อเล่นหรอก ใช่ไหมเพื่อนรัก~” กรหันมามองหน้าผมด้วยตาแดงๆจนผมอดรู้สึกผิดไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่ามันหวงน้องมันขนาดไหนแต่ก็เผลลืมตัวเอามาแกล้งไอ้ลภย์จนได้

“อะ เอ่อ กูล้อเล่น ไม่โกรธนะ”

“ฮือ กูอยากให้น้องได้คนดีๆอ่า”

“อ้าว! อีกร!”

“ฮ่าๆๆๆ” ทั้งกลุ่มพากันหัวเราะร่า

 

 

 

อีกกลุ่มที่นั่งใกล้ๆ กันต่างพากันมองไปยังกลุ่มคนน่ารัก ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ต้องบอกเลยว่าทั้งแปดคนนั้นต่างมีสเน่ห์ในตัวเองกันทั้งนั้น ยิ่งมาอยู่รวมกันก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงมวลของแรงดึงดูดอันมหาศาล

“มึงเห็นตอนน้องยิ้มป่ะ ยิ้มตาหยีโคตรน่ารัก” สิบทิศยกมือป้องปากอย่างเก็บอาการไม่อยู่ จนเพื่อนต้องพากันส่ายหน้าเอือมระอา

“ไม่ใช่ว่าน้องเขาเป็นแฟนกับคนข้างๆ เหรอวะ” ติวเตอร์เลิกคิ้วใส่เพื่อนอย่างสงสัย คนที่ชอบทำหน้างอแงใส่แล้วโดนคนที่โตกว่าเอ็นดูเหมือนลูกขนาดนั้นไม่ใช่แฟนกันเหรอ

“ก็ไอ้พายบอกกูว่าโสดทั้งกลุ่ม”

“เดี๋ยวๆ น้องปัณแฟนกูครับ”

“แหม พึ่งคบนี่เห่อจังนะเพื่อน เขารู้กันหมดแล้วครับพามาเปิดตัวขนาดนี้” เจแปนเอ่ยแซวเพื่อน

“ยังไม่ได้เปิดตัวอะไรเลย” ฟ้าครามเกาหลังหูเขินๆ น้องปัณแฟนเขาน่ารัก มันก็อดไม่ได้ที่จะเห่อนี่

“มีแฟนไม่คิดจะบอกเพื่อนเลย”

“กูไม่อยากให้พวกมึงมายุ่งกับน้องไง”

“หวงซะด้วย~ แต่อย่างว่า น้องปัณน่ารัก”

“หยุด ห้ามชม” คนขี้เขินยกมือห้ามเพื่อน จนโดนเพื่อนสบถด่าแกมขำ

“สัด ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้อ… ทีนี้ก็เหลือแต่กูกับติวเตอร์แล้วสินะ เราต้องรีบหาแล้วล่ะเต้อ เดี๋ยวมีเมียไม่ทันใช้”

“ไอ้เวร”

“ฮ่าๆๆๆ”

“รูปโปรไฟล์น้องมันแปลกๆ ว่ะกูว่า…” สิบทิศที่เงียบไปนานเพราะนั่งส่องไลน์ของคนที่ตัวเองพึ่งได้ไลน์มาสดๆ ร้อนๆ ขมวดคิ้วกับภาพโปรไฟล์ที่เป็นรูปถ่ายคู่กับใครบางคน เพียงแต่อีกคนในรูปกลับเห็นแค่ครึ่งหน้า

“เออ ถ้าเห็นเต็มหน้ากูคงนึกว่าคนข้างๆ เป็นแฟน”

“แต่บางคนก็มีนะที่ถ่ายติดแฟนนิดๆ แค่พอให้รู้ว่ามีแฟนอ่ะ”

“ไหนกูดูดิ๊ …นี่มันน้องคนที่นั่งข้างๆ กันไม่ใช่เหรอ เขาเป็นเพื่อนกันจะถ่ายรูปด้วยกันก็ไม่เห็นแปลกป่ะ”

สิบทิศได้ยินพระพายว่าอย่างนั้นก็ถอนหายใจโล่ง บวกกับเมื่อกี้น้องตัวเล็กนั่นก็ดูเหมือนจะสนใจเขาด้วย เพราะงั้นคงไม่ใช่แฟนกันหรอก

“เออ แต่ถ้าเป็นน้องคนน่ารักนั่นเขาก็เป็นเพื่อนกันนี่”

“เออ พวกมึงอ่ะทำกูใจหายหมด” สิบทิศส่ายหน้าหน่ายๆ ก่อนจะหันมากดสติ๊กเกอร์ทักหาคนน่ารัก แต่ทว่ากลับดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้สนใจแชทของเขา แค่เปิดมาดูแล้วก็เก็บมือถือกลับเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ไม่สนใจกันอย่างเห็นได้ชัดจนน่าน้อยใจ

“โหดจิง มึงเจอคนจริงแล้วไอ้สิบ”

“แบบนี้ก็ท้าทายดีเหมือนกัน”

 

 

 



ชื่อและความหมายของนายเอกทั้ง7คนของเรานะคะ หยอกๆฮ่าๆๆ

ขันธ์ธิปก - ผู้เป็นใหญ่เหนือกรมกอง

นฤสรณ์ - เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย

ศาตนันท์-มีความสุขเพลิดเพลิน

ชวกร-ผู้มีเชาว์

ธนลภย์-ได้ทรัพย์

ภิญญาสิปัณฑ์ - รอบรู้และฉลาดยิ่ง

นัทธ์ธัญธนิน - ผูกพันกับความโชคดีและร่ำรวย

นิสัยก็จะเห็นว่าตามความหมายของชื่อนะคะ ตั้งใจหาชื่อแปลกๆมาก นี่ชอบการเขียนนิยายอย่างหนึ่งคือการได้ตั้งชื่อลูก 

ฝันดีนะคะ