แสงไฟข้างทางถูกแทนที่ด้วยแสงตะวัน ดวงอาทิตย์กลมโตดวงใหญ่ส่องประกายเจิดจ้า

บริษัท JERTINAI

สถาปัตยกรรมทรงสี่เหลี่ยมสูงระฟ้า บริษัทแห่งนี้ตั้งตระหง่านใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน เมืองที่ไม่มีวันหลับใหล

ชรัญญาถอดหมวกนิรภัยออกแล้วแหงนหน้ามองไปยังบริษัท JERTINAI ที่เรียกตัวหญิงสาวมาเพื่อสัมภาษณ์งานด้วยเงินเดือนที่มากกว่าที่เดิมถึงสองเท่า

หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นนกพิราบตัวใหญ่บินไปเกาะอยู่บนยอดสี่เหลี่ยมสมมาตร

บริเวณทางเข้ามีป้ายเขียนไว้เป็นตัวอักษรสามมิตินูนเป็นสันสีเงินวาววับดูแล้วงดงามจับตายิ่ง

บริเวณป้ายนั้นดับประดาด้วยพุ่มไม้กอใหญ่ ใบไม้สีเขียวสดโน้มเอนลงราวกับเชื้อเชิญให้หญิงสาวก้าวเข้าไปใกล้

วันนี้พ่อไม่ได้มารับนะสารวัตรบวรกตบิดาของหญิงสาวเอ่ยขึ้น ขณะเก็บหมวกนิรภัยให้หญิงสาว

ตั้งใจทำงานนะแอมป์ บิดาของเธอเอ่ยสั่งแกมกำชับราวกับเธอเป็นลูกน้อง

ค่ะ คุณพ่อชรัญญาเอ่ยขึ้นแล้วลอบมองสีหน้าสุขใจของ สารวัตรบวรกต ผู้เป็นบิดา

แอมป์กลับเองได้ค่ะชรัญญาเอ่ยอย่างมีความสุข หญิงสาวโบกมือให้กับบิดาของเธอ

ชรัญญาผลักประตูเข้าด้านไปในบริษัท JERTINAI ภาพตรงหน้าของชรัญญาเป็นสตรีวงหน้ารูปไข่ เรือนผมสีน้ำตาลหยักศกทิ้งตัวลงอย่างมีน้ำหนัก

สวัสดีค่ะ ที่สมัครไว้ตำแหน่งหัวหน้ากราฟิกดีไซน์เนอร์ใช่ไหมคะโอเปอร์เรเตอร์คนหนึ่งเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิ้วขมวดปมใหญ่อยู่

ใช่ค่ะชรัญญาตอบเสียงหวาน หญิงสาวมองสบสายตากับพนักงานหญิงคนนั้นด้วยแววตากระฉับกระเฉงทันที

เดี๋ยวนั่งรอสักครู่นะคะโอเปอร์เรเตอร์กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดูเป็นมิตรกว่าใครที่ชรัญญาเคยพบเคยเห็นมาก่อน

ได้ค่ะชรัญญาเอ่ยรับคำสั้นๆ

หญิงสาวกวาดสายตาสำรวจรอบห้องอย่างสังเกตสังกา ห้องรับแขกโอ่อ่าบรรจุคนได้มากกว่ายี่สิบคนในห้อง ผนังห้องทาสีเนื้อครีมสะอาดตา

ปลายเท้าคัชชูรองเท้าคู่ใจของชรัญญาพาหญิงสาวไปยังเก้าอี้บุนวมเนื้อดี ชรัญญานั่งลงตรงเก้าอี้รับแขกตัวยาว

มือเรียวบางของพนักงานสาวเอื้อมต่อสายโทรศัพท์ถึงท่านประธานผู้บริหารของบริษัทเครื่องสำอางแห่งนี้

คุณชรัญญาคะเดี๋ยวเชิญเข้าพบท่านประธานก่อนนะคะ ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบเจ็ด เดินไปจนสุดทางนะคะ ห้องจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ สตรีคนนั้นเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขอบคุณค่ะชรัญญาเอ่ยกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวล

ชรัญญาไม่รีรอมากนัก รองเท้าคัชชูคู่ดำตัวเก่งสาวเท้าไปยังลิฟต์แก้วที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวกดลิฟต์แก้วแล้วยืนรออยู่ตรงนั้นสักพักใหญ่ ไม่นานนักบุรุษคนหนึ่งก็สืบเท้าเข้ามาพร้อมกับเอกสารพะรุงพะรังกองใหญ่

สวัสดีค่ะ พี่ภพเสียงของโอเปอร์เรเตอร์สาวทักทายอย่างอารมณ์ดี

ชรัญญาหันไปตามต้นเสียงทันที พลันหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างสุดขีดเมื่อพบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวละเอียดดุจหิมะ

ดวงหน้าคมคายมีเหงื่อซึมเล็กน้อย หากแต่ชรัญญากลับจำเขาได้ดี ชายหนุ่มตรงหน้าคือรุ่นพี่วรุณภพ สำราญ รุ่นพี่ที่เรียนโรงเรียนเดียวกันกับเธอตั้งแต่มัธยมต้น

วรุณภพเป็นรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรงเรียนตอนนั้นเท่าที่หญิงสาวจำได้ เขาเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน ขณะเดียวกันวรุณภพก็เรียนเก่งเสียจนใครต่อใครอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบๆ

รุ่นพี่ของชรัญญาเรียนได้เกรดสี่มาโดยตลอด ชรัญญาได้พบรุ่นพี่ผ่านเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอไม่อาจลืมเขาได้อีกเลย

คุณครับลิฟต์มาแล้วเสียงทุ้มเอ่ยดึงสติหญิงสาวตรงหน้าให้กลับมาเผชิญความเป็นจริง

          ไม่นานนักประตูลิฟต์ก็เปิดกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มคนดังกล่าวสาวเท้าเข้าไปด้านในลิฟต์แก้วก่อนแล้ว

ชรัญญาตัดสินใจรวบรวมความกล้า กลั้นหายใจสุดแรงเกิด สาวเท้าเดินตามเข้าไปด้านในลิฟต์ ดวงตาคู่หวานสวยเร้นรอยประหม่า

ขอบคุณค่ะประตูลิฟต์ปิดลงทิ้งความงุนงงของโอเปอร์เรเตอร์สาวไว้แต่เพียงเบื้องหลัง

ภายในลิฟต์มีเพียงลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างอึดอัด ดวงตาคู่คมกวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างคุ้นเคย ไม่นานนักวรุณภพก็ทักออกมา

ชรัญญาใช่ไหมเสียงเข้มเรียกทำเอาไหล่บางสะดุ้งไหวสุดตัว

ทั้งที่ๆ หญิงสาวยืนหันหน้าออกจากตัวลิฟต์แก้วแล้วแท้ๆ

ค่ะใช่ค่ะชรัญญากลั้นใจตอบรุ่นพี่หนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเสียงเข้มเอ่ยขึ้นท้ายประโยคชรัญญาสัมผัสได้ว่าเขากำลังเย้ยหยันเธอในลำคอ

          ชายหนุ่มแค่นยิ้มให้กับตนเองก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ประตูลิฟต์ชั้นสามเปิดออกพอดี

สวัสดีค่ะ พี่ภพเสียงหวานแหลมอย่างมีจริตเอ่ยขึ้นภายในลิฟต์

ชรัญญาเงยหน้ามองไปยังสตรีตรงหน้า เธอสวมชุดทำงานรัดรูปเสียจนเห็นสัดส่วนชัดเจน ดวงตาคู่สวยสบสายตาให้กับชายหนุ่มอย่างไม่ปิดบังในความรู้สึกของตนเอง

ดวงหน้าสวยหมดจดไร้ไฝฝ้า เรือนไหมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนเข้ารูป หญิงสาวผู้มาใหม่แต้มริมฝีปากสีแดงสด

วรุณภพหลุบสายตาลงทันที่หญิงสาวผู้มาใหม่สบสายตาอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกของตนเอง

ดวงหน้าคมคายของวรุณภพแดงก่ำ ชายหนุ่มลอบมองปฏิกิริยาของชรัญญา หากแต่ก็พบกลับว่าชรัญญาตีสีหน้าเรียบเฉย

สวัสดีค่ะ น้องเมย์วรุณภพตอบกลับอย่างเสียไม่ได้ด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ใครๆก็รู้กันว่า ภาวดี ติรา เป็นผู้ทรงอิทธิพลในบริษัทเครื่องสำอางแห่งนี้นั่นก็เพราะหญิงสาวอยู่ในระบบอุปถัมป์ของคุณสุชลญาติห่างๆของคุณสุชาติประธานบริษัท JERTINAI แห่งนี้

ภาวดีส่งสายตาหวานเสียจนชรัญญารู้สึกกระอักกระอ่วนในใจ หญิงสาวเพียงเหลือบมองไปยังลิฟต์ที่กำลังไต่ระดับไปสูงจนถึงชั้นสิบเจ็ด

ชรัญญาแอบสืบรู้มาอย่างลับๆว่า ภาวดี ติรา เป็นแฟนเก่าของวรุณภพจากเฟสบุ๊คส่วนตัวของชายหนุ่ม รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบ ทำให้เธออดช้ำใจไม่ได้จนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

บรรยากาศในลิฟต์ชวนอึดอัดกว่าเดิม ชรัญญาแอบถอนใจออกมาเล็กน้อยเมื่อพบกับรุ่นพี่ที่แอบชอบในที่ทำงานใหม่

หญิงสาวมองเห็นอนาคตความวิบัติแต่เพียงรำไร จากนี้ไปเธอคงต้องทำงานร่วมกับวรุณภพแน่นอน เพราะเธอรับรู้ว่าเขาน่าจะเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดจากป้ายชื่อที่ทำงานของเขา

ประตูลิฟต์ชั้นสิบเจ็ดเปิดออก หญิงสาวสาวเท้าออกมาอย่างเงียบเชียบ หญิงสาวไม่แม้แต่เอ่ยลาวรุณภพ รุ่นพี่หนุ่มที่โรงเรียนมัธยมเก่า ชรัญญาเดินไปตามทางที่โอเปอร์เรเตอร์สาวบอก

ตรงไปด้านซ้ายจะเจอห้องอยู่ค่ะ คุณชรัญญาเคาะประตูเข้าไปได้เลย ท่านประธานรออยู่ข้างในเรียบร้อยแล้วค่ะ

มือเรียวสวยเคาประตูอย่างแผ่วเบาสามครั้ง หญิงสาวเปิดเข้าไปด้านในด้วยใจที่เต้นระส่ำราวกลองรบ

ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าชรัญญาเป็นภาพบุรุษวัยกลางคน ชายหนุ่มคนนั้นสวมสูทสีดำสนิทยาวพอตัว เสื้อเชิ้ตสีแดงสดซ่อนอยู่ด้านใน เขาเชื้อเชิญให้เธอนั่งลงอย่างสุภาพ

สวัสดีค่ะชรัญญาไหว้อย่างนอบน้อม แล้วเอ่ยคำทักทายขึ้นอย่างสุภาพ

บุรุษตรงหน้ามีใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้ม จมูกโด่งรั้นเชิดขึ้น ดวงตาคู่คมฉายรอยมั่นใจเด่นชัด จนชรัญญาอดสัมผัสไม่ได้

สวัสดีครับ...คุณชรัญญาเสียงทุ้มของบุรุษตรงหน้าเอ่ยเรียกชื่อเธอ

สวัสดีค่ะชรัญญากล่าวแล้วพนมมือไหว้อย่างสุภาพอีกคำรบ

นามสกุล จงเลิศจิตรากุลนะครับซีอีโอหนุ่มของบริษัทเครื่องสำอางเอ่ยทวนชื่อของเธอ

ตำแหน่งหัวหน้ากราฟิกดีไซน์เนอร์ใช่ไหมครับ

ชายหนุ่มเว้นวรรคเล็กน้อยให้หญิงสาวตื่นเต้นนิดหน่อยแล้วจึงเอ่ยคำต่อไป

ค่ะ...ใช่ค่ะ ชรัญญาตอบรับด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ครับ ผมสุชาตินะครับเป็นประธานบริษัทแบรนด์เครื่องสำอาง JERTINAI ครับซึ่งเป็นเครื่องสำอางสำหรับกลุ่มสุภาพสตรีชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ที่เก่าทำงานที่ไหนมาครับสุชาติเอ่ยถามพลางอ่านกระดาษใบสมัครงานในมือของเขา

ค่ะที่เก่าแอมป์ทำ Start Up เกี่ยวกับหนังสือมาค่ะหญิงสาวเอ่ยเสียงเข้มกว่าเดิมเล็กน้อย

โอเค เดี๋ยวผมจะพาไปรู้จักทีมของคุณ และคุณแอมป์ต่อไปนี้คุณขึ้นตรงกับผมคุณสุชาติเอ่ยขึ้น

ค่ะชรัญญาขานรับคำหนักแน่น

งั้นผมขออธิบายหน้าที่ของคุณแอมป์ให้ฟังก่อนเสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

ได้ค่ะหญิงสาวขานตอบ

หน้าที่ของคุณคือบริหารจัดการบุคลากรทีมอาร์ตขององค์กรเราให้เป็นไปตามเป้าหมายของ JERTINAI” เสียงของคุณสุชาติเอ่ยอย่างภาคภูมิใจเมื่อกล่าวถึงแบรนด์ของเขาที่ปั้นมาด้วยตนเอง

ค่ะ ดิฉันจะทำให้เต็มที่ค่ะหญิงสาวเอ่ยอย่างหนักแน่นกว่าเดิม

ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะพาคุณไปอีกห้องหนึ่งที่มีฝ่ายการตลาดอยู่ด้วยคุณสุชาติเอ่ยขึ้น

ค่ะหญิงสาวเพียงรับคำสั้นๆ

มาตามผมมาคุณสุชาติเอ่ยพลางเดินนำหน้าออกจากห้องไป

ฝ่ายการตลาด

อ้าวพี่เสียงเรียกของชายหนุ่มรุ่นน้องทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาการเขียนงานฝ่ายการตลาด

ว่าวรุณภพเอ่ยตอบเสียงดังชัด

วันนี้คุณสุชาตินัดประชุมทีมการตลาดรวมกับทีมฝ่ายอาร์ต เสียงของลูกน้องหนุ่มดังขึ้นใกล้ชายหนุ่ม

อืม วรุณภพรับคำสั้นๆ

วรุณภพตอบสั้นแล้วก้มหน้าก้มตากับโปรเจ็คงานใหญ่ต่อ หากแต่หูสองข้างของเขายังคงแอบฟังบทสนทนาของลูกน้องหนุ่มอย่างสังเกตสังกา

พี่เห็นเขาว่าได้หัวหน้าฝ่ายอาร์ตมาใหม่มอสเอ่ยขึ้น

รู้แล้วชายหนุ่มเอ่ยพลางเอื้อมมือเปิดกระดาษหน้าถัดไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก

โห...พี่เห็นเขาว่า คนนี้คุณสุชาติไปหามาเองเลยนะ การันตีนักเรียนทุนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังด้วยนี่เสียงทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

ก็คนนี้แหละที่คุณสุชาติเขาแบบท้ายประโยค

เอ่ยแกมเย้ยหยัน

แบบอะไรวรุณภพเงยหน้ามองคนพูดอย่างลืมตัวแล้วนึกโมโหตนเองที่เงยหน้าใส่ใจเรื่องราวของเด็กสาวคนนั้น

แบบเต้ได้ยินข่าวมาว่าแบบคนที่ใช่ไงครับ

เด็กหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเลิกลั่ก

คนที่ใช่ไปไปทำงานได้แล้ว

 เสียงเข้มของวรุณภพเอ่ยขึ้นเป็นสัญญาณให้เด็กหนุ่มไปทำงานได้แล้ว

มอสไปเอาแฟ้มราคาหัตถการมาให้พี่หน่อย

วรุณภพเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

สมเต้เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง

เต้ไปกับมอสไปหัวหน้าฝ่ายการตลาดเอ่ยแกม

สั่ง

มาด้วยกันเลยไอ้คุณเต้มอสเอ่ยขึ้นแล้วเดิน

ออกจากโต๊ะทำงานไป

ครับคุณเพื่อนเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วเดินออกไป

พร้อมกับเพื่อนร่วมงานของเขา

วรุณภพนั่งนิ่งงัน ในหัวสมองของเขากำลังประมวลผลอย่างหนัก

ภาพที่ปรากฎคือรุ่นน้องที่เขาเคยได้ยินข่าวมาว่าแอบชอบเขา หากแต่ทุกครั้งที่เจอกันหญิงสาวกลับไม่เคยแม้แต่จะสบตา

แม้แต่เสียงหวานใสที่ควรจะเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นบุญหูสักนิดยังไม่มีเลย สงสัยคงกลัวดอกพิกุลเงินพิกุลทองหลุดออกจากปาก

ชรัญญาเป็นรุ่นน้องที่ศึกษาในโรงเรียนมัธยมเดียวกันกับเขา หากแต่เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาไม่คิดจะลืมเลือน...แม้ว่ามันจะเป็นแค่ความฝันก็ตาม

ภาพเรียวขาและผิวขาวนวลละเอียดดุจนางสวรรค์ปรากฎขึ้นในหัวของชายหนุ่มรุ่นพี่อีกครั้ง

วรุณภพสะบัดไล่ความคิดในหัวที่มีทั้งหมดออกไป เพียงแค่เห็นหน้าก็เป็นเอามากได้ขนาดนี้เชียวหรือ

มือหนาเอื้อมหยิบจับปากกาอีกครั้งเพื่อขีดเขียนแผนการตลาดที่ได้รับโจทย์มาอย่างละเอียด

แบรนด์ JERTINAI เครื่องสำอางที่เขาปั้นมากำลังจะตีตลาดไฮเอ็นเพื่อทัดเทียมแบรนด์เครื่องสำอางอื่นๆ หากแต่ตอนนี้วรุณภพไม่มีเวลามาคำนึงเรื่องอื่นมากนัก เพราะเขาต้องทำแผนการตลาดนอกเหนือจากศึกษาคู่แข่งรายอื่นๆ

พี่อีกสิบนาทีนะ เดี๋ยวคุณสุชาติเรียกประชุมมอสเดินออกมาบอกเขาพร้อมถือแฟ้มออกมาด้วย

อืมวรุณภพเพียงครางเบาๆ ในลำคอแล้วพยักหน้ารับรู้

พี่อันนี้แฟ้มเอกสารงานหัตถการ มอสเอ่ยขึ้นแล้วสบสายตาคู่คมเข้มของหัวหน้าหนุ่มวรุณภพอย่าตั้งใจ

แล้วอันนี้แฟ้มรวบรวมรายชื่อนักแสดงเต้ยื่นแฟ้มเอกสารหน้าปกเขียนไว้ว่า Micro Influencer ให้กับหัวหน้าหนุ่ม

อันนี้เขาไม่เรียกนักแสดงวรุณภพเอ่ยเสียงเข้ม

แล้วเขาเรียกอะไรล่ะพี่หนุ่มรุ่นน้องถามด้วยความอยากรู้กว่าเดิม

เขาเรียกไมโครอินฟลูเอนเซอร์ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา

จริงเหรอหนุ่มรุ่นน้องเอ่ยถามทีเล่นทีจริง

ใช่ วรุณภพเอ่ยเสียงเข้มกว่าเดิม

พี่แล้วโปรโมชั่นใหม่ล่ะเสียงเรียกนั้นทำให้วรุณภพหันมาสบตาคนพูด

พี่กำลังทำอยู่ วรุณภพตอบอย่างเมื่อยล้า เขาประสานมือสองข้างไว้บนหัว

ได้ อีกสิบนาทีเจอกันที่ห้องประชุม มอสและเต้ล่วงหน้าไปก่อนได้เลยเสียงเข้มของชายหนุ่มเอ่ยขึ้นท้ายประโยควรุณภพสั่งให้เต้และมอสไปรอเขาล่วงหน้าได้เลย

ได้ครับหนุ่มรุ่นน้องสองคนขานรับ

+++