2 ตอน 1
โดย มารีญาเม
กริ้ง
เสียงกระดิ่งแขวนหน้าประตูดังขึ้นบอกว่ามีลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน เจ้าของร้านแย้มยิ้ม มองหญิงสาวผมหยักเดินเข้ามา
สาวผมหยักศกที่ว่า คือ ฉันเอง
“น้องญู รับอะไรดีคะ?”
พี่ลูกหยีถาม พี่ลูกหยีเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ [ไก่กา] ..ชื่อร้านชื่ออย่างงี้จริงๆ นะ เวลาพวกนักศึกษาจะไปคาเฟ่ก็ชอบบอก ‘ไปกินไก่กาๆ’ พี่ลูกหยีบอกว่าตั้งชื่อร้านแบบนี้จำง่ายดี ติดหูติดปากลูกค้า
คาเฟ่ไก่กาตกแต่งร้านแบบสไตล์วินเทจ ตัวร้านทำจากปูนและไม้ทาสีขาวทั้งหลัง เฟอร์นิเจอร์ประดับร้านใช้โทนสีพาสเทล เห็นแล้วสบายตา ฉันเดินไปที่โต๊ะไม้สีเขียวพาสเทลที่นั่งประจำ โต๊ะที่อยู่ใกล้กับตู้หนังสือมากที่สุด
“เอาเหมือนเดิมค่ะ พี่หยี”
เหมือนเดิมของฉันคือ กาแฟคาปูชิโน่กับเอแคลร์
ฉันหยิบสมุด Sketch book ขึ้นมา เป็นสมุดสำหรับวาดรูปเล่นและมีกระดาษสำหรับลงสีน้ำ หน้าปกเป็นหนังเทียมสีดำมี texture หยาบๆ ฉันแปะพวกสติกเกอร์น่ารักจุกจิกลงไป เพิ่มความน่ารักน่าจับให้กับมัน
หยิบอุปกรณ์สีน้ำขนาดพกพาออกมา แล้วก็พู่กันแทงค์ ฉันสั่งซื้อจากเว็บขายอุปกรณ์ศิลปะออนไลน์
ใช่แล้วค่ะ งานอดิเรกของฉัน คือ นั่งจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมวาดรูปสีน้ำประกอบ ~
มันเป็นเสมือนสมุดไดอารี่ ..ทำเอง อ่านเอง ฟินเอง
พี่ลูกหยีเอากาแฟกับเอแคลร์มาเสิร์ฟบนโต๊ะ ฉันจัดวางคอมโพสแล้วก็กางสมุดออกมา ใช้ดินสอร่างเป็นรูปแก้วกาแฟกับเอแคลร์ จากนั้นก็ใช้พู่กันจิ้มสี
ระหว่างระบายสีน้ำ ฉันก็ใช้นิ้วแกะปากตัวเองอย่างเผลอไผล ปลายลิ้นลิ้มรสเค็มของเลือด..
“?”
หือ
จู่ๆ รู้สึกถึงสายตาแรงกล้าที่มองมาจากข้างหลัง
ฉันเอี่ยวตัวหันไปมอง พบชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในมุมอับของร้าน ..เมื่อตอนเดินเข้ามาไม่ทันได้สังเกตเห็น
เขาสวมเสื้อยืดกางเกงยีน ใส่หูฟัง มีผิวที่ออกไปทางขาวเหลือง มีสีผมสีชา ดวงตาสีเขียวขุ่น ทรงผมของเขาเหมือนกับดาราฮอลลีวูด สมัยลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ้ยังวัยรุ่น คือ หน้าม้าแสกข้าง ทรงผมกับโครงหน้าของเขาเหมือนตัวละครในเกมที่ฉันเคยเล่น ตัวละครนั้นชื่อ ‘สตีฟ’ ..ดูมีความเนิร์ดผสมกับผสมกับความหม่นอย่างบอกไม่ถูก
โดยรวมก็คือ หน้าตาดี..
ไม่ใช่หน้าตาแบบฉบับที่สาวกรี๊ดตั้งแต่แรกเห็น ..ถ้าอยู่ในเรื่อง F4 ..ก็คงไม่ได้อยู่ในกลุ่ม F4 จัดอยู่ในโหมดคนหน้าตาดี แต่ถ้าไม่สังเกตเห็นหรือเพ่งมองชัดๆ ก็จะผ่านแล้วผ่านเลยไป..
ดวงตาของเขามองฉันอยู่.. มองเหมือนเพ่งสมาธิ.. ใช้สมาธิอย่างหนัก
ฉันรีบหันกลับ มือแตะแก้วกาแฟ ดูดกาแฟไปอึกหนึ่ง
..มองอะไรวะ?
Comments (0)