บรรยากาศในกองวุ่นวายอย่างทุกวันไม่มีผิด เป็นปกติที่กองถ่ายซีรีส์เรื่องนี้จะมีคนวุ่นวายตลอดเวลา เนื่องจากทีมงานจำนวนมากที่ไว้สำหรับจัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายทำซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่อง ‘วังวนรัก วังวนแค้น’ ยิ่งต้องใช้คนจำนวนมากเป็นพิเศษเพราะการถ่ายทำฉากใหญ่แทบทุกฉาก เปลี่ยนฉากเก่งประหนึ่งเป็นพันเป็นหมื่นองก์ตลอดทั้งเรื่อง

         และไม่น้อยไปกว่ากันเลยคือนักแสดงของเรื่อง บทซีรีส์ที่มีตัวละครเป็นดาราดังเบอร์ต้นของช่องรวมกันอยู่ในเรื่องเดียว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้จัดเส้นใหญ่ขนาดไหน เป็นกองถ่ายในฝันของใครก็ตามที่ใฝ่ฝันอยากจะเรียนรู้งานสุดๆ ไปเลย

         ตั้งแต่อิ๋งเดินเข้ามาในกอง สายตาของเธอแทบจะไม่โฟกัสในส่วนไหนเลย เพราะมันทั้งน่าสนใจและน่าตื่นเต้นไปหมด เธอตื่นตากับการเดินทางเข้ากรุงเทพในรอบห้าปี แล้วยังต้องมาตื่นเต้นกับขนาดกองถ่ายที่อลังการเหลือเกิน จนตัวของเธอหดเล็กเหลือเท่าช้อนชาเลยด้วยซ้ำไป

         ตอนเดินทางมาเธอก็โฟกัสกับสิ่งที่สนใจอยู่สิ่งเดียว คือเรื่องงานอยู่หรอก แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันล่อตาล่อใจชวนตื่นเต้นจนแทบลืมไปเลยว่าเธอมาที่นี่ทำไม

         “น้อง น้องครับ”

         อิ๋งหันขวับไปมองตามเสียงเรียกทันที แม้ว่าคำพูดจะไม่ได้ระบุว่าน้องคนไหน แต่เธอเพิ่งจะเข้ามาในกองถ่าย และคิดว่ามีแค่เธอคนเดียวมั้ง ที่คนในกองส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักชื่อ

         ซึ่งเธอก็คาดการณ์ถูกด้วย

         “เอ็กตร้าคุณลิต้าใช่ป่าวครับน้อง”

         “ค่ะพี่ สวัสดีค่ะ”

         อิ๋งเอ่ยตอบรับทันทีพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง ยกมือไหว้ปลกๆ ทันทีอย่างนอบน้อม

         เธอเดินทางมาไกลก็เพื่องานนี้ ไม่เพียงแค่เธอจะได้แค่ทำงานกับซีรีส์เรื่องใหญ่ หรือแม้แต่ทำงานกับช่องที่มีชื่อเสียงหรอก แต่เธอยังได้ทำงานเป็นสแตนด์อินให้กับลิต้า นางเอกของเรื่องอีกด้วย

         ตอนที่เธออ่านประกาศผ่านอินเตอร์เน็ต เห็นประกาศว่าอยากได้สแตนด์อินที่หน้าและหุ่นเหมือนกับลิต้ามากที่สุด อิ๋งก็แทบจะยื่นใบสมัครเข้ามาทันที เป็นความฝันของเธอเลยที่จะได้ร่วมงานกับลิต้า (และแม่ก็เคยอวยว่าเธอเหมือนลิต้าเหลือเกิน) แม้ว่าจะไม่ได้เข้าฉากก็ไม่เป็นไร แต่เธอได้เล่นเป็นสแตนด์อิน เป็นตัวแทนของลิต้าเลยเชียวนะ

         นี่เป็นเรื่องที่น่าอิจฉาที่สุดของเธอในรอบปีแล้ว!

            “หวัดดีครับ กันเองได้เลยนะ ตามสบาย พี่ไม่ซีอยู่แล้ว...”

         “ไม่ซีอยู่แล้ว เพราะมึงอยากม่อน้องค่ะไอ้เกมส์...หวัดดีค่ะน้อง พี่ชื่อพี่แอนนะ พี่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ ส่วนไอ้นี่เป็นฝ่ายอุปกรณ์ ไม่ได้เกี่ยวกับน้องหรอก มันอยากมาม่อเด็กใหม่เฉยๆ”          เจ้าตัวเอ่ยพลางส่ายหน้าไปมา ขณะที่หันไปขยิบตากับอิ๋งที่หัวเราะออกมาเบาๆ กับการแกงกันซึ่งๆ หน้าแบบไม่ทิ้งจังหวะให้กันเลย

         “แต่ว่าน้องหน้าเหมือนคุณลิต้ามากเลยนะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่อ๊อฟถึงเลือกน้อง พี่เองก็เห็นด้วยตั้งแต่ตอนเข้าประชุมแล้วล่ะ...เหมือนมากจริงๆ”          “ใช่ป่ะ เหมือนจนรู้เลยว่าเป็นสแตนด์อินของคุณเค้า พี่เลยต้องเข้ามาทักไงครับน้อง”

         เกมส์เอ่ยขณะที่มองอิ๋งด้วยสีหน้าทึ่ง เหมือนมากจริงๆ แม้จะสวยเทียบเท่านางเอกของช่องไม่ได้อยู่แล้ว แต่ส่วนสูงและทรวดทรงองค์เอว แทบจะถอดแบบออกมาจากลิต้าแบบเป๊ะๆ ด้วยซ้ำ

         “ป่าวค่ะ พี่อ๊อฟบอกว่าน้องจะเริ่มงานวันนี้ มึงเลยเล็งมาตั้งแต่ที่บ้านแล้วว่าจะทักน้อง ไปเลย ไปทำงานส่วนของตัวเอง เดี๋ยวพี่พาน้องไปหาพี่อ๊อฟเองค่ะ ว่าแต่น้องชื่ออะไรนะ ตอนเลือกจากประวัติ พี่ก็มัวแต่จำหน้า ไม่ได้จำชื่อเลย...”

         “ชื่ออิ๋งค่ะ”          “เออ ชื่อก็น่ารักดีนะ ไปๆ ไปหาพี่อ๊อฟกัน”

         เจ้าตัวเอ่ยพร้อมกับพาเด็กใหม่ของกองไปหาผู้กำกับ ซึ่งคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างเกมส์ก็เดินตามไปอย่างอยากมีส่วนร่วมด้วย อิ๋งผ่อนคลายความตื่นเต้นมากกว่าเดิม ก่อนหน้านี้เธอคิดว่ากองถ่ายกองใหญ่จะต้องอึมครึมและตึงเครียดแน่ๆ แต่เมื่อทุกคนทักทายเธออยากเป็นมิตรแล้วอิ๋งก็รู้สึกดีขึ้นเป็นเท่าตัวเลย

         หลังจากเดินไปก็มีคนให้ต้องยกมือไหว้ทักทายตลอดเวลา ส่วนมากเป็นทีมงานเบื้องหลัง เพราะนักแสดงหลักส่วนใหญ่อยู่ในห้องพักนักแสดงเพื่อซ้อมบทและแต่งตัวสำหรับเข้าฉาก ในกองวันนี้เลยยังไม่มีนักแสดงเข้ากองเลยสักคน

         เธอได้แนะนำตัวกับพี่อ๊อฟ ผู้กำกับของเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเธอได้รับการตอบรับอย่างดี พี่อ๊อฟบอกว่าตั้งใจเลือกเธอมาเพราะเธออย่างกับถอดแบบพิมพ์เดียวกันของลิต้ามาเลย ได้ยินแบบนี้แล้วชักจะเขิน แม้รู้ว่าที่หมายถึงไม่ได้หมายรวมหน้าตาไปด้วยก็ตามที

         “งั้นเดี๋ยวอิ๋งไปเปลี่ยนชุดเลยนะ จะได้เริ่มถ่ายในช่วงโคลสอัพก่อนเลย นั่นพี่นิคนะ เป็นฝ่ายคอสตูม ไปหาพี่เค้าแล้วบอก...ไม่ต้องบอกหรอก ให้ทายดู รับรองว่ารู้แน่นอนว่าอิ๋งเป็นสแตนด์อินของลิต้า เอาหัวเป็นประกันได้เลย”

         อีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะหัวเราะร่วมชอบใจ ส่วนแอนเองก็เห็นด้วย ขณะที่พาตัวสแตนด์อินคนใหม่ไปหานิค ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อคัดเลือกสแตนด์อินสำหรับลิต้า มองปราดเดียวก็รู้ว่าเด็กใหม่ในกองคนนี้ทำตำแหน่งอะไร

         ตั้งแต่เริ่มเข้ากองถ่ายมา อิ๋งมีทีมงานเบื้องหลังให้ต้องทำความรู้จักไม่หวาดไม่ไหว สมกับเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปีของช่อง ขณะที่เดินไปที่ห้องแต่งตัวก็ทำความรู้จักทีมงานไปด้วย รู้ตัวอีกทีเธอก็มีรายชื่อของทีมงานนับสิบให้ต้องจดจำ ยังไม่รวมนักแสดงอีก

         แต่คนบ้าดาราอย่างเธอ เรื่องจำชื่อนักแสดงหายห่วง โดยเฉพาะนักแสดงที่เธอมาเป็นสแตนด์อิน ลิต้า นางเอกของเรื่อง อิ๋งคนนี้ขอสมัครเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งเลย

         “เดี๋ยวอิ๋งเปลี่ยนชุดนี้นะคะ แล้วออกไปแต่งหน้าทำผมที่ห้องทางขวามือ เดี๋ยวพี่ไปบอกเกลไว้ให้”

         “ค่ะพี่นิค”

         อิ๋งรับเสื้อผ้าจากอีกฝ่ายมาทันที ตื่นเต้นกับการจะได้ทำงาน วันแรกของการมากองก็ได้เริ่มถ่ายงานเลย เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว

        

         ชุดเดรสสั้นผ้า Tulle ผูกเอวทำให้อิ๋งดูอ่อนหวานมากกว่าเดิมไปอีกสองร้อยเปอร์เซ็นต์ เจ้าตัวหันมองตัวเองในกระจกเรียกความมั่นใจ ความตื่นเต้นทำให้เธอประหม่ามากกว่าเดิมเข้าไปอีก ขนาดพกความมั่นใจมาแล้วก็เถอะ ถึงแม้จะทำงานเป็นสแตนด์อิน แต่เธอต้องตั้งใจให้มากที่สุด เพราะเธอได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของลิต้า นางเอกที่เธอถวายตัวเป็นแฟนคลับแบบอุทิศชีวิต

         ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูห้องแต่งตัวออกไปด้วยความตื่นเต้น หวังว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดสำหรับการทำงานวันแรกแล้ว

         “ลิต้า เรามีเรื่องจะต้องคุย...”

         น้ำเสียงติดหงุดหงิดเอ่ยพร้อมกับมือที่เรียกได้ว่า ‘กระชาก’ ต้นแขนของอิ๋งเข้าเต็มแรงจนคนตัวเล็กแทบปลิวไปตามแรงของอีกฝ่ายทันที ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ ขณะที่เจ้าของมือที่กระชากก่อนหน้านี้ชะงักไปในทันทีเมื่อพบว่าหญิงสาวที่โดนเธอเอาเรื่อง ไม่ใช่ลิต้าอย่างที่คิด

         “สะ สวัสดีค่ะคุณเทียร์”

         อิ๋งยกมือไหว้ปลกๆ ด้วยอาการสั่นทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามากระชากแขนเธอเข้าเต็มแรงเป็นใคร ขณะที่อีกฝ่ายยังหยุดชะงักงันเหมือนเดิมราวกับโดนสับสวิตช์ไปเรียบร้อยแล้ว หากแต่สีหน้าของเทียร์ในตอนนี้ทำเอาอิ๋งใจเสียมากกว่าเดิมเป็นเท่า

         คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ดวงตาคมสวยที่ติดดุ ริมฝีปากสวยเผยอเล็กน้อยอย่างลืมตัว และส่วนที่เป็นที่สังเกตมากที่สุดคือไฝใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าของเทียร์ดูเก๋มากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า ทั้งสวยทั้งเก๋ สวยกว่าในจอเป็นร้อยเป็นพันเท่า

         เทียร์ นางเอกของซีรีส์เรื่องนี้อีกคน

         ใช่ เรื่องนี้มีนางเอกสองคน เพราะเป็นซีรีส์ Girl’s love ฟอร์มยักษ์ของช่องนั่นเอง เธอรู้ว่าเรื่องนี้ลิต้าเป็นนางเอก และเธอรู้ว่าลิต้าร่วมแสดงกับเทียร์ ซึ่งเป็นดาราที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นได้ในเวลาไม่กี่ปี

         เทียร์เป็นนักแสดงที่ชื่อเสียงเลื่องลือ กวาดรางวัลนับไม่ถ้วน และมีความสันโดษสูงมากจากข่าวที่ออกซึ่งมักไปในเชิงของการไม่เป็นมิตร และนักข่าวก็ไม่ค่อยปลื้มด้วย

         เพราะเทียร์นี่แหละ การมากองในวันนี้ของอิ๋งเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ (ในเชิงเกร็ง) กลัวว่าคนในกองจะเป็นไปกับเค้าด้วย จนมาเจอแล้วพบว่าคนอื่นเป็นมิตรกันแทบทุกคน เว้นอยู่แค่คนเดียวที่เธอคิดว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิดเมื่ออยู่ต่อหน้าในตอนนี้

         “คือ อ่า คืออิ๋งเป็นสแตนด์อินของคุณลิต้าค่ะคุณเทียร์”

         เจ้าตัวเอ่ยขณะที่กลืนน้ำลายหนืดลงคอด้วยความประหม่าปนกลัว เมื่ออีกฝ่ายยังคงจับต้นแขนเธอเอาไว้ แม้จะไม่ได้จับแน่นอย่างก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากกวาดสายตาสวยดุไปที่ใบหน้าของเธออย่างกับกำลังประเมิน (?) จนอิ๋งไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาดี อีกฝ่ายเล่นไม่ยอมหือยอมอือกับคำพูดของเธอเลย

         “เอ่อ คือ...”

         “น้องอิ๋ง อยู่นี่เอง...อ้าว คุณเทียร์ เอ่อ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”

         เกล ช่างแต่งหน้าประจำกองเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่น เมื่อกี้นิคฝ่ายคอสตูมเพิ่งฝากฝังให้แต่งหน้าของน้องสแตนด์อินที่ชื่ออิ๋ง แต่ไม่ทันไรก็เห็นน้องอยู่กับคนที่ไม่ควรเข้าไปวอแวมากที่สุดเลยทำเอาใจหล่นวูบลงแทบเท้า

         ไม่นะอิ๋ง เพิ่งมาวันแรก อย่าเพิ่งมีปัญหากับคนที่ไม่ควรไปวอแวด้วยที่สุดในกองเลยนะลูก

         “เปล่าค่ะ ไม่มี”

         เทียร์เอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะยอมปล่อยต้นแขนของอีกฝ่ายแต่โดยดี ต้นแขนขาวจัดเป็นรอยแดงอย่างง่ายดาย ถึงเมื่อกี้ตอนกระชากจะรุนแรงก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะแดงง่ายขนาดนั้น ขณะที่อิ๋งยกมือไหว้ปลกๆ หน้าเสียไปหมด แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอย่างขวัญเสียที่ดันสร้างเรื่อง (แม้ไม่รู้ว่าสร้างเรื่องอะไร) ขณะที่เทียร์มองตามเจ้าของร่างเล็กเข้าห้องไปตลอดสายตา