เหตุเพราะข้ามิใช่สตรีหรือ

ข้านั้นคือบุรุษผู้งดงาม

ประโยคนี้ท่านกล่าวอย่างง่ายดาย

เป็นเพียงแค่ลมปากใช่หรือไม่

หรือว่าข้าเป็นลูกของเซ่อจี้

ท่านจึงตีตัวออกห่างไปจากข้า

สุดท้ายท่านไม่กล่าวคำอำลา

คำนับฟ้าคำนับดินหญิงอีกคน

ตัวของอ้ายลอยละล่องในแม่น้ำเถียนผมยาวพลิ้วไหวไปกับน้ำหน้าตาสะสวยแต่เริ่มซีดเซียวการปลิดชีพตัวเองในครั้งนี้เขาหวังว่าชายผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นจะต้องเสียใจทุกข์ระทมเหมือนเขาในตอนนี้ แต่คำถามที่อยู่ในใจอ้ายก็ยังคงไม่คลี่คลาย เหตุอันใดทำไมท่านผู้นั้นถึงไปอภิเษกกับหญิงอื่นโดยไม่บอกไม่กล่าวเขาสักคำจนเขาต้องมานางยินเหล่านางโลมพูดคุยกันเรื่องการอภิเษกสมรสขององค์ฮุ่ยชายเฟยหลงบุตรชายคนโตของฮ่องเต้ฮุ่ยหมิ่นเซี่ยผู้ปกครองเมืองที่มีสิงโตเป็นสัญลักษณ์นั้นก็คือเมืองเลี่ยงเซี่ย

ซึ่งเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าบุตรชายที่เกิดมาเป็นคนแรกของฮ่องเต้ต้องมีตำแหน่งถึงไท่จื่อผนวกกับอายุขององค์ชายเฟยหลงยี่สิบพรรณษาเหมาะแก่การอภิเษกสมรสโดยมีพระราชธิดาคนโตแห่งของเมืองหมิงมู่ที่จะมีตำแหน่งไท่จื่อเฟยของไท่จื่อองค์ชายเฟยหลงนางมีนามว่าเจียวเหม่อยคนต่างเล่าลือว่างดงามสมกับเป็นลูกสาวของฮ่องเต้ผู้ปกครองเมืองหมิงมู่

อ้ายนางได้ยินเหล่านางโลมคุยกันอย่างสนุกสนานภายในห้องเก็บของเครื่องครัวหัวใจอ้ายของเขาแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เท้าอันเปลือยเปล่าเดินตรงไปยันแม่น้ำเถียนเป็นที่ที่เขาและเฟยหลงเจอกัยครั้งแรกตอนอ้ายอายุสิบห้ายังคงไร้เดียงสาแต่ร่าเริงสดใสจนทำให้น้ำแข็งที่อยู่ในใจเฟยหลงต้องละลายไปกับสายรุ้งของอ้ายที่สาดเข้ามา

แต่พอเฟยหลงอายุสี่สิบพรรณษาเขาก็มาหาอ้ายน้อยลง...น้อยลง...น้องลง...จนน่าใจหายเขาและอ้ายไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว จนมาได้ยินข่าว...ที่อ้ายก็ไม่อยากจะเชื่อ...แต่ก็ต้องยอมรับความจริง…

การข่มขืนเป็นเรื่องปกติหรือ

.

กฎหมายก็ล้าหลังเหมือนประเทศ

.

ยุคเก่าหรือยุคใหม่ก็ไม่ต่าง

.

การข่มขืนจึงเป็นเพียงอุทาหรณ์

.

แค่มีเงินก็คลี่คลายได้ทุกสิ่ง

.

โลกเป็นแบบนี้เราควรอยู่กันอย่างไร

 

ลู่หยุ่นร์สวมรองเท้าแตะราคาถูกยืนมองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวบนสะพานแม่น้ำหลวงสายหนึ่งที่เขาไม่ทราบชื่อ มือเริ่มเกี่ยวราวกั้นสะพานบรรยากาศบนสะพานนี้ช่างเย็นอุรา

ลู่หยุ่นร์เริ่มตัดพ้อเพราะไม่มีใครช่วยเขาได้เลยแม้แต่คนที่เขาคิดว่าจะช่วยเขาได้ก็ดูเหมือนจะทิ้งเขาไว้กลางทางแล้ว แจ้งความไปลุงก็คงเอาเงินมาปิดปากแถมเขาก็เป็นคนธรรมดาที่โดนกระทำไม่มีนักข่าวมาตีข่าวของเขาก็ไม่มีคนมาสนใจหรอกและถึงจะออกข่าวก็จะเป็นกระแสสักครู่หนึ่ง...แล้วกระแสก็ค่อยๆ จางหายไป…

ลู่หยุ่นร์จิตใจช่างเศร้าหมองไม่มีใครให้พึ่งนอกจากตัวเขาเองแต่ตัวเขาในตอนนี้นั้นอ่อนแอเหลือเกินอ่อนแอจนเขาอยากปลิดชีวิตตัวเอง...ความฝันเขาเองก็ยังหาไม่เจอเพราะเขาดูเหมือนเรียนได้เกรดไปวันๆ เขาเองรู้สึกผิดที่ตัวเขาเองไม่มีความฝันแต่ให้ทำยังไงได้ในเมื่อไม่มีใครชี้แนะนำทาง

เขาร้องไห้สอึกสอื้นจนหน้าแดงน้ำตาก็ไหลติดเป็นคราบแก้มเหมือนเหมือกหอยทากติดใบไม้

เสียงรถข้างหลังเขาก็สันจรไปมาไม่หยุดหย่อนแต่ก็ไม่มีคันไหนมาชะลอมามองดูเขาเลยผู้คนที่ผ่านไปมาก็มัวแต่ก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ไปมา

ตาสีดำคลับมองบนผืนน้ำที่มีแสงพระจันทร์กระทบกับผิวน้ำเขากลืนน้ำลายแล้วถึงน้ำตาหยดสุดท้ายให้กับพื้นปูนสะพานแม่น้ำแถบนี้

ลู่หยุ่นร์ไม่ลังเลอีกต่อไปขาเหยียบเหล็กที่กั้นสะพานแล้วกระโดดไปยันแม่น้ำที่อยู่ห่างจากสะพานหลายเมตร

ตู้ม!

เย็นจัง…

ถึงแม้ในน้ำลึกนี้จะมีมวลมากเหมือนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้มากแต่กับลู่หยุ่นร์เขากลับรู้สึกเหมือนได้ปล่อยวางและเป็นอิสระ

เขาเริ่มหายใจไม่ออกเพราะน้ำเข้ามาท่วมปอดจนเริ่มหายใจไม่ได้ บรรยากาศที่เขามองเห็นได้ในตอนนี้คือแสงนวลจากดวงจันทร์ที่ริบหรี่เหลือเกิน

ในขณะที่ลู่หยุ่นร์ค่อยๆ จมลึกเขาก็รู้สึกเหมือนมีคนผ่านตัวของเขาไปอย่างดวงตาที่ใกล้จะดับวูบมองเห็นบุคคลหนึ่งผมยาวดำสลวยไม่แน่ชัดว่าหญิงหรือชายแต่ที่แน่ๆ หน้าตาของเขาสวยยิ่งกว่าดาราในทีวีหลายเท่าถึงแม้หน้าจะซีดขาวไร้สีที่ริมฝีปากก็ตาม

หลังจากนั้นความมืดสนิดก็คลืบคลานมาหาตัวลู่หยุ่นร์ก่อนสิ้นลมหายใจ...

 

TBC

rewrite(1) 12/02/2022